Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๔. โปสิยเตฺถรคาถาวณฺณนา

    4. Posiyattheragāthāvaṇṇanā

    อนาสนฺนวราติ อายสฺมโต โปสิยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ พหุํ กุสลํ อุปจินิตฺวา สุคตีสุ เอว สํสรโนฺต อิโต เทฺวนวุเต กเปฺป ติสฺสสฺส ภควโต กาเล มิคลุโทฺท หุตฺวา อรเญฺญ วิจรติฯ อถ ภควา ตสฺส อนุคฺคหํ กาตุํ อรญฺญํ คนฺตฺวา ตสฺส จกฺขุปเถ อตฺตานํ ทเสฺสสิฯ โส ภควนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิโตฺต อาวุธํ นิกฺขิปิตฺวา อุปสงฺกมิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห อฎฺฐาสิฯ ภควา นิสีทิตุกามตํ ทเสฺสสิฯ โส ตาวเทว ติณมุฎฺฐิโย คเหตฺวา สเม ภูมิภาเค สกฺกจฺจํ สนฺถริตฺวา อทาสิฯ นิสีทิ ตตฺถ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ นิสิเนฺน ปน ภควติ อนปฺปกํ ปีติโสมนสฺสํ ปฎิสํเวเทโนฺต ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา สยมฺปิ เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อถ ภควา ‘‘เอตฺตกํ วฎฺฎติ อิมสฺส กุสลพีช’’นฺติ อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อจิรปกฺกเนฺต ภควติ ตํ สีโห มิคราชา ฆาเตสิฯ โส กาลงฺกโต เทวโลเก นิพฺพตฺติฯ ‘‘โส กิร ภควติ อนุปคจฺฉเนฺต สีเหน ฆาติโต นิรเย นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ตํ ทิสฺวา ภควา สุคติยํ นิพฺพตฺตนตฺถํ กุสลพีชโรปนตฺถญฺจ อุปสงฺกมิฯ

    Anāsannavarāti āyasmato posiyattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha vivaṭṭūpanissayaṃ bahuṃ kusalaṃ upacinitvā sugatīsu eva saṃsaranto ito dvenavute kappe tissassa bhagavato kāle migaluddo hutvā araññe vicarati. Atha bhagavā tassa anuggahaṃ kātuṃ araññaṃ gantvā tassa cakkhupathe attānaṃ dassesi. So bhagavantaṃ disvā pasannacitto āvudhaṃ nikkhipitvā upasaṅkamitvā añjaliṃ paggayha aṭṭhāsi. Bhagavā nisīditukāmataṃ dassesi. So tāvadeva tiṇamuṭṭhiyo gahetvā same bhūmibhāge sakkaccaṃ santharitvā adāsi. Nisīdi tattha bhagavā anukampaṃ upādāya. Nisinne pana bhagavati anappakaṃ pītisomanassaṃ paṭisaṃvedento bhagavantaṃ vanditvā sayampi ekamantaṃ nisīdi. Atha bhagavā ‘‘ettakaṃ vaṭṭati imassa kusalabīja’’nti uṭṭhāyāsanā pakkāmi. Acirapakkante bhagavati taṃ sīho migarājā ghātesi. So kālaṅkato devaloke nibbatti. ‘‘So kira bhagavati anupagacchante sīhena ghātito niraye nibbattissatī’’ti taṃ disvā bhagavā sugatiyaṃ nibbattanatthaṃ kusalabījaropanatthañca upasaṅkami.

    โส ตตฺถ ยาวตายุกํ ฐตฺวา ตโต เทวโลกโต จวิตฺวา สุคตีสุเยว ปริวเตฺตโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส มหาวิภวสฺส เสฎฺฐิโน ปุโตฺต สงฺคามชิตเตฺถรสฺส กนิฎฺฐภาตา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ โปสิโยติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต ทารปริคฺคหํ กตฺวา เอกํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา อนฺติมภวิกตาย ธมฺมตาย โจทิยมาโน ชาติอาทิํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนสํเวโค ปพฺพชิตฺวา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา วูปกโฎฺฐ หุตฺวา จตุสจฺจกมฺมฎฺฐานภาวนํ อนุยุญฺชโนฺต นจิรเสฺสว วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๓.๑-๑๒) –

    So tattha yāvatāyukaṃ ṭhatvā tato devalokato cavitvā sugatīsuyeva parivattento imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ aññatarassa mahāvibhavassa seṭṭhino putto saṅgāmajitattherassa kaniṭṭhabhātā hutvā nibbatti. Posiyotissa nāmaṃ ahosi. So vayappatto dārapariggahaṃ katvā ekaṃ puttaṃ labhitvā antimabhavikatāya dhammatāya codiyamāno jātiādiṃ paṭicca uppannasaṃvego pabbajitvā araññaṃ pavisitvā vūpakaṭṭho hutvā catusaccakammaṭṭhānabhāvanaṃ anuyuñjanto nacirasseva vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.53.1-12) –

    ‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ลมฺพโก นาม ปพฺพโต;

    ‘‘Himavantassāvidūre, lambako nāma pabbato;

    ตเตฺถว ติโสฺส สมฺพุโทฺธ, อโพฺภกาสมฺหิ จงฺกมิฯ

    Tattheva tisso sambuddho, abbhokāsamhi caṅkami.

    ‘‘มิคลุโทฺท ตทา อาสิํ, อรเญฺญ กานเน อหํ;

    ‘‘Migaluddo tadā āsiṃ, araññe kānane ahaṃ;

    ทิสฺวาน ตํ เทวเทวํ, ติณมุฎฺฐิมทาสหํฯ

    Disvāna taṃ devadevaṃ, tiṇamuṭṭhimadāsahaṃ.

    ‘‘นิสีทนตฺถํ พุทฺธสฺส, ทตฺวา จิตฺตํ ปสาทยิํ;

    ‘‘Nisīdanatthaṃ buddhassa, datvā cittaṃ pasādayiṃ;

    สมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา, ปกฺกามิํ อุตฺตรามุโขฯ

    Sambuddhaṃ abhivādetvā, pakkāmiṃ uttarāmukho.

    ‘‘อจิรํ คตมตฺตสฺส, มิคราชา อโปถยิ;

    ‘‘Aciraṃ gatamattassa, migarājā apothayi;

    โสเหน โปถิโต, สโนฺต ตตฺถ กาลงฺกโต อหํฯ

    Sohena pothito, santo tattha kālaṅkato ahaṃ.

    ‘‘อาสเนฺน เม กตํ กมฺมํ, พุทฺธเสเฎฺฐ อนาสเว;

    ‘‘Āsanne me kataṃ kammaṃ, buddhaseṭṭhe anāsave;

    สุมุโตฺต สรเวโคว, เทวโลกมคจฺฉหํฯ

    Sumutto saravegova, devalokamagacchahaṃ.

    ‘‘ยูโป ตตฺถ สุโภ อาสิ, ปุญฺญกมฺมาภินิมฺมิโต;

    ‘‘Yūpo tattha subho āsi, puññakammābhinimmito;

    สหสฺสกโณฺฑ สตเภณฺฑุ, ธชาลุ หริตามโยฯ

    Sahassakaṇḍo satabheṇḍu, dhajālu haritāmayo.

    ‘‘ปภา นิทฺธาวเต ตสฺส, สตรํสีว อุคฺคโต;

    ‘‘Pabhā niddhāvate tassa, sataraṃsīva uggato;

    อากิโณฺณ เทวกญฺญาหิ, อาโมทิํ กามกามิหํฯ

    Ākiṇṇo devakaññāhi, āmodiṃ kāmakāmihaṃ.

    ‘‘เทวโลกา จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

    ‘‘Devalokā cavitvāna, sukkamūlena codito;

    อาคนฺตฺวาน มนุสฺสตฺตํ, ปโตฺตมฺหิ อาสวกฺขยํฯ

    Āgantvāna manussattaṃ, pattomhi āsavakkhayaṃ.

    ‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, นิสีทนมทาสหํ;

    ‘‘Catunnavutito kappe, nisīdanamadāsahaṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ติณมุเฎฺฐ อิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, tiṇamuṭṭhe idaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตุํ สาวตฺถิํ อาคโต ญาติํ อนุกมฺปาย ญาติเคหํ อคมาสิฯ ตตฺถ นํ ปุราณทุติยิกา วนฺทิตฺวา อาสนทานาทินา ปฐมํ อุปาสิกา วิย วตฺตํ ทเสฺสตฺวา เถรสฺส อชฺฌาสยํ อชานนฺตี ปจฺฉา อิตฺถิกุตฺตาทีหิ ปโลเภตุกามา อโหสิ ฯ เถโร ‘‘อโห อนฺธพาลา มาทิเสปิ นาม เอวํ ปฎิปชฺชตี’’ติ จิเนฺตตฺวา กิญฺจิ อวตฺวา อุฎฺฐายาสนา อรญฺญเมว คโตฯ ตํ อารญฺญกา ภิกฺขู ‘‘กิํ, อาวุโส, อติลหุํ, นิวโตฺตสิ, ญาตเกหิ น ทิโฎฺฐสี’’ติ ปุจฺฉิํสุฯ เถโร ตตฺถ ปวตฺติํ อาจิกฺขโนฺต ‘‘อนาสนฺนวรา เอตา’’ติ คาถํ อภาสิฯ

    Arahattaṃ pana patvā bhagavantaṃ vandituṃ sāvatthiṃ āgato ñātiṃ anukampāya ñātigehaṃ agamāsi. Tattha naṃ purāṇadutiyikā vanditvā āsanadānādinā paṭhamaṃ upāsikā viya vattaṃ dassetvā therassa ajjhāsayaṃ ajānantī pacchā itthikuttādīhi palobhetukāmā ahosi . Thero ‘‘aho andhabālā mādisepi nāma evaṃ paṭipajjatī’’ti cintetvā kiñci avatvā uṭṭhāyāsanā araññameva gato. Taṃ āraññakā bhikkhū ‘‘kiṃ, āvuso, atilahuṃ, nivattosi, ñātakehi na diṭṭhosī’’ti pucchiṃsu. Thero tattha pavattiṃ ācikkhanto ‘‘anāsannavarā etā’’ti gāthaṃ abhāsi.

    ๓๔. ตตฺถ อนาสนฺนวราติ เอตา อิตฺถิโย น อาสนฺนา อนุปคตา, ทูเร เอว วา ฐิตา หุตฺวา วรา ปุริสสฺส เสฎฺฐา หิตาวหา, ตญฺจ โข นิจฺจเมว สพฺพกาลเมว, น รตฺติเมว, น ทิวาปิ, น รโหเวลายปิฯ วิชานตาติ วิชานเนฺตนฯ ‘‘อนาสนฺนปรา’’ติปิ ปาฬิ, โส เอวโตฺถฯ อยเญฺหตฺถ อธิปฺปาโย – จณฺฑหตฺถิอสฺสมหิํสสีหพฺยคฺฆยกฺขรกฺขสปิสาจาปิ มนุสฺสานํ อนุปสงฺกมโนฺต วรา เสฎฺฐา, น อนตฺถาวหา, เต ปน อุปสงฺกมนฺตา ทิฎฺฐธมฺมิกํเยว อนตฺถํ กเรยฺยุํฯ อิตฺถิโย ปน อุปสงฺกมิตฺวา ทิฎฺฐธมฺมิกํ สมฺปรายิกํ วิโมกฺขนิสฺสิตมฺปิ อตฺถํ วินาเสตฺวา มหนฺตํ อนตฺถํ อาปาเทนฺติ, ตสฺมา อนาสนฺนวรา เอตา นิจฺจเมว วิชานตาติฯ อิทานิ ตมตฺถํ อตฺตูปนายิกํ กตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘คามา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ คามาติ คามํฯ อุปโยคเตฺถ หิ เอตํ นิสฺสกฺกวจนํฯ อรญฺญมาคมฺมาติ อรญฺญโต อาคนฺตฺวาฯ -กาโร ปทสนฺธิกโร, นิสฺสเกฺก เจตํ อุปโยควจนํฯ ตโตติ มญฺจกโตฯ อนามเนฺตตฺวาติ อนาลปิตฺวา ปุราณทุติยิกํ ‘‘อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวาฯ โปสิโยติ อตฺตานเมว ปรํ วิย วทติฯ เย ปน ‘‘ปกฺกามิ’’นฺติ ปฐนฺติ, เตสํ อหํ โปสิโย ปกฺกามินฺติ โยชนาฯ เย ปน ‘‘สา อิตฺถี เถรํ ฆรํ อุปคตํ โภเชตฺวา ปโลเภตุกามา ชาตา, ตํ ทิสฺวา เถโร ตาวเทว เคหโต นิกฺขมิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา อตฺตโน วสนฎฺฐาเน มญฺจเก นิสีทิฯ สาปิ โข อิตฺถี ปจฺฉาภตฺตํ อลงฺกตปฎิยตฺตา วิหาเร เถรสฺส วสนฎฺฐานํ อุปสงฺกมิฯ ตํ ทิสฺวา เถโร กิญฺจิ อวตฺวา อุฎฺฐาย ทิวาฎฺฐานเมว คโต’’ติ วทนฺติ, เตสํ ‘‘คามา อรญฺญมาคมฺมา’’ติ คาถาปทสฺส อโตฺถ ยถารุตวเสเนว นิยฺยติฯ วิหาโร หิ อิธ ‘‘อรญฺญ’’นฺติ อธิเปฺปโตฯ

    34. Tattha anāsannavarāti etā itthiyo na āsannā anupagatā, dūre eva vā ṭhitā hutvā varā purisassa seṭṭhā hitāvahā, tañca kho niccameva sabbakālameva, na rattimeva, na divāpi, na rahovelāyapi. Vijānatāti vijānantena. ‘‘Anāsannaparā’’tipi pāḷi, so evattho. Ayañhettha adhippāyo – caṇḍahatthiassamahiṃsasīhabyagghayakkharakkhasapisācāpi manussānaṃ anupasaṅkamanto varā seṭṭhā, na anatthāvahā, te pana upasaṅkamantā diṭṭhadhammikaṃyeva anatthaṃ kareyyuṃ. Itthiyo pana upasaṅkamitvā diṭṭhadhammikaṃ samparāyikaṃ vimokkhanissitampi atthaṃ vināsetvā mahantaṃ anatthaṃ āpādenti, tasmā anāsannavarā etā niccameva vijānatāti. Idāni tamatthaṃ attūpanāyikaṃ katvā dassento ‘‘gāmā’’tiādimāha. Tattha gāmāti gāmaṃ. Upayogatthe hi etaṃ nissakkavacanaṃ. Araññamāgammāti araññato āgantvā. Ma-kāro padasandhikaro, nissakke cetaṃ upayogavacanaṃ. Tatoti mañcakato. Anāmantetvāti anālapitvā purāṇadutiyikaṃ ‘‘appamattā hohī’’ti ettakampi avatvā. Posiyoti attānameva paraṃ viya vadati. Ye pana ‘‘pakkāmi’’nti paṭhanti, tesaṃ ahaṃ posiyo pakkāminti yojanā. Ye pana ‘‘sā itthī theraṃ gharaṃ upagataṃ bhojetvā palobhetukāmā jātā, taṃ disvā thero tāvadeva gehato nikkhamitvā vihāraṃ gantvā attano vasanaṭṭhāne mañcake nisīdi. Sāpi kho itthī pacchābhattaṃ alaṅkatapaṭiyattā vihāre therassa vasanaṭṭhānaṃ upasaṅkami. Taṃ disvā thero kiñci avatvā uṭṭhāya divāṭṭhānameva gato’’ti vadanti, tesaṃ ‘‘gāmā araññamāgammā’’ti gāthāpadassa attho yathārutavaseneva niyyati. Vihāro hi idha ‘‘arañña’’nti adhippeto.

    โปสิยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Posiyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๔. โปสิยเตฺถรคาถา • 4. Posiyattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact