Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๗. ปวารณานิเทฺทสวณฺณนา
7. Pavāraṇāniddesavaṇṇanā
๗๓. อิทานิ ปวารณาวิธิํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปวารณา’’ติ (ปาจิ. ๒๓๘-๒๓๙; ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๓๘-๒๓๙; กงฺขา. อฎฺฐ. ปฐมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา) ปทํ อุทฺธฎํฯ ตตฺถ อิริยาปเถนาติ ฐานคมนสยนนิสชฺชานํ อญฺญตเรน อิริยาปเถนาติ อโตฺถฯ ตโต อิริยาปถโต อเญฺญน อิริยาปเถน อนติริตฺตกํ ปริภุเญฺชยฺย เจ, ปาจิตฺติยนฺติ อโตฺถฯ ปาจิตฺตินติริตฺตกนฺติ ปาจิตฺติ อนติริตฺตกํฯ
73. Idāni pavāraṇāvidhiṃ dassetuṃ ‘‘pavāraṇā’’ti (pāci. 238-239; pāci. aṭṭha. 238-239; kaṅkhā. aṭṭha. paṭhamapavāraṇāsikkhāpadavaṇṇanā) padaṃ uddhaṭaṃ. Tattha iriyāpathenāti ṭhānagamanasayananisajjānaṃ aññatarena iriyāpathenāti attho. Tato iriyāpathato aññena iriyāpathena anatirittakaṃ paribhuñjeyya ce, pācittiyanti attho. Pācittinatirittakanti pācitti anatirittakaṃ.
๗๔. อิทานิ เยหิ อเงฺคหิ ปวารณา โหติ, ตานิ องฺคานิ ทเสฺสตุํ ‘‘อสน’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อสนนฺติ เอเตน อวิปฺปกตโภชนตา วุตฺตา, ภุญฺชมาโน จ โส ปุคฺคโล โหตีติ อโตฺถฯ โภชนเญฺจวาติ ยํ ภุญฺชโนฺต ปวาเรติ, ตํ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มโจฺฉ มํสนฺติ อิเมสุ อญฺญตรํ โหตีติ อโตฺถฯ อภิหาโรติ ทายโก ตสฺส ตํ ภตฺตํ กาเยน อภิหรตีติ อโตฺถ, วาจาภิหาโร ปน น คเหตโพฺพฯ สมีปตาติ ทายโก ปวารณปฺปโหนกโภชนํ คเหตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาเณ โอกาเส โหตีติ อโตฺถฯ กายวาจาปฎิเกฺขโปติ หตฺถปาเส ฐิเตน อภิหฎํ ภิกฺขํ กาเยน วา วาจาย วา ปฎิกฺขิเปยฺยาติ อโตฺถฯ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสิโนฺน โหติ, อานิสทสฺส ปาริมนฺตโต ปฎฺฐาย, สเจ ฐิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฎฺฐาย, สเจ นิปโนฺน, เยน ปเสฺสน นิปโนฺน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฎฺฐาย ทายกสฺสาปิ ตถาวิธสฺส ฐเปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ ตสฺส อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส วเสน ปริเจฺฉโท กาตโพฺพฯ ปญฺจ องฺคา ปวารณาติ ‘‘อสนํ ปญฺญายติ, โภชนํ ปญฺญายติ, หตฺถปาเส ฐิโต อภิหรติ, ปฎิเกฺขโป ปญฺญายตี’’ติ (ปาจิ. ๒๓๙; ปริ. ๔๒๘) ปาฬิยํ วุเตฺตหิ อิเมหิ ปญฺจหิ อเงฺคหิ ปวารณา โหตีติ อโตฺถฯ
74. Idāni yehi aṅgehi pavāraṇā hoti, tāni aṅgāni dassetuṃ ‘‘asana’’ntiādimāha. Tattha asananti etena avippakatabhojanatā vuttā, bhuñjamāno ca so puggalo hotīti attho. Bhojanañcevāti yaṃ bhuñjanto pavāreti, taṃ odano kummāso sattu maccho maṃsanti imesu aññataraṃ hotīti attho. Abhihāroti dāyako tassa taṃ bhattaṃ kāyena abhiharatīti attho, vācābhihāro pana na gahetabbo. Samīpatāti dāyako pavāraṇappahonakabhojanaṃ gahetvā aḍḍhateyyahatthappamāṇe okāse hotīti attho. Kāyavācāpaṭikkhepoti hatthapāse ṭhitena abhihaṭaṃ bhikkhaṃ kāyena vā vācāya vā paṭikkhipeyyāti attho. Ettha pana sace bhikkhu nisinno hoti, ānisadassa pārimantato paṭṭhāya, sace ṭhito, paṇhiantato paṭṭhāya, sace nipanno, yena passena nipanno, tassa pārimantato paṭṭhāya dāyakassāpi tathāvidhassa ṭhapetvā pasāritahatthaṃ yaṃ tassa āsannataraṃ aṅgaṃ, tassa vasena paricchedo kātabbo. Pañca aṅgā pavāraṇāti ‘‘asanaṃ paññāyati, bhojanaṃ paññāyati, hatthapāse ṭhito abhiharati, paṭikkhepo paññāyatī’’ti (pāci. 239; pari. 428) pāḷiyaṃ vuttehi imehi pañcahi aṅgehi pavāraṇā hotīti attho.
๗๕. อิทานิ เอเตสุ ปญฺจสุ โภชนํ ทเสฺสตุํ ‘‘โอทโน’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิทานิ โอทนาทโย อิเมหิ นิพฺพตฺตาติ ทเสฺสตุํ ‘‘สาลี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติโย กงฺคูติ คเหตพฺพาฯ กาฬเสตา กุทฺรูสวรกาฯ อิเมสํ สตฺตนฺนํ ธญฺญานํ โอทโน จ โภชฺชยาคุ จ โอทโน นามาติ อโตฺถฯ
75. Idāni etesu pañcasu bhojanaṃ dassetuṃ ‘‘odano’’tiādi vuttaṃ. Idāni odanādayo imehi nibbattāti dassetuṃ ‘‘sālī’’tiādimāha. Tattha setarattakāḷabhedā sabbāpi kaṅgujātiyo kaṅgūti gahetabbā. Kāḷasetā kudrūsavarakā. Imesaṃ sattannaṃ dhaññānaṃ odano ca bhojjayāgu ca odano nāmāti attho.
๗๖. สามากาทิติณํ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๓๘-๒๓๙) กุทฺรูสเก สงฺคหํ คตนฺติ อโตฺถฯ วรกโจรโก วรเก สงฺคหํ คโต, สาลิยเญฺจว นีวาโร สงฺคหํ คโต เสตตฺตาติ วทนฺติฯ อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ สานุโลมานํ สตฺตนฺนํ ธญฺญานํ ตณฺฑุเล คเหตฺวา ‘‘ยาคุํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ภตฺตํ ปจิสฺสามา’’ติ วา ยํ กิญฺจิ สนฺธาย ปจนฺติ, สเจ อุณฺหํ วา สีตลํ วา ภุญฺชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตคหิตฎฺฐาเน โอธิ ปญฺญายติ, อยํ โอทโน นาม, ปวารณํ ชเนติฯ โยปิ ปายาโส วา อมฺพิลยาคุ วา อุทฺธนโต โอตาริตมตฺตา อพฺภุณฺหา อาวิชฺฌิตฺวา ปิวิตุํ สกฺกา, คหิโตกาเสปิ โอธิํ น ทเสฺสติ, อยํ ปวารณํ น ชเนติฯ อุสุมาย ปน วิคตาย ฆนภาวํ คจฺฉติ, โอธิ ปญฺญายติ, ปุน ปวารณํ ชเนติ, ปุเพฺพ ตนุกภาโว น รกฺขติฯ ภเตฺต ปน อุทกกญฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, กิญฺจาปิ ตนุกา โหติ, ปวารณํ ชเนติเยว ตสฺมิํ ยาคุยา นตฺถิภาวโตฯ สเจ ปน ปกฺกุถิเตสุ อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติฯ
76. Sāmākāditiṇaṃ (pāci. aṭṭha. 238-239) kudrūsake saṅgahaṃ gatanti attho. Varakacorako varake saṅgahaṃ gato, sāliyañceva nīvāro saṅgahaṃ gato setattāti vadanti. Imesaṃ vuttappakārānaṃ sānulomānaṃ sattannaṃ dhaññānaṃ taṇḍule gahetvā ‘‘yāguṃ pacissāmā’’ti vā ‘‘bhattaṃ pacissāmā’’ti vā yaṃ kiñci sandhāya pacanti, sace uṇhaṃ vā sītalaṃ vā bhuñjantānaṃ bhojanakāle gahitagahitaṭṭhāne odhi paññāyati, ayaṃ odano nāma, pavāraṇaṃ janeti. Yopi pāyāso vā ambilayāgu vā uddhanato otāritamattā abbhuṇhā āvijjhitvā pivituṃ sakkā, gahitokāsepi odhiṃ na dasseti, ayaṃ pavāraṇaṃ na janeti. Usumāya pana vigatāya ghanabhāvaṃ gacchati, odhi paññāyati, puna pavāraṇaṃ janeti, pubbe tanukabhāvo na rakkhati. Bhatte pana udakakañjikakhīrādīni ākiritvā ‘‘yāguṃ gaṇhathā’’ti vadanti, kiñcāpi tanukā hoti, pavāraṇaṃ janetiyeva tasmiṃ yāguyā natthibhāvato. Sace pana pakkuthitesu udakādīsu pakkhipitvā pacitvā denti, yāgusaṅgahameva gacchati.
๗๗. ภฎฺฐธญฺญมโยติ สตฺตวิธานิปิ ธญฺญานิ คเหตฺวา ขรปากภชฺชิตานํ เตสํ ตณฺฑุเล โกเฎฺฎตฺวา กตจุณฺณกุณฺฑกานิ สตฺตุ นามฯ สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา ตณฺฑุลานํ จุณฺณกุณฺฑกานิ สตฺตุสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺติฯ ยวสมฺภโวติ อเญฺญหิ ปน มุคฺคาทีหิ กตกุมฺมาโส น ปวาเรตีติ อธิปฺปาโยฯ อุทกสมฺภโวติ อิมินา กกฺกฎกสิปฺปิกสมฺพุกาทโยปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ สเจ ยาคุปานกาเล เอกสฺมิํ ภาชเน ฐเปตฺวา มจฺฉมํสํ วา ขาทนฺติ, เต เจ อขาทโนฺต อญฺญํ ปวารณปฺปโหนกํ ปฎิกฺขิปติ, น ปวาเรติฯ ขาทิเตปิ สเจ มุเข อวสิฎฺฐํ นตฺถิ, ตทา ปฎิกฺขิปโนฺตปิ น ปวาเรติเยวฯ สเจ ปเตฺต อวสิฎฺฐํ อตฺถิ, มุเข นตฺถิ, ตเญฺจ อขาทิตุกาโม โหติ, อญฺญตฺถ วา คนฺตฺวา ขาทิตุกาโม, ตสฺมิํ ขเณ ปฎิกฺขิปโนฺตปิ น ปวาเรติเยวฯ
77.Bhaṭṭhadhaññamayoti sattavidhānipi dhaññāni gahetvā kharapākabhajjitānaṃ tesaṃ taṇḍule koṭṭetvā katacuṇṇakuṇḍakāni sattu nāma. Samapākabhajjitānaṃ pana ātapasukkhānaṃ vā taṇḍulānaṃ cuṇṇakuṇḍakāni sattusaṅkhyaṃ na gacchanti. Yavasambhavoti aññehi pana muggādīhi katakummāso na pavāretīti adhippāyo. Udakasambhavoti iminā kakkaṭakasippikasambukādayopi saṅgahaṃ gacchanti. Sace yāgupānakāle ekasmiṃ bhājane ṭhapetvā macchamaṃsaṃ vā khādanti, te ce akhādanto aññaṃ pavāraṇappahonakaṃ paṭikkhipati, na pavāreti. Khāditepi sace mukhe avasiṭṭhaṃ natthi, tadā paṭikkhipantopi na pavāretiyeva. Sace patte avasiṭṭhaṃ atthi, mukhe natthi, tañce akhāditukāmo hoti, aññattha vā gantvā khāditukāmo, tasmiṃ khaṇe paṭikkhipantopi na pavāretiyeva.
๗๘. โภชนนฺติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๓๘-๒๓๙) ปญฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิญฺจิ โภชนํฯ กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา ภุญฺชโนฺตติ สมฺพโนฺธฯ นิเสธยนฺติ กาเยนาภิหฎํ องฺคุลิจลนาทินา วา ภมุกวิกาเรน วา กุทฺธภาเวน โอโลเกน วา ปฎิกฺขิปโนฺต กาเยน วา ‘‘อล’’นฺติ วา ‘‘น คณฺหามี’’ติ วา ‘‘มา อากิรา’’ติ วา ‘‘อปคจฺฉา’’ติ วา อาทินา นเยน ปฎิกฺขิปโนฺต วาจาย วา นิเสธยโนฺตติ อโตฺถฯ กปฺปนฺติ กปฺปิยโภชนเมว ปฎิกฺขิปโนฺต โส ปวาเรติ, อกปฺปิยมํสํ วา โภชนํ วา ปฎิกฺขิปโนฺต น ปวาเรติฯ กสฺมา? ตสฺส ปฎิกฺขิปิตพฺพฎฺฐาเน ฐิตตฺตาฯ สเจ กปฺปิยโภชนํ ภุญฺชมาโน อกปฺปิยํ ปฎิกฺขิปติ, น ปวาเรติฯ กสฺมา? ตสฺส ปฎิกฺขิปิตพฺพโตฯ อิทานิ มิสฺสกนยํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตนฺนาเมนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺรายํ ปิณฺฑโตฺถ – ตนฺนาเมน วา อิมนฺติ วา อภิหฎํ กปฺปิยํ นิเสธยํ ปวาเรยฺยาติฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? โย ปน มจฺฉมํสมิสฺสํ (กงฺขา. อฎฺฐ. ปฐมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา; ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๓๘-๒๓๙) ยาคุํ พฺยญฺชนํ วา อาหริตฺวา ‘‘มจฺฉํ คณฺหถ, มํสํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา โหติฯ สเจ ‘‘ยาคุํ คณฺหถ, รสพฺยญฺชนํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา น โหติฯ กสฺมา? ตสฺสาปิ อตฺถิตายฯ สเจ ‘‘อิมํ คณฺหถา’’ติ สวตฺถุกํ กตฺวา เทติ, ตํ ปฎิกฺขิปโต ปวารณา โหติฯ ภตฺตมิสฺสเกปิ เอเสว นโยฯ สเจ อญฺญสฺส อภิหฎํ ปฎิกฺขิปติ, ปวารณา นตฺถิเยวฯ
78.Bhojananti (pāci. aṭṭha. 238-239) pañcasu bhojanesu yaṃ kiñci bhojanaṃ. Kappiyaṃ vā akappiyaṃ vā bhuñjantoti sambandho. Nisedhayanti kāyenābhihaṭaṃ aṅgulicalanādinā vā bhamukavikārena vā kuddhabhāvena olokena vā paṭikkhipanto kāyena vā ‘‘ala’’nti vā ‘‘na gaṇhāmī’’ti vā ‘‘mā ākirā’’ti vā ‘‘apagacchā’’ti vā ādinā nayena paṭikkhipanto vācāya vā nisedhayantoti attho. Kappanti kappiyabhojanameva paṭikkhipanto so pavāreti, akappiyamaṃsaṃ vā bhojanaṃ vā paṭikkhipanto na pavāreti. Kasmā? Tassa paṭikkhipitabbaṭṭhāne ṭhitattā. Sace kappiyabhojanaṃ bhuñjamāno akappiyaṃ paṭikkhipati, na pavāreti. Kasmā? Tassa paṭikkhipitabbato. Idāni missakanayaṃ dassetuṃ ‘‘tannāmenā’’tiādi vuttaṃ. Tatrāyaṃ piṇḍattho – tannāmena vā imanti vā abhihaṭaṃ kappiyaṃ nisedhayaṃ pavāreyyāti. Kiṃ vuttaṃ hoti? Yo pana macchamaṃsamissaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. paṭhamapavāraṇāsikkhāpadavaṇṇanā; pāci. aṭṭha. 238-239) yāguṃ byañjanaṃ vā āharitvā ‘‘macchaṃ gaṇhatha, maṃsaṃ gaṇhathā’’ti vadati, taṃ paṭikkhipato pavāraṇā hoti. Sace ‘‘yāguṃ gaṇhatha, rasabyañjanaṃ gaṇhathā’’ti vadati, taṃ paṭikkhipato pavāraṇā na hoti. Kasmā? Tassāpi atthitāya. Sace ‘‘imaṃ gaṇhathā’’ti savatthukaṃ katvā deti, taṃ paṭikkhipato pavāraṇā hoti. Bhattamissakepi eseva nayo. Sace aññassa abhihaṭaṃ paṭikkhipati, pavāraṇā natthiyeva.
๗๙-๘๐. อิทานิ ปวารณํ อชเนเนฺต ทเสฺสตุํ ‘‘ลาชา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอตฺถ ลาชา ตํสตฺตุภตฺตานีติ (กงฺขา. อฎฺฐ. ปฐมปวารณาสิกฺขาปทวณฺณนา) ลาชา จ ลาเชหิ กตสตฺตุภตฺตานิ จาติ อโตฺถฯ มจฺฉมํสปูเวสุ ปน ปวารณา โหติ, ตสฺมา ‘‘สุทฺธขชฺชโก’’ติ วุตฺตํฯ ภฎฺฐปิฎฺฐนฺติ ปุเพฺพ อามกํ ปจฺฉา ภชฺชิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติฯ เวฬุอาทีนํ วุตฺตาวเสสานํ ภตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ รสยาคุ รโส ปกฺกยาคุฯ มํสาทีหิ อมิสฺสิตา สุทฺธยาคุฯ ปุถุกามยํ ปน ยํ กิญฺจิ ปวารณํ น ชเนติฯ
79-80. Idāni pavāraṇaṃ ajanente dassetuṃ ‘‘lājā’’tiādi vuttaṃ. Ettha lājā taṃsattubhattānīti (kaṅkhā. aṭṭha. paṭhamapavāraṇāsikkhāpadavaṇṇanā) lājā ca lājehi katasattubhattāni cāti attho. Macchamaṃsapūvesu pana pavāraṇā hoti, tasmā ‘‘suddhakhajjako’’ti vuttaṃ. Bhaṭṭhapiṭṭhanti pubbe āmakaṃ pacchā bhajjitabbanti vuttaṃ hoti. Veḷuādīnaṃ vuttāvasesānaṃ bhattanti sambandho. Rasayāgu raso pakkayāgu. Maṃsādīhi amissitā suddhayāgu. Puthukāmayaṃ pana yaṃ kiñci pavāraṇaṃ na janeti.
๘๑. วุฎฺฐายาติ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๒๓๘-๒๓๙) อาสนา อุฎฺฐาย อติริตฺตํ น กาตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ สเจ ปวาเรตฺวา อาสนา น วุฎฺฐาติ ภิกฺขุ, ตสฺสาปิ อติริตฺตํ กาตุํ ลภติฯ อภุเตฺตน จ โภชนนฺติ เยน ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ อนฺตมโส กุสเคฺคนาปิ น ภุตฺตํ, เตนาปิ อติริตฺตํ น กาตพฺพนฺติ อโตฺถฯ เยน ปน อรุณุคฺคเมปิ ภุตฺตํ โหติ, โส เจ อปวาริโต อาสนา วุฎฺฐิโตปิ มชฺฌนฺหิกสมเยปิ ปุน กิญฺจิ อภุตฺวาปิ กาตุํ ลภติฯ เยน ยํ วา ปุเร กตนฺติ เยน ยํ วา ปุเพฺพ กตํ, เตน ตมฺปิ ปจฺฉา น กาตพฺพํฯ อเญฺญน ปน ตํ กาตุํ วฎฺฎตีติ วทนฺติฯ
81.Vuṭṭhāyāti (pāci. aṭṭha. 238-239) āsanā uṭṭhāya atirittaṃ na kātabbanti sambandho. Sace pavāretvā āsanā na vuṭṭhāti bhikkhu, tassāpi atirittaṃ kātuṃ labhati. Abhuttena ca bhojananti yena pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ antamaso kusaggenāpi na bhuttaṃ, tenāpi atirittaṃ na kātabbanti attho. Yena pana aruṇuggamepi bhuttaṃ hoti, so ce apavārito āsanā vuṭṭhitopi majjhanhikasamayepi puna kiñci abhutvāpi kātuṃ labhati. Yena yaṃ vāpure katanti yena yaṃ vā pubbe kataṃ, tena tampi pacchā na kātabbaṃ. Aññena pana taṃ kātuṃ vaṭṭatīti vadanti.
๘๒. ยํ ผลํ วา กนฺทมูลํ วา ปญฺจหิ สมณกเปฺปหิ กตกปฺปิยํ อญฺญมฺปิ กปฺปิยโภชนํ วา กปฺปิยมํสํ วา, อิทํ กปฺปิยํ นาม, วุตฺตปฺปการวิปรีตํ อกปฺปิยํ นาม, ตสฺมิํ อติริตฺตกรณํ น รุหติ, ยญฺจ ปฎิคฺคเหตฺวา น คหิตํ, ตสฺมิมฺปิ น รุหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘กปฺปิยํ คหิตเญฺจวา’’ติฯ อุจฺจาริตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อุกฺขิตฺตํ วา อปนมิตํ วาติ อโตฺถฯ หตฺถปาสโต พหิ ฐิตํ กาตุํ น วฎฺฎติ, เตน วุตฺตํ ‘‘หตฺถปาสค’’นฺติฯ อติริตฺตํ กโรเนฺตวนฺติ อติริตฺตํ กโรโนฺต ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วจีเภทํ กตฺวา เอวํ ภาสตูติ อโตฺถฯ ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํ, อยํ กิร อาจิโณฺณฯ วินยธรา กิร ปน ‘‘สกิํ เอว วตฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺติฯ อลเมตํ สพฺพนฺติ อิทมฺปิ โว อธิกํ, อิโต อญฺญํ น ลจฺฉสีติ อโตฺถฯ
82. Yaṃ phalaṃ vā kandamūlaṃ vā pañcahi samaṇakappehi katakappiyaṃ aññampi kappiyabhojanaṃ vā kappiyamaṃsaṃ vā, idaṃ kappiyaṃ nāma, vuttappakāraviparītaṃ akappiyaṃ nāma, tasmiṃ atirittakaraṇaṃ na ruhati, yañca paṭiggahetvā na gahitaṃ, tasmimpi na ruhati, tena vuttaṃ ‘‘kappiyaṃ gahitañcevā’’ti. Uccāritanti kappiyaṃ kāretuṃ āgatena bhikkhunā īsakampi ukkhittaṃ vā apanamitaṃ vāti attho. Hatthapāsato bahi ṭhitaṃ kātuṃ na vaṭṭati, tena vuttaṃ ‘‘hatthapāsaga’’nti. Atirittaṃ karontevanti atirittaṃ karonto ‘‘alametaṃ sabba’’nti vacībhedaṃ katvā evaṃ bhāsatūti attho. ‘‘Alametaṃ sabba’’nti tikkhattuṃ vattabbaṃ, ayaṃ kira āciṇṇo. Vinayadharā kira pana ‘‘sakiṃ eva vattabba’’nti vadanti. Alametaṃ sabbanti idampi vo adhikaṃ, ito aññaṃ na lacchasīti attho.
๘๓. อนุปสมฺปนฺนหตฺถคนฺติ กปฺปิยํ กโรเนฺตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หเตฺถ ฐิตํเยว น กาตพฺพํ, ตํ ปน อเญฺญน ภิกฺขุนา ปฎิคฺคหาเปตฺวา ตสฺส หเตฺถ ฐิตํ อติริตฺตํ กตฺวา อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาตุํ วฎฺฎติฯ อตฺตนา อาคนฺตฺวา อญฺญสฺส หเตฺถ จ เปสยิตฺวาปิ กาเรตุํ ลพฺภเตติ อโตฺถฯ ตํ ปน อติริตฺตการกํ ฐเปตฺวา อโญฺญ สโพฺพ ปวาริโตปิ อปฺปวาริโตปิ ภุญฺชิตุํ ลภตีติ อโตฺถฯ สเจ ปวาริโต ปริภุญฺชติ, ยถา อกเตน มิสฺสํ น โหติ, ตถา มุขญฺจ หตฺถญฺจ สุทฺธํ กตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ คิลานสฺส ภุตฺตาวเสสมฺปิ ตสฺส ‘‘อชฺช วา เสฺว วา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฎมฺปิ อนติริตฺตกตํ ภุญฺชิตุํ วฎฺฎตีติฯ ปวารณาวินิจฺฉโยฯ
83.Anupasampannahatthaganti kappiyaṃ karontena pana anupasampannassa hatthe ṭhitaṃyeva na kātabbaṃ, taṃ pana aññena bhikkhunā paṭiggahāpetvā tassa hatthe ṭhitaṃ atirittaṃ katvā anupasampannassa dātuṃ vaṭṭati. Attanā āgantvā aññassa hatthe ca pesayitvāpi kāretuṃ labbhateti attho. Taṃ pana atirittakārakaṃ ṭhapetvā añño sabbo pavāritopi appavāritopi bhuñjituṃ labhatīti attho. Sace pavārito paribhuñjati, yathā akatena missaṃ na hoti, tathā mukhañca hatthañca suddhaṃ katvā bhuñjitabbaṃ. Gilānassa bhuttāvasesampi tassa ‘‘ajja vā sve vā khādissatī’’ti āhaṭampi anatirittakataṃ bhuñjituṃ vaṭṭatīti. Pavāraṇāvinicchayo.
ปวารณานิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pavāraṇāniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.