Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / พุทฺธวํส-อฎฺฐกถา • Buddhavaṃsa-aṭṭhakathā

    ๒๐. ผุสฺสพุทฺธวํสวณฺณนา

    20. Phussabuddhavaṃsavaṇṇanā

    ตสฺส ติสฺสสฺส ภควโต อปรภาเค อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา ปุน วฑฺฒิตฺวา อปริมิตายุกา หุตฺวา อนุปุเพฺพน หายิตฺวา นวุติวสฺสสหสฺสายุเกสุ ชาเตสุ ตสฺมิํเยว กเปฺป ผุโสฺส นาม สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิฯ โสปิ ภควา ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา กาสิกนคเร ชยเสนรโญฺญ อคฺคมเหสิยา สิริมาย นาม เทวิยา กุจฺฉิสฺมิํ ปฎิสนฺธิํ คเหตฺวา ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน สิริมุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิฯ โส นววสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิฯ ตสฺส กิร ครุฬปกฺข-หํส-สุวณฺณภาราติ ตโย ปาสาทา อเหสุํฯ กิสาโคตมิปฺปมุขานิ ติํส อิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฎฺฐิตานิ อเหสุํฯ

    Tassa tissassa bhagavato aparabhāge anukkamena parihāyitvā puna vaḍḍhitvā aparimitāyukā hutvā anupubbena hāyitvā navutivassasahassāyukesu jātesu tasmiṃyeva kappe phusso nāma satthā loke uppajji. Sopi bhagavā pāramiyo pūretvā tusitapure nibbattitvā tato cavitvā kāsikanagare jayasenarañño aggamahesiyā sirimāya nāma deviyā kucchismiṃ paṭisandhiṃ gahetvā dasannaṃ māsānaṃ accayena sirimuyyāne mātukucchito nikkhami. So navavassasahassāni agāraṃ ajjhāvasi. Tassa kira garuḷapakkha-haṃsa-suvaṇṇabhārāti tayo pāsādā ahesuṃ. Kisāgotamippamukhāni tiṃsa itthisahassāni paccupaṭṭhitāni ahesuṃ.

    โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา กิสาโคตมิยา อนุปเม นาม ปุเตฺต อุปฺปเนฺน อลงฺกตคชวรกฺขนฺธคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิฯ ตํ ปพฺพชิตํ ชนโกฎิ อนุปพฺพชิฯ โส เตหิ ปริวุโต ฉ มาเส ปธานจริยํ จริตฺวา ตโต คณํ ปหาย สตฺตาหํ เอกจริยํ อนุพฺรูหยมาโน วสิตฺวา วิสาขปุณฺณมาย อญฺญตเร นคเร อญฺญตรสฺส เสฎฺฐิโน ธีตาย สิริวฑฺฒาย นาม ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภุญฺชิตฺวา สิํสปาวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย สิริวเฑฺฒน นาม อุปาสเกน ทินฺนา อฎฺฐ ติณมุฎฺฐิโย คเหตฺวา อามลกโพธิํ อุปสงฺกมิตฺวา สมารํ มารพลํ วิธมิตฺวา สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ปตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป.… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมตฺวา อตฺตนา สทฺธิํ ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ โกฎีนํ ธมฺมปฎิเวธสมตฺถตํ ทิสฺวา อากาเสน คนฺตฺวา สงฺกสฺสนคเร อิสิปตเน มิคทาเย โอตริตฺวา เตสํ มเชฺฌ ธมฺมจกฺกํ ปวเตฺตสิฯ ตทา โกฎิสตสหสฺสานํ ปฐโม อภิสมโย อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –

    So cattāri nimittāni disvā kisāgotamiyā anupame nāma putte uppanne alaṅkatagajavarakkhandhagato mahābhinikkhamanaṃ nikkhamitvā pabbaji. Taṃ pabbajitaṃ janakoṭi anupabbaji. So tehi parivuto cha māse padhānacariyaṃ caritvā tato gaṇaṃ pahāya sattāhaṃ ekacariyaṃ anubrūhayamāno vasitvā visākhapuṇṇamāya aññatare nagare aññatarassa seṭṭhino dhītāya sirivaḍḍhāya nāma dinnaṃ madhupāyāsaṃ paribhuñjitvā siṃsapāvane divāvihāraṃ vītināmetvā sāyanhasamaye sirivaḍḍhena nāma upāsakena dinnā aṭṭha tiṇamuṭṭhiyo gahetvā āmalakabodhiṃ upasaṅkamitvā samāraṃ mārabalaṃ vidhamitvā sabbaññutaññāṇaṃ patvā – ‘‘anekajātisaṃsāraṃ…pe… taṇhānaṃ khayamajjhagā’’ti udānaṃ udānetvā sattasattāhaṃ bodhisamīpeyeva vītināmetvā attanā saddhiṃ pabbajitānaṃ bhikkhūnaṃ koṭīnaṃ dhammapaṭivedhasamatthataṃ disvā ākāsena gantvā saṅkassanagare isipatane migadāye otaritvā tesaṃ majjhe dhammacakkaṃ pavattesi. Tadā koṭisatasahassānaṃ paṭhamo abhisamayo ahosi. Tena vuttaṃ –

    .

    1.

    ‘‘ตเตฺถว มณฺฑกปฺปมฺหิ, อหุ สตฺถา อนุตฺตโร;

    ‘‘Tattheva maṇḍakappamhi, ahu satthā anuttaro;

    อนูปโม อสมสโม, ผุโสฺส โลกคฺคนายโกฯ

    Anūpamo asamasamo, phusso lokagganāyako.

    .

    2.

    ‘‘โสปิ สพฺพํ ตมํ หนฺตฺวา, วิชเฎตฺวา มหาชฎํ;

    ‘‘Sopi sabbaṃ tamaṃ hantvā, vijaṭetvā mahājaṭaṃ;

    สเทวกํ ตปฺปยโนฺต, อภิวสฺสิ อมตมฺพุนาฯ

    Sadevakaṃ tappayanto, abhivassi amatambunā.

    .

    3.

    ‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวเตฺตเนฺต, ผุเสฺส นกฺขตฺตมงฺคเล;

    ‘‘Dhammacakkaṃ pavattente, phusse nakkhattamaṅgale;

    โกฎิสตสหสฺสานํ, ปฐมาภิสมโย อหู’’ติฯ

    Koṭisatasahassānaṃ, paṭhamābhisamayo ahū’’ti.

    ตตฺถ ตเตฺถว มณฺฑกปฺปมฺหีติ ยสฺมิํ กเปฺป เทฺว พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, โส ‘‘มณฺฑกโปฺป’’ติ เหฎฺฐา วุโตฺตฯ วิชเฎตฺวาติ ปฎิวิสฺสเชฺชตฺวาฯ มหาชฎนฺติ เอตฺถ ชฎาติ ตณฺหาเยตํ อธิวจนํฯ สา หิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฎฺฐุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนโต สุตฺตคุมฺพชาลปูวสงฺขาตา ชฎา วิยาติ ชฎาติ วุตฺตํ, ตํ มหาชฎํฯ สเทวกนฺติ สเทวกํ โลกํฯ อภิวสฺสีติ ปาวสฺสิฯ อมตมฺพุนาติ อมตสงฺขาเตน ธมฺมกถาสลิเลน ตปฺปยโนฺต ปาวสฺสีติ อโตฺถฯ

    Tattha tattheva maṇḍakappamhīti yasmiṃ kappe dve buddhā uppajjanti, so ‘‘maṇḍakappo’’ti heṭṭhā vutto. Vijaṭetvāti paṭivissajjetvā. Mahājaṭanti ettha jaṭāti taṇhāyetaṃ adhivacanaṃ. Sā hi rūpādīsu ārammaṇesu heṭṭhupariyavasena punappunaṃ uppajjanato saṃsibbanato suttagumbajālapūvasaṅkhātā jaṭā viyāti jaṭāti vuttaṃ, taṃ mahājaṭaṃ. Sadevakanti sadevakaṃ lokaṃ. Abhivassīti pāvassi. Amatambunāti amatasaṅkhātena dhammakathāsalilena tappayanto pāvassīti attho.

    ยทา ปน พาราณสีนคเร สิริวโฑฺฒ นาม ราชา มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิฯ เตน สห ปพฺพชิตานํ ตาปสานํ นวุติสตสหสฺสานิ อเหสุํฯ เตสํ ภควา ธมฺมํ เทเสสิฯ ตทา นวุติยา สตสหสฺสานํ ทุติยาภิสมโย อโหสิฯ ยทา ปน อตฺตโน ปุตฺตสฺส อนุปมกุมารสฺส ธมฺมํ เทเสสิ, ตทา อสีติยา สตสหสฺสานํ ตติโย อภิสมโย อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –

    Yadā pana bārāṇasīnagare sirivaḍḍho nāma rājā mahantaṃ bhogakkhandhaṃ pahāya tāpasapabbajjaṃ pabbaji. Tena saha pabbajitānaṃ tāpasānaṃ navutisatasahassāni ahesuṃ. Tesaṃ bhagavā dhammaṃ desesi. Tadā navutiyā satasahassānaṃ dutiyābhisamayo ahosi. Yadā pana attano puttassa anupamakumārassa dhammaṃ desesi, tadā asītiyā satasahassānaṃ tatiyo abhisamayo ahosi. Tena vuttaṃ –

    .

    4.

    ‘‘นวุติสตสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหุ;

    ‘‘Navutisatasahassānaṃ, dutiyābhisamayo ahu;

    อสีติสตสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติฯ

    Asītisatasahassānaṃ, tatiyābhisamayo ahū’’ti.

    ตโต อปเรน สมเยน กณฺณกุชฺชนคเร สุรกฺขิโต ราชปุโตฺต จ ปุโรหิตปุโตฺต ธมฺมเสนกุมาโร จ ผุเสฺส สมฺมาสมฺพุเทฺธ อตฺตโน นครํ สมฺปเตฺต สฎฺฐิยา ปุริสสตสหเสฺสหิ สทฺธิํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิมเนฺตตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ทสพลสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ภควติ ปสีทิตฺวา เต สปริวารา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ เตสํ สฎฺฐิยา ภิกฺขุสตสหสฺสานํ มเชฺฌ ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ปฐโม สนฺนิปาโต อโหสิฯ ปุน กาสินคเร ชยเสนรโญฺญ สฎฺฐิมตฺตานํ ญาตีนํ สมาคเม พุทฺธวํสํ เทเสสิ, ตํ สุตฺวา ปญฺญาสสตสหสฺสานิ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ เตสํ มชฺฌคโต ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิฯ ปุน มหามงฺคลสมาคเม มงฺคลกถํ สุตฺวา จตฺตาลีสปุริสสตสหสฺสานิ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ เตสํ มชฺฌคโต สุคโต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิฯ เตน วุตฺตํ –

    Tato aparena samayena kaṇṇakujjanagare surakkhito rājaputto ca purohitaputto dhammasenakumāro ca phusse sammāsambuddhe attano nagaraṃ sampatte saṭṭhiyā purisasatasahassehi saddhiṃ paccuggantvā vanditvā nimantetvā sattāhaṃ mahādānaṃ datvā dasabalassa dhammakathaṃ sutvā bhagavati pasīditvā te saparivārā pabbajitvā arahattaṃ pāpuṇiṃsu. Tesaṃ saṭṭhiyā bhikkhusatasahassānaṃ majjhe bhagavā pātimokkhaṃ uddisi, so paṭhamo sannipāto ahosi. Puna kāsinagare jayasenarañño saṭṭhimattānaṃ ñātīnaṃ samāgame buddhavaṃsaṃ desesi, taṃ sutvā paññāsasatasahassāni ehibhikkhupabbajjāya pabbajitvā arahattaṃ pāpuṇiṃsu. Tesaṃ majjhagato bhagavā pātimokkhaṃ uddisi, so dutiyo sannipāto ahosi. Puna mahāmaṅgalasamāgame maṅgalakathaṃ sutvā cattālīsapurisasatasahassāni pabbajitvā arahattaṃ pāpuṇiṃsu. Tesaṃ majjhagato sugato pātimokkhaṃ uddisi, so tatiyo sannipāto ahosi. Tena vuttaṃ –

    .

    5.

    ‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, ผุสฺสสฺสปิ มเหสิโน;

    ‘‘Sannipātā tayo āsuṃ, phussassapi mahesino;

    ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํฯ

    Khīṇāsavānaṃ vimalānaṃ, santacittāna tādinaṃ.

    .

    6.

    ‘‘สฎฺฐิสตสหสฺสานํ , ปฐโม อาสิ สมาคโม;

    ‘‘Saṭṭhisatasahassānaṃ , paṭhamo āsi samāgamo;

    ปญฺญาสสตสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโมฯ

    Paññāsasatasahassānaṃ, dutiyo āsi samāgamo.

    .

    7.

    ‘‘จตฺตาลีสสตสหสฺสานํ, ตติโย อาสิ สมาคโม;

    ‘‘Cattālīsasatasahassānaṃ, tatiyo āsi samāgamo;

    อนุปาทา วิมุตฺตานํ, โวจฺฉินฺนปฎิสนฺธิน’’นฺติฯ

    Anupādā vimuttānaṃ, vocchinnapaṭisandhina’’nti.

    ตทา อมฺหากํ โพธิสโตฺต อรินฺทมนคเร วิชิตาวี นาม ขตฺติโย หุตฺวา ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา ภควติ ปสีทิตฺวา ตสฺส มหาทานํ ทตฺวา มหารชฺชํ ปหาย ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฎกานิ อุคฺคเหตฺวา เตปิฎกธโร มหาชนสฺส ธมฺมกถํ กเถสิ, สีลปารมิญฺจ ปูเรสิฯ โสปิ นํ ‘‘พุโทฺธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิฯ เตน วุตฺตํ –

    Tadā amhākaṃ bodhisatto arindamanagare vijitāvī nāma khattiyo hutvā tassa dhammaṃ sutvā bhagavati pasīditvā tassa mahādānaṃ datvā mahārajjaṃ pahāya bhagavato santike pabbajitvā tīṇi piṭakāni uggahetvā tepiṭakadharo mahājanassa dhammakathaṃ kathesi, sīlapāramiñca pūresi. Sopi naṃ ‘‘buddho bhavissatī’’ti byākāsi. Tena vuttaṃ –

    .

    8.

    ‘‘อหํ เตน สมเยน, วิชิตาวี นาม ขตฺติโย;

    ‘‘Ahaṃ tena samayena, vijitāvī nāma khattiyo;

    ฉฑฺฑยิตฺวา มหารชฺชํ, ปพฺพชิํ ตสฺส สนฺติเกฯ

    Chaḍḍayitvā mahārajjaṃ, pabbajiṃ tassa santike.

    .

    9.

    ‘‘โสปิ มํ พุโทฺธ พฺยากาสิ, ผุโสฺส โลกคฺคนายโก;

    ‘‘Sopi maṃ buddho byākāsi, phusso lokagganāyako;

    เทฺวนวุเต อิโต กเปฺป, อยํ พุโทฺธ ภวิสฺสติฯ

    Dvenavute ito kappe, ayaṃ buddho bhavissati.

    ๑๐.

    10.

    ‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน…เป.… ทสปารมิปูริยาฯ

    ‘‘Padhānaṃ padahitvāna…pe… dasapāramipūriyā.

    ๑๒.

    12.

    ‘‘สุตฺตนฺตํ วินยญฺจาปิ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ;

    ‘‘Suttantaṃ vinayañcāpi, navaṅgaṃ satthusāsanaṃ;

    สพฺพํ ปริยาปุณิตฺวา, โสภยิํ ชินสาสนํฯ

    Sabbaṃ pariyāpuṇitvā, sobhayiṃ jinasāsanaṃ.

    ๑๓.

    13.

    ‘‘ตตฺถปฺปมโตฺต วิหรโนฺต, พฺรหฺมํ ภาเวตฺว ภาวนํ;

    ‘‘Tatthappamatto viharanto, brahmaṃ bhāvetva bhāvanaṃ;

    อภิญฺญาปารมิํ คนฺตฺวา, พฺรหฺมโลกมคญฺฉห’’นฺติฯ

    Abhiññāpāramiṃ gantvā, brahmalokamagañchaha’’nti.

    ตสฺส ปน ภควโต กาสิกํ นาม นครํ อโหสิฯ ชยเสโน นาม ราชา ปิตา, สิริมา นาม มาตา, สุรกฺขิโต จ ธมฺมเสโน จ เทฺว อคฺคสาวกา, สภิโย นามุปฎฺฐาโก, จาลา จ อุปจาลา จ เทฺว อคฺคสาวิกา, อามลกรุโกฺข โพธิ, สรีรํ อฎฺฐปณฺณาสหตฺถุเพฺพธํ อโหสิ , อายุ นวุติวสฺสสหสฺสานิ, กิสาโคตมี นาม อคฺคมเหสี, อนุปโม นามสฺส ปุโตฺต, หตฺถิยาเนน นิกฺขมิฯ เตน วุตฺตํ –

    Tassa pana bhagavato kāsikaṃ nāma nagaraṃ ahosi. Jayaseno nāma rājā pitā, sirimā nāma mātā, surakkhito ca dhammaseno ca dve aggasāvakā, sabhiyo nāmupaṭṭhāko, cālā ca upacālā ca dve aggasāvikā, āmalakarukkho bodhi, sarīraṃ aṭṭhapaṇṇāsahatthubbedhaṃ ahosi , āyu navutivassasahassāni, kisāgotamī nāma aggamahesī, anupamo nāmassa putto, hatthiyānena nikkhami. Tena vuttaṃ –

    ๑๔.

    14.

    ‘‘กาสิกํ นาม นครํ, ชยเสโน นาม ขตฺติโย;

    ‘‘Kāsikaṃ nāma nagaraṃ, jayaseno nāma khattiyo;

    สิริมา นาม ชนิกา, ผุสฺสสฺสาปิ มเหสิโน…เป. …;

    Sirimā nāma janikā, phussassāpi mahesino…pe. …;

    โพธิ ตสฺส ภควโต, อามโณฺฑติ ปวุจฺจติ…เป.…ฯ

    Bodhi tassa bhagavato, āmaṇḍoti pavuccati…pe….

    ๒๒.

    22.

    ‘‘อฎฺฐปณฺณาสรตนํ, โสปิ อจฺจุคฺคโต มุนิ;

    ‘‘Aṭṭhapaṇṇāsaratanaṃ, sopi accuggato muni;

    โสภเต สตรํสีว, อุฬุราชาว ปูริโตฯ

    Sobhate sataraṃsīva, uḷurājāva pūrito.

    ๒๓.

    23.

    ‘‘นวุติวสฺสสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

    ‘‘Navutivassasahassāni, āyu vijjati tāvade;

    ตาวตา ติฎฺฐมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํฯ

    Tāvatā tiṭṭhamāno so, tāresi janataṃ bahuṃ.

    ๒๔.

    24.

    ‘‘โอวทิตฺวา พหู สเตฺต, สนฺตาเรตฺวา พหู ชเน;

    ‘‘Ovaditvā bahū satte, santāretvā bahū jane;

    โสปิ สตฺถา อตุลยโส, นิพฺพุโต โส สสาวโก’’ติฯ

    Sopi satthā atulayaso, nibbuto so sasāvako’’ti.

    ตตฺถ อามโณฺฑติ อามลกรุโกฺขฯ โอวทิตฺวาติ โอวาทํ ทตฺวา, อนุสาสิตฺวาติ อโตฺถฯ โสปิ สตฺถา อตุลยโสติ โสปิ สตฺถา อมิตยโสติ อโตฺถฯ ‘‘โส ชหิตฺวา อมิตยโส’’ติปิ ปาโฐ, ตสฺส โส สพฺพเมว วุตฺตปฺปการํ วิเสสํ หิตฺวาติ อโตฺถฯ

    Tattha āmaṇḍoti āmalakarukkho. Ovaditvāti ovādaṃ datvā, anusāsitvāti attho. Sopi satthā atulayasoti sopi satthā amitayasoti attho. ‘‘So jahitvā amitayaso’’tipi pāṭho, tassa so sabbameva vuttappakāraṃ visesaṃ hitvāti attho.

    ผุโสฺส กิร สมฺมาสมฺพุโทฺธ กุสินารายํ เสนาราเม ปรินิพฺพายิฯ ธาตุโย กิรสฺส วิตฺถาริกา อเหสุํฯ เสสคาถาสุ สพฺพตฺถ ปากฎเมวาติฯ

    Phusso kira sammāsambuddho kusinārāyaṃ senārāme parinibbāyi. Dhātuyo kirassa vitthārikā ahesuṃ. Sesagāthāsu sabbattha pākaṭamevāti.

    ผุสฺสพุทฺธวํสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Phussabuddhavaṃsavaṇṇanā niṭṭhitā.

    นิฎฺฐิโต อฎฺฐารสโม พุทฺธวํโสฯ

    Niṭṭhito aṭṭhārasamo buddhavaṃso.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / พุทฺธวํสปาฬิ • Buddhavaṃsapāḷi / ๒๐. ผุสฺสพุทฺธวํโส • 20. Phussabuddhavaṃso


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact