Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā |
๓-๘. ปิโณฺฑลภารทฺวาชเตฺถรอปทานวณฺณนา
3-8. Piṇḍolabhāradvājattheraapadānavaṇṇanā
ปทุมุตฺตโร นาม ชิโนติอาทิกํ อายสฺมโต ปิโณฺฑลภารทฺวาชสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล สีหโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ปพฺพตปาเท คุหายํ วิหาสิฯ ภควา ตสฺส อนุคฺคหํ กาตุํ โคจราย ปกฺกนฺตกาเล ตสฺส สยนคุหํ ปวิสิตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิฯ สีโห โคจรํ คเหตฺวา นิวโตฺต คุหทฺวาเร ฐตฺวา ภควนฺตํ ทิสฺวา หฎฺฐตุโฎฺฐ ชลชถลชปุเปฺผหิ ปูชํ กตฺวา จิตฺตํ ปสาเทโนฺต ภควโต อารกฺขณตฺถาย อเญฺญ วาฬมิเค อปเนตุํ ตีสุ เวลาสุ สีหนาทํ นทโนฺต พุทฺธคตาย สติยา อฎฺฐาสิฯ ยถา ปฐมทิวเส, เอวํ สตฺตาหํ ปูเชสิฯ ภควา ‘‘สตฺตาหจฺจเยน นิโรธา วุฎฺฐหิตฺวา วฎฺฎิสฺสติ อิมสฺส เอตฺตโก อุปนิสฺสโย’’ติ ตสฺส ปสฺสนฺตเสฺสว อากาสํ ปกฺขนฺทิตฺวา วิหารเมว คโตฯ
Padumuttaronāma jinotiādikaṃ āyasmato piṇḍolabhāradvājassa apadānaṃ. Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayāni puññāni upacinanto padumuttarassa bhagavato kāle sīhayoniyaṃ nibbattitvā pabbatapāde guhāyaṃ vihāsi. Bhagavā tassa anuggahaṃ kātuṃ gocarāya pakkantakāle tassa sayanaguhaṃ pavisitvā nirodhaṃ samāpajjitvā nisīdi. Sīho gocaraṃ gahetvā nivatto guhadvāre ṭhatvā bhagavantaṃ disvā haṭṭhatuṭṭho jalajathalajapupphehi pūjaṃ katvā cittaṃ pasādento bhagavato ārakkhaṇatthāya aññe vāḷamige apanetuṃ tīsu velāsu sīhanādaṃ nadanto buddhagatāya satiyā aṭṭhāsi. Yathā paṭhamadivase, evaṃ sattāhaṃ pūjesi. Bhagavā ‘‘sattāhaccayena nirodhā vuṭṭhahitvā vaṭṭissati imassa ettako upanissayo’’ti tassa passantasseva ākāsaṃ pakkhanditvā vihārameva gato.
สีโห พุทฺธวิโยคทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสโกฺกโนฺต กาลํ กตฺวา หํสวตีนคเร มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต นครวาสีหิ สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสโนฺน สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ปวเตฺตตฺวา ยาวชีวํ ปุญฺญานิ กตฺวา อปราปรํ เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อมฺหากํ ภควโต กาเล โกสมฺพิยํ รโญฺญ อุเทนสฺส ปุโรหิตสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ภารทฺวาโชติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโต ตโย เวเท อุคฺคเหตฺวา ปญฺจ มาณวกสตานิ มเนฺต วาเจโนฺต มหคฺฆสภาเวน อนนุรูปาจารตฺตา เตหิ ปริจฺจโตฺต ราชคหํ คนฺตฺวา ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ลาภสกฺการํ ทิสฺวา สาสเน ปพฺพชิตฺวา โภชเน อมตฺตญฺญู หุตฺวา วิหรติฯ สตฺถารา อุปาเยน มตฺตญฺญุตาย ปติฎฺฐาเปโนฺต วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา นจิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ ฉฬภิโญฺญ ปน หุตฺวา ภควโต สมฺมุขา ‘‘ยํ สาวเกหิ ปตฺตพฺพํ, ตํ มยา อนุปฺปตฺต’’นฺติ, ภิกฺขุสเงฺฆ จ ‘‘ยสฺส มเคฺค วา ผเล วา กงฺขา อตฺถิ, โส มํ ปุจฺฉตู’’ติ สีหนาทํ นทิฯ เตน ตํ ภควา – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สีหนาทิกานํ ยทิทํ ปิโณฺฑลภารทฺวาโช’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๕) เอตทเคฺค ฐเปสิฯ
Sīho buddhaviyogadukkhaṃ adhivāsetuṃ asakkonto kālaṃ katvā haṃsavatīnagare mahābhogakule nibbattitvā vayappatto nagaravāsīhi saddhiṃ vihāraṃ gantvā satthu dhammadesanaṃ sutvā pasanno sattāhaṃ buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa mahādānaṃ pavattetvā yāvajīvaṃ puññāni katvā aparāparaṃ devamanussesu saṃsaranto amhākaṃ bhagavato kāle kosambiyaṃ rañño udenassa purohitassa putto hutvā nibbatti. Bhāradvājotissa nāmaṃ ahosi. So vayappato tayo vede uggahetvā pañca māṇavakasatāni mante vācento mahagghasabhāvena ananurūpācārattā tehi pariccatto rājagahaṃ gantvā bhagavato bhikkhusaṅghassa ca lābhasakkāraṃ disvā sāsane pabbajitvā bhojane amattaññū hutvā viharati. Satthārā upāyena mattaññutāya patiṭṭhāpento vipassanaṃ paṭṭhapetvā nacirasseva chaḷabhiñño ahosi. Chaḷabhiñño pana hutvā bhagavato sammukhā ‘‘yaṃ sāvakehi pattabbaṃ, taṃ mayā anuppatta’’nti, bhikkhusaṅghe ca ‘‘yassa magge vā phale vā kaṅkhā atthi, so maṃ pucchatū’’ti sīhanādaṃ nadi. Tena taṃ bhagavā – ‘‘etadaggaṃ, bhikkhave, mama sāvakānaṃ bhikkhūnaṃ sīhanādikānaṃ yadidaṃ piṇḍolabhāradvājo’’ti (a. ni. 1.188, 195) etadagge ṭhapesi.
๖๑๓. เอวํ เอตทคฺคํ ฐานํ ปตฺวา ปุเพฺพ กตปุญฺญสมฺภารํ สริตฺวา โสมนสฺสวเสน อตฺตโน ปุญฺญกมฺมาปทานํ วิภาเวโนฺต ปทุมุตฺตโรติอาทิมาหฯ ตสฺสโตฺถ เหฎฺฐา วุโตฺตวฯ ปุรโต หิมวนฺตสฺสาติ หิมาลยปพฺพตโต ปุพฺพทิสาภาเคติ อโตฺถฯ จิตฺตกูเฎ วสี ตทาติ ยทา อหํ สีโห มิคราชา หุตฺวา หิมวนฺตปพฺพตสมีเป วสามิ, ตทา ปทุมุตฺตโร นาม สตฺถา อเนเกหิ จ โอสเธหิ, อเนเกหิ จ รตเนหิ จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตกูเฎ จิตฺตปพฺพตสิขเร วสีติ สมฺพโนฺธฯ
613. Evaṃ etadaggaṃ ṭhānaṃ patvā pubbe katapuññasambhāraṃ saritvā somanassavasena attano puññakammāpadānaṃ vibhāvento padumuttarotiādimāha. Tassattho heṭṭhā vuttova. Purato himavantassāti himālayapabbatato pubbadisābhāgeti attho. Cittakūṭevasī tadāti yadā ahaṃ sīho migarājā hutvā himavantapabbatasamīpe vasāmi, tadā padumuttaro nāma satthā anekehi ca osadhehi, anekehi ca ratanehi cittavicittatāya cittakūṭe cittapabbatasikhare vasīti sambandho.
๖๑๔. อภีตรูโป ตตฺถาสินฺติ อภีตสภาโว นิพฺภยสภาโว มิคราชา ตตฺถ อาสิํ อโหสินฺติ อโตฺถฯ จตุกฺกโมติ จตูหิ ทิสาหิ กโม คนฺตุํ สมโตฺถฯ ยสฺส สทฺทํ สุณิตฺวานาติ ยสฺส มิครโญฺญ สีหนาทํ สุตฺวา พหุชฺชนา พหุสตฺตา วิกฺขมฺภนฺติ วิเสเสน ขมฺภนฺติ ภายนฺติฯ
614.Abhītarūpo tatthāsinti abhītasabhāvo nibbhayasabhāvo migarājā tattha āsiṃ ahosinti attho. Catukkamoti catūhi disāhi kamo gantuṃ samattho. Yassa saddaṃ suṇitvānāti yassa migarañño sīhanādaṃ sutvā bahujjanā bahusattā vikkhambhanti visesena khambhanti bhāyanti.
๖๑๕. สุผุลฺลํ ปทุมํ คยฺหาติ ภควติ ปสาเทน สุปุปฺผิตปทุมปุปฺผํ ฑํสิตฺวาฯ นราสภํ นรานํ อาสภํ อุตฺตมํ เสฎฺฐํ สมฺพุทฺธํ อุปคจฺฉิํ, สมีปํ อคมินฺติ อโตฺถฯ วุฎฺฐิตสฺส สมาธิมฺหาติ นิโรธสมาปตฺติโต วุฎฺฐิตสฺส พุทฺธสฺส ตํ ปุปฺผํ อภิโรปยิํ ปูเชสินฺติ อโตฺถฯ
615.Suphullaṃ padumaṃ gayhāti bhagavati pasādena supupphitapadumapupphaṃ ḍaṃsitvā. Narāsabhaṃ narānaṃ āsabhaṃ uttamaṃ seṭṭhaṃ sambuddhaṃ upagacchiṃ, samīpaṃ agaminti attho. Vuṭṭhitassa samādhimhāti nirodhasamāpattito vuṭṭhitassa buddhassa taṃ pupphaṃ abhiropayiṃ pūjesinti attho.
๖๑๖. จตุทฺทิสํ นมสฺสิตฺวาติ จตูสุ ทิสาสุ นมสฺสิตฺวา สกํ จิตฺตํ อตฺตโน จิตฺตํ ปสาเทตฺวา อาทเรน ปติฎฺฐเปตฺวา สีหนาทํ อภีตนาทํ อนทิํ โฆเสสินฺติ อโตฺถฯ
616.Catuddisaṃ namassitvāti catūsu disāsu namassitvā sakaṃ cittaṃ attano cittaṃ pasādetvā ādarena patiṭṭhapetvā sīhanādaṃ abhītanādaṃ anadiṃ ghosesinti attho.
๖๑๗. ตโต พุเทฺธน ทินฺนพฺยากรณํ ปกาเสโนฺต ปทุมุตฺตโรติอาทิมาหฯ ตํ อุตฺตานตฺถเมวฯ
617. Tato buddhena dinnabyākaraṇaṃ pakāsento padumuttarotiādimāha. Taṃ uttānatthameva.
๖๑๘. วทตํ เสโฎฺฐติ ‘‘มยํ พุทฺธา, มยํ พุทฺธา’’ติ วทนฺตานํ อญฺญติตฺถิยานํ เสโฎฺฐ อุตฺตโม พุโทฺธ อาคโตติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺส อาคตสฺส ภควโต ตํ ธมฺมํ โสสฺสาม สุณิสฺสามาติ อโตฺถฯ
618.Vadataṃ seṭṭhoti ‘‘mayaṃ buddhā, mayaṃ buddhā’’ti vadantānaṃ aññatitthiyānaṃ seṭṭho uttamo buddho āgatoti sambandho. Tassa āgatassa bhagavato taṃ dhammaṃ sossāma suṇissāmāti attho.
๖๑๙. เตสํ หาสปเรตานนฺติ หาเสหิ โสมนเสฺสหิ ปเรตานํ อภิภูตานํ สมนฺนาคตานํ เตสํ เทวมนุสฺสานํฯ โลกนายโกติ โลกสฺส นายโก สคฺคโมกฺขสมฺปาปโก มม สทฺทํ มยฺหํ สีหนาทํ ปกิเตฺตสิ ปกาเสสิ กเถสิ, ทีฆทสฺสี อนาคตกาลทสฺสี มหามุนิ มุนีนมนฺตเร มหโนฺต มุนิฯ เสสคาถา สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
619.Tesaṃhāsaparetānanti hāsehi somanassehi paretānaṃ abhibhūtānaṃ samannāgatānaṃ tesaṃ devamanussānaṃ. Lokanāyakoti lokassa nāyako saggamokkhasampāpako mama saddaṃ mayhaṃ sīhanādaṃ pakittesi pakāsesi kathesi, dīghadassī anāgatakāladassī mahāmuni munīnamantare mahanto muni. Sesagāthā suviññeyyameva.
๖๒๒. นาเมน ปทุโม นาม จกฺกวตฺตี หุตฺวา จตุสฎฺฐิยา ชาติยา อิสฺสริยํ อิสฺสรภาวํ รชฺชํ การยิสฺสตีติ อโตฺถฯ
622. Nāmena padumo nāma cakkavattī hutvā catusaṭṭhiyā jātiyā issariyaṃ issarabhāvaṃ rajjaṃ kārayissatīti attho.
๖๒๓. กปฺปสตสหสฺสมฺหีติ สามฺยเตฺถ ภุมฺมวจนํ, กปฺปสตสหสฺสานํ ปริโยสาเนติ อโตฺถฯ
623.Kappasatasahassamhīti sāmyatthe bhummavacanaṃ, kappasatasahassānaṃ pariyosāneti attho.
๖๒๔. ปกาสิเต ปาวจเนติ เตน โคตเมน ภควตา ปิฎกตฺตเย ปกาสิเต เทสิเตติ อโตฺถฯ พฺรหฺมพนฺธุ ภวิสฺสตีติ ตทา โคตมสฺส ภควโต กาเล อยํ สีโห มิคราชา พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติสฺสตีติ อโตฺถฯ พฺรหฺมญฺญา อภินิกฺขมฺมาติ พฺราหฺมณกุลโต นิกฺขมิตฺวา ตสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิสฺสตีติ สมฺพโนฺธฯ
624.Pakāsite pāvacaneti tena gotamena bhagavatā piṭakattaye pakāsite desiteti attho. Brahmabandhu bhavissatīti tadā gotamassa bhagavato kāle ayaṃ sīho migarājā brāhmaṇakule nibbattissatīti attho. Brahmaññā abhinikkhammāti brāhmaṇakulato nikkhamitvā tassa bhagavato sāsane pabbajissatīti sambandho.
๖๒๕. ปธานปหิตโตฺตติ วีริยกรณตฺถํ เปสิตจิโตฺตฯ อุปธิสงฺขาตานํ กิเลสานํ อภาเวน นิรุปธิฯ กิเลสทรถานํ อภาเวน อุปสโนฺตฯ สพฺพาสเว สกลาสเว ปริญฺญาย ปหาย อนาสโว นิกฺกิเลโส นิพฺพายิสฺสติ ขนฺธปรินิพฺพาเนน นิพฺพุโต ภวิสฺสตีติ อโตฺถฯ
625.Padhānapahitattoti vīriyakaraṇatthaṃ pesitacitto. Upadhisaṅkhātānaṃ kilesānaṃ abhāvena nirupadhi. Kilesadarathānaṃ abhāvena upasanto. Sabbāsave sakalāsave pariññāya pahāya anāsavo nikkileso nibbāyissati khandhaparinibbānena nibbuto bhavissatīti attho.
๖๒๖. วิชเน ปนฺตเสยฺยมฺหีติ ชนสมฺพาธรหิเต ทูรารญฺญเสนาสเนติ อโตฺถฯ วาฬมิคสมากุเลติ กาฬสีหาทีหิ จณฺฑมิคสเงฺคหิ อากุเล สํกิเณฺณติ อโตฺถฯ เสสํ วุตฺตตฺถเมวาติฯ
626.Vijane pantaseyyamhīti janasambādharahite dūrāraññasenāsaneti attho. Vāḷamigasamākuleti kāḷasīhādīhi caṇḍamigasaṅgehi ākule saṃkiṇṇeti attho. Sesaṃ vuttatthamevāti.
ปิโณฺฑลภารทฺวาชเตฺถรอปทานวณฺณนา สมตฺตาฯ
Piṇḍolabhāradvājattheraapadānavaṇṇanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi / ๓-๘. ปิโณฺฑลภารทฺวาชเตฺถรอปทานํ • 3-8. Piṇḍolabhāradvājattheraapadānaṃ