Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา

    7. Pavāraṇāsuttavaṇṇanā

    ๒๑๕. สตฺตเม ตทหูติ ตสฺมิํ อหุ, ตสฺมิํ ทิวเสติ อโตฺถฯ อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถฯ อุปวสนฺตีติ จ สีเลน วา อนสเนน วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อโตฺถฯ โส ปเนส อุโปสถทิวโส อฎฺฐมีจาตุทฺทสีปนฺนรสีเภเทน ติวิโธ, ตสฺมา เสสทฺวยนิวารณตฺถํ ปนฺนรเสติ วุตฺตํฯ ปวารณายาติ วสฺสํ-วุฎฺฐ-ปวารณายฯ วิสุทฺธิปวารณาติปิ เอติสฺสาว นามํฯ นิสิโนฺน โหตีติ สายนฺหสมเย สมฺปตฺตปริสาย กาลยุตฺตํ ธมฺมํ เทเสตฺวา อุทกโกฎฺฐเก คตฺตานิ ปริสิญฺจิตฺวา นิวตฺถนิวาสโน เอกํสํ สุคตมหาจีวรํ กตฺวา มชฺฌิมตฺถมฺภํ นิสฺสาย ปญฺญเตฺต วรพุทฺธาสเน ปุรตฺถิมทิสาย อุฎฺฐหโต จนฺทมณฺฑลสฺส สิริํ สิริยา อภิภวมาโน นิสิโนฺน โหติฯ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยโต ยโต อนุวิโลเกติ, ตโต ตโต ตุณฺหีภูตเมวฯ ตตฺถ หิ เอกภิกฺขุสฺสาปิ หตฺถกุกฺกุจฺจํ วา ปาทกุกฺกุจฺจํ วา นตฺถิ, สเพฺพ นิรวา สเนฺตน อิริยาปเถน นิสีทิํสุฯ อนุวิโลเกตฺวาติ ทิสฺสมานปญฺจปสาเทหิ เนเตฺตหิ อนุวิโลเกตฺวาฯ หนฺทาติ โวสฺสคฺคเตฺถ นิปาโตฯ น จ เม กิญฺจิ ครหถาติ เอตฺถ น จ กิญฺจีติ ปุจฺฉนเตฺถ น-กาโรฯ กิํ เม กิญฺจิ ครหถ? ยทิ ครหถ, วทถ, อิจฺฉาเปมิ โว วตฺตุนฺติ อโตฺถฯ กายิกํ วา วาจสิกํ วาติ อิมินา กายวจีทฺวาราเนว ปวาเรติ, น มโนทฺวารํฯ กสฺมา? อปากฎตฺตาฯ กายวจีทฺวาเรสุ หิ โทโส ปากโฎ โหติ, น มโนทฺวาเรฯ ‘‘เอกมเญฺจ สยโตปิ หิ กิํ จิเนฺตสี’’ติ? ปุจฺฉิตฺวา จิตฺตาจารํ ชานาติฯ อิติ มโนทฺวารํ อปากฎตฺตา น ปวาเรติ, โน อปริสุทฺธตฺตาฯ โพธิสตฺตภูตสฺสาปิ หิ ตสฺส ภูริทตฺตฉทฺทนฺตสงฺขปาลธมฺมปาลาทิกาเล มโนทฺวารํ ปริสุทฺธํ, อิทาเนตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ

    215. Sattame tadahūti tasmiṃ ahu, tasmiṃ divaseti attho. Upavasanti etthāti uposatho. Upavasantīti ca sīlena vā anasanena vā upetā hutvā vasantīti attho. So panesa uposathadivaso aṭṭhamīcātuddasīpannarasībhedena tividho, tasmā sesadvayanivāraṇatthaṃ pannaraseti vuttaṃ. Pavāraṇāyāti vassaṃ-vuṭṭha-pavāraṇāya. Visuddhipavāraṇātipi etissāva nāmaṃ. Nisinno hotīti sāyanhasamaye sampattaparisāya kālayuttaṃ dhammaṃ desetvā udakakoṭṭhake gattāni parisiñcitvā nivatthanivāsano ekaṃsaṃ sugatamahācīvaraṃ katvā majjhimatthambhaṃ nissāya paññatte varabuddhāsane puratthimadisāya uṭṭhahato candamaṇḍalassa siriṃ siriyā abhibhavamāno nisinno hoti. Tuṇhībhūtaṃ tuṇhībhūtanti yato yato anuviloketi, tato tato tuṇhībhūtameva. Tattha hi ekabhikkhussāpi hatthakukkuccaṃ vā pādakukkuccaṃ vā natthi, sabbe niravā santena iriyāpathena nisīdiṃsu. Anuviloketvāti dissamānapañcapasādehi nettehi anuviloketvā. Handāti vossaggatthe nipāto. Na ca me kiñci garahathāti ettha na ca kiñcīti pucchanatthe na-kāro. Kiṃ me kiñci garahatha? Yadi garahatha, vadatha, icchāpemi vo vattunti attho. Kāyikaṃ vā vācasikaṃ vāti iminā kāyavacīdvārāneva pavāreti, na manodvāraṃ. Kasmā? Apākaṭattā. Kāyavacīdvāresu hi doso pākaṭo hoti, na manodvāre. ‘‘Ekamañce sayatopi hi kiṃ cintesī’’ti? Pucchitvā cittācāraṃ jānāti. Iti manodvāraṃ apākaṭattā na pavāreti, no aparisuddhattā. Bodhisattabhūtassāpi hi tassa bhūridattachaddantasaṅkhapāladhammapālādikāle manodvāraṃ parisuddhaṃ, idānettha vattabbameva natthi.

    เอตทโวจาติ ธมฺมเสนาปติฎฺฐาเน ฐิตตฺตา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภารํ วหโนฺต เอตํ อโวจฯ น โข มยํ, ภเนฺตติ, ภเนฺต, มยํ ภควโต น กิญฺจิ ครหามฯ กายิกํ วา วาจสิกํ วาติ อิทํ จตุนฺนํ อรกฺขิยตํ สนฺธาย เถโร อาหฯ ภควโต หิ จตฺตาริ อรกฺขิยานิฯ ยถาห –

    Etadavocāti dhammasenāpatiṭṭhāne ṭhitattā bhikkhusaṅghassa bhāraṃ vahanto etaṃ avoca. Na kho mayaṃ, bhanteti, bhante, mayaṃ bhagavato na kiñci garahāma. Kāyikaṃ vā vācasikaṃ vāti idaṃ catunnaṃ arakkhiyataṃ sandhāya thero āha. Bhagavato hi cattāri arakkhiyāni. Yathāha –

    ‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อรกฺขิยานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย, ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธมโนสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส มโนทุจฺจริตํ, ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย, ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธาชีโว, ภิกฺขเว, ตถาคโต, นตฺถิ ตถาคตสฺส มิจฺฉาอาชีโว, ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย ‘‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’’ติ (อ. นิ. ๗.๕๘)ฯ

    ‘‘Cattārimāni , bhikkhave, tathāgatassa arakkhiyāni. Katamāni cattāri? Parisuddhakāyasamācāro, bhikkhave, tathāgato, natthi tathāgatassa kāyaduccaritaṃ, yaṃ tathāgato rakkheyya ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhavacīsamācāro, bhikkhave, tathāgato, natthi tathāgatassa vacīduccaritaṃ, yaṃ tathāgato rakkheyya, ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhamanosamācāro, bhikkhave, tathāgato, natthi tathāgatassa manoduccaritaṃ, yaṃ tathāgato rakkheyya, ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhājīvo, bhikkhave, tathāgato, natthi tathāgatassa micchāājīvo, yaṃ tathāgato rakkheyya ‘‘mā me idaṃ paro aññāsī’’ti (a. ni. 7.58).

    อิทานิ ภควโต ยถาภูตคุเณ กเถโนฺต ภควา หิ, ภเนฺตติอาทิมาหฯ ตตฺถ อนุปฺปนฺนสฺสาติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโต ปฎฺฐาย อเญฺญน สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา อนุปฺปาทิตปุพฺพสฺสฯ อสญฺชาตสฺสาติ อิทํ อนุปฺปนฺนเววจนเมวฯ อนกฺขาตสฺสาติ อเญฺญน อเทสิตสฺสฯ ปจฺฉา สมนฺนาคตาติ ปฐมคตสฺส ภควโต ปจฺฉา สมนุอาคตาฯ อิติ เถโร ยสฺมา สเพฺพปิ ภควโต สีลาทโย คุณา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย อาคตา, ตสฺมา อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย คุณํ กเถสิฯ เตน สพฺพคุณา กถิตาว โหนฺติฯ อหญฺจ โข, ภเนฺตติ อิทํ เถโร สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส อตฺตโน เจว สงฺฆสฺส จ กายิกวาจสิกํ ปวาเรโนฺต อาหฯ

    Idāni bhagavato yathābhūtaguṇe kathento bhagavā hi, bhantetiādimāha. Tattha anuppannassāti kassapasammāsambuddhato paṭṭhāya aññena samaṇena vā brāhmaṇena vā anuppāditapubbassa. Asañjātassāti idaṃ anuppannavevacanameva. Anakkhātassāti aññena adesitassa. Pacchā samannāgatāti paṭhamagatassa bhagavato pacchā samanuāgatā. Iti thero yasmā sabbepi bhagavato sīlādayo guṇā arahattamaggameva nissāya āgatā, tasmā arahattamaggameva nissāya guṇaṃ kathesi. Tena sabbaguṇā kathitāva honti. Ahañca kho, bhanteti idaṃ thero sadevake loke aggapuggalassa attano ceva saṅghassa ca kāyikavācasikaṃ pavārento āha.

    ปิตรา ปวตฺติตนฺติ จกฺกวตฺติมฺหิ กาลงฺกเต วา ปพฺพชิเต วา สตฺตาหจฺจเยน จกฺกํ อนฺตรธายติ, ตโต ทสวิธํ ทฺวาทสวิธํ จกฺกวตฺติวตฺตํ ปูเรตฺวา นิสินฺนสฺส ปุตฺตสฺส อญฺญํ ปาตุภวติ, ตํ โส ปวเตฺตติฯ รตนมยตฺตา ปน สทิสเฎฺฐน ตเทว วตฺตํ กตฺวา ‘‘ปิตรา ปวตฺติต’’นฺติ วุตฺตํฯ ยสฺมา วา โส ‘‘อโปฺปสฺสุโกฺก ตฺวํ, เทว, โหหิ, อหมนุสาสิสฺสามี’’ติ อาห, ตสฺมา ปิตรา ปวตฺติตํ อาณาจกฺกํ อนุปฺปวเตฺตติ นามฯ สมฺมเทว อนุปฺปวเตฺตสีติ สมฺมา นเยน เหตุนา การเณเนว อนุปฺปวเตฺตสิฯ ภควา หิ จตุสจฺจธมฺมํ กเถติ, เถโร ตเมว อนุกเถติ, ตสฺมา เอวมาหฯ อุภโตภาควิมุตฺตาติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺตา , อรูปาวจรสมาปตฺติยา รูปกายโต วิมุตฺตา, อคฺคมเคฺคน นามกายโตติฯ ปญฺญาวิมุตฺตาติ ปญฺญาย วิมุตฺตา เตวิชฺชาทิภาวํ อปฺปตฺตา ขีณาสวาฯ

    Pitarāpavattitanti cakkavattimhi kālaṅkate vā pabbajite vā sattāhaccayena cakkaṃ antaradhāyati, tato dasavidhaṃ dvādasavidhaṃ cakkavattivattaṃ pūretvā nisinnassa puttassa aññaṃ pātubhavati, taṃ so pavatteti. Ratanamayattā pana sadisaṭṭhena tadeva vattaṃ katvā ‘‘pitarā pavattita’’nti vuttaṃ. Yasmā vā so ‘‘appossukko tvaṃ, deva, hohi, ahamanusāsissāmī’’ti āha, tasmā pitarā pavattitaṃ āṇācakkaṃ anuppavatteti nāma. Sammadeva anuppavattesīti sammā nayena hetunā kāraṇeneva anuppavattesi. Bhagavā hi catusaccadhammaṃ katheti, thero tameva anukatheti, tasmā evamāha. Ubhatobhāgavimuttāti dvīhi bhāgehi vimuttā , arūpāvacarasamāpattiyā rūpakāyato vimuttā, aggamaggena nāmakāyatoti. Paññāvimuttāti paññāya vimuttā tevijjādibhāvaṃ appattā khīṇāsavā.

    วิสุทฺธิยาติ วิสุทฺธตฺถายฯ สํโยชนพนฺธนจฺฉิทาติ สํโยชนสงฺขาเต เจว พนฺธนสงฺขาเต จ กิเลเส ฉินฺทิตฺวา ฐิตาฯ วิชิตสงฺคามนฺติ วิชิตราคโทสโมหสงฺคามํ, มารพลสฺส วิชิตตฺตาปิ วิชิตสงฺคามํฯ สตฺถวาหนฺติ อฎฺฐงฺคิกมคฺครเถ อาโรเปตฺวา เวเนยฺยสตฺถํ วาเหติ สํสารกนฺตารํ อุตฺตาเรตีติ ภควา สตฺถวาโห, ตํ สตฺถวาหํฯ ปลาโปติ อโนฺตตุโจฺฉ ทุสฺสีโลฯ อาทิจฺจพนฺธุนนฺติ อาทิจฺจพนฺธุํ สตฺถารํ ทสพลํ วนฺทามีติ วทติฯ สตฺตมํฯ

    Visuddhiyāti visuddhatthāya. Saṃyojanabandhanacchidāti saṃyojanasaṅkhāte ceva bandhanasaṅkhāte ca kilese chinditvā ṭhitā. Vijitasaṅgāmanti vijitarāgadosamohasaṅgāmaṃ, mārabalassa vijitattāpi vijitasaṅgāmaṃ. Satthavāhanti aṭṭhaṅgikamaggarathe āropetvā veneyyasatthaṃ vāheti saṃsārakantāraṃ uttāretīti bhagavā satthavāho, taṃ satthavāhaṃ. Palāpoti antotuccho dussīlo. Ādiccabandhunanti ādiccabandhuṃ satthāraṃ dasabalaṃ vandāmīti vadati. Sattamaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. ปวารณาสุตฺตํ • 7. Pavāraṇāsuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา • 7. Pavāraṇāsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact