Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā

    ๙. ปฎิคฺคาหนิเทฺทสวณฺณนา

    9. Paṭiggāhaniddesavaṇṇanā

    ๑๐๖. ทาตุํ กาเมตีติ ทาตุกาโม, ตสฺส อภิหาโร อีสกมฺปิ โอณมนาทินาภิหรณนฺติ ตปฺปุริโส, หตฺถสฺส ปาโส หตฺถปาโสฯ รุฬฺหีวเสน ตุ อฑฺฒเตยฺยหโตฺถ หตฺถปาโส นามฯ โส จ สเจ ภิกฺขุ นิสิโนฺน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฎฺฐาย, สเจ ฐิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฎฺฐาย, สเจ นิปโนฺน, เยน ปเสฺสน นิปโนฺน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฎฺฐาย ทายกสฺส นิสินฺนสฺส ฐิตสฺส วา ฐเปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมเนฺตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา เวทิตโพฺพฯ เอรณกฺขมนฺติ ถามมชฺฌิเมน ปุริเสน เอรณสฺส อุกฺขิปนสฺส ขมํ โยคฺคํฯ วตฺถุสทฺทาเปกฺขํ นปุํสกตฺตํฯ ติธา เทเนฺตติ กายกายปฺปฎิพทฺธนิสฺสคฺคิยานํ วเสน ตีหิ ปกาเรหิ ทายเก ททมาเนฯ ตตฺถ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อนฺตมโส ปาทงฺคุลิยาปิ ทียมานํ กาเยน ทินฺนํ นาม โหติ, กฎจฺฉุอาทีสุ เยน เกนจิ ทียมานํ กายปฺปฎิพเทฺธน, กายโต ปน กายปฺปฎิพทฺธโต วา โมเจตฺวา หตฺถปาเส ฐิตสฺส กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา ปาติยมานํ นิสฺสคฺคิเยน ปโยเคน ทินฺนํ นามฯ ทฺวิธา คาโหติ กายกายปฺปฎิพทฺธานํ วเสน ทฺวีหิ ปกาเรหิ เยหิ เกหิจิ ทียมานสฺส คหณํฯ เอวํ ปฎิคฺคโห ปญฺจโงฺคติ โยชนาฯ ปญฺจโงฺคติ ปญฺจ องฺคานิ ยสฺสาติ พหุพฺพีหิฯ

    106. Dātuṃ kāmetīti dātukāmo, tassa abhihāro īsakampi oṇamanādinābhiharaṇanti tappuriso, hatthassa pāso hatthapāso. Ruḷhīvasena tu aḍḍhateyyahattho hatthapāso nāma. So ca sace bhikkhu nisinno hoti, āsanassa pacchimantato paṭṭhāya, sace ṭhito, paṇhiantato paṭṭhāya, sace nipanno, yena passena nipanno, tassa pārimantato paṭṭhāya dāyakassa nisinnassa ṭhitassa vā ṭhapetvā pasāritahatthaṃ yaṃ āsannataraṃ aṅgaṃ, tassa orimantena paricchinditvā veditabbo. Eraṇakkhamanti thāmamajjhimena purisena eraṇassa ukkhipanassa khamaṃ yoggaṃ. Vatthusaddāpekkhaṃ napuṃsakattaṃ. Tidhā denteti kāyakāyappaṭibaddhanissaggiyānaṃ vasena tīhi pakārehi dāyake dadamāne. Tattha yena kenaci sarīrāvayavena antamaso pādaṅguliyāpi dīyamānaṃ kāyena dinnaṃ nāma hoti, kaṭacchuādīsu yena kenaci dīyamānaṃ kāyappaṭibaddhena, kāyato pana kāyappaṭibaddhato vā mocetvā hatthapāse ṭhitassa kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā pātiyamānaṃ nissaggiyena payogena dinnaṃ nāma. Dvidhā gāhoti kāyakāyappaṭibaddhānaṃ vasena dvīhi pakārehi yehi kehici dīyamānassa gahaṇaṃ. Evaṃ paṭiggaho pañcaṅgoti yojanā. Pañcaṅgoti pañca aṅgāni yassāti bahubbīhi.

    ๑๐๗. อิทานิ อเนรณกฺขเม จ กิสฺมิญฺจิ กายปฺปฎิพเทฺธ จ ปฎิคฺคหณาโรหนํ ทเสฺสตุํ ‘‘อสํหาริเย’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อสํหาริเยติ อาเนตุมสกฺกุเณเยฺย ผลกปาสาณาทิมฺหิฯ ตตฺถชาเตติ เตสุเยว รุกฺขาทีสุ ชาเต กิํสุกปทุมินิปณฺณาทิเกฯ จิญฺจอาทีนํ สุขุเม ปเณฺณติ สมฺพโนฺธฯ ตานิ หิ สนฺธาเรตุํ น สโกฺกนฺติฯ เตสํ ปน สาขาสุ วฎฺฎติฯ อาทิ-สเทฺทน ‘‘องฺค’’นฺติอาทิกํ สงฺคณฺหาติฯ วา-สโทฺท สมุจฺจเยฯ อสยฺหภาเรติ ถามมชฺฌิมปุริเสน สหิตุํ สนฺธาเรตุํ อสกฺกุเณเยฺย ภาเรฯ สเพฺพสํ ปฎิคฺคโห ‘‘น รูหตี’’ติ อิมินา สมฺพโนฺธฯ

    107. Idāni aneraṇakkhame ca kismiñci kāyappaṭibaddhe ca paṭiggahaṇārohanaṃ dassetuṃ ‘‘asaṃhāriye’’tiādimāha. Tattha asaṃhāriyeti ānetumasakkuṇeyye phalakapāsāṇādimhi. Tatthajāteti tesuyeva rukkhādīsu jāte kiṃsukapaduminipaṇṇādike. Ciñcaādīnaṃ sukhume paṇṇeti sambandho. Tāni hi sandhāretuṃ na sakkonti. Tesaṃ pana sākhāsu vaṭṭati. Ādi-saddena ‘‘aṅga’’ntiādikaṃ saṅgaṇhāti. -saddo samuccaye. Asayhabhāreti thāmamajjhimapurisena sahituṃ sandhāretuṃ asakkuṇeyye bhāre. Sabbesaṃ paṭiggaho ‘‘na rūhatī’’ti iminā sambandho.

    ๑๐๘. อิทานิ ปฎิคฺคหณวิชหนํ ทเสฺสติ ‘‘สิกฺขา’’ติอาทินาฯ ตตฺถ สิกฺขามรณลิเงฺคหีติ สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน จ มรเณน จ ลิงฺคปริวตฺตเนน จฯ อนเปกฺขวิสคฺคโตติ นตฺถิ อเปโกฺข เอตสฺสาติ อนเปโกฺข, โสว วิสโคฺค, ตโต จฯ อเจฺฉทาติ โจราทีหิ อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณนฯ อนุปสมฺปนฺนทานาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาเนนฯ -สโทฺท สพฺพตฺถ อาเนตโพฺพฯ คาโหติ ปฎิคฺคหณํฯ อุปสมฺมตีติ วิชหติฯ

    108. Idāni paṭiggahaṇavijahanaṃ dasseti ‘‘sikkhā’’tiādinā. Tattha sikkhāmaraṇaliṅgehīti sikkhāpaccakkhānena ca maraṇena ca liṅgaparivattanena ca. Anapekkhavisaggatoti natthi apekkho etassāti anapekkho, sova visaggo, tato ca. Acchedāti corādīhi acchinditvā gahaṇena. Anupasampannadānāti anupasampannassa dānena. Ca-saddo sabbattha ānetabbo. Gāhoti paṭiggahaṇaṃ. Upasammatīti vijahati.

    ๑๐๙-๑๐. อิทานิ อปฺปฎิคฺคหิตํ ปริโภเค โทสํ ทเสฺสตุํ ‘‘อปฺปฎิคฺคหิต’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ สพฺพนฺติ จตุกาลิกปริยาปนฺนํ สกลมฺปิฯ อิทานิ อปฺปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํ ทเสฺสตุํ ‘‘สุทฺธ’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ สุทฺธํ นาติพหลํ อุทกญฺจ ตถา องฺคลคฺคํ อวิจฺฉินฺนํ ทนฺต…เป.… คูถกญฺจ โลณ…เป.… กรีสกญฺจ กปฺปเตติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ สุทฺธนฺติ รชเรณูหิ อญฺญรเสน จ อสมฺมิสฺสตาย ปริสุทฺธํฯ นาติพหลนฺติ ยํ กสิตฎฺฐาเน พหลมุทกํ วิย มุเข วา หเตฺถ วา น ลคฺคํ, ตํฯ อวิจฺฉินฺนนฺติ องฺคโต วิจฺฉินฺทิตฺวา น คตํฯ ทนฺตานิ จ อกฺขีนิ จ กณฺณญฺจ ทนฺตกฺขิกณฺณํ ปาณฺยงฺคตฺตา, ตสฺส คูถกนฺติ ตปฺปุริโสฯ โลณํ สรีรุฎฺฐิตํฯ สิงฺฆาณีติ สิงฺฆาณิกาฯ วิจฺฉินฺนํ น ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ

    109-10. Idāni appaṭiggahitaṃ paribhoge dosaṃ dassetuṃ ‘‘appaṭiggahita’’ntiādimāha. Tattha sabbanti catukālikapariyāpannaṃ sakalampi. Idāni appaṭiggahetvā paribhuñjitabbaṃ dassetuṃ ‘‘suddha’’ntiādimāha. Tattha suddhaṃ nātibahalaṃ udakañca tathā aṅgalaggaṃ avicchinnaṃ danta…pe… gūthakañca loṇa…pe… karīsakañca kappateti sambandho. Tattha suddhanti rajareṇūhi aññarasena ca asammissatāya parisuddhaṃ. Nātibahalanti yaṃ kasitaṭṭhāne bahalamudakaṃ viya mukhe vā hatthe vā na laggaṃ, taṃ. Avicchinnanti aṅgato vicchinditvā na gataṃ. Dantāni ca akkhīni ca kaṇṇañca dantakkhikaṇṇaṃ pāṇyaṅgattā, tassa gūthakanti tappuriso. Loṇaṃ sarīruṭṭhitaṃ. Siṅghāṇīti siṅghāṇikā. Vicchinnaṃ na paṭiggahetabbaṃ.

    ๑๑๑. อิทานิ ‘‘คูถา’’ติอาทินา กาโลทิสฺสํ ทเสฺสติฯ ตถาวิเธติ สปฺปทฎฺฐกฺขณาทิเก ตถาวิเธ กาเลฯ ตถา ตาทิโส วิโธ กาโล เอตสฺสาติ พหุพฺพีหิฯ เสเวยฺยาติ เสวนํ กเรยฺย, ปริภุเญฺชยฺยาติ วุตฺตํ โหติฯ อสเนฺต กปฺปการเกติ เอตฺถ ทุพฺพโจปิ อสมโตฺถปิ กปฺปิยการโก อสนฺตปเกฺขเยว ติฎฺฐตีติ เวทิตโพฺพฯ กาโลทิสฺสตฺตา ปน ฉาริกาย อสติ อลฺลทารุํ รุกฺขโต ฉินฺทิตฺวา กาตุํ, มตฺติกาย อสติ ภูมิํ ขณิตฺวาปิ มตฺติกํ คเหตุํ วฎฺฎติฯ

    111. Idāni ‘‘gūthā’’tiādinā kālodissaṃ dasseti. Tathāvidheti sappadaṭṭhakkhaṇādike tathāvidhe kāle. Tathā tādiso vidho kālo etassāti bahubbīhi. Seveyyāti sevanaṃ kareyya, paribhuñjeyyāti vuttaṃ hoti. Asante kappakāraketi ettha dubbacopi asamatthopi kappiyakārako asantapakkheyeva tiṭṭhatīti veditabbo. Kālodissattā pana chārikāya asati alladāruṃ rukkhato chinditvā kātuṃ, mattikāya asati bhūmiṃ khaṇitvāpi mattikaṃ gahetuṃ vaṭṭati.

    ๑๑๒. ทุรูปจิเณฺณติ ทุฎฺฐุํ อุปจิณฺณํ อามฎฺฐํ ทุรูปจิณฺณํฯ สเจ ภิกฺขุ อปฺปฎิคฺคหิตํ สามิสํ ภาชนํ ฐิตฎฺฐานโต อปเนตฺวา อามสติ, ปิธานํ อามสติ, อุปริ ฐิตกจวราทิํ ฉเฑฺฑติ, ตตฺถชาตกผลินิยา สาขาย วา วลฺลิยา วา คเหตฺวา วา จาเลติ, ทุรูปจิณฺณํ นาม โหติฯ ตสฺมิํ ทุกฺกฎนฺติ สมฺพโนฺธฯ ผลรุกฺขํ ปน อปสฺสยิตุํ วา ตตฺถ กณฺฎกํ วา พนฺธิตุํ วฎฺฎติฯ อรเญฺญ ปติตอมฺพผลาทิํ ‘‘สามเณรสฺส ทสฺสามี’’ติ อาหริตฺวา ทาตุํ วฎฺฎติฯ รโชกิเณฺณติ รชสา โอกิเณฺณ, ตสฺมิํ ปตฺตาทิเก ยํ กิญฺจิ ปฎิคฺคณฺหโต วินยทุกฺกฎํ โหตีติ อโตฺถฯ สเจ ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส ปเตฺต รชํ ปตติ, ปฎิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา คณฺหิตพฺพา ฯ ‘‘ปฎิคฺคเหตฺวา เทถา’’ติ วุเตฺตปิ อากิรนฺติ, หตฺถโต อโมเจเนฺตเนว ปฎิคฺคาหาปกสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ปฎิคฺคเหตพฺพํฯ สเจ มหาวาโต ตโต ตโต รชํ ปาเตติ, น สกฺกา โหติ ภิกฺขํ คเหตุํ, ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส ทสฺสามี’’ติ สุทฺธจิเตฺตน อาโภคํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฎฺฎติฯ ตํ ปน เตน ทินฺนํ วา วิสฺสาเสน วา ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ

    112.Durūpaciṇṇeti duṭṭhuṃ upaciṇṇaṃ āmaṭṭhaṃ durūpaciṇṇaṃ. Sace bhikkhu appaṭiggahitaṃ sāmisaṃ bhājanaṃ ṭhitaṭṭhānato apanetvā āmasati, pidhānaṃ āmasati, upari ṭhitakacavarādiṃ chaḍḍeti, tatthajātakaphaliniyā sākhāya vā valliyā vā gahetvā vā cāleti, durūpaciṇṇaṃ nāma hoti. Tasmiṃ dukkaṭanti sambandho. Phalarukkhaṃ pana apassayituṃ vā tattha kaṇṭakaṃ vā bandhituṃ vaṭṭati. Araññe patitaambaphalādiṃ ‘‘sāmaṇerassa dassāmī’’ti āharitvā dātuṃ vaṭṭati. Rajokiṇṇeti rajasā okiṇṇe, tasmiṃ pattādike yaṃ kiñci paṭiggaṇhato vinayadukkaṭaṃ hotīti attho. Sace piṇḍāya carantassa patte rajaṃ patati, paṭiggahetvā bhikkhā gaṇhitabbā . ‘‘Paṭiggahetvā dethā’’ti vuttepi ākiranti, hatthato amocenteneva paṭiggāhāpakassa santikaṃ netvā paṭiggahetabbaṃ. Sace mahāvāto tato tato rajaṃ pāteti, na sakkā hoti bhikkhaṃ gahetuṃ, ‘‘anupasampannassa dassāmī’’ti suddhacittena ābhogaṃ katvā gaṇhituṃ vaṭṭati. Taṃ pana tena dinnaṃ vā vissāsena vā paṭiggahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati.

    อถาติ วกฺขมานารเมฺภฯ อุคฺคหปฺปฎิคฺคเหติ อุคฺคหิตฺถาติ อุคฺคโห, อุคฺคหิตํ, ตสฺส ปฎิคฺคโห, ตสฺมิํฯ อปฺปฎิคฺคหิตภาวํ ชานโต อตฺตนา เอว อุคฺคเหตฺวา คหเณติ อธิปฺปาโยฯ มาตาปิตูนํ อตฺถาย ปน อปฺปฎิคฺคเหตฺวา เตลาทีนิ, ฉายตฺถาย สาขาทีนิ วา คเหตฺวา ปจฺฉโต ภุญฺชิตุกามตาย ปฎิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ อุจฺฉุอาทีสุ ผาลิเตสุ มลํ น ปญฺญายติ, มูลเภสชฺชาทีนิ ปิสนฺตานํ วา โกเฎฺฎนฺตานํ วา นิสทนิสทโปตกอุทุกฺขลมุสลานิ ขียนฺติ, ทนฺตนฺตเร ลคฺคํ สุขุมอามิสํ โหติ, รโส น ปญฺญายติ, อโพฺพหาริกํฯ อโนฺตวุเตฺถติ อกปฺปิยกุฎิยา ฉทนพฺภนฺตเร วุเตฺถติ อโตฺถฯ สยํปเกฺกติ อตฺตนา ยตฺถ กตฺถจิ ปเกฺกฯ สเจ วาสิอาทิํ ตาเปตฺวา ตกฺกาทีสุ ปกฺขิปติ, เอตฺตาวตาปิ สามปากโต น มุจฺจติฯ ปุริมกาลิกทฺวเย ปุนปากญฺหิ ฐเปตฺวา ยํ กิญฺจิ อามิสํ ภิกฺขุโน ปจิตุํ น วฎฺฎติฯ สเจปิสฺส อุณฺหยาคุยา สุลสิปณฺณาทีนิ วา สิงฺคิเวรํ วา ปกฺขิปนฺติ, จาเลตุํ น วฎฺฎติฯ อุตฺตณฺฑุลํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ปิทหิตุํ น วฎฺฎติฯ อโนฺตปเกฺกติ อกปฺปิยกุฎิยา อโนฺต ปเกฺกฯ สพฺพตฺถ ทุกฺกฎนฺติ สมฺพโนฺธฯ

    Athāti vakkhamānārambhe. Uggahappaṭiggaheti uggahitthāti uggaho, uggahitaṃ, tassa paṭiggaho, tasmiṃ. Appaṭiggahitabhāvaṃ jānato attanā eva uggahetvā gahaṇeti adhippāyo. Mātāpitūnaṃ atthāya pana appaṭiggahetvā telādīni, chāyatthāya sākhādīni vā gahetvā pacchato bhuñjitukāmatāya paṭiggahetvā paribhuñjituṃ vaṭṭati. Ucchuādīsu phālitesu malaṃ na paññāyati, mūlabhesajjādīni pisantānaṃ vā koṭṭentānaṃ vā nisadanisadapotakaudukkhalamusalāni khīyanti, dantantare laggaṃ sukhumaāmisaṃ hoti, raso na paññāyati, abbohārikaṃ. Antovuttheti akappiyakuṭiyā chadanabbhantare vuttheti attho. Sayaṃpakketi attanā yattha katthaci pakke. Sace vāsiādiṃ tāpetvā takkādīsu pakkhipati, ettāvatāpi sāmapākato na muccati. Purimakālikadvaye punapākañhi ṭhapetvā yaṃ kiñci āmisaṃ bhikkhuno pacituṃ na vaṭṭati. Sacepissa uṇhayāguyā sulasipaṇṇādīni vā siṅgiveraṃ vā pakkhipanti, cāletuṃ na vaṭṭati. Uttaṇḍulaṃ bhattaṃ labhitvā pidahituṃ na vaṭṭati. Antopakketi akappiyakuṭiyā anto pakke. Sabbattha dukkaṭanti sambandho.

    ปฎิคฺคาหนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭiggāhaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact