Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā

    ธมฺมุเทฺทสวารกถา

    Dhammuddesavārakathā

    ผสฺสปญฺจมกราสิวณฺณนา

    Phassapañcamakarāsivaṇṇanā

    อาจริยานนฺติ เรวตาจริยสฺสฯ น ปเนตํ สารโต ทฎฺฐพฺพํฯ น หิ ผสฺสาทีนํ กามาวจราทิภาวทสฺสนตฺถํ อิทมารทฺธํ, กินฺตุ ตสฺมิํ สมเย ผสฺสาทิสภาวทสฺสนตฺถนฺติฯ

    Ācariyānanti revatācariyassa. Na panetaṃ sārato daṭṭhabbaṃ. Na hi phassādīnaṃ kāmāvacarādibhāvadassanatthaṃ idamāraddhaṃ, kintu tasmiṃ samaye phassādisabhāvadassanatthanti.

    จิตฺตสฺส ปฐมาภินิปาตตฺตาติ สเพฺพ เจตสิกา จิตฺตายตฺตา จิตฺตกิริยาภาเวน วุจฺจนฺตีติ ผโสฺส ‘‘จิตฺตสฺส ปฐมาภินิปาโต’’ติ วุโตฺตฯ กามํ อุปฺปนฺนผโสฺส ปุคฺคโล จิตฺตเจตสิกราสิ วา อารมฺมเณน ผุโฎฺฐ ผสฺสสหชาตาย เวทนาย ตํสมกาลเมว เวเทติ, ผโสฺส ปน โอภาสสฺส ปทีโป วิย เวทนาทีนํ ปจฺจยวิเสโส โหตีติ ปุริมกาโล วิย วุโตฺตฯ โคปานสีนํ อุปริ ติริยํ ฐปิตกฎฺฐํ ปกฺขปาโสฯ กฎฺฐทฺวยาทิ วิย เอกเทเสน เอกปเสฺสน อนลฺลียมาโนปิ รูเปน สห ผสฺสสฺส สามญฺญํ อนลฺลียมานํ สงฺฆฎฺฎนเมว, น วิสยภาโว, สงฺฆฎฺฎนญฺจ ผสฺสสฺส จิตฺตารมฺมณานํ สนฺนิปตนภาโว เอวฯ วตฺถารมฺมณสนฺนิปาเตน สมฺปชฺชตีติ สงฺฆฎฺฎนสมฺปตฺติโก ผโสฺสฯ ปาณิทฺวยสฺส สนฺนิปาโต วิย จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาโต ผโสฺส จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ กิจฺจเฎฺฐเนว รเสน สงฺฆฎฺฎนรโสฯ ตถา ปจฺจยภาโว หิ ตสฺส ผสฺสสฺส สงฺฆฎฺฎนกิจฺจนฺติฯ ยถา หิ ปาณิยา ปาณิมฺหิ สงฺฆฎฺฎนํ ตพฺพิเสสภูตา รูปธมฺมา, เอวํ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ สงฺฆฎฺฎนํ ตพฺพิเสสภูโต เอโก เจตสิกธโมฺม ทฎฺฐโพฺพฯ จิเตฺตเยวาติ เอเตน เจตสิกสภาวตํ วตฺถารมฺมเณหิ อสํสฎฺฐํ สงฺฆฎฺฎนํ เวทนาย ทเสฺสติ, น ปน วตฺถุนิสฺสยตํ ปฎิกฺขิปติฯ ตสฺส ผสฺสสฺส การณภูโต ตทนุรูโป สมนฺนาหาโร ตชฺชาสมนฺนาหาโรฯ อินฺทฺริยสฺส ตทภิมุขภาโว อาวชฺชนาย จ อารมฺมณกรณํ วิสยสฺส ปริกฺขตตา อภิสงฺขตตา วิญฺญาณสฺส วิสยภาวกรณนฺติ อโตฺถฯ

    Cittassa paṭhamābhinipātattāti sabbe cetasikā cittāyattā cittakiriyābhāvena vuccantīti phasso ‘‘cittassa paṭhamābhinipāto’’ti vutto. Kāmaṃ uppannaphasso puggalo cittacetasikarāsi vā ārammaṇena phuṭṭho phassasahajātāya vedanāya taṃsamakālameva vedeti, phasso pana obhāsassa padīpo viya vedanādīnaṃ paccayaviseso hotīti purimakālo viya vutto. Gopānasīnaṃ upari tiriyaṃ ṭhapitakaṭṭhaṃ pakkhapāso. Kaṭṭhadvayādi viya ekadesena ekapassena anallīyamānopi rūpena saha phassassa sāmaññaṃ anallīyamānaṃ saṅghaṭṭanameva, na visayabhāvo, saṅghaṭṭanañca phassassa cittārammaṇānaṃ sannipatanabhāvo eva. Vatthārammaṇasannipātena sampajjatīti saṅghaṭṭanasampattiko phasso. Pāṇidvayassa sannipāto viya cittārammaṇasannipāto phasso cittassa ārammaṇe sannipatitappavattiyā paccayo hotīti kiccaṭṭheneva rasena saṅghaṭṭanaraso. Tathā paccayabhāvo hi tassa phassassa saṅghaṭṭanakiccanti. Yathā hi pāṇiyā pāṇimhi saṅghaṭṭanaṃ tabbisesabhūtā rūpadhammā, evaṃ cittassa ārammaṇe saṅghaṭṭanaṃ tabbisesabhūto eko cetasikadhammo daṭṭhabbo. Citteyevāti etena cetasikasabhāvataṃ vatthārammaṇehi asaṃsaṭṭhaṃ saṅghaṭṭanaṃ vedanāya dasseti, na pana vatthunissayataṃ paṭikkhipati. Tassa phassassa kāraṇabhūto tadanurūpo samannāhāro tajjāsamannāhāro. Indriyassa tadabhimukhabhāvo āvajjanāya ca ārammaṇakaraṇaṃ visayassa parikkhatatā abhisaṅkhatatā viññāṇassa visayabhāvakaraṇanti attho.

    สุขเวทนายเมว ลพฺภติ อสฺสาทภาวโตติ อธิปฺปาโยฯ วิสฺสวิตายาติ อรหตายฯ อเนกตฺถตฺตา หิ ธาตูนํ อรหโตฺถ วิปุโพฺพ สุสโทฺทฯ วิสฺสวํ วา สชนํ วสิตา กามการิตา วิสฺสวิตาฯ อารมฺมณรเสกเทสเมว อนุภวนฺตีติ อิทํ ผุสนาทิกิจฺจํ เอกเทสานุภวนมิว โหตีติ กตฺวา วุตฺตํฯ เวทยิตสภาโว เอว หิ อนุภวนนฺติฯ ผุสนาทิภาเวน วา อารมฺมณคฺคหณํ เอกเทสานุภวนํ, เวทยิตภาเวน คหณํ ยถากามํ สพฺพานุภวนํฯ เอวํ สภาวาเนว ตานิ คหณานีติ น เวทนาย วิย ผสฺสาทีนมฺปิ ยถาสกกิจฺจกรเณน สามิภาวานุภวนํ โจเทตพฺพํฯ อยํ อิธาติ เอเตน ปญฺจสุ เวทนาสุ อิมสฺมิํ จิเตฺต อธิเปฺปตํ โสมนสฺสเวทนํ วทติ, ตสฺมา อโสมนสฺสเวทนํ อปเนตฺวา คหิตาย โสมนสฺสเวทนาย สมานา อิฎฺฐาการสโมฺภครสตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ

    Sukhavedanāyameva labbhati assādabhāvatoti adhippāyo. Vissavitāyāti arahatāya. Anekatthattā hi dhātūnaṃ arahattho vipubbo susaddo. Vissavaṃ vā sajanaṃ vasitā kāmakāritā vissavitā. Ārammaṇarasekadesameva anubhavantīti idaṃ phusanādikiccaṃ ekadesānubhavanamiva hotīti katvā vuttaṃ. Vedayitasabhāvo eva hi anubhavananti. Phusanādibhāvena vā ārammaṇaggahaṇaṃ ekadesānubhavanaṃ, vedayitabhāvena gahaṇaṃ yathākāmaṃ sabbānubhavanaṃ. Evaṃ sabhāvāneva tāni gahaṇānīti na vedanāya viya phassādīnampi yathāsakakiccakaraṇena sāmibhāvānubhavanaṃ codetabbaṃ. Ayaṃ idhāti etena pañcasu vedanāsu imasmiṃ citte adhippetaṃ somanassavedanaṃ vadati, tasmā asomanassavedanaṃ apanetvā gahitāya somanassavedanāya samānā iṭṭhākārasambhogarasatā vuttāti veditabbā.

    นิมิเตฺตน ปุนสญฺชานนกิจฺจา ปจฺจาภิญฺญาณรสาฯ ปุนสญฺชานนสฺส ปจฺจโย ปุนสญฺชานนปจฺจโย, ตเทว นิมิตฺตํ ปุน…เป.… นิมิตฺตํ, ตสฺส กรณํ ปุน…เป.… กรณํฯ ปุนสญฺชานนปจฺจยภูตํ วา นิมิตฺตกรณํ ปุน…เป.… กรณํ, ตทสฺสา กิจฺจนฺติ อโตฺถฯ ปุนสญฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณํ นิมิตฺตการิกาย นิมิเตฺตน สญฺชานนฺติยา จ สพฺพาย สญฺญาย สมานํ เวทิตพฺพํฯ ญาณเมว อนุวตฺตติ, ตสฺมา อภินิเวสการิกา วิปรีตคฺคาหิกา จ น โหตีติ อธิปฺปาโยฯ เอเตนุปาเยน สมาธิสมฺปยุตฺตาย อจิรฎฺฐานตา จ น โหตีติ ทฎฺฐพฺพาฯ

    Nimittena punasañjānanakiccā paccābhiññāṇarasā. Punasañjānanassa paccayo punasañjānanapaccayo, tadeva nimittaṃ puna…pe… nimittaṃ, tassa karaṇaṃ puna…pe… karaṇaṃ. Punasañjānanapaccayabhūtaṃ vā nimittakaraṇaṃ puna…pe… karaṇaṃ, tadassā kiccanti attho. Punasañjānanapaccayanimittakaraṇaṃ nimittakārikāya nimittena sañjānantiyā ca sabbāya saññāya samānaṃ veditabbaṃ. Ñāṇameva anuvattati, tasmā abhinivesakārikā viparītaggāhikā ca na hotīti adhippāyo. Etenupāyena samādhisampayuttāya aciraṭṭhānatā ca na hotīti daṭṭhabbā.

    อภิสนฺทหตีติ ปพนฺธติ ปวเตฺตติฯ เจตนาภาโว พฺยาปารภาโวฯ ทิคุณุสฺสาหาติ น ทิคุณํ วีริยโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ, อตฺตโน เอว ปน พฺยาปารกิจฺจสฺส มหนฺตภาวํ ทีเปติฯ อุสฺสาหนภาเวนาติ อาทรภาเวนฯ สา หิ สยํ อาทรภูตา สมฺปยุเตฺต อาทรยตีติฯ

    Abhisandahatīti pabandhati pavatteti. Cetanābhāvo byāpārabhāvo. Diguṇussāhāti na diguṇaṃ vīriyayogaṃ sandhāya vuttaṃ, attano eva pana byāpārakiccassa mahantabhāvaṃ dīpeti. Ussāhanabhāvenāti ādarabhāvena. Sā hi sayaṃ ādarabhūtā sampayutte ādarayatīti.

    วิชานนํ อารมฺมณสฺส อุปลทฺธิฯ สนฺทหนํ จิตฺตนฺตรสฺส อนุปฺปพนฺธนํฯ จกฺขุนา หิ ทิฎฺฐนฺติ จกฺขุนา ทฎฺฐพฺพํฯ ยถา ‘‘ทิฎฺฐํ สุตํ มุตํ วิญฺญาต’’นฺติ ทฎฺฐพฺพาทิ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ เวทิตพฺพํฯ จกฺขุนา หีติอาทีสุ จกฺขุนา…เป.… มนสา ทฺวาเรนาติ อโตฺถฯ นครคุตฺติกสฺส วิย จิตฺตสฺส อารมฺมณวิภาวนมตฺตํ อุปธารณมตฺตํ อุปลทฺธิมตฺตํ กิจฺจํ, อารมฺมณปฎิเวธนปจฺจาภิญฺญาณาทิ ปน กิจฺจํ ปญฺญาสญฺญาทีนนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปุริมนิทฺทิฎฺฐนฺติ สมยววตฺถาเน นิทฺทิฎฺฐํฯ ภาเวโนฺต วิย น น อุปฺปชฺชติ, กินฺตุ อุปฺปชฺชตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘จิตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตนฺติ เอตํ โหติ-สทฺทสฺส อุปฺปชฺชติ-สทฺทสฺส จ สมานตฺถเตฺต สติ ยุเชฺชยฺย, ตทตฺถเตฺต จ ตตฺถ อุปฺปนฺนํ โหตีติ น วุเจฺจยฺยฯ น หิ ยุตฺตํ อุปฺปนฺนํ อุปฺปชฺชตีติ วตฺตุํฯ จิตฺตสฺส จ อุปฺปนฺนตา สมยววตฺถาเน วุตฺตา เอวาติ กิํ ตสฺส ปุน อุปฺปตฺติทสฺสเนนฯ เยน จ สมยววตฺถานํ กตํ, ตสฺส นิเทฺทโส น น สกฺกา กาตุนฺติ กิํ ตํ นิเทฺทสตฺถํ อุเทฺทเสน ทุติเยน, นิเทฺทเสเนว จ ผสฺสาทีหิ จ อญฺญตฺตํ จิตฺตสฺส สิชฺฌตีติ กิํ ตทเตฺถน ปุน วจเนน, อญฺญปฺปโยชนตฺตา ปน ปุริมสฺส จิตฺตวจนสฺส ปจฺฉิมํ วุตฺตํฯ ปุริมญฺหิ สมยววตฺถานตฺถเมว วุตฺตํ, น ววตฺถิตสมเย วิชฺชมานธมฺมทสฺสนตฺถํ, อิตรญฺจ ตสฺมิํ สมเย วิชฺชมานธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น สมยววตฺถานตฺถํ, น จ อญฺญทตฺถํ วจนํ อญฺญทตฺถํ วทติ, น จ เลเสน วุโตฺตติ กตฺวา มหาการุณิโก อตฺถํ ปากฎํ น กโรตีติฯ

    Vijānanaṃ ārammaṇassa upaladdhi. Sandahanaṃ cittantarassa anuppabandhanaṃ. Cakkhunā hi diṭṭhanti cakkhunā daṭṭhabbaṃ. Yathā ‘‘diṭṭhaṃ sutaṃ mutaṃ viññāta’’nti daṭṭhabbādi vuccati, evamidhāpi veditabbaṃ. Cakkhunā hītiādīsu cakkhunā…pe… manasā dvārenāti attho. Nagaraguttikassa viya cittassa ārammaṇavibhāvanamattaṃ upadhāraṇamattaṃ upaladdhimattaṃ kiccaṃ, ārammaṇapaṭivedhanapaccābhiññāṇādi pana kiccaṃ paññāsaññādīnanti veditabbaṃ. Purimaniddiṭṭhanti samayavavatthāne niddiṭṭhaṃ. Bhāvento viya na na uppajjati, kintu uppajjatīti dassetuṃ ‘‘cittaṃ hotī’’ti vuttanti etaṃ hoti-saddassa uppajjati-saddassa ca samānatthatte sati yujjeyya, tadatthatte ca tattha uppannaṃ hotīti na vucceyya. Na hi yuttaṃ uppannaṃ uppajjatīti vattuṃ. Cittassa ca uppannatā samayavavatthāne vuttā evāti kiṃ tassa puna uppattidassanena. Yena ca samayavavatthānaṃ kataṃ, tassa niddeso na na sakkā kātunti kiṃ taṃ niddesatthaṃ uddesena dutiyena, niddeseneva ca phassādīhi ca aññattaṃ cittassa sijjhatīti kiṃ tadatthena puna vacanena, aññappayojanattā pana purimassa cittavacanassa pacchimaṃ vuttaṃ. Purimañhi samayavavatthānatthameva vuttaṃ, na vavatthitasamaye vijjamānadhammadassanatthaṃ, itarañca tasmiṃ samaye vijjamānadhammadassanatthaṃ vuttaṃ, na samayavavatthānatthaṃ, na ca aññadatthaṃ vacanaṃ aññadatthaṃ vadati, na ca lesena vuttoti katvā mahākāruṇiko atthaṃ pākaṭaṃ na karotīti.

    ผสฺสปญฺจมกราสิวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Phassapañcamakarāsivaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā / ผสฺสปญฺจมกราสิวณฺณนา • Phassapañcamakarāsivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact