Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๗. ปวารณาสุตฺตํ

    7. Pavāraṇāsuttaṃ

    ๒๑๕. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ สเพฺพเหว อรหเนฺตหิฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปวารณาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อโพฺภกาเส นิสิโนฺน โหติฯ อถ โข ภควา ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, ปวาเรมิ โวฯ น จ เม กิญฺจิ ครหถ กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติฯ

    215. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati pubbārāme migāramātupāsāde mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi sabbeheva arahantehi. Tena kho pana samayena bhagavā tadahuposathe pannarase pavāraṇāya bhikkhusaṅghaparivuto abbhokāse nisinno hoti. Atha kho bhagavā tuṇhībhūtaṃ bhikkhusaṅghaṃ anuviloketvā bhikkhū āmantesi – ‘‘handa dāni, bhikkhave, pavāremi vo. Na ca me kiñci garahatha kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā’’ti.

    เอวํ วุเตฺต, อายสฺมา สาริปุโตฺต อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘น โข มยํ, ภเนฺต, ภควโต กิญฺจิ ครหาม กายิกํ วา วาจสิกํ วาฯ ภควา หิ , ภเนฺต, อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส มคฺคสฺส สญฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคญฺญู มคฺควิทู มคฺคโกวิโทฯ มคฺคานุคา จ, ภเนฺต, เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา; อหญฺจ โข, ภเนฺต, ภควนฺตํ ปวาเรมิฯ น จ เม ภควา กิญฺจิ ครหติ กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติฯ

    Evaṃ vutte, āyasmā sāriputto uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘na kho mayaṃ, bhante, bhagavato kiñci garahāma kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā. Bhagavā hi , bhante, anuppannassa maggassa uppādetā, asañjātassa maggassa sañjanetā, anakkhātassa maggassa akkhātā, maggaññū maggavidū maggakovido. Maggānugā ca, bhante, etarahi sāvakā viharanti pacchā samannāgatā; ahañca kho, bhante, bhagavantaṃ pavāremi. Na ca me bhagavā kiñci garahati kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā’’ti.

    ‘‘น ขฺวาหํ เต, สาริปุตฺต, กิญฺจิ ครหามิ กายิกํ วา วาจสิกํ วาฯ ปณฺฑิโต ตฺวํ, สาริปุตฺต, มหาปโญฺญ ตฺวํ, สาริปุตฺต , ปุถุปโญฺญ ตฺวํ, สาริปุตฺต, หาสปโญฺญ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ชวนปโญฺญ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ติกฺขปโญฺญ ตฺวํ, สาริปุตฺต, นิเพฺพธิกปโญฺญ ตฺวํ, สาริปุตฺตฯ เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, รโญฺญ จกฺกวตฺติสฺส เชฎฺฐปุโตฺต ปิตรา ปวตฺติตํ จกฺกํ สมฺมเทว อนุปฺปวเตฺตติ; เอวเมว โข ตฺวํ, สาริปุตฺต, มยา อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวเตฺตสี’’ติฯ

    ‘‘Na khvāhaṃ te, sāriputta, kiñci garahāmi kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā. Paṇḍito tvaṃ, sāriputta, mahāpañño tvaṃ, sāriputta , puthupañño tvaṃ, sāriputta, hāsapañño tvaṃ, sāriputta, javanapañño tvaṃ, sāriputta, tikkhapañño tvaṃ, sāriputta, nibbedhikapañño tvaṃ, sāriputta. Seyyathāpi, sāriputta, rañño cakkavattissa jeṭṭhaputto pitarā pavattitaṃ cakkaṃ sammadeva anuppavatteti; evameva kho tvaṃ, sāriputta, mayā anuttaraṃ dhammacakkaṃ pavattitaṃ sammadeva anuppavattesī’’ti.

    ‘‘โน เจ กิร เม, ภเนฺต, ภควา กิญฺจิ ครหติ กายิกํ วา วาจสิกํ วาฯ อิเมสํ ปน, ภเนฺต, ภควา ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ น กิญฺจิ ครหติ กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’ติฯ ‘‘อิเมสมฺปิ ขฺวาหํ, สาริปุตฺต, ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ น กิญฺจิ ครหามิ กายิกํ วา วาจสิกํ วาฯ อิเมสญฺหิ, สาริปุตฺต, ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ สฎฺฐิ ภิกฺขู เตวิชฺชา, สฎฺฐิ ภิกฺขู ฉฬภิญฺญา, สฎฺฐิ ภิกฺขู อุภโตภาควิมุตฺตา, อถ อิตเร ปญฺญาวิมุตฺตา’’ติฯ

    ‘‘No ce kira me, bhante, bhagavā kiñci garahati kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā. Imesaṃ pana, bhante, bhagavā pañcannaṃ bhikkhusatānaṃ na kiñci garahati kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā’’ti. ‘‘Imesampi khvāhaṃ, sāriputta, pañcannaṃ bhikkhusatānaṃ na kiñci garahāmi kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā. Imesañhi, sāriputta, pañcannaṃ bhikkhusatānaṃ saṭṭhi bhikkhū tevijjā, saṭṭhi bhikkhū chaḷabhiññā, saṭṭhi bhikkhū ubhatobhāgavimuttā, atha itare paññāvimuttā’’ti.

    อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฎิภาติ มํ ภควา, ปฎิภาติ มํ สุคตา’’ติฯ ‘‘ปฎิภาตุ ตํ, วงฺคีสา’’ติ ภควา อโวจฯ อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ –

    Atha kho āyasmā vaṅgīso uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘paṭibhāti maṃ bhagavā, paṭibhāti maṃ sugatā’’ti. ‘‘Paṭibhātu taṃ, vaṅgīsā’’ti bhagavā avoca. Atha kho āyasmā vaṅgīso bhagavantaṃ sammukhā sāruppāhi gāthāhi abhitthavi –

    ‘‘อชฺช ปนฺนรเส วิสุทฺธิยา, ภิกฺขู ปญฺจสตา สมาคตา;

    ‘‘Ajja pannarase visuddhiyā, bhikkhū pañcasatā samāgatā;

    สํโยชนพนฺธนจฺฉิทา , อนีฆา ขีณปุนพฺภวา อิสีฯ

    Saṃyojanabandhanacchidā , anīghā khīṇapunabbhavā isī.

    ‘‘จกฺกวตฺตี ยถา ราชา, อมจฺจปริวาริโต;

    ‘‘Cakkavattī yathā rājā, amaccaparivārito;

    สมนฺตา อนุปริเยติ, สาครนฺตํ มหิํ อิมํฯ

    Samantā anupariyeti, sāgarantaṃ mahiṃ imaṃ.

    ‘‘เอวํ วิชิตสงฺคามํ, สตฺถวาหํ อนุตฺตรํ;

    ‘‘Evaṃ vijitasaṅgāmaṃ, satthavāhaṃ anuttaraṃ;

    สาวกา ปยิรุปาสนฺติ, เตวิชฺชา มจฺจุหายิโนฯ

    Sāvakā payirupāsanti, tevijjā maccuhāyino.

    ‘‘สเพฺพ ภควโต ปุตฺตา, ปลาเปตฺถ น วิชฺชติ;

    ‘‘Sabbe bhagavato puttā, palāpettha na vijjati;

    ตณฺหาสลฺลสฺส หนฺตารํ, วเนฺท อาทิจฺจพนฺธุน’’นฺติฯ

    Taṇhāsallassa hantāraṃ, vande ādiccabandhuna’’nti.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา • 7. Pavāraṇāsuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา • 7. Pavāraṇāsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact