Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๔. ปิยสุตฺตํ
4. Piyasuttaṃ
๑๑๕. สาวตฺถินิทานํ ฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘เกสํ นุ โข ปิโย อตฺตา, เกสํ อปฺปิโย อตฺตา’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภเนฺต, เอตทโหสิ – ‘เย จ โข เกจิ กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ; เตสํ อปฺปิโย อตฺตา’ฯ กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยญฺหิ อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตาฯ เย จ โข เกจิ กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ; เตสํ ปิโย อตฺตาฯ กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ; อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยญฺหิ ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตา’’ติฯ
115. Sāvatthinidānaṃ . Ekamantaṃ nisinno kho rājā pasenadi kosalo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idha mayhaṃ, bhante, rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘kesaṃ nu kho piyo attā, kesaṃ appiyo attā’ti? Tassa mayhaṃ, bhante, etadahosi – ‘ye ca kho keci kāyena duccaritaṃ caranti, vācāya duccaritaṃ caranti, manasā duccaritaṃ caranti; tesaṃ appiyo attā’. Kiñcāpi te evaṃ vadeyyuṃ – ‘piyo no attā’ti, atha kho tesaṃ appiyo attā. Taṃ kissa hetu? Yañhi appiyo appiyassa kareyya, taṃ te attanāva attano karonti; tasmā tesaṃ appiyo attā. Ye ca kho keci kāyena sucaritaṃ caranti, vācāya sucaritaṃ caranti, manasā sucaritaṃ caranti; tesaṃ piyo attā. Kiñcāpi te evaṃ vadeyyuṃ – ‘appiyo no attā’ti; atha kho tesaṃ piyo attā. Taṃ kissa hetu? Yañhi piyo piyassa kareyya, taṃ te attanāva attano karonti; tasmā tesaṃ piyo attā’’ti.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! เย หิ เกจิ, มหาราช, กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ; เตสํ อปฺปิโย อตฺตาฯ กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยญฺหิ, มหาราช, อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตาฯ เย จ โข เกจิ, มหาราช , กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ; เตสํ ปิโย อตฺตาฯ กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ; อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยญฺหิ มหาราช, ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ; ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตา’’ติฯ อิทมโวจ…เป.…
‘‘Evametaṃ, mahārāja, evametaṃ, mahārāja! Ye hi keci, mahārāja, kāyena duccaritaṃ caranti, vācāya duccaritaṃ caranti, manasā duccaritaṃ caranti; tesaṃ appiyo attā. Kiñcāpi te evaṃ vadeyyuṃ – ‘piyo no attā’ti, atha kho tesaṃ appiyo attā. Taṃ kissa hetu? Yañhi, mahārāja, appiyo appiyassa kareyya, taṃ te attanāva attano karonti; tasmā tesaṃ appiyo attā. Ye ca kho keci, mahārāja , kāyena sucaritaṃ caranti, vācāya sucaritaṃ caranti, manasā sucaritaṃ caranti; tesaṃ piyo attā. Kiñcāpi te evaṃ vadeyyuṃ – ‘appiyo no attā’ti; atha kho tesaṃ piyo attā. Taṃ kissa hetu? Yañhi mahārāja, piyo piyassa kareyya, taṃ te attanāva attano karonti; tasmā tesaṃ piyo attā’’ti. Idamavoca…pe…
‘‘อตฺตานเญฺจ ปิยํ ชญฺญา, น นํ ปาเปน สํยุเช;
‘‘Attānañce piyaṃ jaññā, na naṃ pāpena saṃyuje;
น หิ ตํ สุลภํ โหติ, สุขํ ทุกฺกฎการินาฯ
Na hi taṃ sulabhaṃ hoti, sukhaṃ dukkaṭakārinā.
‘‘อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, ชหโต มานุสํ ภวํ;
‘‘Antakenādhipannassa, jahato mānusaṃ bhavaṃ;
กิญฺหิ ตสฺส สกํ โหติ, กิญฺจ อาทาย คจฺฉติ;
Kiñhi tassa sakaṃ hoti, kiñca ādāya gacchati;
‘‘อุโภ ปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ, ยํ มโจฺจ กุรุเต อิธ;
‘‘Ubho puññañca pāpañca, yaṃ macco kurute idha;
‘‘ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ, นิจยํ สมฺปรายิกํ;
‘‘Tasmā kareyya kalyāṇaṃ, nicayaṃ samparāyikaṃ;
ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมิํ, ปติฎฺฐา โหนฺติ ปาณิน’’นฺตฺนฺตฺติฯ
Puññāni paralokasmiṃ, patiṭṭhā honti pāṇina’’ntntti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. ปิยสุตฺตวณฺณนา • 4. Piyasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. ปิยสุตฺตวณฺณนา • 4. Piyasuttavaṇṇanā