Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๙. ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนา
9. Piṇḍapātapārisuddhisuttavaṇṇanā
๔๓๘. ธมฺมเสนาปติโน ปฎิสลฺลียนสฺส อธิเปฺปตตฺตา, อุปริ จ ปาฬิยํ, ‘‘สุญฺญตาวิหาเรน โข อหํ, ภเนฺต, เอตรหิ พหุลํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๘) วุตฺตตฺตา ‘‘ปฎิสลฺลานาติ ผลสมาปตฺติโต’’ติ อาหฯ
438. Dhammasenāpatino paṭisallīyanassa adhippetattā, upari ca pāḷiyaṃ, ‘‘suññatāvihārena kho ahaṃ, bhante, etarahi bahulaṃ viharāmī’’ti (ma. ni. 3.438) vuttattā ‘‘paṭisallānāti phalasamāpattito’’ti āha.
วิปฺปสนฺนานีติ วิเสสโต ปสนฺนานิฯ โอกาสวเสนาติ อินฺทฺริยานํ ปติฎฺฐิโตกาสวเสนฯ นนุ ตานิ อินฺทฺริยานิ สภาวโต วิปฺปสนฺนานิ โหนฺตีติ? สจฺจํ โหนฺติฯ น หิทํ ตาทิสํ ปสนฺนตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อิทํ ปน สนฺตปณีตสมาปตฺติสมุฎฺฐิตานํ ปจฺจุปฎฺฐิตานํ จิตฺตชรูปานํ วเสน เสสติสนฺตติรูปานํ เสฎฺฐตรํ ปณีตภาวาปตฺติํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ผลสมาปตฺติโตติ สุญฺญตานุปสฺสนาวเสน สมาปนฺนผลสมาปตฺติโตฯ มหนฺตานํ พุทฺธาทีนํ ปุริสานํ วิหาโร มหาปุริสวิหาโรฯ เตนาห – ‘‘พุทฺธ…เป.… วิหาโร’’ติฯ วิหารโต ปฎฺฐายาติ ปริกฺขิเตฺต จ วิหาเร ปริเกฺขปโต ปฎฺฐาย, อปริกฺขิเตฺต จ ปริเกฺขปารหฎฺฐานโต ปฎฺฐายฯ เกจิ ปน ‘‘วิหารพฺภนฺตรโต ปฎฺฐายา’’ติ วทนฺติฯ ยาว คามสฺส อินฺทขีลาติ คามสฺส อพฺภนฺตรินฺทขีโลฯ เคหปฎิปาฎิยาจริตฺวาติ ปิณฺฑาย จริตฺวาฯ ยาว นครทฺวาเรน นิกฺขมนาติ นครทฺวาเรน ยาว นิกฺขมนปเทสาฯ ยาว วิหาราติ ยาว วิหารพฺภนฺตราฯ ปฎิกฺกนฺตมโคฺคติ นิวตฺตนมโคฺคฯ อารมฺมเณ ปฎิหญฺญนากาเรน ปวตฺตมานมฺปิ ปฎิฆสมฺปยุตฺตํ จิเตฺต ปฎิหนนฺตํ วิย ปวตฺตตีติ อาห – ‘‘จิเตฺต ปฎิหญฺญนกิเลสชาต’’นฺติฯ ทิวสญฺจ รตฺติญฺจ อนุสิกฺขเนฺตนาติ เอตํเยว ราคาทิปฺปหายินิํ สมฺมาปฎิปตฺติํ ทิวา จ รตฺติญฺจ อนุ อนุ สิกฺขเนฺตน อุปรูปริ วเฑฺฒเนฺตนฯ
Vippasannānīti visesato pasannāni. Okāsavasenāti indriyānaṃ patiṭṭhitokāsavasena. Nanu tāni indriyāni sabhāvato vippasannāni hontīti? Saccaṃ honti. Na hidaṃ tādisaṃ pasannataṃ sandhāya vuttaṃ, idaṃ pana santapaṇītasamāpattisamuṭṭhitānaṃ paccupaṭṭhitānaṃ cittajarūpānaṃ vasena sesatisantatirūpānaṃ seṭṭhataraṃ paṇītabhāvāpattiṃ sandhāya vuttaṃ. Phalasamāpattitoti suññatānupassanāvasena samāpannaphalasamāpattito. Mahantānaṃ buddhādīnaṃ purisānaṃ vihāro mahāpurisavihāro. Tenāha – ‘‘buddha…pe… vihāro’’ti. Vihārato paṭṭhāyāti parikkhitte ca vihāre parikkhepato paṭṭhāya, aparikkhitte ca parikkhepārahaṭṭhānato paṭṭhāya. Keci pana ‘‘vihārabbhantarato paṭṭhāyā’’ti vadanti. Yāva gāmassa indakhīlāti gāmassa abbhantarindakhīlo. Gehapaṭipāṭiyācaritvāti piṇḍāya caritvā. Yāva nagaradvārena nikkhamanāti nagaradvārena yāva nikkhamanapadesā. Yāva vihārāti yāva vihārabbhantarā. Paṭikkantamaggoti nivattanamaggo. Ārammaṇe paṭihaññanākārena pavattamānampi paṭighasampayuttaṃ citte paṭihanantaṃ viya pavattatīti āha – ‘‘citte paṭihaññanakilesajāta’’nti. Divasañca rattiñca anusikkhantenāti etaṃyeva rāgādippahāyiniṃ sammāpaṭipattiṃ divā ca rattiñca anu anu sikkhantena uparūpari vaḍḍhentena.
๔๔๐. ปหีนา นุ โข เม ปญฺจ กามคุณาติ เอตฺถ กามคุณปฺปหานํ นาม ตปฺปฎิพทฺธฉนฺทราคปฺปหานํฯ ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘ติฎฺฐนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก, อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺท’’นฺติฯ เอกภิกฺขุสฺส ปจฺจเวกฺขณา นานาติ เอกเสฺสว ภิกฺขุโน, ‘‘ปหีนา นุ โข เม ปญฺจ กามคุณา’’ติอาทินา ปาฬิยํ อาคตา นานาปจฺจเวกฺขณา โหนฺติฯ นานาภิกฺขูนนฺติ วิสุํ วิสุํ อเนเกสํ ภิกฺขูนํฯ ปจฺจเวกฺขณา นานาติ วุตฺตนานาปจฺจเวกฺขณาฯ อิทานิ ตเมว สเงฺขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ, ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ‘‘ปจฺจเวกฺขตี’’ติ วุตฺตํ, กถํ ปน ปจฺจเวกฺขตีติ อาห ‘‘ปหีนา นุ โข’’ติอาทิฯ วีริยํ ปคฺคยฺหาติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานวีริยํ อารภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺฒิตฺวาฯ มคฺคานนฺตรํ อนาคามิผลํ ปตฺวาติ วจนเสโสฯ ผลานนฺตรํ มคฺคนฺติ ตสฺมิํ อนาคามิมเคฺค ฐิโต ผลสมาปตฺติโต วุฎฺฐาย อคฺคมคฺคตฺถาย วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ตสฺมิํเยว อาสเน น จิเรเนว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตมคฺคํ คณฺหโนฺต นิโรธธมฺมานุปฺปตฺติยา วิปสฺสนาปริวาสาภาวโต ผลานนฺตรํ มคฺคปฺปโตฺต นาม โหตีติ กตฺวาฯ
440.Pahīnā nu kho me pañca kāmaguṇāti ettha kāmaguṇappahānaṃ nāma tappaṭibaddhachandarāgappahānaṃ. Tathā hi vuttaṃ – ‘‘tiṭṭhanti citrāni tatheva loke, athettha dhīrā vinayanti chanda’’nti. Ekabhikkhussa paccavekkhaṇā nānāti ekasseva bhikkhuno, ‘‘pahīnā nu kho me pañca kāmaguṇā’’tiādinā pāḷiyaṃ āgatā nānāpaccavekkhaṇā honti. Nānābhikkhūnanti visuṃ visuṃ anekesaṃ bhikkhūnaṃ. Paccavekkhaṇā nānāti vuttanānāpaccavekkhaṇā. Idāni tameva saṅkhepato vuttamatthaṃ vitthārato dassetuṃ, ‘‘katha’’ntiādi vuttaṃ. Tattha ‘‘paccavekkhatī’’ti vuttaṃ, kathaṃ pana paccavekkhatīti āha ‘‘pahīnā nu kho’’tiādi. Vīriyaṃ paggayhāti catubbidhasammappadhānavīriyaṃ ārabhitvā vipassanaṃ vaḍḍhitvā. Maggānantaraṃ anāgāmiphalaṃ patvāti vacanaseso. Phalānantaraṃ magganti tasmiṃ anāgāmimagge ṭhito phalasamāpattito vuṭṭhāya aggamaggatthāya vipassanaṃ ārabhitvā tasmiṃyeva āsane na cireneva vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattamaggaṃ gaṇhanto nirodhadhammānuppattiyā vipassanāparivāsābhāvato phalānantaraṃ maggappatto nāma hotīti katvā.
ตโต วุฎฺฐายาติ มคฺคานนฺตรผลโต วุฎฺฐายฯ มคฺคานนฺตรโต หิ วุฎฺฐิโต มคฺคโต วุฎฺฐิโต วิย โหตีติ ตถา วุตฺตํฯ ‘‘ผลานนฺตรํ มคฺค’’นฺติ เอตฺถ ผลํ อนนฺตรํ เอตสฺสาติ ผลานนฺตรํฯ ‘‘ผลานนฺตรํ มคฺค’’นฺติ ปททฺวเยนปิ อนาคามิมคฺคผลานิ เจว วทตีติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ นีวรณาทีสุปิ เอเสว นโยติ เอตฺถ, ‘‘ปหีนา นุ โข เม ปญฺจ นีวรณา’’ติอาทินา โยชนา เวทิตพฺพาฯ เอเตสนฺติ เอตฺถ เอเตสํ นีวรณปญฺจุปาทานกฺขนฺธสติปฎฺฐานาทีนํฯ ปหานาทีนีติ ปหานปริญฺญาภาวนาสจฺฉิกิริยาฯ นานาปจฺจเวกฺขณา โหตีติ ตา ปจฺจเวกฺขณา นานาติ อธิปฺปาโยฯ เอตาสุ ปน ปจฺจเวกฺขณาสูติ เอตาสุ กามคุณปจฺจเวกฺขณาทีสุ ทฺวาทสสุ ปจฺจเวกฺขณาสุฯ เอกํ ปจฺจเวกฺขณํ ปจฺจเวกฺขติ ทฺวาทสสุ นเยสุ เอเกเนว กิจฺจสิทฺธิโตฯ อโญฺญ ภิกฺขุฯ เอกนฺติ อญฺญํ ปจฺจเวกฺขติฯ อญฺญโตฺถ หิ อยํ เอกสโทฺท ‘‘อิเตฺถเก’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๑, ๒๗) วิยาติฯ นานาภิกฺขูนํ ปน เอกา ปจฺจเวกฺขณา, นานาภิกฺขูนํ นานาปจฺจเวกฺขณาติ เอวํ จตุกฺกปจฺจเวกฺขณมฺปิ เอตฺถ สมฺภวติฯ อิมสฺส ปน ทฺวยสฺส วเสน อภิสมโย นตฺถีติ ตทุภยํ อฎฺฐกถายํ น อุทฺธฎํฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Tato vuṭṭhāyāti maggānantaraphalato vuṭṭhāya. Maggānantarato hi vuṭṭhito maggato vuṭṭhito viya hotīti tathā vuttaṃ. ‘‘Phalānantaraṃ magga’’nti ettha phalaṃ anantaraṃ etassāti phalānantaraṃ. ‘‘Phalānantaraṃ magga’’nti padadvayenapi anāgāmimaggaphalāni ceva vadatīti evamettha attho daṭṭhabbo. Nīvaraṇādīsupi eseva nayoti ettha, ‘‘pahīnā nu kho me pañca nīvaraṇā’’tiādinā yojanā veditabbā. Etesanti ettha etesaṃ nīvaraṇapañcupādānakkhandhasatipaṭṭhānādīnaṃ. Pahānādīnīti pahānapariññābhāvanāsacchikiriyā. Nānāpaccavekkhaṇā hotīti tā paccavekkhaṇā nānāti adhippāyo. Etāsu pana paccavekkhaṇāsūti etāsu kāmaguṇapaccavekkhaṇādīsu dvādasasu paccavekkhaṇāsu. Ekaṃ paccavekkhaṇaṃ paccavekkhati dvādasasu nayesu ekeneva kiccasiddhito. Añño bhikkhu. Ekanti aññaṃ paccavekkhati. Aññattho hi ayaṃ ekasaddo ‘‘ittheke’’tiādīsu (ma. ni. 3.21, 27) viyāti. Nānābhikkhūnaṃ pana ekā paccavekkhaṇā, nānābhikkhūnaṃ nānāpaccavekkhaṇāti evaṃ catukkapaccavekkhaṇampi ettha sambhavati. Imassa pana dvayassa vasena abhisamayo natthīti tadubhayaṃ aṭṭhakathāyaṃ na uddhaṭaṃ. Sesaṃ suviññeyyameva.
ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Piṇḍapātapārisuddhisuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๙. ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตํ • 9. Piṇḍapātapārisuddhisuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. ปิณฺฑปาตปาริสุทฺธิสุตฺตวณฺณนา • 9. Piṇḍapātapārisuddhisuttavaṇṇanā