Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๑๖๖. ปฎิคฺคหิตาทิอนุชานนา
166. Paṭiggahitādianujānanā
๒๗๗. 1 เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อุปนนฺทสฺส สกฺยปุตฺตสฺส อุปฎฺฐากกุลํ สงฺฆสฺสตฺถาย ขาทนียํ ปาเหสิ – อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส ทเสฺสตฺวา สงฺฆสฺส ทาตพฺพนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต คามํ ปิณฺฑาย ปวิโฎฺฐ โหติ ฯ อถ โข เต มนุสฺสา อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉิํสุ – ‘‘กหํ, ภเนฺต, อโยฺย อุปนโนฺท’’ติ? ‘‘เอสาวุโส, อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต คามํ ปิณฺฑาย ปวิโฎฺฐ’’ติฯ ‘‘อิทํ, ภเนฺต, ขาทนียํ อยฺยสฺส อุปนนฺทสฺส ทเสฺสตฺวา สงฺฆสฺส ทาตพฺพ’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ เตน หิ, ภิกฺขเว, ปฎิคฺคเหตฺวา นิกฺขิปถ ยาว อุปนโนฺท อาคจฺฉตีติฯ อถ โข อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ปุเรภตฺตํ กุลานิ ปยิรุปาสิตฺวา ทิวา อาคจฺฉติฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุพฺภิเกฺข อปฺปมตฺตเกปิ ปวาเรนฺติ, ปฎิสงฺขาปิ ปฎิกฺขิปนฺติ, สโพฺพ จ สโงฺฆ ปวาริโต โหติ, ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ปฎิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภุญฺชถฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุเรภตฺตํ ปฎิคฺคหิตํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภุญฺชิตุนฺติฯ
277.2 Tena kho pana samayena āyasmato upanandassa sakyaputtassa upaṭṭhākakulaṃ saṅghassatthāya khādanīyaṃ pāhesi – ayyassa upanandassa dassetvā saṅghassa dātabbanti. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭho hoti . Atha kho te manussā ārāmaṃ gantvā bhikkhū pucchiṃsu – ‘‘kahaṃ, bhante, ayyo upanando’’ti? ‘‘Esāvuso, āyasmā upanando sakyaputto gāmaṃ piṇḍāya paviṭṭho’’ti. ‘‘Idaṃ, bhante, khādanīyaṃ ayyassa upanandassa dassetvā saṅghassa dātabba’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Tena hi, bhikkhave, paṭiggahetvā nikkhipatha yāva upanando āgacchatīti. Atha kho āyasmā upanando sakyaputto purebhattaṃ kulāni payirupāsitvā divā āgacchati. Tena kho pana samayena bhikkhū dubbhikkhe appamattakepi pavārenti, paṭisaṅkhāpi paṭikkhipanti, sabbo ca saṅgho pavārito hoti, bhikkhū kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti. Paṭiggaṇhatha, bhikkhave, paribhuñjatha. Anujānāmi, bhikkhave, purebhattaṃ paṭiggahitaṃ bhuttāvinā pavāritena anatirittaṃ paribhuñjitunti.
๒๗๘. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส กายฑาหาพาโธ โหติฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุเพฺพ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, กายฑาหาพาโธ เกน ผาสุ โหตี’’ติ? ‘‘ภิเสหิ จ เม, อาวุโส , มุฬาลิกาหิ จา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมฺมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย, เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร ปาตุรโหสิฯ อทฺทสา โข อญฺญตโร นาโค อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข, ภเนฺต, อโยฺย มหาโมคฺคลฺลาโนฯ สฺวาคตํ, ภเนฺต, อยฺยสฺส มหาโมคฺคลฺลานสฺสฯ เกน, ภเนฺต, อยฺยสฺส อโตฺถ; กิํ ทมฺมี’’ติ? ‘‘ภิเสหิ จ เม, อาวุโส, อโตฺถ, มุฬาลิกาหิ จา’’ติฯ อถ โข โส นาโค อญฺญตรํ นาคํ อาณาเปสิ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, อยฺยสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ ยาวทตฺถํ เทหี’’ติฯ อถ โข โส นาโค มนฺทากินิํ โปกฺขรณิํ โอคาเหตฺวา, โสณฺฑาย ภิสญฺจ มุฬาลิกญฺจ อพฺพาหิตฺวา, สุวิกฺขาลิตํ วิกฺขาเลตฺวา, ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิเญฺชยฺย, เอวเมว – มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิฯ โสปิ โข นาโค มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร อนฺตรหิโต เชตวเน ปาตุรโหสิฯ อถ โข โส นาโค อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ ปฎิคฺคหาเปตฺวา เชตวเน อนฺตรหิโต มนฺทากินิยา โปกฺขรณิยา ตีเร ปาตุรโหสิฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ อุปนาเมสิฯ อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภิเส จ มุฬาลิกาโย จ ภุตฺตสฺส กายฑาหาพาโธ ปฎิปฺปสฺสมฺภิฯ พหู ภิสา จ มุฬาลิกาโย จ อวสิฎฺฐา โหนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุพฺภิเกฺข อปฺปมตฺตเกปิ ปวาเรนฺติ, ปฎิสงฺขาปิ ปฎิกฺขิปนฺติ, สโพฺพ จ สโงฺฆ ปวาริโต โหติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ปฎิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภุญฺชถฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วนฎฺฐํ โปกฺขรฎฺฐํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภุญฺชิตุนฺติฯ
278. Atha kho bhagavā rājagahe yathābhirantaṃ viharitvā yena sāvatthi tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena sāvatthi tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmato sāriputtassa kāyaḍāhābādho hoti. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca – ‘‘pubbe te, āvuso sāriputta, kāyaḍāhābādho kena phāsu hotī’’ti? ‘‘Bhisehi ca me, āvuso , muḷālikāhi cā’’ti. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno seyyathāpi nāma balavā puriso sammiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya, evameva jetavane antarahito mandākiniyā pokkharaṇiyā tīre pāturahosi. Addasā kho aññataro nāgo āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ dūratova āgacchantaṃ, disvāna āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca – ‘‘etu kho, bhante, ayyo mahāmoggallāno. Svāgataṃ, bhante, ayyassa mahāmoggallānassa. Kena, bhante, ayyassa attho; kiṃ dammī’’ti? ‘‘Bhisehi ca me, āvuso, attho, muḷālikāhi cā’’ti. Atha kho so nāgo aññataraṃ nāgaṃ āṇāpesi – ‘‘tena hi, bhaṇe, ayyassa bhise ca muḷālikāyo ca yāvadatthaṃ dehī’’ti. Atha kho so nāgo mandākiniṃ pokkharaṇiṃ ogāhetvā, soṇḍāya bhisañca muḷālikañca abbāhitvā, suvikkhālitaṃ vikkhāletvā, bhaṇḍikaṃ bandhitvā yenāyasmā mahāmoggallāno tenupasaṅkami. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno – seyyathāpi nāma balavā puriso samiñjitaṃ vā bāhaṃ pasāreyya, pasāritaṃ vā bāhaṃ samiñjeyya, evameva – mandākiniyā pokkharaṇiyā tīre antarahito jetavane pāturahosi. Sopi kho nāgo mandākiniyā pokkharaṇiyā tīre antarahito jetavane pāturahosi. Atha kho so nāgo āyasmato mahāmoggallānassa bhise ca muḷālikāyo ca paṭiggahāpetvā jetavane antarahito mandākiniyā pokkharaṇiyā tīre pāturahosi. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno āyasmato sāriputtassa bhise ca muḷālikāyo ca upanāmesi. Atha kho āyasmato sāriputtassa bhise ca muḷālikāyo ca bhuttassa kāyaḍāhābādho paṭippassambhi. Bahū bhisā ca muḷālikāyo ca avasiṭṭhā honti. Tena kho pana samayena bhikkhū dubbhikkhe appamattakepi pavārenti, paṭisaṅkhāpi paṭikkhipanti, sabbo ca saṅgho pavārito hoti. Bhikkhū kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti. Paṭiggaṇhatha, bhikkhave, paribhuñjatha. Anujānāmi, bhikkhave, vanaṭṭhaṃ pokkharaṭṭhaṃ bhuttāvinā pavāritena anatirittaṃ paribhuñjitunti.
เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ พหุํ ผลขาทนียํ อุปฺปนฺนํ โหติ, กปฺปิยการโก จ น โหติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา ผลํ น ปริภุญฺชนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อพีชํ นิพฺพตฺตพีชํ 3 อกตกปฺปํ ผลํ ปริภุญฺชิตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ bahuṃ phalakhādanīyaṃ uppannaṃ hoti, kappiyakārako ca na hoti. Bhikkhū kukkuccāyantā phalaṃ na paribhuñjanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, abījaṃ nibbattabījaṃ 4 akatakappaṃ phalaṃ paribhuñjitunti.
ปฎิคฺคหิตาทิ อนุชานนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭiggahitādi anujānanā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / คุฬาทิอนุชานนกถา • Guḷādianujānanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / คุฬาทิอนุชานนกถาวณฺณนา • Guḷādianujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๖๓. คุฬาทิอนุชานนกถา • 163. Guḷādianujānanakathā