Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā

    ๘. ปฎิสลฺลานสุตฺตวณฺณนา

    8. Paṭisallānasuttavaṇṇanā

    ๔๕. อฎฺฐเม ปฎิสลฺลานรามาติ เตหิ เตหิ สตฺตสงฺขาเรหิ ปฎินิวตฺติตฺวา สลฺลานํ ปฎิสลฺลานํ, เอกวิหาโร เอกมนฺตเสวิตา, กายวิเวโกติ อโตฺถฯ ตํ ปฎิสลฺลานํ รมนฺติ โรจนฺตีติ ปฎิสลฺลานรามาฯ ‘‘ปฎิสลฺลานารามา’’ติปิ ปาโฐฯ ยถา วุตฺตํ ปฎิสลฺลานํ อารมิตพฺพโต อาราโม เอเตสนฺติ ปฎิสลฺลานารามาฯ วิหรถาติ เอวํภูตา หุตฺวา วิหรถาติ อโตฺถฯ ปฎิสลฺลาเน รตา นิรตา สมฺมุทิตาติ ปฎิสลฺลานรตาฯ เอตฺตาวตา ชาคริยานุโยโค, ตสฺส นิมิตฺตภูตา วูปกฎฺฐกายตา จ ทสฺสิตาฯ ชาคริยานุโยโค, สีลสํวโร, อินฺทฺริเยสุ, คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตญฺญุตา, สติสมฺปชญฺญนฺติ อิเมหิ ธเมฺมหิ วินา น วตฺตตีติ เตปิ อิธ อตฺถโต วุตฺตา เอวาติ เวทิตพฺพาฯ

    45. Aṭṭhame paṭisallānarāmāti tehi tehi sattasaṅkhārehi paṭinivattitvā sallānaṃ paṭisallānaṃ, ekavihāro ekamantasevitā, kāyavivekoti attho. Taṃ paṭisallānaṃ ramanti rocantīti paṭisallānarāmā. ‘‘Paṭisallānārāmā’’tipi pāṭho. Yathā vuttaṃ paṭisallānaṃ āramitabbato ārāmo etesanti paṭisallānārāmā. Viharathāti evaṃbhūtā hutvā viharathāti attho. Paṭisallāne ratā niratā sammuditāti paṭisallānaratā. Ettāvatā jāgariyānuyogo, tassa nimittabhūtā vūpakaṭṭhakāyatā ca dassitā. Jāgariyānuyogo, sīlasaṃvaro, indriyesu, guttadvāratā, bhojane mattaññutā, satisampajaññanti imehi dhammehi vinā na vattatīti tepi idha atthato vuttā evāti veditabbā.

    อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺตาติ อตฺตโน จิตฺตสมเถ อนุยุตฺตาฯ อชฺฌตฺตํ อตฺตโนติ จ เอตํ เอกตฺถํ, พฺยญฺชนเมว นานํฯ ภุมฺมเตฺถ เจตํ สมถนฺติ อนุสทฺทโยเคน อุปโยควจนํฯ อนิรากตชฺฌานาติ พหิ อนีหตชฺฌานา อวินาสิตชฺฌานา วาฯ นีหรณํ วินาโส วาติ อิทํ นิรากตํ นาม ‘‘ถมฺภํ นิรํกตฺวา นิวาตวุตฺตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๓๒๘) วิยฯ วิปสฺสนาย สมนฺนาคตาติ สตฺตวิธาย อนุปสฺสนาย ยุตฺตาฯ สตฺตวิธา อนุปสฺสนา นาม อนิจฺจานุปสฺสนา, ทุกฺขานุปสฺสนา, อนตฺตานุปสฺสนา, นิพฺพิทานุปสฺสนา, วิราคานุปสฺสนา, นิโรธานุปสฺสนา, ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสนา จ, ตา วิสุทฺธิมเคฺค วิตฺถาริตาวฯ

    Ajjhattaṃ cetosamathamanuyuttāti attano cittasamathe anuyuttā. Ajjhattaṃ attanoti ca etaṃ ekatthaṃ, byañjanameva nānaṃ. Bhummatthe cetaṃ samathanti anusaddayogena upayogavacanaṃ. Anirākatajjhānāti bahi anīhatajjhānā avināsitajjhānā vā. Nīharaṇaṃ vināso vāti idaṃ nirākataṃ nāma ‘‘thambhaṃ niraṃkatvā nivātavuttī’’tiādīsu (su. ni. 328) viya. Vipassanāya samannāgatāti sattavidhāya anupassanāya yuttā. Sattavidhā anupassanā nāma aniccānupassanā, dukkhānupassanā, anattānupassanā, nibbidānupassanā, virāgānupassanā, nirodhānupassanā, paṭinissaggānupassanā ca, tā visuddhimagge vitthāritāva.

    พฺรูเหตาโร สุญฺญาคารานนฺติ วเฑฺฒตาโร สุญฺญาคารานํฯ เอตฺถ จ ‘‘สุญฺญาคาราน’’นฺติ ยํกิญฺจิ วิวิตฺตํ ภาวนานุโยคสฺส อนุจฺฉวิกฎฺฐานํฯ สมถวิปสฺสนาวเสน กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา รตฺตินฺทิวํ สุญฺญาคารํ ปวิสิตฺวา ภาวนานุโยควเสน นิสีทมานา ภิกฺขู ‘‘พฺรูเหตาโร สุญฺญาคาราน’’นฺติ เวทิตพฺพาฯ เอกภูมิกาทิปาสาเทปิ ปน วาสํ กุรุมานา ฌายิโน สุญฺญาคารานํ พฺรูเหตาโรเตฺวว เวทิตพฺพาฯ

    Brūhetāro suññāgārānanti vaḍḍhetāro suññāgārānaṃ. Ettha ca ‘‘suññāgārāna’’nti yaṃkiñci vivittaṃ bhāvanānuyogassa anucchavikaṭṭhānaṃ. Samathavipassanāvasena kammaṭṭhānaṃ gahetvā rattindivaṃ suññāgāraṃ pavisitvā bhāvanānuyogavasena nisīdamānā bhikkhū ‘‘brūhetāro suññāgārāna’’nti veditabbā. Ekabhūmikādipāsādepi pana vāsaṃ kurumānā jhāyino suññāgārānaṃ brūhetārotveva veditabbā.

    เอตฺถ จ ยา ‘‘ปฎิสลฺลานรามา, ภิกฺขเว, วิหรถ ปฎิสลฺลานรตา’’ติ วูปกฎฺฐกายตา วิหิตา, สา ปริสุทฺธสีลสฺส, น อสีลสฺส อวิสุทฺธสีลสฺส วา ตสฺส รูปารมฺมณาทิโต จิตฺตวินิวตฺตนเสฺสว อภาวโตติ อตฺถโต สีลวิสุทฺธิ ทสฺสิตาติ วุโตฺตวายมโตฺถฯ ‘‘อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺตา อนิรากตชฺฌานา’’ติ ปททฺวเยน สมาธิภาวนา, ‘‘วิปสฺสนาย สมนฺนาคตา’’ติ อิมินา ปญฺญาภาวนา วิหิตาติ โลกิยา ติโสฺส สิกฺขา ทสฺสิตาฯ

    Ettha ca yā ‘‘paṭisallānarāmā, bhikkhave, viharatha paṭisallānaratā’’ti vūpakaṭṭhakāyatā vihitā, sā parisuddhasīlassa, na asīlassa avisuddhasīlassa vā tassa rūpārammaṇādito cittavinivattanasseva abhāvatoti atthato sīlavisuddhi dassitāti vuttovāyamattho. ‘‘Ajjhattaṃ cetosamathamanuyuttā anirākatajjhānā’’ti padadvayena samādhibhāvanā, ‘‘vipassanāya samannāgatā’’ti iminā paññābhāvanā vihitāti lokiyā tisso sikkhā dassitā.

    อิทานิ ตาสุ ปติฎฺฐิตสฺส อวสฺสํภาวิผลํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปฎิสลฺลานรามาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ พฺรูเหตานนฺติ วเฑฺฒตานํฯ ทฺวินฺนํ ผลานนฺติ ตติยจตุตฺถผลานํฯ ปาฎิกงฺขนฺติ อิจฺฉิตพฺพํ อวสฺสํภาวีฯ อญฺญาติ อรหตฺตํฯ ตญฺหิ เหฎฺฐิมมคฺคญาเณหิ ญาตมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา ชานนโต ปริปุณฺณชานนตฺตา อุปริ ชานนกิจฺจาภาวโต จ ‘‘อญฺญา’’ติ วุจฺจติฯ สติ วา อุปาทิเสเสติ สติ วา กิเลสูปาทิเสเส, ปหาตุํ อสกฺกุเณเยฺย สติฯ ญาเณ หิ อปริปเกฺก เย เตน ปริปเกฺกน ปหาตพฺพกิเลสา, เต น ปหียนฺติฯ ตํ สนฺธายาห ‘‘สติ วา อุปาทิเสเส’’ติฯ สติ จ กิเลเส ขนฺธาภิสงฺขารา ติฎฺฐนฺติ เอวฯ อิติ อิมสฺมิํ สุเตฺต อนาคามิผลํ อรหตฺตนฺติ เทฺว ธมฺมา ทสฺสิตาฯ ยถา เจตฺถ, เอวํ อิโต ปเรสุ ทฺวีสุ สุเตฺตสุฯ

    Idāni tāsu patiṭṭhitassa avassaṃbhāviphalaṃ dassetuṃ ‘‘paṭisallānarāmāna’’ntiādi vuttaṃ. Tattha brūhetānanti vaḍḍhetānaṃ. Dvinnaṃ phalānanti tatiyacatutthaphalānaṃ. Pāṭikaṅkhanti icchitabbaṃ avassaṃbhāvī. Aññāti arahattaṃ. Tañhi heṭṭhimamaggañāṇehi ñātamariyādaṃ anatikkamitvā jānanato paripuṇṇajānanattā upari jānanakiccābhāvato ca ‘‘aññā’’ti vuccati. Sati vā upādiseseti sati vā kilesūpādisese, pahātuṃ asakkuṇeyye sati. Ñāṇe hi aparipakke ye tena paripakkena pahātabbakilesā, te na pahīyanti. Taṃ sandhāyāha ‘‘sati vā upādisese’’ti. Sati ca kilese khandhābhisaṅkhārā tiṭṭhanti eva. Iti imasmiṃ sutte anāgāmiphalaṃ arahattanti dve dhammā dassitā. Yathā cettha, evaṃ ito paresu dvīsu suttesu.

    คาถาสุ เย สนฺตจิตฺตาติ เย โยคาวจรา ตทงฺควเสน วิกฺขมฺภนวเสว จ สมิตกิเลสตาย สนฺตจิตฺตาฯ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปญฺญา, ตาย สมนฺนาคตตฺตา นิปกาฯ อิมินา เตสํ กมฺมฎฺฐานปริหรณญาณํ ทเสฺสติฯ สติมโนฺต จ ฌายิโนติ ฐานนิสชฺชาทีสุ กมฺมฎฺฐานาวิชหนเหตุภูตาย สติยา สติมโนฺต, อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขเณน ฌาเนน ฌายิโนฯ สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสนฺติ, กาเมสุ อนเปกฺขิโนติ ปุเพฺพเยว ‘‘อฎฺฐิกงฺกลูปมา กามา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ปาจิ. ๔๑๗) วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมสุ จ อาทีนวปจฺจเวกฺขเณน อนเปกฺขิโน อนตฺถิกา เต ปหาย อธิคตํ อุปจารสมาธิํ อปฺปนาสมาธิํ วา ปาทกํ กตฺวา นามรูปํ ตสฺส ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา กลาปสมฺมสนาทิกฺกเมน สมฺมา อวิปรีตํ ปญฺจกฺขนฺธธมฺมํ อนิจฺจาทิโต วิปสฺสนฺติฯ

    Gāthāsu ye santacittāti ye yogāvacarā tadaṅgavasena vikkhambhanavaseva ca samitakilesatāya santacittā. Nepakkaṃ vuccati paññā, tāya samannāgatattā nipakā. Iminā tesaṃ kammaṭṭhānapariharaṇañāṇaṃ dasseti. Satimantoca jhāyinoti ṭhānanisajjādīsu kammaṭṭhānāvijahanahetubhūtāya satiyā satimanto, ārammaṇūpanijjhānalakkhaṇena jhānena jhāyino. Sammā dhammaṃ vipassanti, kāmesu anapekkhinoti pubbeyeva ‘‘aṭṭhikaṅkalūpamā kāmā’’tiādinā (ma. ni. 1.234; pāci. 417) vatthukāmesu kilesakāmesu ca ādīnavapaccavekkhaṇena anapekkhino anatthikā te pahāya adhigataṃ upacārasamādhiṃ appanāsamādhiṃ vā pādakaṃ katvā nāmarūpaṃ tassa paccaye ca pariggahetvā kalāpasammasanādikkamena sammā aviparītaṃ pañcakkhandhadhammaṃ aniccādito vipassanti.

    อปฺปมาทรตาติ วุตฺตปฺปการาย สมถวิปสฺสนาภาวนาย อปฺปมชฺชเน รตา อภิรตา ตตฺถ อปฺปมาเทเนว รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมนฺตาฯ สนฺตาติ สมานาฯ ‘‘สตฺตา’’ติปิ ปาโฐ, ปุคฺคลาติ อโตฺถฯ ปมาเท ภยทสฺสิโนติ นิรยูปปตฺติอาทิกํ ปมาเท ภยํ ปสฺสนฺตาฯ อภพฺพา ปริหานายาติ เต เอวรูปา สมถวิปสฺสนาธเมฺมหิ มคฺคผเลหิ วา ปริหานาย อภพฺพาฯ สมถวิปสฺสนาโต หิ สมฺปตฺตโต น ปริหายนฺติ, อิตรานิ จ อปฺปตฺตานิ ปาปุณนฺติฯ นิพฺพานเสฺสว สนฺติเกติ นิพฺพานสฺส จ อนุปาทาปรินิพฺพานสฺส จ สนฺติเก เอว, น จิรเสฺสว นํ อธิคมิสฺสนฺตีติฯ

    Appamādaratāti vuttappakārāya samathavipassanābhāvanāya appamajjane ratā abhiratā tattha appamādeneva rattindivaṃ vītināmentā. Santāti samānā. ‘‘Sattā’’tipi pāṭho, puggalāti attho. Pamāde bhayadassinoti nirayūpapattiādikaṃ pamāde bhayaṃ passantā. Abhabbā parihānāyāti te evarūpā samathavipassanādhammehi maggaphalehi vā parihānāya abhabbā. Samathavipassanāto hi sampattato na parihāyanti, itarāni ca appattāni pāpuṇanti. Nibbānasseva santiketi nibbānassa ca anupādāparinibbānassa ca santike eva, na cirasseva naṃ adhigamissantīti.

    อฎฺฐมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Aṭṭhamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๘. ปฎิสลฺลานสุตฺตํ • 8. Paṭisallānasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact