Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
ปฎิจฺจวาโร
Paṭiccavāro
ปจฺจยปจฺจนียวณฺณนา
Paccayapaccanīyavaṇṇanā
๘๖-๘๗. รูปสมุฎฺฐาปกวเสเนว เวทิตพฺพนฺติ อิทํ อฎฺฐกถาวจนํ อนนฺตรํ ‘‘จิตฺตสมุฎฺฐานญฺจ รูป’’นฺติ ปาฬิยํ อาคตตฺตา วุตฺตํ, ปญฺจวิญฺญาณานํ ปน อเหตุกปฎิสนฺธิจิตฺตานญฺจ วเสน โยชนา สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปเนตํ น น สกฺกา โยเชตุ’’นฺติฯ
86-87. Rūpasamuṭṭhāpakavasenevaveditabbanti idaṃ aṭṭhakathāvacanaṃ anantaraṃ ‘‘cittasamuṭṭhānañca rūpa’’nti pāḷiyaṃ āgatattā vuttaṃ, pañcaviññāṇānaṃ pana ahetukapaṭisandhicittānañca vasena yojanā sambhavatīti katvā vuttaṃ ‘‘sabbasaṅgāhikavasena panetaṃ na na sakkā yojetu’’nti.
๙๓. สหชาตปุเรชาตปจฺจยาติ อิทํ ปจฺจเยน ปจฺจยธโมฺมปลกฺขณนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘สหชาตา จ เหตุอาทโย…เป.… อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติ วตฺวา ‘‘น หี’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ สมเตฺถติฯ
93. Sahajātapurejātapaccayāti idaṃ paccayena paccayadhammopalakkhaṇanti dassetuṃ ‘‘sahajātā ca hetuādayo…pe… attho daṭṭhabbo’’ti vatvā ‘‘na hī’’tiādinā tamevatthaṃ samattheti.
๙๔-๙๗. โส ปจฺจโยติ โส ปฎิจฺจฎฺฐผรณโก ปจฺจโยฯ
94-97. So paccayoti so paṭiccaṭṭhapharaṇako paccayo.
๙๙-๑๐๒. จิตฺตสมุฎฺฐานาทโยติ อาทิ-สเทฺทน พาหิรรูปอาหารสมุฎฺฐานาทโย รูปโกฎฺฐาสา สงฺคยฺหนฺติฯ ตสฺสาติ มคฺคปจฺจยํ ลภนฺตสฺส รูปสฺสฯ เอวเมว ปนาติ อิมินา ยถา นมคฺคปจฺจเย วุตฺตํ, เอวเมว นเหตุปจฺจยาทีสุ ยํ เหตุปจฺจยํ ลภติ, ตสฺส ปริหีนตฺตาติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติฯ เตนาห ‘‘เอกจฺจรูปสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนตา ทฎฺฐพฺพา’’ติฯ
99-102. Cittasamuṭṭhānādayoti ādi-saddena bāhirarūpaāhārasamuṭṭhānādayo rūpakoṭṭhāsā saṅgayhanti. Tassāti maggapaccayaṃ labhantassa rūpassa. Evameva panāti iminā yathā namaggapaccaye vuttaṃ, evameva nahetupaccayādīsu yaṃ hetupaccayaṃ labhati, tassa parihīnattāti imamatthaṃ upasaṃharati. Tenāha ‘‘ekaccarūpassa paccayuppannatā daṭṭhabbā’’ti.
๑๐๗-๑๓๐. สพฺพตฺถาติ ปนฺนรสมูลกาทีสุ สเพฺพสุ นเยสุฯ กามํ สุทฺธิกนยาทีสุ วิสทิสวิสฺสชฺชนา, อิธาธิเปฺปตตฺถํ ปน ทเสฺสตุํ ‘‘เอเกสู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิธาติ เอเตสุ นาหารมูลกาทินเยสุฯ คณนาเยว น สรูปทสฺสนนฺติ สุทฺธิกนเย วิย คณนาย เอว น สรูปทสฺสนํ อธิเปฺปตนฺติ อโตฺถฯ
107-130. Sabbatthāti pannarasamūlakādīsu sabbesu nayesu. Kāmaṃ suddhikanayādīsu visadisavissajjanā, idhādhippetatthaṃ pana dassetuṃ ‘‘ekesū’’tiādi vuttaṃ. Idhāti etesu nāhāramūlakādinayesu. Gaṇanāyeva na sarūpadassananti suddhikanaye viya gaṇanāya eva na sarūpadassanaṃ adhippetanti attho.
ปจฺจยปจฺจนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paccayapaccanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปจฺจยานุโลมปจฺจนียวณฺณนา
Paccayānulomapaccanīyavaṇṇanā
๑๓๑-๑๘๙. ติณฺณนฺติ เหตุ อธิปติ มโคฺคติ อิเมสํ ติณฺณํ ปจฺจยานํฯ สาธารณานนฺติ เย เตสํ ติณฺณํ สาธารณา ปจฺจยา ปจฺจนีกโต น ลพฺภนฺติ, ยสฺมา เตสํ สงฺคณฺหนวเสน วุตฺตํ, ตสฺมาฯ มคฺคปจฺจเยติ มคฺคปจฺจเย อนุโลมโต ฐิเตฯ อิตเรหีติ เหตุอธิปติปจฺจเยหิฯ สาธารณา สเตฺตวาติ มคฺคปจฺจยวเชฺช สเตฺตวฯ เหตุปจฺจโยปิ ปจฺจนียโต น ลพฺภตีติ เหตุรหิเตสุ อธิปติโน อภาวาฯ โส ปนาติ เหตุปจฺจโย อสาธารโณติ กตฺวา น วุโตฺต สาธารณานํ อลพฺภมานานํ วุจฺจมานตฺตาฯ น หิ เหตุปจฺจโย มคฺคปจฺจยสฺส สาธารโณฯ เยหีติ เยหิ ปจฺจเยหิฯ เตติ อนนฺตรปจฺจยาทโยฯ เอกนฺติกตฺตาติ อวินาภาวโตฯ อรูปฎฺฐานิกาติ อรูปปจฺจยา อรูปธมฺมานํเยว ปจฺจยภูตา อนนฺตรปจฺจยาทโยฯ เตนาติ ‘‘เอกนฺติกานํ อรูปฎฺฐานิกา’’ติ อิธาธิเปฺปตตฺตาฯ เตหีติ ปุเรชาตาเสวนปจฺจเยหิฯ เตสํ วเสนาติ เตสํ อูนตรคณนานํ เอกกาทีนํ วเสนฯ ตสฺส ตสฺสาติ ปจฺจนียโต โยชิตสฺส ตสฺส ตสฺส ทุกาทิกสฺส พหุคณนสฺสฯ คณนาติ อูนตรคณนาฯ อนุโลมโต ฐิตสฺสปีติ ปิ-สเทฺทน อนุโลมโต ฐิโต วา โหตุ ปจฺจนียโต โยชิโต วา, อูนตรคณนาย สมานนฺติ ทเสฺสติฯ นยิทํ ลกฺขณํ เอกนฺติกนฺติ อิมินา ยถาวุตฺตลกฺขณํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ ทเสฺสติฯ
131-189. Tiṇṇanti hetu adhipati maggoti imesaṃ tiṇṇaṃ paccayānaṃ. Sādhāraṇānanti ye tesaṃ tiṇṇaṃ sādhāraṇā paccayā paccanīkato na labbhanti, yasmā tesaṃ saṅgaṇhanavasena vuttaṃ, tasmā. Maggapaccayeti maggapaccaye anulomato ṭhite. Itarehīti hetuadhipatipaccayehi. Sādhāraṇā sattevāti maggapaccayavajje satteva. Hetupaccayopi paccanīyato na labbhatīti heturahitesu adhipatino abhāvā. So panāti hetupaccayo asādhāraṇoti katvā na vutto sādhāraṇānaṃ alabbhamānānaṃ vuccamānattā. Na hi hetupaccayo maggapaccayassa sādhāraṇo. Yehīti yehi paccayehi. Teti anantarapaccayādayo. Ekantikattāti avinābhāvato. Arūpaṭṭhānikāti arūpapaccayā arūpadhammānaṃyeva paccayabhūtā anantarapaccayādayo. Tenāti ‘‘ekantikānaṃ arūpaṭṭhānikā’’ti idhādhippetattā. Tehīti purejātāsevanapaccayehi. Tesaṃ vasenāti tesaṃ ūnataragaṇanānaṃ ekakādīnaṃ vasena. Tassa tassāti paccanīyato yojitassa tassa tassa dukādikassa bahugaṇanassa. Gaṇanāti ūnataragaṇanā. Anulomato ṭhitassapīti pi-saddena anulomato ṭhito vā hotu paccanīyato yojito vā, ūnataragaṇanāya samānanti dasseti. Nayidaṃ lakkhaṇaṃ ekantikanti iminā yathāvuttalakkhaṇaṃ yebhuyyavasena vuttanti dasseti.
ปจฺจยานุโลมปจฺจนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paccayānulomapaccanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปจฺจยปจฺจนียานุโลมวณฺณนา
Paccayapaccanīyānulomavaṇṇanā
๑๙๐. สเพฺพสุปีติ ปจฺฉาชาตํ ฐเปตฺวา สเพฺพสุปิ ปจฺจเยสุฯ โส หิ อนุโลมโต อลพฺภมานภาเวน คหิโต ‘‘สเพฺพสู’’ติ เอตฺถ สงฺคหํ น ลภติฯ อรูปาวจรวิปากสฺส อารุเปฺป อุปฺปนฺนโลกุตฺตรวิปากสฺส จ ปุเรชาตาเสวนานํ อลพฺภนโตติ ‘‘กิญฺจิ นิทสฺสนวเสน ทเสฺสโนฺต’’ติ อาหฯ
190. Sabbesupīti pacchājātaṃ ṭhapetvā sabbesupi paccayesu. So hi anulomato alabbhamānabhāvena gahito ‘‘sabbesū’’ti ettha saṅgahaṃ na labhati. Arūpāvacaravipākassa āruppe uppannalokuttaravipākassa ca purejātāsevanānaṃ alabbhanatoti ‘‘kiñci nidassanavasena dassento’’ti āha.
อวเสสานํ ลาภมตฺตนฺติ อวเสสานํ เอกจฺจานํ ลาภํฯ เตนาห ‘‘น สเพฺพสํ อวเสสานํ ลาภ’’นฺติ ฯ ปจฺฉาชาเต ปสโงฺค นตฺถีติ ปจฺฉาชาโต อนุโลมโต ติฎฺฐตีติ อยํ ปสโงฺค เอว นตฺถิฯ ปุเรชา…เป.… ลพฺภตีติ อิมินา วิปฺปยุเตฺต ปจฺจนียโต ฐิเต ปุเรชาโต ลพฺภตีติ อยมฺปิ อตฺถโต อาปโนฺน โหตีติ ตํ นิทฺธาเรตฺวา ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปุเรชาโต ปน วิปฺปยุเตฺต ปจฺจนียโต ฐิเต อนุโลมโต ลพฺภตีติ อิทมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ‘‘อวเสสา สเพฺพปีติ อเตฺถ คยฺหมาเน อาปเชฺชยฺยา’’ติ อิทํ ตสฺสา อตฺถาปตฺติยา สพฺภาวทสฺสนมตฺตํ ทฎฺฐพฺพํ, อโตฺถ ปน ตาทิโส น อุปลพฺภตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ เตนาห ‘‘ยมฺปิ เกจี’’ติอาทิฯ
Avasesānaṃ lābhamattanti avasesānaṃ ekaccānaṃ lābhaṃ. Tenāha ‘‘na sabbesaṃ avasesānaṃ lābha’’nti . Pacchājāte pasaṅgo natthīti pacchājāto anulomato tiṭṭhatīti ayaṃ pasaṅgo eva natthi. Purejā…pe… labbhatīti iminā vippayutte paccanīyato ṭhite purejāto labbhatīti ayampi atthato āpanno hotīti taṃ niddhāretvā tattha yaṃ vattabbaṃ, taṃ dassetuṃ ‘‘purejāto pana vippayutte paccanīyato ṭhite anulomato labbhatīti idampī’’tiādi vuttaṃ. Tattha ‘‘avasesā sabbepīti atthe gayhamāne āpajjeyyā’’ti idaṃ tassā atthāpattiyā sabbhāvadassanamattaṃ daṭṭhabbaṃ, attho pana tādiso na upalabbhatīti ayamettha adhippāyo. Tenāha ‘‘yampi kecī’’tiādi.
ตตฺถ เกจีติ ปทกาเร สนฺธายาหฯ เต หิ ‘‘อรูปธาตุยา จวิตฺวา กามธาตุํ อุปปชฺชนฺตสฺส คตินิมิตฺตํ อารมฺมณปุเรชาตํ โหตีติ ญาเปตุํ ‘นวิปฺปยุตฺตปจฺจยา ปุเรชาเต’ติ อยมโตฺถ นิทฺธาริโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ อารุเปฺป รูปํ อารพฺภ จิตฺตุปฺปาทสฺส อสมฺภวโตฯ ตถา เหเก อสญฺญภวานนฺตรสฺส วิย อารุปฺปานนฺตรสฺส กามาวจรปฎิสนฺธิวิญฺญาณสฺส ปุริมานุปฎฺฐิตารมฺมณํ อิจฺฉนฺติฯ เตเนวาห ‘‘ตมฺปิ เตสํ รุจิมตฺตเมวา’’ติอาทิฯ ยุชฺชมานกปจฺจยุปฺปนฺนวเสน วาติ ยสฺมิํ ยสฺมิํ ปจฺจเย อนุโลมโต ฐิเต ยํ ยํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ ภวิตุํ ยุชฺชติ, ตสฺส ตสฺส วเสนาติ อโตฺถฯ น วิจาริตํ สุวิเญฺญยฺยตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ นวาติ อารมฺมณอนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยปุเรชาตาเสวนสมฺปยุตฺตนตฺถิวิคตปจฺจยาฯ ตมฺปิ เตสํ นวนฺนํ ปจฺจยานํ อนุโลมโต อลพฺภมานตํฯ
Tattha kecīti padakāre sandhāyāha. Te hi ‘‘arūpadhātuyā cavitvā kāmadhātuṃ upapajjantassa gatinimittaṃ ārammaṇapurejātaṃ hotīti ñāpetuṃ ‘navippayuttapaccayā purejāte’ti ayamattho niddhārito’’ti vadanti, taṃ na yujjati āruppe rūpaṃ ārabbha cittuppādassa asambhavato. Tathā heke asaññabhavānantarassa viya āruppānantarassa kāmāvacarapaṭisandhiviññāṇassa purimānupaṭṭhitārammaṇaṃ icchanti. Tenevāha ‘‘tampi tesaṃ rucimattamevā’’tiādi. Yujjamānakapaccayuppannavasena vāti yasmiṃ yasmiṃ paccaye anulomato ṭhite yaṃ yaṃ paccayuppannaṃ bhavituṃ yujjati, tassa tassa vasenāti attho. Na vicāritaṃ suviññeyyattāti adhippāyo. Navāti ārammaṇaanantarasamanantarūpanissayapurejātāsevanasampayuttanatthivigatapaccayā. Tampi tesaṃ navannaṃ paccayānaṃ anulomato alabbhamānataṃ.
๑๙๑-๑๙๕. น อญฺญมเญฺญน ฆฎิตสฺส มูลสฺสาติ อญฺญมญฺญปจฺจเยน ปจฺจนียโต ฐิเตน โยชิตสฺส สตฺตมสฺส มูลสฺส วิตฺถาริตตฺตาฯ สพฺพํ สทิสนฺติ สพฺพปาฬิคมนํ สทิสํฯ
191-195. Na aññamaññena ghaṭitassa mūlassāti aññamaññapaccayena paccanīyato ṭhitena yojitassa sattamassa mūlassa vitthāritattā. Sabbaṃ sadisanti sabbapāḷigamanaṃ sadisaṃ.
อิมสฺมิํ…เป.… เวทิตโพฺพติ เอตฺถ อิมสฺมิํ เอตฺถาติ เทฺว ภุมฺมนิเทฺทสาฯ เตสุ ปฐมสฺส วิสโย ปจฺจนียานุโลเมติ อฎฺฐกถายเมว ทสฺสิโตติ อทสฺสิตสฺส วิสยํ ทเสฺสตุํ ‘‘เอเตสู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ปิ-สเทฺทนาติ ‘‘อิเมสมฺปี’’ติ เอตฺถ ปิ-สเทฺทนฯ กิสฺมิญฺจิ ปจฺจเยฯ กมฺมปจฺจยํ ลภนฺตานิปิ จกฺขาทีนิ วิปากวิญฺญาณาทีนิ จ อินฺทฺริยํ น ลภนฺตีติ กตฺวา ‘‘เยภุเยฺยนา’’ติ วุตฺตํ, กติปยํ น ลภตีติ วุตฺตํ โหติฯ มคฺคปจฺจยนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ยถาวุตฺตานีติ ปญฺจโวการปวตฺติอสญฺญภวปริยาปนฺนานิ กฎตฺตารูปาเนว วทติ, น จิตฺตสมุฎฺฐานรูปานีติ อธิปฺปาโยฯ เย รูปธมฺมานํ ปจฺจยา โหนฺตีติ เย เหตุอธิปติสหชาตาทิปจฺจยา รูปธมฺมานํ ปจฺจยา โหนฺติ, เอเตเยว เหตุอธิปติอาทิเก ฉ ปจฺจเย น ลภนฺติฯ เอเตเยวาติ วจเนน อเญฺญ กติปเย ลภนฺตีติ สิทฺธํ โหตีติ ตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ปจฺฉาชาตา…เป.… ลภตี’’ติ อาหฯ อยญฺจ ปจฺจยลาโภ น ชนกวเสน เวทิตโพฺพติ ทเสฺสตุํ ‘‘ลพฺภมานา…เป.… ทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํฯ ธมฺมวเสนาติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมวเสนฯ อินฺทฺริยนฺติ อินฺทฺริยปจฺจยํฯ ยทิ เอวนฺติ กฎตฺตารูปํ ยํ ยํ น ลภติ, ตํ ตํ ยทิ วตฺตพฺพํ, เอวํ สเนฺต รูปธเมฺมสุ ภูตรูปานิเยว อญฺญมญฺญปจฺจยํ ลภนฺตีติ อาห ‘‘อุปาทารูปานิ…เป.… วตฺตพฺพ’’นฺติฯ ตํ ปน อุปาทารูปานํ อญฺญมญฺญปจฺจยาลาภวจนํฯ อรูปินฺทฺริยาลาภนฺติ อรูปีนํ อินฺทฺริยานํ วเสน อินฺทฺริยปจฺจยาลาภํฯ
Imasmiṃ…pe… veditabboti ettha imasmiṃ etthāti dve bhummaniddesā. Tesu paṭhamassa visayo paccanīyānulometi aṭṭhakathāyameva dassitoti adassitassa visayaṃ dassetuṃ ‘‘etesū’’tiādi vuttaṃ. Pi-saddenāti ‘‘imesampī’’ti ettha pi-saddena. Kismiñci paccaye. Kammapaccayaṃ labhantānipi cakkhādīni vipākaviññāṇādīni ca indriyaṃ na labhantīti katvā ‘‘yebhuyyenā’’ti vuttaṃ, katipayaṃ na labhatīti vuttaṃ hoti. Maggapaccayantiādīsupi eseva nayo. Yathāvuttānīti pañcavokārapavattiasaññabhavapariyāpannāni kaṭattārūpāneva vadati, na cittasamuṭṭhānarūpānīti adhippāyo. Ye rūpadhammānaṃ paccayā hontīti ye hetuadhipatisahajātādipaccayā rūpadhammānaṃ paccayā honti, eteyeva hetuadhipatiādike cha paccaye na labhanti. Eteyevāti vacanena aññe katipaye labhantīti siddhaṃ hotīti taṃ dassento ‘‘pacchājātā…pe… labhatī’’ti āha. Ayañca paccayalābho na janakavasena veditabboti dassetuṃ ‘‘labbhamānā…pe… dassana’’nti vuttaṃ. Dhammavasenāti paccayuppannadhammavasena. Indriyanti indriyapaccayaṃ. Yadi evanti kaṭattārūpaṃ yaṃ yaṃ na labhati, taṃ taṃ yadi vattabbaṃ, evaṃ sante rūpadhammesu bhūtarūpāniyeva aññamaññapaccayaṃ labhantīti āha ‘‘upādārūpāni…pe… vattabba’’nti. Taṃ pana upādārūpānaṃ aññamaññapaccayālābhavacanaṃ. Arūpindriyālābhanti arūpīnaṃ indriyānaṃ vasena indriyapaccayālābhaṃ.
๑๙๖-๑๙๗. พหุคณนมฺปิ อูนตรคณเนน โยชิตํ อูนตรคณเมว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ยทิปิ ติกาทีสุ ‘เหตุยา ปญฺจา’ติ อิทํ นตฺถี’’ติฯ อนุตฺตานํ ทุวิเญฺญยฺยตาย คมฺภีรํฯ ยถา จ ภูตรูปานิ นารมฺมณปจฺจยา อญฺญมญฺญปจฺจยา อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ ปฎิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุรูปนฺติ อาห ‘‘วตฺถุปิ ปน ลภตี’’ติฯ ยถา เหฎฺฐา เอกมูลกํ ‘‘ทุมูลก’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ อิธาปิ ทุมูลกํ ‘‘ติมูลก’’นฺติ วทนฺติฯ
196-197. Bahugaṇanampi ūnataragaṇanena yojitaṃ ūnataragaṇameva hotīti katvā vuttaṃ ‘‘yadipi tikādīsu ‘hetuyā pañcā’ti idaṃ natthī’’ti. Anuttānaṃ duviññeyyatāya gambhīraṃ. Yathā ca bhūtarūpāni nārammaṇapaccayā aññamaññapaccayā uppajjanti, evaṃ paṭisandhikkhaṇe vatthurūpanti āha ‘‘vatthupi pana labhatī’’ti. Yathā heṭṭhā ekamūlakaṃ ‘‘dumūlaka’’nti vuttaṃ, evaṃ idhāpi dumūlakaṃ ‘‘timūlaka’’nti vadanti.
๒๐๓-๒๓๓. เจตนามตฺตสงฺคาหเกติ เจตนามตฺตํเยว ปจฺจยุปฺปนฺนํ คเหตฺวา ฐิเต ปเญฺหฯ ตตฺถ หิ ‘‘นกมฺมปจฺจยา เหตุปจฺจยา’’ติ วตฺตุํ สกฺกาฯ เอวํปกาเรติ อิทํ ‘‘ตีณีติอาทีสู’’ติ เอตฺถ อาทิ-สทฺทสฺส อตฺถวจนนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘อาทิ-สโทฺท หิ ปการโตฺถว โหตี’’ติ อาหฯ รูปมฺปิ ลพฺภติ เจตนามตฺตเมว อสงฺคณฺหนโตฯ
203-233. Cetanāmattasaṅgāhaketi cetanāmattaṃyeva paccayuppannaṃ gahetvā ṭhite pañhe. Tattha hi ‘‘nakammapaccayā hetupaccayā’’ti vattuṃ sakkā. Evaṃpakāreti idaṃ ‘‘tīṇītiādīsū’’ti ettha ādi-saddassa atthavacananti dassento ‘‘ādi-saddo hi pakāratthova hotī’’ti āha. Rūpampi labbhati cetanāmattameva asaṅgaṇhanato.
ปจฺจยปจฺจนียานุโลมวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paccayapaccanīyānulomavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปฎิจฺจวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭiccavāravaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / ๑. กุสลตฺติกํ • 1. Kusalattikaṃ
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑. ปฎิจฺจวารวณฺณนา • 1. Paṭiccavāravaṇṇanā