Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๖. ปิณฺฑปาตมหปฺผลปโญฺห

    6. Piṇḍapātamahapphalapañho

    . ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ภาสิตเมฺปตํ ธมฺมสงฺคีติการเกหิ เถเรหิ –

    6. ‘‘Bhante nāgasena, bhāsitampetaṃ dhammasaṅgītikārakehi therehi –

    ‘‘‘จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;

    ‘‘‘Cundassa bhattaṃ bhuñjitvā, kammārassāti me sutaṃ;

    อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติก’นฺติ 1

    Ābādhaṃ samphusī dhīro, pabāḷhaṃ māraṇantika’nti 2.

    ‘‘ปุน จ ภควตา ภณิตํ ‘เทฺวเม, อานนฺท, ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จฯ กตเม เทฺว? ยญฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิ, ยญฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชิตฺวา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติฯ อิเม เทฺว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา, อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’ติฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, ภควโต จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส 3 ขโร อาพาโธ อุปฺปโนฺน, ปพาฬฺหา จ เวทนา ปวตฺตา มารณนฺติกา, เตน หิ ‘เทฺวเม, อานนฺท, ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ เทฺวเม ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ, เตน หิ ภควโต จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส 4 ขโร อาพาโธ อุปฺปโนฺน, ปพาฬฺหา จ เวทนา ปวตฺตา มารณนฺติกาติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ กิํนุ โข, ภเนฺต นาคเสน, โส ปิณฺฑปาโต วิสคตตาย มหปฺผโล, โรคุปฺปาทกตาย มหปฺผโล , อายุวินาสกตาย มหปฺผโล, ภควโต ชีวิตหรณตาย มหปฺผโล? ตตฺถ เม การณํ พฺรูหิ ปรวาทานํ นิคฺคหาย, เอตฺถายํ ชโน สมฺมูโฬฺห โลภวเสน อติพหุํ ขายิเตน โลหิตปกฺขนฺทิกา อุปฺปนฺนาติฯ อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโตฺต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Puna ca bhagavatā bhaṇitaṃ ‘dveme, ānanda, piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā ca. Katame dve? Yañca piṇḍapātaṃ paribhuñjitvā tathāgato anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambujjhi, yañca piṇḍapātaṃ paribhuñjitvā tathāgato anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbāyati. Ime dve piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā, ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’ti. Yadi, bhante nāgasena, bhagavato cundassa bhattaṃ bhuttāvissa 5 kharo ābādho uppanno, pabāḷhā ca vedanā pavattā māraṇantikā, tena hi ‘dveme, ānanda, piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’ti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi dveme piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā ca, tena hi bhagavato cundassa bhattaṃ bhuttāvissa 6 kharo ābādho uppanno, pabāḷhā ca vedanā pavattā māraṇantikāti tampi vacanaṃ micchā. Kiṃnu kho, bhante nāgasena, so piṇḍapāto visagatatāya mahapphalo, roguppādakatāya mahapphalo , āyuvināsakatāya mahapphalo, bhagavato jīvitaharaṇatāya mahapphalo? Tattha me kāraṇaṃ brūhi paravādānaṃ niggahāya, etthāyaṃ jano sammūḷho lobhavasena atibahuṃ khāyitena lohitapakkhandikā uppannāti. Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppatto, so tayā nibbāhitabbo’’ti.

    ‘‘ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ธมฺมสงฺคีติการเกหิ เถเรหิ –

    ‘‘Bhāsitampetaṃ, mahārāja, dhammasaṅgītikārakehi therehi –

    ‘‘‘จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;

    ‘‘‘Cundassa bhattaṃ bhuñjitvā, kammārassāti me sutaṃ;

    อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติก’นฺติฯ

    Ābādhaṃ samphusī dhīro, pabāḷhaṃ māraṇantika’nti.

    ‘‘ภควตา จ ภณิตํ ‘เทฺวเม, อานนฺท, ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จฯ กตเม เทฺว? ยญฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิ, ยญฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชิตฺวา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ 7, อิเม เทฺว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา, อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’ติฯ

    ‘‘Bhagavatā ca bhaṇitaṃ ‘dveme, ānanda, piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā ca. Katame dve? Yañca piṇḍapātaṃ paribhuñjitvā tathāgato anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambujjhi, yañca piṇḍapātaṃ paribhuñjitvā tathāgato anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbāyati 8, ime dve piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā, ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’ti.

    ‘‘โส ปน ปิณฺฑปาโต พหุคุโณ อเนกานิสํโสฯ เทวตา, มหาราช, หฎฺฐา ปสนฺนมานสา ‘อยํ ภควโต ปจฺฉิโม ปิณฺฑปาโต’ติ ทิพฺพํ โอชํ สูกรมทฺทเว อากิริํสุฯ ตญฺจ ปน สมฺมาปากํ ลหุปากํ 9 มนุญฺญํ พหุรสํ ชฎฺฐรคฺคิเตชสฺส หิตํฯ น, มหาราช, ตโตนิทานํ ภควโต โกจิ อนุปฺปโนฺน โรโค อุปฺปโนฺน, อปิ จ, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปโนฺน โรโค ภิโยฺย อภิวฑฺฒิฯ

    ‘‘So pana piṇḍapāto bahuguṇo anekānisaṃso. Devatā, mahārāja, haṭṭhā pasannamānasā ‘ayaṃ bhagavato pacchimo piṇḍapāto’ti dibbaṃ ojaṃ sūkaramaddave ākiriṃsu. Tañca pana sammāpākaṃ lahupākaṃ 10 manuññaṃ bahurasaṃ jaṭṭharaggitejassa hitaṃ. Na, mahārāja, tatonidānaṃ bhagavato koci anuppanno rogo uppanno, api ca, mahārāja, bhagavato pakatidubbale sarīre khīṇe āyusaṅkhāre uppanno rogo bhiyyo abhivaḍḍhi.

    ‘‘ยถา, มหาราช, ปกติยา ชลมาโน อคฺคิ อญฺญสฺมิํ อุปาทาเน ทิเนฺน ภิโยฺย ปชฺชลติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปโนฺน โรโค ภิโยฺย อภิวฑฺฒิฯ

    ‘‘Yathā, mahārāja, pakatiyā jalamāno aggi aññasmiṃ upādāne dinne bhiyyo pajjalati, evameva kho, mahārāja, bhagavato pakatidubbale sarīre khīṇe āyusaṅkhāre uppanno rogo bhiyyo abhivaḍḍhi.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โสโต ปกติยา สนฺทมาโน อภิวุเฎฺฐ มหาเมเฆ ภิโยฺย มโหโฆ อุทกวาหโก โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปโนฺน โรโค ภิโยฺย อภิวฑฺฒิฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, soto pakatiyā sandamāno abhivuṭṭhe mahāmeghe bhiyyo mahogho udakavāhako hoti, evameva kho, mahārāja, bhagavato pakatidubbale sarīre khīṇe āyusaṅkhāre uppanno rogo bhiyyo abhivaḍḍhi.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปกติยา อภิสนฺนธาตุ กุจฺฉิ อญฺญสฺมิํ อโชฺฌหริเต ภิโยฺย อายเมยฺย 11, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต ปกติทุพฺพเล สรีเร ขีเณ อายุสงฺขาเร อุปฺปโนฺน โรโค ภิโยฺย อภิวฑฺฒิ, นตฺถิ, มหาราช, ตสฺมิํ ปิณฺฑปาเต โทโส, น จ ตสฺส สกฺกา โทสํ อาโรเปตุ’’นฺติฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, pakatiyā abhisannadhātu kucchi aññasmiṃ ajjhoharite bhiyyo āyameyya 12, evameva kho, mahārāja, bhagavato pakatidubbale sarīre khīṇe āyusaṅkhāre uppanno rogo bhiyyo abhivaḍḍhi, natthi, mahārāja, tasmiṃ piṇḍapāte doso, na ca tassa sakkā dosaṃ āropetu’’nti.

    ‘‘ภเนฺต นาคเสน, เกน การเณน เต เทฺว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ? ‘‘ธมฺมานุมชฺชนสมาปตฺติวเสน, มหาราช, เต เทฺว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติฯ

    ‘‘Bhante nāgasena, kena kāraṇena te dve piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’ti? ‘‘Dhammānumajjanasamāpattivasena, mahārāja, te dve piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’ti.

    ‘‘ภเนฺต นาคเสน, กตเมสํ ธมฺมานํ อนุมชฺชนสมาปตฺติวเสน เต เทฺว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติ? ‘‘นวนฺนํ, มหาราช, อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนํ อนุโลมปฺปฎิโลมสมาปชฺชนวเสน เต เทฺว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา อติวิย อเญฺญหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จา’’ติฯ

    ‘‘Bhante nāgasena, katamesaṃ dhammānaṃ anumajjanasamāpattivasena te dve piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’ti? ‘‘Navannaṃ, mahārāja, anupubbavihārasamāpattīnaṃ anulomappaṭilomasamāpajjanavasena te dve piṇḍapātā samasamaphalā samavipākā ativiya aññehi piṇḍapātehi mahapphalatarā ca mahānisaṃsatarā cā’’ti.

    ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ทฺวีสุ เยว ทิวเสสุ อธิมตฺตํ ตถาคโต นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย อนุโลมปฺปฎิโลมํ สมาปชฺชี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, ภเนฺต นาคเสน, อพฺภุตํ ภเนฺต นาคเสนฯ ยํ อิมสฺมิํ พุทฺธเกฺขเตฺต อสทิสํ ปรมทานํ, ตมฺปิ อิเมหิ ทฺวีหิ ปิณฺฑปาเตหิ อคณิตํฯ อจฺฉริยํ, ภเนฺต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภเนฺต นาคเสนฯ ยาว มหนฺตา นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย, ยตฺร หิ นาม นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติวเสน ทานํ มหปฺผลตรํ โหติ มหานิสํสตรญฺจฯ สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ

    ‘‘Bhante nāgasena, dvīsu yeva divasesu adhimattaṃ tathāgato navānupubbavihārasamāpattiyo anulomappaṭilomaṃ samāpajjī’’ti? ‘‘Āma, mahārājā’’ti. ‘‘Acchariyaṃ, bhante nāgasena, abbhutaṃ bhante nāgasena. Yaṃ imasmiṃ buddhakkhette asadisaṃ paramadānaṃ, tampi imehi dvīhi piṇḍapātehi agaṇitaṃ. Acchariyaṃ, bhante nāgasena, abbhutaṃ, bhante nāgasena. Yāva mahantā navānupubbavihārasamāpattiyo, yatra hi nāma navānupubbavihārasamāpattivasena dānaṃ mahapphalataraṃ hoti mahānisaṃsatarañca. Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.

    ปิณฺฑปาตมหปฺผลปโญฺห ฉโฎฺฐฯ

    Piṇḍapātamahapphalapañho chaṭṭho.







    Footnotes:
    1. ที. นิ. ๒.๑๙๐
    2. dī. ni. 2.190
    3. ภุญฺชิตฺวา (สี.)
    4. ภุญฺชิตฺวา (สี.)
    5. bhuñjitvā (sī.)
    6. bhuñjitvā (sī.)
    7. ปรินิพฺพายิ (สี.)
    8. parinibbāyi (sī.)
    9. พหุปากํ (สี.)
    10. bahupākaṃ (sī.)
    11. อามเยยฺย (สี.)
    12. āmayeyya (sī.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact