Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๔๕. ปวารณานิเทฺทโส
45. Pavāraṇāniddeso
ปวารณาติ –
Pavāraṇāti –
๔๓๓.
433.
ทฺวินฺนํ ติณฺณํ จตุนฺนญฺจ, อญฺญมญฺญปฺปวารณา;
Dvinnaṃ tiṇṇaṃ catunnañca, aññamaññappavāraṇā;
เอกสฺส จ อธิฎฺฐานํ, เสสา สงฺฆปฺปวารณาฯ
Ekassa ca adhiṭṭhānaṃ, sesā saṅghappavāraṇā.
๔๓๔.
434.
ปุพฺพกิเจฺจ จ กรเณ, ปตฺตกเลฺล สมานิเต;
Pubbakicce ca karaṇe, pattakalle samānite;
ฐเปตฺวา ญตฺติํ สเงฺฆน, กตฺตเพฺพวํ ปวารณาฯ
Ṭhapetvā ñattiṃ saṅghena, kattabbevaṃ pavāraṇā.
‘‘สุณาตุ เม ภเนฺต สโงฺฆ, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ ปวาเรยฺยา’’ติฯ
‘‘Suṇātu me bhante saṅgho, ajja pavāraṇā pannarasī, yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho pavāreyyā’’ti.
๔๓๕.
435.
เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, นิสีทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ;
Ekaṃsaṃ cīvaraṃ katvā, nisīditvā ukkuṭikaṃ;
เถเรน อญฺชลิํ สโงฺฆ, ปคฺคยฺห สมุทีริโยฯ
Therena añjaliṃ saṅgho, paggayha samudīriyo.
๔๓๖. ‘‘สงฺฆํ, อาวุโส, ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ, อาวุโส, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
436. ‘‘Saṅghaṃ, āvuso, pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi, āvuso, saṅghaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmī’’ti.
๔๓๗.
437.
ปวาเรเนฺตสุ เถเรสุ, นิสชฺชุกฺกุฎิกํ นโว;
Pavārentesu theresu, nisajjukkuṭikaṃ navo;
ปวาเรติ สยํ ยาว, อุกฺกุฎิโกว อจฺฉตุฯ
Pavāreti sayaṃ yāva, ukkuṭikova acchatu.
๔๓๘. ปุพฺพารมฺภํ สมาเปตฺวา, นโว สงฺฆมุทีรเยฯ
438. Pubbārambhaṃ samāpetvā, navo saṅghamudīraye.
๔๓๙. ‘‘สงฺฆํ, ภเนฺต, ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ, ภเนฺต, สงฺฆํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมโนฺต อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
439. ‘‘Saṅghaṃ, bhante, pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi, bhante, saṅghaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmanto anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmī’’ti.
๔๔๐.
440.
ทาเนน ธมฺมสากจฺฉา, กลเหหิ จ รตฺติยา;
Dānena dhammasākacchā, kalahehi ca rattiyā;
เตวาจิกาย โอกาเส-สติ เขปิตภาวโต;
Tevācikāya okāse-sati khepitabhāvato;
อนฺตราเย ทสวิเธ, ญตฺติํ วตฺวานุรูปโตฯ
Antarāye dasavidhe, ñattiṃ vatvānurūpato.
๔๔๑. ‘‘สุณาตุ เม ภเนฺต สโงฺฆ, มนุเสฺสหิ ทานํ เทเนฺตหิ, ทฺวีหิ ภิกฺขูหิ ธมฺมํ สากจฺฉเนฺตหิ, กลหํ กโรเนฺตหิ เยภุเยฺยน รตฺติ เขปิตาฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติฯ อยํ ราชนฺตราโย, อยํ โจรนฺตราโย, อยํ อคฺยนฺตราโย, อยํ อุทกนฺตราโย, อยํ มนุสฺสนฺตราโย, อยํ อมนุสฺสนฺตราโย, อยํ วาฬนฺตราโย, อยํ สรีสปนฺตราโย, อยํ ชีวิตนฺตราโย, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโยฯ สเจ สโงฺฆ เตวาจิกํ ปวาเรสฺสติ, อปฺปวาริโตว สโงฺฆ ภวิสฺสติ, อถายํ พฺรหฺมจริยนฺตราโย ภวิสฺสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ เทฺววาจิกํ, เอกวาจิกํ, สมานวสฺสิกํ ปวาเรยฺยา’’ติฯ
441. ‘‘Suṇātu me bhante saṅgho, manussehi dānaṃ dentehi, dvīhi bhikkhūhi dhammaṃ sākacchantehi, kalahaṃ karontehi yebhuyyena ratti khepitā. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ ratti vibhāyissati. Ayaṃ rājantarāyo, ayaṃ corantarāyo, ayaṃ agyantarāyo, ayaṃ udakantarāyo, ayaṃ manussantarāyo, ayaṃ amanussantarāyo, ayaṃ vāḷantarāyo, ayaṃ sarīsapantarāyo, ayaṃ jīvitantarāyo, ayaṃ brahmacariyantarāyo. Sace saṅgho tevācikaṃ pavāressati, appavāritova saṅgho bhavissati, athāyaṃ brahmacariyantarāyo bhavissati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho dvevācikaṃ, ekavācikaṃ, samānavassikaṃ pavāreyyā’’ti.
๔๔๒.
442.
ปวาเรยฺยานุรูเปน , ยถาฐปิตญตฺติยา;
Pavāreyyānurūpena , yathāṭhapitañattiyā;
อาคเจฺฉยฺยุํ ยทิ สมา, อาทิกา เจตฺถ อาหเรฯ
Āgaccheyyuṃ yadi samā, ādikā cettha āhare.
๔๔๓. เอวํ ติจตุวโคฺค จ, ญตฺติํ วตฺวา ปวารเยฯ ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺช ปวารณา ปนฺนรสี, ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อญฺญมญฺญํ ปวาเรยฺยามา’’ติฯ
443. Evaṃ ticatuvaggo ca, ñattiṃ vatvā pavāraye. ‘‘Suṇantu me āyasmantā, ajja pavāraṇā pannarasī, yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, mayaṃ aññamaññaṃ pavāreyyāmā’’ti.
๔๔๔.
444.
เอกํสํ จีวรํ กตฺวา, นิสีทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ;
Ekaṃsaṃ cīvaraṃ katvā, nisīditvā ukkuṭikaṃ;
เถเรน อญฺชลิํ เตวํ, ปคฺคยฺห สมุทีริยาฯ
Therena añjaliṃ tevaṃ, paggayha samudīriyā.
๔๔๕. ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
445. ‘‘Ahaṃ, āvuso, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, āvuso, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmī’’ti.
นเวนาปิ ‘‘อหํ, ภเนฺต, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, ภเนฺต, อายสฺมเนฺต ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺตา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
Navenāpi ‘‘ahaṃ, bhante, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, bhante, āyasmante pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadantu maṃ āyasmantā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmī’’ti.
๔๔๖. ทฺวีสุ เถเรน กตฺตพฺพํ, นโว กเตฺววมีริโยฯ
446. Dvīsu therena kattabbaṃ, navo katvevamīriyo.
๔๔๗. ‘‘อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
447. ‘‘Ahaṃ, āvuso, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, āvuso, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmī’’ti.
นเวนาปิ ‘‘อหํ, ภเนฺต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามิฯ ทุติยมฺปิ…เป.… ตติยมฺปิ อหํ, ภเนฺต, อายสฺมนฺตํ ปวาเรมิ ทิเฎฺฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ มํ อายสฺมา อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสโนฺต ปฎิกริสฺสามี’’ติฯ
Navenāpi ‘‘ahaṃ, bhante, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmi. Dutiyampi…pe… tatiyampi ahaṃ, bhante, āyasmantaṃ pavāremi diṭṭhena vā sutena vā parisaṅkāya vā, vadatu maṃ āyasmā anukampaṃ upādāya, passanto paṭikarissāmī’’ti.
๔๔๘. ปุพฺพกิจฺจํ สมาเปตฺวา, อธิเฎฺฐเยฺยวเมกโกฯ ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสีติ วา ปนฺนรสีติ วา อธิฎฺฐามี’’ติ วตฺตพฺพํฯ
448. Pubbakiccaṃ samāpetvā, adhiṭṭheyyevamekako. ‘‘Ajja me pavāraṇā cātuddasīti vā pannarasīti vā adhiṭṭhāmī’’ti vattabbaṃ.
๔๔๙.
449.
ยสฺมิํ วสนฺติ วา ปญฺจ, จตฺตาโร วา ตโย ทุเว;
Yasmiṃ vasanti vā pañca, cattāro vā tayo duve;
ปวารณํ หริตฺวาน, เอเกกสฺสิตรีตเรฯ
Pavāraṇaṃ haritvāna, ekekassitarītare.
๔๕๐.
450.
ตํ ตํ ปวารณํ กยิรุํ,
Taṃ taṃ pavāraṇaṃ kayiruṃ,
สิยา อาปตฺติ ทุกฺกฎํ;
Siyā āpatti dukkaṭaṃ;
เสสา อุโปสเถ วุตฺตา,
Sesā uposathe vuttā,
คาถาโย เจตฺถ อาหเรฯ
Gāthāyo cettha āhare.
๔๕๑.
451.
ปวาริเตว สงฺฆมฺหิ, ปาริสุทฺธิอุโปสถํ;
Pavāriteva saṅghamhi, pārisuddhiuposathaṃ;
กเรยฺย ฉินฺนวโสฺส วา, อวุโตฺถ วานุปคโตฯ
Kareyya chinnavasso vā, avuttho vānupagato.
๔๕๒.
452.
จาตุมาสินิยา จาปิ, กเต สเงฺฆนุโปสเถ;
Cātumāsiniyā cāpi, kate saṅghenuposathe;
วุตฺถวสฺสา ปวาเรยฺยุํ, สเจ อปฺปตรา สิยุนฺติฯ
Vutthavassā pavāreyyuṃ, sace appatarā siyunti.