Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา
7. Pavāraṇāsuttavaṇṇanā
๒๑๕. ตสฺมิํ อหูติ ตสฺมิํ อหนีติ อาห ‘‘ตสฺมิํ ทิวเส’’ติฯ อนสเนนาติ สพฺพโส อาหารสฺส อภุญฺชเนนฯ สาสนิกสีเลน พาหิรกอนสเนน วา อุเปตา หุตฺวาติ โยชนาฯ วา-สเทฺทน ขีรปานมธุสายนาทีนิปิ สงฺคณฺหาติฯ ปกาเรหิ ทิฎฺฐาทีหิ วาเรติ กายกมฺมาทิเก สราเปติ คารเยฺห กโรติ เอตายาติ ปวารณา, ปฎิปตฺติวิโสธนาย อตฺตโน อตฺตโน วชฺชโสธนาย โอกาสทานํฯ ยสฺมา เยภุเยฺยน วสฺสํวุเฎฺฐหิ กาตพฺพา เอสา วิสุทฺธิเทสนา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วสฺสํวุฎฺฐปวารณายฯ วิสุทฺธิปวารณาติปิ เอติสฺสาว นาม’’นฺติฯ ตทา ตสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ตุณฺหีภาวสฺส อนวเสสตายปิ วณฺณํ ทเสฺสตุํ ปาฬิยํ ‘‘ตุณฺหีภูต’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยโต ยโต…เป.… นตฺถี’’ติฯ หตฺถสฺส กุกฺกุจฺจตา อสํยโม อสมฺปชญฺญกิริยา หตฺถกุกฺกุจฺจํฯ ตถา ปาทกุกฺกุจฺจํ เวทิตพฺพํ, วา-สโทฺท อวุตฺตวิกปฺปโตฺถ, เตน ตทเญฺญสมภาโว วิภาวิโตติ ทฎฺฐพฺพํฯ
215.Tasmiṃ ahūti tasmiṃ ahanīti āha ‘‘tasmiṃ divase’’ti. Anasanenāti sabbaso āhārassa abhuñjanena. Sāsanikasīlena bāhirakaanasanena vā upetā hutvāti yojanā. Vā-saddena khīrapānamadhusāyanādīnipi saṅgaṇhāti. Pakārehi diṭṭhādīhi vāreti kāyakammādike sarāpeti gārayhe karoti etāyāti pavāraṇā, paṭipattivisodhanāya attano attano vajjasodhanāya okāsadānaṃ. Yasmā yebhuyyena vassaṃvuṭṭhehi kātabbā esā visuddhidesanā, tasmā vuttaṃ ‘‘vassaṃvuṭṭhapavāraṇāya. Visuddhipavāraṇātipi etissāva nāma’’nti. Tadā tassa bhikkhusaṅghassa tuṇhībhāvassa anavasesatāyapi vaṇṇaṃ dassetuṃ pāḷiyaṃ ‘‘tuṇhībhūta’’nti vuttanti āha ‘‘yato yato…pe…natthī’’ti. Hatthassa kukkuccatā asaṃyamo asampajaññakiriyā hatthakukkuccaṃ. Tathā pādakukkuccaṃ veditabbaṃ, vā-saddo avuttavikappattho, tena tadaññesamabhāvo vibhāvitoti daṭṭhabbaṃ.
ปญฺจปสาเทหีติ ปญฺจวเณฺณหิ ปสาเทหิฯ โวสฺสคฺคโตฺถ ยถารุจิ กิริยาย โวสฺสชฺชนํฯ ปุจฺฉนเตฺถติ ปฎิเกฺขปมุเขเนว ปุจฺฉนเตฺถ นกาโร, เม กิญฺจิ กิริยํ วา วาจสิกํ วา น ครหถ, กิํ นุ ครหถ กายวาจาหีติ อโตฺถฯ เกจิ ‘‘ทฺวาราเนวา’’ติ ทฺวารสีเสน ทฺวารปฺปวตฺตจริยํ วทนฺติฯ วิสุทฺธิปวารณาย อธิเปฺปตตฺตา เยน ปวาริตํ, เตเนว วิสุทฺธีติ ญายติ, เยน น ปวาริตํฯ กิํ นุ ตํ อวิสุทฺธนฺติ สิยา กสฺสจิ ปุถุชฺชนสฺส อาสงฺกา? ตนฺนิวารณตฺถมาห ‘‘โน อปริสุทฺธตฺตา’’ติฯ มโนทฺวารํ ปริสุทฺธํ อสุจิการกอุปกฺกิเลสานํ ทูรีกตตฺตาฯ อิทานิ เอตรหิ พุทฺธกาเลฯ เอตฺถาติ มโนทฺวารปริสุทฺธิยํฯ
Pañcapasādehīti pañcavaṇṇehi pasādehi. Vossaggattho yathāruci kiriyāya vossajjanaṃ. Pucchanattheti paṭikkhepamukheneva pucchanatthe nakāro, me kiñci kiriyaṃ vā vācasikaṃ vā na garahatha, kiṃ nu garahatha kāyavācāhīti attho. Keci ‘‘dvārānevā’’ti dvārasīsena dvārappavattacariyaṃ vadanti. Visuddhipavāraṇāya adhippetattā yena pavāritaṃ, teneva visuddhīti ñāyati, yena na pavāritaṃ. Kiṃ nu taṃ avisuddhanti siyā kassaci puthujjanassa āsaṅkā? Tannivāraṇatthamāha ‘‘no aparisuddhattā’’ti. Manodvāraṃparisuddhaṃ asucikārakaupakkilesānaṃ dūrīkatattā. Idāni etarahi buddhakāle. Etthāti manodvāraparisuddhiyaṃ.
กายวจีสมาจารปริสุทฺธิยา ปเวทิตาย มโนสมาจารปริสุทฺธิ อตฺถโต ปเวทิตาว โหตีติ ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วา’’อิเจฺจวาหฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กายิกํ วา วาจสิกํ วาติ อิทํ จตุนฺนํ อรกฺขิยตํ สนฺธาย เถโร อาหา’’ติฯ ‘‘ภิกฺขเว, ปวาเรมิ โว’’ติ ภิกฺขุสงฺฆวิสยตฺตา ปวารณาย ตตฺถ ภิกฺขุสเงฺฆน วตฺตพฺพํ ปฎิวจนํ เทโนฺต ธมฺมเสนาปติ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภารํ วหโนฺต’’ติ วุโตฺตฯ เตนาห ‘‘น โข มยํ, ภเนฺต’’ติอาทิฯ อรกฺขิยานีติ ปรานุวาทโต น ภายิตพฺพานิ สุปริสุทฺธภาวโตฯ
Kāyavacīsamācāraparisuddhiyā paveditāya manosamācāraparisuddhi atthato paveditāva hotīti ‘‘kāyikaṃ vā vācasikaṃ vā’’iccevāha. Tathā hi vuttaṃ ‘‘kāyikaṃ vā vācasikaṃ vāti idaṃ catunnaṃ arakkhiyataṃ sandhāya thero āhā’’ti. ‘‘Bhikkhave, pavāremi vo’’ti bhikkhusaṅghavisayattā pavāraṇāya tattha bhikkhusaṅghena vattabbaṃ paṭivacanaṃ dento dhammasenāpati ‘‘bhikkhusaṅghassa bhāraṃ vahanto’’ti vutto. Tenāha ‘‘na kho mayaṃ, bhante’’tiādi. Arakkhiyānīti parānuvādato na bhāyitabbāni suparisuddhabhāvato.
‘‘อนุปฺปนฺนสฺสา’’ติ อิทํ อธิปฺปายิกวจนนฺติ ตทธิปฺปายํ วิวรโนฺต ‘‘กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโต ปฎฺฐายา’’ติอาทิมาหฯ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโตติ วิภเตฺต นิสฺสกฺกํ, ตสฺมา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธโต โอรนฺติ อโตฺถติฯ อเญฺญนาติ อิโต ภควโต อเญฺญนฯ อนุปฺปาทิตปุพฺพสฺสาติ ปรสนฺตาเน น อุปฺปาทิตปุพฺพสฺสฯ สสนฺตาเน ปน ปเจฺจกพุทฺธานํ วเสน น อุปฺปาทิโตติ น สกฺกา วตฺตุํฯ สมนุอาคตาติ สมฺมา อนุ อุปคตาฯ ภควโต สีลาทโย คุณาติ พุทฺธภูตสฺส คุณา อธิเปฺปตาติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคเมว นิสฺสาย อาคตา’’ติฯ สพฺพคุณาติ ทสพลญาณาทโย สเพฺพ พุทฺธคุณาฯ ภเนฺตติ เอตฺถ อิติสโทฺท อาทิอโตฺถฯ เตน ‘‘อิเมสํ ปน…เป.… วาจสิกํ วา’’ติ ยาวายํ ปาฬิปเทโส, ตํ สพฺพํ คณฺหาติฯ เตนาห ‘‘อิทํ เถโร…เป.… ปวาเรโนฺต อาหา’’ติฯ
‘‘Anuppannassā’’ti idaṃ adhippāyikavacananti tadadhippāyaṃ vivaranto ‘‘kassapasammāsambuddhato paṭṭhāyā’’tiādimāha. Kassapasammāsambuddhatoti vibhatte nissakkaṃ, tasmā kassapasammāsambuddhato oranti atthoti. Aññenāti ito bhagavato aññena. Anuppāditapubbassāti parasantāne na uppāditapubbassa. Sasantāne pana paccekabuddhānaṃ vasena na uppāditoti na sakkā vattuṃ. Samanuāgatāti sammā anu upagatā. Bhagavato sīlādayo guṇāti buddhabhūtassa guṇā adhippetāti āha ‘‘arahattamaggameva nissāya āgatā’’ti. Sabbaguṇāti dasabalañāṇādayo sabbe buddhaguṇā. Bhanteti ettha itisaddo ādiattho. Tena ‘‘imesaṃ pana…pe… vācasikaṃ vā’’ti yāvāyaṃ pāḷipadeso, taṃ sabbaṃ gaṇhāti. Tenāha ‘‘idaṃ thero…pe… pavārento āhā’’ti.
ยํ อตฺตโน ปุญฺญานุภาวสิทฺธํ จกฺกรตนํ นิปฺปริยายโต เตน ปวตฺติตํ นาม, น อิตรนฺติ ปฐมนโย วุโตฺตฯ ยสฺมา ปวตฺติตเสฺสว อนุปวตฺตนํ, ปฐมนโย จ ตํสทิเส ตโพฺพหารวเสน วุโตฺตติ ตํ อนาทิยิตฺวา ทุติยนโย วุโตฺตฯ ทสวิธนฺติ อโนฺตชนสฺมิํ, พลกาเย รกฺขาวรณคุตฺติยา สํวิธานํ, ขตฺติเยสุ อนุยุเตฺตสุ, พฺราหฺมณคหปติเกสุ, เนคมชานปเทสุ, สมณพฺราหฺมเณสุ, มิคปกฺขีสุ อธมฺมจารปฎิเกฺขโป, อธนานํ ธนานุปฺปทานํ, สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺหปุจฺฉนนฺติ เอวํ ทสวิธํฯ ตตฺถ คหปติเก ปกฺขิชาเต จ วิสุํ กตฺวา คหณวเสน ทฺวาทสวิธํฯ จกฺกวตฺติวตฺตนฺติ จกฺกวตฺติภาวาวหํ วตฺตํฯ ยสฺมา ยาถาวโต ปวตฺติตํ, ตทนุรูปกํ ปน ญาเยน ยุตฺตเกน ปวตฺติตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘สมฺมา นเยน เหตุนา การเณนา’’ติฯ อุภโตภาควิมุตฺตาติ อุภยภาเคหิ อุภยภาคโต วิมุตฺตาติ อยเมตฺถ อโตฺถติ ทเสฺสติ ‘‘ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺตา, อรูปา…เป.… นามกายโต’’ติ อิมินาฯ เตวิชฺชาทิภาวนฺติ เตวิชฺชฉฬภิญฺญจตุปฺปฎิสมฺภิทภาวํฯ ปญฺญาวิมุตฺตา หิ ตํ ติวิธํ อปฺปตฺตา เกวลํ ปญฺญาย เอว วิมุตฺตาฯ
Yaṃ attano puññānubhāvasiddhaṃ cakkaratanaṃ nippariyāyato tena pavattitaṃ nāma, na itaranti paṭhamanayo vutto. Yasmā pavattitasseva anupavattanaṃ, paṭhamanayo ca taṃsadise tabbohāravasena vuttoti taṃ anādiyitvā dutiyanayo vutto. Dasavidhanti antojanasmiṃ, balakāye rakkhāvaraṇaguttiyā saṃvidhānaṃ, khattiyesu anuyuttesu, brāhmaṇagahapatikesu, negamajānapadesu, samaṇabrāhmaṇesu, migapakkhīsu adhammacārapaṭikkhepo, adhanānaṃ dhanānuppadānaṃ, samaṇabrāhmaṇe upasaṅkamitvā pañhapucchananti evaṃ dasavidhaṃ. Tattha gahapatike pakkhijāte ca visuṃ katvā gahaṇavasena dvādasavidhaṃ. Cakkavattivattanti cakkavattibhāvāvahaṃ vattaṃ. Yasmā yāthāvato pavattitaṃ, tadanurūpakaṃ pana ñāyena yuttakena pavattitaṃ nāma hotīti āha ‘‘sammā nayena hetunā kāraṇenā’’ti. Ubhatobhāgavimuttāti ubhayabhāgehi ubhayabhāgato vimuttāti ayamettha atthoti dasseti ‘‘dvīhi bhāgehi vimuttā, arūpā…pe… nāmakāyato’’ti iminā. Tevijjādibhāvanti tevijjachaḷabhiññacatuppaṭisambhidabhāvaṃ. Paññāvimuttā hi taṃ tividhaṃ appattā kevalaṃ paññāya eva vimuttā.
วิสุทฺธตฺถายาติ วิสุทฺธิปวารณตฺถายฯ สํโยชนเฎฺฐน สํโยชนสงฺขาเต เจว พนฺธนเฎฺฐน พนฺธนสงฺขาเต จฯ วิชิตสงฺคามนฺติ ยถา ราคาทโย ปุน น สีสํ อุกฺขิปนฺติ, เอวํ อริยมคฺคเสนาย วเสน วิชิตสงฺคามํฯ เตนาห ‘‘วิชิตราคโทสโมหสงฺคาม’’นฺติฯ มารพลสฺสาติ มารเสนาย, มารสฺส วา สามตฺถิยสฺสฯ เวเนยฺยสตฺถนฺติ วิเนตพฺพชนสมูหํฯ สกฎาทิสตฺถสภาคโต วิเนโยฺยว สโตฺถติ ตํ เวเนยฺยสตฺถํฯ สีลสาราทิอภาวโต อโนฺตตุโจฺฉฯ
Visuddhatthāyāti visuddhipavāraṇatthāya. Saṃyojanaṭṭhena saṃyojanasaṅkhāte ceva bandhanaṭṭhena bandhanasaṅkhāte ca. Vijitasaṅgāmanti yathā rāgādayo puna na sīsaṃ ukkhipanti, evaṃ ariyamaggasenāya vasena vijitasaṅgāmaṃ. Tenāha ‘‘vijitarāgadosamohasaṅgāma’’nti. Mārabalassāti mārasenāya, mārassa vā sāmatthiyassa. Veneyyasatthanti vinetabbajanasamūhaṃ. Sakaṭādisatthasabhāgato vineyyova satthoti taṃ veneyyasatthaṃ. Sīlasārādiabhāvato antotuccho.
ปวารณาสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pavāraṇāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. ปวารณาสุตฺตํ • 7. Pavāraṇāsuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ปวารณาสุตฺตวณฺณนา • 7. Pavāraṇāsuttavaṇṇanā