Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā

    ๗. ปวารณานิเทฺทสวณฺณนา

    7. Pavāraṇāniddesavaṇṇanā

    ๗๓. เยน อิริยาปเถน อุปลกฺขิโต ปญฺจนฺนํ โภชนานํ ยํ กิญฺจิ โภชนํ ภุญฺชมาโน อยํ ภิกฺขุ กปฺปิยานํ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ หตฺถปาโสปนีตานํ ปวาริโต, ตโต อิริยาปถโต อเญฺญน อิริยาปเถน อนติริตฺตกํ ยาวกาลิกํ ภุเญฺชยฺย เจ, อิมสฺส ปาจิตฺติ โหตีติ ปทตฺถโยชนาฯ ภุญฺชนตฺถาย ปฎิคฺคหเณ ปน ทุกฺกฎํฯ ตตฺถ อิริยาย กายิกกิริยาย ปโถ ปวตฺตนูปาโย อิริยาปโถ, ฐานคมนนิสชฺชนสยนานิฯ ปวาเรติ ปฎิกฺขิปตีติ ปวาริโต, อถ วา ปวารณํ ปฎิกฺขิปนํ ปวาริตํ, ตมสฺส อตฺถีติ ปวาริโต, กตปฺปวารโณ กตปฺปฎิเกฺขโปติ อโตฺถ, อถ วา ปริเวสเกน วารียตีติ ปวาริโต ปฎิเกฺขปิโตฯ อนติริตฺตกนฺติ ยํ ปวาเรตฺวา อาสนา วุฎฺฐหนฺตสฺส ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ อติริตฺตกรณาทีหิ สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ กปฺปิยํ กตํ, ตญฺจ ‘‘อชฺช วา ยทา วา อิจฺฉติ, ตทา ขาทิสฺสตี’’ติ อาหฎํ, คิลานาติริตฺตญฺจ อติริตฺตํ อธิกนฺติ วุจฺจติ, ตโต อญฺญํ อนติริตฺตกํ อนธิกนฺติ อโตฺถฯ กุสลํ จิตฺตํ ปาเตตีติ ปาจิตฺติ, ตสฺมา อิตฺถิยํ ติมฺหิ ต-การสฺส จ-กาเร, ทฺวิเตฺต จ ปาจิตฺติฯ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฎิคฺคณฺหโต อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส, อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    73. Yena iriyāpathena upalakkhito pañcannaṃ bhojanānaṃ yaṃ kiñci bhojanaṃ bhuñjamāno ayaṃ bhikkhu kappiyānaṃ pañcannaṃ bhojanānaṃ hatthapāsopanītānaṃ pavārito, tato iriyāpathato aññena iriyāpathena anatirittakaṃ yāvakālikaṃ bhuñjeyya ce, imassa pācitti hotīti padatthayojanā. Bhuñjanatthāya paṭiggahaṇe pana dukkaṭaṃ. Tattha iriyāya kāyikakiriyāya patho pavattanūpāyo iriyāpatho, ṭhānagamananisajjanasayanāni. Pavāreti paṭikkhipatīti pavārito, atha vā pavāraṇaṃ paṭikkhipanaṃ pavāritaṃ, tamassa atthīti pavārito, katappavāraṇo katappaṭikkhepoti attho, atha vā parivesakena vārīyatīti pavārito paṭikkhepito. Anatirittakanti yaṃ pavāretvā āsanā vuṭṭhahantassa ‘‘alametaṃ sabba’’nti evaṃ atirittakaraṇādīhi sattahi vinayakammākārehi kappiyaṃ kataṃ, tañca ‘‘ajja vā yadā vā icchati, tadā khādissatī’’ti āhaṭaṃ, gilānātirittañca atirittaṃ adhikanti vuccati, tato aññaṃ anatirittakaṃ anadhikanti attho. Kusalaṃ cittaṃ pātetīti pācitti, tasmā itthiyaṃ timhi ta-kārassa ca-kāre, dvitte ca pācitti. Yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya paṭiggaṇhato āpatti dukkaṭassa, ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa.

    ๗๔. อิทานิ ยาย ปวาริตา, สา ปญฺจงฺคสมฺปนฺนาเยว ปวารณา นาม โหตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘อสน’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อสนนฺติ ภุญฺชมานสฺส ภุญฺชนํฯ อิมินา ยํ วิปฺปกตํ โภชนํ, ตํ ทเสฺสติฯ โภชนเญฺจวาติ ปวารณปฺปโหนกํ โภชนเญฺจว โหตีติฯ อภิหาโรติ ทายกสฺส กาเยน ปวารณปฺปโหนกสฺส อภิหรณํ, น วาจายฯ สมีปตาติ อฑฺฒเตยฺยหตฺถปฺปมาณสงฺขาตา สมีปตา จฯ เอตฺถ ปน สเจ ภิกฺขุ นิสิโนฺน โหติ, อาสนสฺส ปจฺฉิมนฺตโต ปฎฺฐาย, สเจ ฐิโต, ปณฺหิอนฺตโต ปฎฺฐาย, สเจ นิปโนฺน, เยน ปเสฺสน นิปโนฺน, ตสฺส ปาริมนฺตโต ปฎฺฐาย ทายกสฺส ฐิตสฺส วา นิสินฺนสฺส วา นิปนฺนสฺส วา ฐเปตฺวา ปสาริตหตฺถํ ยํ อาสนฺนตรํ องฺคํ, ตสฺส โอริมเนฺตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อฑฺฒเตยฺยหตฺถปาโส เวทิตโพฺพฯ กายวาจาปฎิเกฺขโปติ ตสฺส อภิหฎโภชนสฺส องฺคุลิจลนาทิกายวิกาเรน วา ‘‘อล’’นฺติอาทินา วจีวิกาเรน วา ปฎิกฺขิปนํฯ อิติ อิเมหิ ปญฺจหเงฺคหิ ปวารณา ปการยุตฺตวารณา ปญฺจองฺคาติ สมฺพโนฺธฯ ปญฺจ องฺคานิ ยสฺสา สา ปญฺจองฺคา

    74. Idāni yāya pavāritā, sā pañcaṅgasampannāyeva pavāraṇā nāma hotīti dassetuṃ ‘‘asana’’ntiādimāha. Tattha asananti bhuñjamānassa bhuñjanaṃ. Iminā yaṃ vippakataṃ bhojanaṃ, taṃ dasseti. Bhojanañcevāti pavāraṇappahonakaṃ bhojanañceva hotīti. Abhihāroti dāyakassa kāyena pavāraṇappahonakassa abhiharaṇaṃ, na vācāya. Samīpatāti aḍḍhateyyahatthappamāṇasaṅkhātā samīpatā ca. Ettha pana sace bhikkhu nisinno hoti, āsanassa pacchimantato paṭṭhāya, sace ṭhito, paṇhiantato paṭṭhāya, sace nipanno, yena passena nipanno, tassa pārimantato paṭṭhāya dāyakassa ṭhitassa vā nisinnassa vā nipannassa vā ṭhapetvā pasāritahatthaṃ yaṃ āsannataraṃ aṅgaṃ, tassa orimantena paricchinditvā aḍḍhateyyahatthapāso veditabbo. Kāyavācāpaṭikkhepoti tassa abhihaṭabhojanassa aṅgulicalanādikāyavikārena vā ‘‘ala’’ntiādinā vacīvikārena vā paṭikkhipanaṃ. Iti imehi pañcahaṅgehi pavāraṇā pakārayuttavāraṇā pañcaaṅgāti sambandho. Pañca aṅgāni yassā sā pañcaaṅgā.

    ๗๕. อิทานิ เอเตสุ โอทนาทิปญฺจวิธํ โภชนํ ทเสฺสตฺวา ตานิ จ ปุน วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘โอทโน’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ สาลีติ รตฺตสาลิอาทิกา สพฺพาปิ สาลิชาติฯ วีหีติ สพฺพาปิ วีหินามิกา วีหิชาติฯ กงฺคูติ เสตรตฺตกาฬเภทา สพฺพาปิ กงฺคุชาติฯ กุทฺรูโส นาม กาฬโกทฺรโวฯ วรโก นาม เสตวโณฺณ โกทฺรโวฯ ยวโคธุเมสุ ปน เภโท นตฺถิฯ เอวํ ยถาวุตฺตานํ สานุโลมานํ สตฺตนฺนํ ธญฺญานํ โภชฺชยาคุ จาติ สมฺพโนฺธฯ โภชฺชยาคุ จาติ อุณฺหํ วา สีตลํ วา ภุญฺชนฺตานํ โภชนกาเล คหิตฎฺฐาเน โอธิ ปญฺญายติ, สา โภชฺชยาคุฯ -สเทฺทน โอทโน จาติ สมฺพโนฺธ , โอทโน นามาติ อโตฺถฯ สเจ ปน ภเตฺต อุทกกญฺชิกขีราทีนิ อากิริตฺวา ‘‘ยาคุํ คณฺหถา’’ติ เทนฺติ, กิญฺจาปิ ตนุกา โหติ, ปวารณํ ชเนติฯ สเจ ปน อุทกาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา ปจิตฺวา เทนฺติ, ยาคุสงฺคหเมว คจฺฉติฯ สเจ ปน ตนุกายปิ ยาคุยา สาสปมตฺตมฺปิ มจฺฉมํสขณฺฑํ วา นฺหารุ วา ปกฺขิตฺตํ โหติ, ปวารณํ ชเนติฯ

    75. Idāni etesu odanādipañcavidhaṃ bhojanaṃ dassetvā tāni ca puna vibhajitvā dassetuṃ ‘‘odano’’tiādi āraddhaṃ. Tattha sālīti rattasāliādikā sabbāpi sālijāti. Vīhīti sabbāpi vīhināmikā vīhijāti. Kaṅgūti setarattakāḷabhedā sabbāpi kaṅgujāti. Kudrūso nāma kāḷakodravo. Varako nāma setavaṇṇo kodravo. Yavagodhumesu pana bhedo natthi. Evaṃ yathāvuttānaṃ sānulomānaṃ sattannaṃ dhaññānaṃ bhojjayāgu cāti sambandho. Bhojjayāgu cāti uṇhaṃ vā sītalaṃ vā bhuñjantānaṃ bhojanakāle gahitaṭṭhāne odhi paññāyati, sā bhojjayāgu. Ca-saddena odano cāti sambandho , odano nāmāti attho. Sace pana bhatte udakakañjikakhīrādīni ākiritvā ‘‘yāguṃ gaṇhathā’’ti denti, kiñcāpi tanukā hoti, pavāraṇaṃ janeti. Sace pana udakādīsu pakkhipitvā pacitvā denti, yāgusaṅgahameva gacchati. Sace pana tanukāyapi yāguyā sāsapamattampi macchamaṃsakhaṇḍaṃ vā nhāru vā pakkhittaṃ hoti, pavāraṇaṃ janeti.

    ๗๖. สามากาทิติณํ กุทฺรูสเก สงฺคหํ คตํ, วรกโจรโก วรเก สงฺคหํ คโต, นีวาโร เจว สาลิยํ สงฺคหํ คโตติ โยชนาฯ สามากาทิติณนฺติ สามาโก อาทิ ยสฺส, ตเมว ติณํ ติณธญฺญนฺติ สมาโสฯ

    76. Sāmākāditiṇaṃ kudrūsake saṅgahaṃ gataṃ, varakacorako varake saṅgahaṃ gato, nīvāro ceva sāliyaṃ saṅgahaṃ gatoti yojanā. Sāmākāditiṇanti sāmāko ādi yassa, tameva tiṇaṃ tiṇadhaññanti samāso.

    ๗๗. ภฎฺฐธญฺญมโยติ ขรปากภชฺชิเตหิ สตฺตวิเธหิ ธเญฺญหิ โกเฎฺฎตฺวา กโต, อนฺตมโส จุณฺณมฺปิ กุณฺฑกมฺปิ สตฺตุ นามาติ อโตฺถฯ สมปากภชฺชิตานํ ปน อาตปสุกฺขานํ วา ตณฺฑุลานํ สตฺตุ วา กุณฺฑกานิ เอว วา น ปวาเรนฺติฯ ยเวน สมฺภโว อุปฺปตฺติ อสฺสาติ ยวสมฺภโว, กุมฺมาโส กุมฺมาโส นามฯ มุคฺคาทีหิ กโต ปน ปวารณํ น ชเนติฯ กปฺปิโย จาติ กปฺปิโยเยว มํโส ‘‘มํโส’’ติ วุโตฺตติ โยชนาฯ จาติ อวธารเณฯ อกปฺปิโย ปน ปฎิกฺขิปิตโพฺพวฯ ปฎิกฺขิโตฺตปิ น ปวาเรติฯ อุทเก สมฺภโว ยสฺส โส มโจฺฉ นามฯ ทฺวีสุ ปเนเตสุ สเจ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ยาคุสิตฺถมเตฺตสุปิ มจฺฉขเณฺฑสุ วา มํสขเณฺฑสุ วา เอกํ ขาทิตํ เอกํ หเตฺถ วา ปเตฺต วา โหติ, โส เจ อญฺญํ ปฎิกฺขิปติ, ปวาเรติฯ เทฺวปิ ขาทิตานิ โหนฺติ, มุเข สาสปมตฺตมฺปิ อวสิฎฺฐํ นตฺถิ, สเจปิ อญฺญํ ปฎิกฺขิปติ, น ปวาเรติฯ

    77.Bhaṭṭhadhaññamayoti kharapākabhajjitehi sattavidhehi dhaññehi koṭṭetvā kato, antamaso cuṇṇampi kuṇḍakampi sattu nāmāti attho. Samapākabhajjitānaṃ pana ātapasukkhānaṃ vā taṇḍulānaṃ sattu vā kuṇḍakāni eva vā na pavārenti. Yavena sambhavo uppatti assāti yavasambhavo, kummāso kummāso nāma. Muggādīhi kato pana pavāraṇaṃ na janeti. Kappiyo cāti kappiyoyeva maṃso ‘‘maṃso’’ti vuttoti yojanā. ti avadhāraṇe. Akappiyo pana paṭikkhipitabbova. Paṭikkhittopi na pavāreti. Udake sambhavo yassa so maccho nāma. Dvīsu panetesu sace yāguṃ pivantassa yāgusitthamattesupi macchakhaṇḍesu vā maṃsakhaṇḍesu vā ekaṃ khāditaṃ ekaṃ hatthe vā patte vā hoti, so ce aññaṃ paṭikkhipati, pavāreti. Dvepi khāditāni honti, mukhe sāsapamattampi avasiṭṭhaṃ natthi, sacepi aññaṃ paṭikkhipati, na pavāreti.

    ๗๘. อิทานิ ‘‘กีทิสํ ภุญฺชโนฺต กินฺติ วตฺวา อุปนีตํ กิํ นาม นิเสเธโนฺต ปวาเรติ นามา’’ติ โจทนํ มนสิ นิธายาห ‘‘ภุญฺชโนฺต’’ติอาทิ ฯ ตตฺถ กปฺปํ วา อกปฺปํ วา ปญฺจสุ โภชเนสุ ยํ กิญฺจิ โภชนํ ภุญฺชโนฺต ภิกฺขุ ตนฺนาเมน เตสํ ปวารณาชนกโภชนานํ นาเมน วา ‘‘อิม’’นฺติ สามเญฺญน วา วตฺวา อภิหฎํ หตฺถปาโสปนีตํ กปฺปํ กปฺปิยํ ยถาวุตฺตโภชนํ นิเสธยํ นิเสธยโนฺต ปวาเรยฺยาติ ปทตฺถสมฺพโนฺธฯ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – เยน เจ อกปฺปิยมํสญฺจ กุลทูสนเวชฺชกมฺมอุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนสาทิตรูปิยาทีหิ นิพฺพตฺตํ อกปฺปิยโภชนญฺจ ตถา อญฺญญฺจ กปฺปิยํ วา อกปฺปิยํ วา เอกสิตฺถมตฺตมฺปิ อโชฺฌหฎํ โหติ, โส สเจ ปตฺตมุขหเตฺถสุ ยตฺถ กตฺถจิ โภชเน สติ สาเปโกฺขว อญฺญํ หตฺถปาเส ฐิเตน ‘‘โอทนํ คณฺหถา’’ติอาทินา ปวารณปฺปโหนกเสฺสว นาเมน วา ‘‘อิม’’นฺติ สามญฺญวเสเนว วา กาเยเนว อภิหฎํ วุตฺตลกฺขณํ กปฺปิยเมว โภชนํ เกวลํ วา มิสฺสํ วา กาเยน วา วาจาย วา ปฎิกฺขิปติ ปวาเรตีติฯ ‘‘อากิร อากิร, โกเฎฺฎตฺวา โกเฎฺฎตฺวา ปูเรหี’’ติ ปน วตฺตุํ วฎฺฎติฯ

    78. Idāni ‘‘kīdisaṃ bhuñjanto kinti vatvā upanītaṃ kiṃ nāma nisedhento pavāreti nāmā’’ti codanaṃ manasi nidhāyāha ‘‘bhuñjanto’’tiādi . Tattha kappaṃ vā akappaṃ vā pañcasu bhojanesu yaṃ kiñci bhojanaṃ bhuñjanto bhikkhu tannāmena tesaṃ pavāraṇājanakabhojanānaṃ nāmena vā ‘‘ima’’nti sāmaññena vatvā abhihaṭaṃ hatthapāsopanītaṃ kappaṃ kappiyaṃ yathāvuttabhojanaṃ nisedhayaṃ nisedhayanto pavāreyyāti padatthasambandho. Ayamettha adhippāyo – yena ce akappiyamaṃsañca kuladūsanavejjakammauttarimanussadhammārocanasāditarūpiyādīhi nibbattaṃ akappiyabhojanañca tathā aññañca kappiyaṃ vā akappiyaṃ vā ekasitthamattampi ajjhohaṭaṃ hoti, so sace pattamukhahatthesu yattha katthaci bhojane sati sāpekkhova aññaṃ hatthapāse ṭhitena ‘‘odanaṃ gaṇhathā’’tiādinā pavāraṇappahonakasseva nāmena vā ‘‘ima’’nti sāmaññavaseneva vā kāyeneva abhihaṭaṃ vuttalakkhaṇaṃ kappiyameva bhojanaṃ kevalaṃ vā missaṃ vā kāyena vā vācāya vā paṭikkhipati pavāretīti. ‘‘Ākira ākira, koṭṭetvā koṭṭetvā pūrehī’’ti pana vattuṃ vaṭṭati.

    ๗๙-๘๐. อิทานิ เย ปวารณํ น ชเนนฺติ, เต ทเสฺสตุํ ‘‘ลาชา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ลาชา…เป.… ผลาทีนิ ปวารณํ น ชเนนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ลาชาติ สาลิอาทีหิ กตา ลาชาฯ ตํสตฺตุภตฺตานีติ เตหิ ลาเชหิ กตา สตฺตุ เจว ภตฺตานิ จฯ โครโสติ คุนฺนํ รโส ขีราทิฯ สุทฺธขชฺชโกติ มจฺฉมํเสหิ อสมฺมิสฺสตาย สุทฺธขชฺชโกฯ สตฺตุโย ปิเณฺฑตฺวา กโต อปโกฺก สตฺตุคุโฬ ปน สตฺตุโมทกสงฺขาโต ปวาเรติฯ ตณฺฑุลาติ สมปากภชฺชิตานํ สาลิอาทีนํ ตณฺฑุลา, ภชฺชิตตณฺฑุลา เอว วาฯ ภฎฺฐปิฎฺฐนฺติ สุทฺธํ ยํ กิญฺจิ ภชฺชิตํ ปิฎฺฐํฯ ปุถุกาติ สาลิอาทีนํ ปุถุกาฯ ปุถุกา หิ ตนฺติอาคมยุตฺติยา วิสุมฺปิ คยฺหติ, เอกโตปิ, ตสฺมา วุตฺตาวเสสานํ ปุถุกาเวฬุอาทีนํ ภตฺตนฺติ จ สมฺพโนฺธฯ เวฬูติ เตสํ ตณฺฑุลา วุจฺจนฺติฯ ปุถุกา จ เวฬุ จ, เต อาทโย เยสนฺติ สมาโสฯ -สโทฺท ปเนตฺถ สพฺพตฺถาปิ โยเชตโพฺพฯ อาทิ-สเทฺทน กนฺทมูลผลานิปิ คยฺหนฺติฯ วุตฺตาวเสสานนฺติ วุเตฺตหิ สตฺตวิเธหิ ธเญฺญหิ อวเสสานํฯ รสยาคูติ รเสหิ ปกฺกมํสาทีหิ สมฺมิสฺสา ยาคุฯ รโสปิ ตาทิโสวฯ สุทฺธยาคูติ มํสาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธยาคุฯ ผลาทีนีติ อาทิ-สเทฺทน กนฺทาทีนมฺปิ คหณํฯ อปิ จาติ นิปาโต, นิปาตสมุทาโย วา สมุจฺจเย, โส ปเจฺจกํ โยเชตโพฺพฯ

    79-80. Idāni ye pavāraṇaṃ na janenti, te dassetuṃ ‘‘lājā’’tiādimāha. Tattha lājā…pe… phalādīni pavāraṇaṃ na janentīti sambandho. Lājāti sāliādīhi katā lājā. Taṃsattubhattānīti tehi lājehi katā sattu ceva bhattāni ca. Gorasoti gunnaṃ raso khīrādi. Suddhakhajjakoti macchamaṃsehi asammissatāya suddhakhajjako. Sattuyo piṇḍetvā kato apakko sattuguḷo pana sattumodakasaṅkhāto pavāreti. Taṇḍulāti samapākabhajjitānaṃ sāliādīnaṃ taṇḍulā, bhajjitataṇḍulā eva vā. Bhaṭṭhapiṭṭhanti suddhaṃ yaṃ kiñci bhajjitaṃ piṭṭhaṃ. Puthukāti sāliādīnaṃ puthukā. Puthukā hi tantiāgamayuttiyā visumpi gayhati, ekatopi, tasmā vuttāvasesānaṃ puthukāveḷuādīnaṃ bhattanti ca sambandho. Veḷūti tesaṃ taṇḍulā vuccanti. Puthukā ca veḷu ca, te ādayo yesanti samāso. Ca-saddo panettha sabbatthāpi yojetabbo. Ādi-saddena kandamūlaphalānipi gayhanti. Vuttāvasesānanti vuttehi sattavidhehi dhaññehi avasesānaṃ. Rasayāgūti rasehi pakkamaṃsādīhi sammissā yāgu. Rasopi tādisova. Suddhayāgūti maṃsādīhi amissā suddhayāgu. Phalādīnīti ādi-saddena kandādīnampi gahaṇaṃ. Api cāti nipāto, nipātasamudāyo vā samuccaye, so paccekaṃ yojetabbo.

    ๘๑. อิทานิ ยสฺมา สตฺตหิ วินยกมฺมากาเรหิ ยํ อติริตฺตํ อกตํ, ตตฺถ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, พฺยติเรกโต อติริตฺตกเต นตฺถิ, ตสฺมา อติริตฺตํ กโรเนฺตน เอวํ กาตพฺพนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ปวาริเตนา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปวาริเตน วุฎฺฐาย อติริตฺตํ น กาตพฺพํ, โภชนํ อภุเตฺตน จ อติริตฺตํ น กาตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ โภชนนฺติ ปวารณปฺปโหนกโภชนํฯ อภุเตฺตนาติ เอกสิตฺถมตฺตมฺปิ อภุตฺตาวินาฯ เยน ยํวา ปุเร กตนฺติ เอตฺถ จ เอว-สโทฺท ทีฆํ กตฺวา นิทฺทิโฎฺฐ, โส จ อชฺฌาหเฎน ตํ-สเทฺทน สมฺพนฺธียติ, ตสฺมา เยน ภิกฺขุนา ยํ โภชนํ ปุเร ปุเพฺพ อติริตฺตํ กตํ, เตเนว ตเมว อติริตฺตํ น กาตพฺพนฺติ โยเชตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ตสฺมา กปฺปิยํ กาเรตฺวา ภุญฺชนฺตสฺส อญฺญํ อามิสํ อากิรนฺติ, ตํ โส ปุน กาตุํ น ลภติ, ตสฺมิํ โภชเน กริยมาเน ปฐมกเตน สทฺธิํ กตํ โหตีติฯ อญฺญสฺมิํ ปน เตน วา อเญฺญน วา กาตุํ วฎฺฎติฯ

    81. Idāni yasmā sattahi vinayakammākārehi yaṃ atirittaṃ akataṃ, tattha pācittiyaṃ vuttaṃ, byatirekato atirittakate natthi, tasmā atirittaṃ karontena evaṃ kātabbanti dassento ‘‘pavāritenā’’tiādimāha. Tattha pavāritena vuṭṭhāya atirittaṃ na kātabbaṃ, bhojanaṃ abhuttena ca atirittaṃ na kātabbanti sambandho. Bhojananti pavāraṇappahonakabhojanaṃ. Abhuttenāti ekasitthamattampi abhuttāvinā. Yena yaṃvā pure katanti ettha ca eva-saddo dīghaṃ katvā niddiṭṭho, so ca ajjhāhaṭena taṃ-saddena sambandhīyati, tasmā yena bhikkhunā yaṃ bhojanaṃ pure pubbe atirittaṃ kataṃ, teneva tameva atirittaṃ na kātabbanti yojetvā attho veditabbo. Tasmā kappiyaṃ kāretvā bhuñjantassa aññaṃ āmisaṃ ākiranti, taṃ so puna kātuṃ na labhati, tasmiṃ bhojane kariyamāne paṭhamakatena saddhiṃ kataṃ hotīti. Aññasmiṃ pana tena vā aññena vā kātuṃ vaṭṭati.

    ๘๒. ‘‘กปฺปิย’’นฺติอาทีนิ ‘‘กโรโนฺต’’ติ เอตสฺส กมฺมปทานิฯ กปฺปิยเญฺจว คหิตเญฺจว อุจฺจาริตเญฺจว หตฺถปาสคเญฺจว ยาวกาลิกํ อติริตฺตํ กโรโนฺต ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ เอวํ ภาสตูติ โยชนาฯ ตตฺถยํ ผลํ วา กนฺทมูลาทิ วา ปญฺจหิ สมณกเปฺปหิ กปฺปิยํ กตํ, ยญฺจ กปฺปิยมํสํ วา กปฺปิยโภชนํ วา, เอตํ กปฺปิยํ นามฯ คหิตนฺติ ภิกฺขุนา ปฎิคฺคหิตํฯ อุจฺจาริตนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน ภิกฺขุนา อีสกมฺปิ อุกฺขิตฺตํ วา อปนามิตํ วา, ตํ ปน อติริตฺตการเกน ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วุเตฺตน กาตพฺพํฯ หตฺถปาสคนฺติ กปฺปิยํ กาเรตุํ อาคเตน หตฺถปาสํ คตํฯ อติริตฺตํ กโรโนฺตติ อีทิสํ จตุพฺพิธาการสมฺปนฺนํ โภชนํ อติริตฺตํ กโรโนฺต ปวาเรตฺวา อาสนา อวุฎฺฐิโต วา อปฺปวาเรตฺวาปิ สพฺพถา ภุโตฺต วาติ เอวํ ทุวิธวินยกมฺมาการสมฺปโนฺน ภิกฺขุฯ อลเมตํ สพฺพนฺติ เอวํ ภาสตูติ อลเมตํ สพฺพํ อิติ เอวํ ภาสตุฯ เอวํ สตฺตวิธํ วินยกมฺมาการํ สมฺปาเทโนฺต วจีเภทํ กตฺวา สกิมฺปิ เอวํ วเทยฺยาติ อโตฺถฯ

    82.‘‘Kappiya’’ntiādīni ‘‘karonto’’ti etassa kammapadāni. Kappiyañceva gahitañceva uccāritañceva hatthapāsagañceva yāvakālikaṃ atirittaṃ karonto ‘‘alametaṃ sabba’’nti evaṃ bhāsatūti yojanā. Tatthayaṃ phalaṃ vā kandamūlādi vā pañcahi samaṇakappehi kappiyaṃ kataṃ, yañca kappiyamaṃsaṃ vā kappiyabhojanaṃ vā, etaṃ kappiyaṃ nāma. Gahitanti bhikkhunā paṭiggahitaṃ. Uccāritanti kappiyaṃ kāretuṃ āgatena bhikkhunā īsakampi ukkhittaṃ vā apanāmitaṃ vā, taṃ pana atirittakārakena ‘‘alametaṃ sabba’’nti vuttena kātabbaṃ. Hatthapāsaganti kappiyaṃ kāretuṃ āgatena hatthapāsaṃ gataṃ. Atirittaṃ karontoti īdisaṃ catubbidhākārasampannaṃ bhojanaṃ atirittaṃ karonto pavāretvā āsanā avuṭṭhito vā appavāretvāpi sabbathā bhutto vāti evaṃ duvidhavinayakammākārasampanno bhikkhu. Alametaṃ sabbanti evaṃ bhāsatūti alametaṃ sabbaṃ iti evaṃ bhāsatu. Evaṃ sattavidhaṃ vinayakammākāraṃ sampādento vacībhedaṃ katvā sakimpi evaṃ vadeyyāti attho.

    ๘๓. กปฺปิยํ กโรเนฺตน ปน อนุปสมฺปนฺนสฺส หเตฺถ ฐิตํ น กาตพฺพํฯ เตนาห ‘‘น กเร…เป.… หตฺถค’’นฺติฯ อุปสมฺปนฺนโต อโญฺญ อนุปสมฺปโนฺน, ตสฺส หเตฺถ คตํ อนุปสมฺปนฺนหตฺถคํฯ เปสยิตฺวาปีติ สเจ ตตฺถ อโญฺญ พฺยโตฺต ภิกฺขุ นตฺถิ, ยตฺถ อตฺถิ, ตตฺถ เปสยิตฺวาปิฯ ตํ อติริตฺตกตํ อการโก อติริตฺตการกโต อโญฺญ สโพฺพ ปวาริโตปิ อปฺปวาริโตปิ ภุญฺชิตุํ ลพฺภเตติ สมฺพนฺธนียํฯ ปวาริเตน ปน มุขญฺจ หตฺถญฺจ โสเธตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ

    83. Kappiyaṃ karontena pana anupasampannassa hatthe ṭhitaṃ na kātabbaṃ. Tenāha ‘‘na kare…pe… hatthaga’’nti. Upasampannato añño anupasampanno, tassa hatthe gataṃ anupasampannahatthagaṃ. Pesayitvāpīti sace tattha añño byatto bhikkhu natthi, yattha atthi, tattha pesayitvāpi. Taṃ atirittakataṃ akārako atirittakārakato añño sabbo pavāritopi appavāritopi bhuñjituṃ labbhateti sambandhanīyaṃ. Pavāritena pana mukhañca hatthañca sodhetvā bhuñjitabbaṃ.

    ปวารณานิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pavāraṇāniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact