Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    (๗) ๒. ปตฺตกมฺมวโคฺค

    (7) 2. Pattakammavaggo

    ๑. ปตฺตกมฺมสุตฺตํ

    1. Pattakammasuttaṃ

    ๖๑. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ภควา เอตทโวจ –

    61. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ bhagavā etadavoca –

    ‘‘จตฺตาโรเม , คหปติ, ธมฺมา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? โภคา เม อุปฺปชฺชนฺตุ สหธเมฺมนาติ, อยํ ปฐโม ธโมฺม อิโฎฺฐ กโนฺต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ

    ‘‘Cattārome , gahapati, dhammā iṭṭhā kantā manāpā dullabhā lokasmiṃ. Katame cattāro? Bhogā me uppajjantu sahadhammenāti, ayaṃ paṭhamo dhammo iṭṭho kanto manāpo dullabho lokasmiṃ.

    ‘‘โภเค ลทฺธา สหธเมฺมน ยโส เม อาคจฺฉตุ สห ญาตีหิ สห อุปชฺฌาเยหีติ, อยํ ทุติโย ธโมฺม อิโฎฺฐ กโนฺต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ

    ‘‘Bhoge laddhā sahadhammena yaso me āgacchatu saha ñātīhi saha upajjhāyehīti, ayaṃ dutiyo dhammo iṭṭho kanto manāpo dullabho lokasmiṃ.

    ‘‘โภเค ลทฺธา สหธเมฺมน ยสํ ลทฺธา สห ญาตีหิ สห อุปชฺฌาเยหิ จิรํ ชีวามิ ทีฆมายุํ ปาเลมีติ, อยํ ตติโย ธโมฺม อิโฎฺฐ กโนฺต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ

    ‘‘Bhoge laddhā sahadhammena yasaṃ laddhā saha ñātīhi saha upajjhāyehi ciraṃ jīvāmi dīghamāyuṃ pālemīti, ayaṃ tatiyo dhammo iṭṭho kanto manāpo dullabho lokasmiṃ.

    ‘‘โภเค ลทฺธา สหธเมฺมน ยสํ ลทฺธา สห ญาตีหิ สห อุปชฺฌาเยหิ จิรํ ชีวิตฺวา ทีฆมายุํ ปาเลตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชามีติ, อยํ จตุโตฺถ ธโมฺม อิโฎฺฐ กโนฺต มนาโป ทุลฺลโภ โลกสฺมิํฯ อิเม โข, คหปติ, จตฺตาโร ธมฺมา อิฎฺฐา กนฺตา มนาปา ทุลฺลภา โลกสฺมิํฯ

    ‘‘Bhoge laddhā sahadhammena yasaṃ laddhā saha ñātīhi saha upajjhāyehi ciraṃ jīvitvā dīghamāyuṃ pāletvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjāmīti, ayaṃ catuttho dhammo iṭṭho kanto manāpo dullabho lokasmiṃ. Ime kho, gahapati, cattāro dhammā iṭṭhā kantā manāpā dullabhā lokasmiṃ.

    ‘‘อิเมสํ โข, คหปติ, จตุนฺนํ ธมฺมานํ อิฎฺฐานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมิํ จตฺตาโร ธมฺมา ปฎิลาภาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม จตฺตาโร? สทฺธาสมฺปทา, สีลสมฺปทา, จาคสมฺปทา, ปญฺญาสมฺปทาฯ

    ‘‘Imesaṃ kho, gahapati, catunnaṃ dhammānaṃ iṭṭhānaṃ kantānaṃ manāpānaṃ dullabhānaṃ lokasmiṃ cattāro dhammā paṭilābhāya saṃvattanti. Katame cattāro? Saddhāsampadā, sīlasampadā, cāgasampadā, paññāsampadā.

    ‘‘กตมา จ, คหปติ, สทฺธาสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก สโทฺธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธิํ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ, สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ อยํ วุจฺจติ, คหปติ, สทฺธาสมฺปทาฯ

    ‘‘Katamā ca, gahapati, saddhāsampadā? Idha, gahapati, ariyasāvako saddho hoti, saddahati tathāgatassa bodhiṃ – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi, satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Ayaṃ vuccati, gahapati, saddhāsampadā.

    ‘‘กตมา จ, คหปติ, สีลสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ…เป.… สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา ปฎิวิรโต โหติฯ อยํ วุจฺจติ, คหปติ, สีลสมฺปทาฯ

    ‘‘Katamā ca, gahapati, sīlasampadā? Idha, gahapati, ariyasāvako pāṇātipātā paṭivirato hoti…pe… surāmerayamajjapamādaṭṭhānā paṭivirato hoti. Ayaṃ vuccati, gahapati, sīlasampadā.

    ‘‘กตมา จ, คหปติ, จาคสมฺปทา? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก วิคตมลมเจฺฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโตฯ อยํ วุจฺจติ, คหปติ, จาคสมฺปทาฯ

    ‘‘Katamā ca, gahapati, cāgasampadā? Idha, gahapati, ariyasāvako vigatamalamaccherena cetasā agāraṃ ajjhāvasati muttacāgo payatapāṇi vosaggarato yācayogo dānasaṃvibhāgarato. Ayaṃ vuccati, gahapati, cāgasampadā.

    ‘‘กตมา จ, คหปติ, ปญฺญาสมฺปทา? อภิชฺฌาวิสมโลภาภิภูเตน , คหปติ, เจตสา วิหรโนฺต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติฯ อกิจฺจํ กโรโนฺต กิจฺจํ อปราเธโนฺต ยสา จ สุขา จ ธํสติฯ พฺยาปาทาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรโนฺต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติฯ อกิจฺจํ กโรโนฺต กิจฺจํ อปราเธโนฺต ยสา จ สุขา จ ธํสติฯ ถินมิทฺธาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรโนฺต อกิจฺจํ กโรติ กิจฺจํ อปราเธติฯ อกิจฺจํ กโรโนฺต กิจฺจํ อปราเธโนฺต ยสา จ สุขา จ ธํสติฯ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรโนฺต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติฯ อกิจฺจํ กโรโนฺต กิจฺจํ อปราเธโนฺต ยสา จ สุขา จ ธํสติฯ วิจิกิจฺฉาภิภูเตน, คหปติ, เจตสา วิหรโนฺต อกิจฺจํ กโรติ, กิจฺจํ อปราเธติฯ อกิจฺจํ กโรโนฺต กิจฺจํ อปราเธโนฺต ยสา จ สุขา จ ธํสติฯ

    ‘‘Katamā ca, gahapati, paññāsampadā? Abhijjhāvisamalobhābhibhūtena , gahapati, cetasā viharanto akiccaṃ karoti, kiccaṃ aparādheti. Akiccaṃ karonto kiccaṃ aparādhento yasā ca sukhā ca dhaṃsati. Byāpādābhibhūtena, gahapati, cetasā viharanto akiccaṃ karoti, kiccaṃ aparādheti. Akiccaṃ karonto kiccaṃ aparādhento yasā ca sukhā ca dhaṃsati. Thinamiddhābhibhūtena, gahapati, cetasā viharanto akiccaṃ karoti kiccaṃ aparādheti. Akiccaṃ karonto kiccaṃ aparādhento yasā ca sukhā ca dhaṃsati. Uddhaccakukkuccābhibhūtena, gahapati, cetasā viharanto akiccaṃ karoti, kiccaṃ aparādheti. Akiccaṃ karonto kiccaṃ aparādhento yasā ca sukhā ca dhaṃsati. Vicikicchābhibhūtena, gahapati, cetasā viharanto akiccaṃ karoti, kiccaṃ aparādheti. Akiccaṃ karonto kiccaṃ aparādhento yasā ca sukhā ca dhaṃsati.

    ‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลภํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติฯ พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาทํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติฯ ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติฯ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติฯ วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหติฯ

    ‘‘Sa kho so, gahapati, ariyasāvako abhijjhāvisamalobho cittassa upakkilesoti, iti viditvā abhijjhāvisamalobhaṃ cittassa upakkilesaṃ pajahati. Byāpādo cittassa upakkilesoti, iti viditvā byāpādaṃ cittassa upakkilesaṃ pajahati. Thinamiddhaṃ cittassa upakkilesoti, iti viditvā thinamiddhaṃ cittassa upakkilesaṃ pajahati. Uddhaccakukkuccaṃ cittassa upakkilesoti, iti viditvā uddhaccakukkuccaṃ cittassa upakkilesaṃ pajahati. Vicikicchā cittassa upakkilesoti, iti viditvā vicikicchaṃ cittassa upakkilesaṃ pajahati.

    ‘‘ยโต จ โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อภิชฺฌาวิสมโลโภ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติฯ พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา พฺยาปาโท จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติฯ ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติฯ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติฯ วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโสติ, อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน โหติฯ อยํ วุจฺจติ, คหปติ, อริยสาวโก มหาปโญฺญ ปุถุปโญฺญ อาปาตทโส 1 ปญฺญาสมฺปโนฺน 2ฯ อยํ วุจฺจติ, คหปติ , ปญฺญาสมฺปทาฯ อิเมสํ โข, คหปติ, จตุนฺนํ ธมฺมานํ อิฎฺฐานํ กนฺตานํ มนาปานํ ทุลฺลภานํ โลกสฺมิํ อิเม จตฺตาโร ธมฺมา ปฎิลาภาย สํวตฺตนฺติฯ

    ‘‘Yato ca kho, gahapati, ariyasāvakassa abhijjhāvisamalobho cittassa upakkilesoti, iti viditvā abhijjhāvisamalobho cittassa upakkileso pahīno hoti. Byāpādo cittassa upakkilesoti, iti viditvā byāpādo cittassa upakkileso pahīno hoti. Thinamiddhaṃ cittassa upakkilesoti, iti viditvā thinamiddhaṃ cittassa upakkileso pahīno hoti. Uddhaccakukkuccaṃ cittassa upakkilesoti, iti viditvā uddhaccakukkuccaṃ cittassa upakkileso pahīno hoti. Vicikicchā cittassa upakkilesoti, iti viditvā vicikicchā cittassa upakkileso pahīno hoti. Ayaṃ vuccati, gahapati, ariyasāvako mahāpañño puthupañño āpātadaso 3 paññāsampanno 4. Ayaṃ vuccati, gahapati , paññāsampadā. Imesaṃ kho, gahapati, catunnaṃ dhammānaṃ iṭṭhānaṃ kantānaṃ manāpānaṃ dullabhānaṃ lokasmiṃ ime cattāro dhammā paṭilābhāya saṃvattanti.

    ‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อุฎฺฐานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิเตฺตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลเทฺธหิ จตฺตาริ ปตฺตกมฺมานิ กตฺตา โหติฯ กตมานิ จตฺตาริ? อิธ คหปติ, อริยสาวโก อุฎฺฐานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิเตฺตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลเทฺธหิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติฯ มาตาปิตโร สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติฯ ปุตฺตทารทาสกมฺมกรโปริเส สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติฯ มิตฺตามเจฺจ สุเขติ ปีเณติ สมฺมา สุขํ ปริหรติฯ อิทมสฺส ปฐมํ ฐานคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํฯ

    ‘‘Sa kho so, gahapati, ariyasāvako uṭṭhānavīriyādhigatehi bhogehi bāhābalaparicitehi sedāvakkhittehi dhammikehi dhammaladdhehi cattāri pattakammāni kattā hoti. Katamāni cattāri? Idha gahapati, ariyasāvako uṭṭhānavīriyādhigatehi bhogehi bāhābalaparicitehi sedāvakkhittehi dhammikehi dhammaladdhehi attānaṃ sukheti pīṇeti sammā sukhaṃ pariharati. Mātāpitaro sukheti pīṇeti sammā sukhaṃ pariharati. Puttadāradāsakammakaraporise sukheti pīṇeti sammā sukhaṃ pariharati. Mittāmacce sukheti pīṇeti sammā sukhaṃ pariharati. Idamassa paṭhamaṃ ṭhānagataṃ hoti pattagataṃ āyatanaso paribhuttaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฎฺฐานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิเตฺตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลเทฺธหิ ยา ตา โหนฺติ อาปทา อคฺคิโต วา อุทกโต วา ราชโต วา โจรโต วา อปฺปิยโต วา ทายาทโต 5, ตถารูปาสุ อาปทาสุ ปริโยธาย สํวตฺตติฯ โสตฺถิํ อตฺตานํ กโรติฯ อิทมสฺส ทุติยํ ฐานคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, gahapati, ariyasāvako uṭṭhānavīriyādhigatehi bhogehi bāhābalaparicitehi sedāvakkhittehi dhammikehi dhammaladdhehi yā tā honti āpadā aggito vā udakato vā rājato vā corato vā appiyato vā dāyādato 6, tathārūpāsu āpadāsu pariyodhāya saṃvattati. Sotthiṃ attānaṃ karoti. Idamassa dutiyaṃ ṭhānagataṃ hoti pattagataṃ āyatanaso paribhuttaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฎฺฐานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิเตฺตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลเทฺธหิ ปญฺจพลิํ กตฺตา โหติ – ญาติพลิํ, อติถิพลิํ, ปุพฺพเปตพลิํ, ราชพลิํ, เทวตาพลิํฯ อิทมสฺส ตติยํ ฐานคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, gahapati, ariyasāvako uṭṭhānavīriyādhigatehi bhogehi bāhābalaparicitehi sedāvakkhittehi dhammikehi dhammaladdhehi pañcabaliṃ kattā hoti – ñātibaliṃ, atithibaliṃ, pubbapetabaliṃ, rājabaliṃ, devatābaliṃ. Idamassa tatiyaṃ ṭhānagataṃ hoti pattagataṃ āyatanaso paribhuttaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, คหปติ, อริยสาวโก อุฎฺฐานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิเตฺตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลเทฺธหิ เย เต สมณพฺราหฺมณา มทปฺปมาทา ปฎิวิรตา ขนฺติโสรเจฺจ นิวิฎฺฐา เอกมตฺตานํ ทเมนฺติ, เอกมตฺตานํ สเมนฺติ, เอกมตฺตานํ ปรินิพฺพาเปนฺติ, ตถารูเปสุ สมณพฺราหฺมเณสุ อุทฺธคฺคิกํ ทกฺขิณํ ปติฎฺฐาเปติ โสวคฺคิกํ สุขวิปากํ สคฺคสํวตฺตนิกํ ฯ อิทมสฺส จตุตฺถํ ฐานคตํ โหติ ปตฺตคตํ อายตนโส ปริภุตฺตํฯ

    ‘‘Puna caparaṃ, gahapati, ariyasāvako uṭṭhānavīriyādhigatehi bhogehi bāhābalaparicitehi sedāvakkhittehi dhammikehi dhammaladdhehi ye te samaṇabrāhmaṇā madappamādā paṭiviratā khantisoracce niviṭṭhā ekamattānaṃ damenti, ekamattānaṃ samenti, ekamattānaṃ parinibbāpenti, tathārūpesu samaṇabrāhmaṇesu uddhaggikaṃ dakkhiṇaṃ patiṭṭhāpeti sovaggikaṃ sukhavipākaṃ saggasaṃvattanikaṃ . Idamassa catutthaṃ ṭhānagataṃ hoti pattagataṃ āyatanaso paribhuttaṃ.

    ‘‘ส โข โส, คหปติ, อริยสาวโก อุฎฺฐานวีริยาธิคเตหิ โภเคหิ พาหาพลปริจิเตหิ เสทาวกฺขิเตฺตหิ ธมฺมิเกหิ ธมฺมลเทฺธหิ อิมานิ จตฺตาริ ปตฺตกมฺมานิ กตฺตา โหติฯ ยสฺส กสฺสจิ, คหปติ, อญฺญตฺร อิเมหิ จตูหิ ปตฺตกเมฺมหิ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, คหปติ, โภคา อฎฺฐานคตา อปตฺตคตา อนายตนโส ปริภุตฺตาฯ ยสฺส กสฺสจิ, คหปติ, อิเมหิ จตูหิ ปตฺตกเมฺมหิ โภคา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อิเม วุจฺจนฺติ, คหปติ, โภคา ฐานคตา ปตฺตคตา อายตนโส ปริภุตฺตา’’ติฯ

    ‘‘Sa kho so, gahapati, ariyasāvako uṭṭhānavīriyādhigatehi bhogehi bāhābalaparicitehi sedāvakkhittehi dhammikehi dhammaladdhehi imāni cattāri pattakammāni kattā hoti. Yassa kassaci, gahapati, aññatra imehi catūhi pattakammehi bhogā parikkhayaṃ gacchanti, ime vuccanti, gahapati, bhogā aṭṭhānagatā apattagatā anāyatanaso paribhuttā. Yassa kassaci, gahapati, imehi catūhi pattakammehi bhogā parikkhayaṃ gacchanti, ime vuccanti, gahapati, bhogā ṭhānagatā pattagatā āyatanaso paribhuttā’’ti.

    ‘‘ภุตฺตา โภคา ภตา ภจฺจา 7, วิติณฺณา อาปทาสุ เม;

    ‘‘Bhuttā bhogā bhatā bhaccā 8, vitiṇṇā āpadāsu me;

    อุทฺธคฺคา ทกฺขิณา ทินฺนา, อโถ ปญฺจพลี กตา;

    Uddhaggā dakkhiṇā dinnā, atho pañcabalī katā;

    อุปฎฺฐิตา สีลวโนฺต, สญฺญตา พฺรหฺมจารโยฯ

    Upaṭṭhitā sīlavanto, saññatā brahmacārayo.

    ‘‘ยทตฺถํ โภคํ อิเจฺฉยฺย, ปณฺฑิโต ฆรมาวสํ;

    ‘‘Yadatthaṃ bhogaṃ iccheyya, paṇḍito gharamāvasaṃ;

    โส เม อโตฺถ อนุปฺปโตฺต, กตํ อนนุตาปิยํฯ

    So me attho anuppatto, kataṃ ananutāpiyaṃ.

    ‘‘เอตํ 9 อนุสฺสรํ มโจฺจ, อริยธเมฺม ฐิโต นโร;

    ‘‘Etaṃ 10 anussaraṃ macco, ariyadhamme ṭhito naro;

    อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สเคฺค ปโมทตี’’ติฯ ปฐมํ;

    Idheva naṃ pasaṃsanti, pecca sagge pamodatī’’ti. paṭhamaṃ;







    Footnotes:
    1. อาปาถทโส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    2. หาสปโญฺญ (ก.)
    3. āpāthadaso (sī. syā. kaṃ. pī.)
    4. hāsapañño (ka.)
    5. อ. นิ. ๕.๔๑
    6. a. ni. 5.41
    7. คตา ภูตา (ก.) ภฎา ภจฺจา (สฺยา. กํ.)
    8. gatā bhūtā (ka.) bhaṭā bhaccā (syā. kaṃ.)
    9. เอวํ (ก.)
    10. evaṃ (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. ปตฺตกมฺมสุตฺตวณฺณนา • 1. Pattakammasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๔. ปตฺตกมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-4. Pattakammasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact