Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๔. โปตลิยสุตฺตวณฺณนา
4. Potaliyasuttavaṇṇanā
๓๑. องฺคา นาม ชนปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหิวเสน องฺคาเตฺวว วุจฺจตีติ อาห ‘‘องฺคาเยว โส ชนปโท’’ติฯ มหิยา ปนสฺส อุตฺตเรน ยา อาโปติ มหิยา นทิยา ยา อาโป ตสฺส ชนปทสฺส อุตฺตเรน โหนฺติฯ ตาสํ อวิทูรตฺตา โส ชนปโท อุตฺตราโปติ วุจฺจติฯ สา ปน มหี กตฺถจิ กตฺถจิ ภิชฺชิตฺวา คตาติ อาห ‘‘กตรมหิยา อุตฺตเรน ยา อาโป’’ติฯ ตตฺถาติ ตสฺสา มหิยา อาคมนโต ปฎฺฐาย อยํ อาวิภาวกถาฯ ยสฺมา (อ. นิ. ฎี. ๓.๘.๑๙) โลกิยา ชมฺพุทีโป หิมวา ตตฺถ ปติฎฺฐิตสมุทฺททหปพฺพตนทิโยติ เอเตสุ ยํ ยํ น มนุสฺสโคจรํ, ตตฺถ สยํ สมฺมูฬฺหา อเญฺญปิ สโมฺมหยนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ สโมฺมหวิธมนตฺถํ ‘‘อยํ กิร ชมฺพุทีโป’’ติอาทิมารทฺธํฯ ทสสหสฺสโยชนปริมาโณ อายามโต จ วิตฺถารโต จาติ อธิปฺปาโยฯ เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ อุทเกน อโชฺฌตฺถโฎ ตทุปโภคิสตฺตานํ ปุญฺญกฺขเยนฯ
31. Aṅgā nāma janapadino rājakumārā, tesaṃ nivāso ekopi janapado ruḷhivasena aṅgātveva vuccatīti āha ‘‘aṅgāyeva so janapado’’ti. Mahiyā panassa uttarena yā āpoti mahiyā nadiyā yā āpo tassa janapadassa uttarena honti. Tāsaṃ avidūrattā so janapado uttarāpoti vuccati. Sā pana mahī katthaci katthaci bhijjitvā gatāti āha ‘‘kataramahiyā uttarena yā āpo’’ti. Tatthāti tassā mahiyā āgamanato paṭṭhāya ayaṃ āvibhāvakathā. Yasmā (a. ni. ṭī. 3.8.19) lokiyā jambudīpo himavā tattha patiṭṭhitasamuddadahapabbatanadiyoti etesu yaṃ yaṃ na manussagocaraṃ, tattha sayaṃ sammūḷhā aññepi sammohayanti, tattha tattha sammohavidhamanatthaṃ ‘‘ayaṃ kira jambudīpo’’tiādimāraddhaṃ. Dasasahassayojanaparimāṇo āyāmato ca vitthārato cāti adhippāyo. Tenāha ‘‘tatthā’’tiādi. Udakena ajjhotthaṭo tadupabhogisattānaṃ puññakkhayena.
สุนฺทรทสฺสนํ กูฎนฺติ สุทสฺสนกูฎํ, ยํ โลเก ‘‘เหมกูฎ’’นฺติ วุจฺจติฯ มูลคโนฺธ กาฬานุสาริยาทิฯ สารคโนฺธ จนฺทนาทิฯ เผคฺคุคโนฺธ สลลาทิฯ ตจคโนฺธ ลวงฺคาทิฯ ปปฎิกคโนฺธ กพิตฺถาทิฯ รสคโนฺธ สชฺชาทิ, ปตฺตคโนฺธ ตมาลหิริเวราทิฯ ปุปฺผคโนฺธ นาคกุงฺกุมาทิฯ ผลคโนฺธ ชาติผลาทิฯ คนฺธคโนฺธ สเพฺพสํ คนฺธานํ คโนฺธฯ ยสฺส หิ รุกฺขสฺส สเพฺพสมฺปิ มูลาทีนํ คโนฺธ อตฺถิ, โส อิธ คโนฺธ นามฯ ตสฺส คนฺธสฺส คโนฺธ คนฺธคโนฺธฯ สพฺพานิ ปุถุลโต ปญฺญาสโยชนานิ, อายามโต ปน อุเพฺพธโต วิย ทฺวิโยชนสตาเนวาติ วทนฺติฯ
Sundaradassanaṃ kūṭanti sudassanakūṭaṃ, yaṃ loke ‘‘hemakūṭa’’nti vuccati. Mūlagandho kāḷānusāriyādi. Sāragandho candanādi. Pheggugandho salalādi. Tacagandho lavaṅgādi. Papaṭikagandho kabitthādi. Rasagandho sajjādi, pattagandho tamālahiriverādi. Pupphagandho nāgakuṅkumādi. Phalagandho jātiphalādi. Gandhagandho sabbesaṃ gandhānaṃ gandho. Yassa hi rukkhassa sabbesampi mūlādīnaṃ gandho atthi, so idha gandho nāma. Tassa gandhassa gandho gandhagandho. Sabbāni puthulato paññāsayojanāni, āyāmato pana ubbedhato viya dviyojanasatānevāti vadanti.
มโนหรสิลาตลานีติ โอตรณตฺถาย มนุญฺญโสปานสิลาตลานิฯ สุปฎิยตฺตานีติ ตทุปโภคิสตฺตานํ สาธารณกมฺมานุภาเวน สุฎฺฐุ ปฎิยตฺตานิ สุปฺปวตฺติตานิ โหนฺติฯ มจฺฉกจฺฉปาทโย อุทกํ มลินํ กโรนฺติ, ตทภาวโต ผลิกสทิสนิมฺมลุทกานิฯ ติริยโต ทีฆํ อุคฺคตกูฎนฺติ ‘‘ติรจฺฉานปพฺพต’’นฺติ อาหฯ
Manoharasilātalānīti otaraṇatthāya manuññasopānasilātalāni. Supaṭiyattānīti tadupabhogisattānaṃ sādhāraṇakammānubhāvena suṭṭhu paṭiyattāni suppavattitāni honti. Macchakacchapādayo udakaṃ malinaṃ karonti, tadabhāvato phalikasadisanimmaludakāni. Tiriyato dīghaṃ uggatakūṭanti ‘‘tiracchānapabbata’’nti āha.
อาปณานิ เอว โวหารสฺส มุขภูตานีติ อาห ‘‘อาปณมุขสหสฺสานี’’ติฯ วิภตฺตานีติ ววตฺถิตานิ อญฺญมญฺญาสมฺภินฺนานิฯ วสนฎฺฐานนฺติ อตฺตโน ยถาผาสุกํ วสิตพฺพฎฺฐานํฯ อาสติ เอตฺถาติ อาสนํ, นิสีทิตพฺพฎฺฐานานิฯ
Āpaṇāni eva vohārassa mukhabhūtānīti āha ‘‘āpaṇamukhasahassānī’’ti. Vibhattānīti vavatthitāni aññamaññāsambhinnāni. Vasanaṭṭhānanti attano yathāphāsukaṃ vasitabbaṭṭhānaṃ. Āsati etthāti āsanaṃ, nisīditabbaṭṭhānāni.
อสารุปฺปํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชนกสฺส ฉาทนโต ฉนฺนํ อนุจฺฉวิกํ, ตเทว อชฺฌาสยสมฺปตฺติํ ปติรูเปติ ปกาเสตีติ ปติรูปํฯ เตนาห ‘‘นปฺปติรูป’’นฺติฯ การณเววจนานีติ ญาปกการณเววจนานิฯ ญาปกญฺหิ การณํ อธิเปฺปตํฯ อตฺถํ อากโรติ ปกาเสตีติ อากาโร, ตเมว ลีนํ คุฬฺหํ อตฺถํ คเมตีติ ลิงฺคํ, โส เตน นิมียตีติ นิมิตฺตนฺติ วุจฺจติฯ อิทานิ ตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ทีฆทสวตฺถ…เป.… นิมิตฺตาติ วุตฺตา’’ติ อาหฯ เตติ อาการาทโยฯ ตถา หิ ปน เมติอาทินา โปตลิโย คหปติ ‘‘ปริพฺพาชกนิยาเมน อหํ ชีวามิ, ตสฺมา คหปติ น โหมีติ วทติฯ โอวทโนฺตติ อนุสาสโนฺตฯ อุปวทโนฺตติ ปริภาสโนฺตฯ
Asāruppaṃ paṭicca uppajjanakassa chādanato channaṃ anucchavikaṃ, tadeva ajjhāsayasampattiṃ patirūpeti pakāsetīti patirūpaṃ. Tenāha ‘‘nappatirūpa’’nti. Kāraṇavevacanānīti ñāpakakāraṇavevacanāni. Ñāpakañhi kāraṇaṃ adhippetaṃ. Atthaṃ ākaroti pakāsetīti ākāro, tameva līnaṃ guḷhaṃ atthaṃ gametīti liṅgaṃ, so tena nimīyatīti nimittanti vuccati. Idāni tamevatthaṃ vivarituṃ ‘‘dīghadasavattha…pe… nimittāti vuttā’’ti āha. Teti ākārādayo. Tathā hi pana metiādinā potaliyo gahapati ‘‘paribbājakaniyāmena ahaṃ jīvāmi, tasmā gahapati na homīti vadati. Ovadantoti anusāsanto. Upavadantoti paribhāsanto.
๓๒. เคธภูโต โลโภติ คิชฺฌนสภาโว โลโภฯ อคิชฺฌนลกฺขโณ น โลโภ, อนินฺทาภูตํ อฆฎฺฎนนฺติ นินฺทาย ปฎิปกฺขภูตํ ปเรสํ อฆฎฺฎนํฯ นินฺทาฆฎฺฎนาติ นินฺทาวเสน ปเรสํ ฆฎฺฎนา อโกฺกสนาฯ พฺยวหารโวหาโรปีติ กยวิกฺกยลกฺขโณ สโพฺยหาโรปิ ทานคฺคหณํ โวหาโรฯ ‘‘ทโตฺต ติโสฺส’’ ติอาทินา โวหรณํ ปญฺญาปนนฺติ ปญฺญตฺติ โวหาโรฯ ยถาธิเปฺปตสฺส อตฺถสฺส โวหรณํ กถนํ โพธนนฺติ วจนํ โวหาโรฯ ยาถาวโต อยาถาวโต จ โวหรติ เอเตนาติ โวหาโร, เจตนาฯ อยมิธาธิเปฺปโตติ อยํ เจตนาลกฺขโณ โวหาโร อิธ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต, โส จ โข สาวโชฺชว สมุเจฺฉทสฺส อิจฺฉิตตฺตาฯ อิทานิ จตุพฺพิธสฺสปิ โวหารสฺส อิธ สมฺภวํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยสฺมา วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ คิหีติ เจตนา นตฺถีติ อหํ คิหีติ เจตนาปวตฺติ นตฺถิฯ คิหีติ วจนํ นตฺถีติ คิหีติ อตฺตโน ปเรสญฺจ วจนปฺปวตฺติ นตฺถิฯ คิหีติ ปณฺณตฺติ นตฺถีติ คิหีติ สมญฺญา นตฺถิฯ คิหีติ พฺยวหาโร นตฺถีติ สมุทาจาโร นตฺถิฯ
32.Gedhabhūto lobhoti gijjhanasabhāvo lobho. Agijjhanalakkhaṇo na lobho, anindābhūtaṃ aghaṭṭananti nindāya paṭipakkhabhūtaṃ paresaṃ aghaṭṭanaṃ. Nindāghaṭṭanāti nindāvasena paresaṃ ghaṭṭanā akkosanā. Byavahāravohāropīti kayavikkayalakkhaṇo sabyohāropi dānaggahaṇaṃ vohāro. ‘‘Datto tisso’’ tiādinā voharaṇaṃ paññāpananti paññatti vohāro. Yathādhippetassa atthassa voharaṇaṃ kathanaṃ bodhananti vacanaṃ vohāro. Yāthāvato ayāthāvato ca voharati etenāti vohāro, cetanā. Ayamidhādhippetoti ayaṃ cetanālakkhaṇo vohāro idha imasmiṃ atthe adhippeto, so ca kho sāvajjova samucchedassa icchitattā. Idāni catubbidhassapi vohārassa idha sambhavaṃ dassetuṃ ‘‘yasmā vā’’tiādi vuttaṃ. Gihīti cetanā natthīti ahaṃ gihīti cetanāpavatti natthi. Gihīti vacanaṃ natthīti gihīti attano paresañca vacanappavatti natthi. Gihīti paṇṇatti natthīti gihīti samaññā natthi. Gihīti byavahāro natthīti samudācāro natthi.
๓๓. ปาณาติปาโตว สํโยชนํฯ กสฺมา? พนฺธนภาเวน ปวตฺตนโต นิสฺสริตุํ อปฺปทานโตฯ ปาณาติปาตสฺส อตฺถิตาย โส ปุคฺคโล ‘‘ปาณาติปาตี’’ติ วุจฺจตีติ อาห – ‘‘ปาณาติปาตสฺส…เป.… โหตี’’ติฯ ยญฺหิ ยสฺส อตฺถิ, เตน โส อปทิสฺสตีติฯ พหุตายาติ อจกฺขุกาทิเภเทน พหุภาวโตฯ ปาณาติปาตสฺส ปฎิปโกฺข อปาณาติปาโตฯ โส ปน อตฺถโต กายทฺวาริโก สีลสํวโรติ อาห ‘‘กายิกสีลสํวเรนา’’ติฯ อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺยาติอาทิ ปาณาติปาเต อาทีนวทสฺสนํฯ อาทีนวทสฺสิโน หิ ตโต โอรมณํฯ เทสนาวเสนาติ อญฺญตฺถ สุเตฺต อภิธเมฺม จ ทสสุ สํโยชเนสุ ปญฺจสุ นีวรเณสุ เทสนาวเสน อปริยาปนฺนมฺปิ สํโยชนนฺติปิ นีวรณนฺติปิ อิธ วุตฺตํฯ กสฺมา? ตทตฺถสมฺภวโตฯ เตนาห – ‘‘วฎฺฎพนฺธนเฎฺฐน หิตปฺปฎิจฺฉาทนเฎฺฐน จา’’ติ, ปาณาติปาโต หิ อปาณาติปาตปจฺจยํ หิตํ ปฎิจฺฉาเทโนฺตว อุปฺปชฺชตีติฯ เอโก อวิชฺชาสโวติ อิทํ สหชาตวเสน วุตฺตํ, อุปนิสฺสยวเสน ปน อิตเรสมฺปิ อาสวานํ ยถารหํ สมฺภโว เวทิตโพฺพฯ ปาณาติปาตี หิ ปุคฺคโล ‘‘ตปฺปจฺจยํ อตฺถํ กริสฺสามี’’ติ กาเม ปเตฺถติฯ ทิฎฺฐิํ คณฺหาติ, ภววิเสสํ ปจฺจาสีสติฯ ตตฺถ อุปฺปนฺนํ วิหนติ พาธตีติ วิฆาโต, ทุกฺขํ, ปริฬาหนํ อนตฺถุปฺปาทวเสน อุปตาปนํ ปริฬาโห, อยเมเตสํ วิเสโสฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ วาเรสุฯ อิมินา อุปาเยนาติ อติเทเสน ปน ปริคฺคหิโต อโตฺถ ปรโต อาคมิสฺสตีติฯ
33.Pāṇātipātova saṃyojanaṃ. Kasmā? Bandhanabhāvena pavattanato nissarituṃ appadānato. Pāṇātipātassa atthitāya so puggalo ‘‘pāṇātipātī’’ti vuccatīti āha – ‘‘pāṇātipātassa…pe… hotī’’ti. Yañhi yassa atthi, tena so apadissatīti. Bahutāyāti acakkhukādibhedena bahubhāvato. Pāṇātipātassa paṭipakkho apāṇātipāto. So pana atthato kāyadvāriko sīlasaṃvaroti āha ‘‘kāyikasīlasaṃvarenā’’ti. Attāpi maṃ upavadeyyātiādi pāṇātipāte ādīnavadassanaṃ. Ādīnavadassino hi tato oramaṇaṃ. Desanāvasenāti aññattha sutte abhidhamme ca dasasu saṃyojanesu pañcasu nīvaraṇesu desanāvasena apariyāpannampi saṃyojanantipi nīvaraṇantipi idha vuttaṃ. Kasmā? Tadatthasambhavato. Tenāha – ‘‘vaṭṭabandhanaṭṭhena hitappaṭicchādanaṭṭhena cā’’ti, pāṇātipāto hi apāṇātipātapaccayaṃ hitaṃ paṭicchādentova uppajjatīti. Eko avijjāsavoti idaṃ sahajātavasena vuttaṃ, upanissayavasena pana itaresampi āsavānaṃ yathārahaṃ sambhavo veditabbo. Pāṇātipātī hi puggalo ‘‘tappaccayaṃ atthaṃ karissāmī’’ti kāme pattheti. Diṭṭhiṃ gaṇhāti, bhavavisesaṃ paccāsīsati. Tattha uppannaṃ vihanati bādhatīti vighāto, dukkhaṃ, pariḷāhanaṃ anatthuppādavasena upatāpanaṃ pariḷāho, ayametesaṃ viseso. Sabbatthāti sabbesu vāresu. Iminā upāyenāti atidesena pana pariggahito attho parato āgamissatīti.
๓๔-๔๐. อิมสฺมิํ ปเทติ เอเตน สตฺตสุปิ วาเรสุ ตถา อาคตํ ปทํ สามญฺญโต คหิตํฯ เตนาห ‘‘อิมินา’’ติอาทิฯ โรสนํ กายิกํ วาจสิกญฺจาติ ตปฺปฎิปโกฺข อโรโสปิ ตถา ทุวิโธติ อาห ‘‘กายิกวาจสิกสํวเรนา’’ติฯ ยถา อภิชฺฌา โลโภ, อนภิชฺฌา อโลโภ, เอวํ อโกธูปายาโส อพฺยาปาโท, สํวเร สุขนฺติ สํวโรติ ทฎฺฐโพฺพ, อนติโลโภ ปน สติสํวเร, อนติมาโน ญาณสํวเร สงฺคหํ คจฺฉตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ อิเมสุ ปน ปเทสุ เอวํ สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพาติ สมฺพโนฺธฯ
34-40.Imasmiṃ padeti etena sattasupi vāresu tathā āgataṃ padaṃ sāmaññato gahitaṃ. Tenāha ‘‘iminā’’tiādi. Rosanaṃ kāyikaṃ vācasikañcāti tappaṭipakkho arosopi tathā duvidhoti āha ‘‘kāyikavācasikasaṃvarenā’’ti. Yathā abhijjhā lobho, anabhijjhā alobho, evaṃ akodhūpāyāso abyāpādo, saṃvare sukhanti saṃvaroti daṭṭhabbo, anatilobho pana satisaṃvare, anatimāno ñāṇasaṃvare saṅgahaṃ gacchatīti daṭṭhabbaṃ. Imesu pana padesu evaṃ sabbavāresu yojanā kātabbāti sambandho.
เอวํ อาสวุปฺปตฺติ เวทิตพฺพาติ เอตฺถ วุตฺตสฺสปิ เอกชฺฌํ วุจฺจมานตฺตา ‘‘ปุน อยํ สเงฺขปวินิจฺฉโย’’ติ วุตฺตํฯ อสโมฺมหตฺถํ อารมฺมณสฺสฯ ปุริเมสุ ตาว จตูสุ วาเรสุ วิรมิตุํ น สโกฺกมีติ วตฺตพฺพํฯ ‘‘อตฺตาปิ มํ อุปวเทยฺยา’’ติ เอตสฺส ปทสฺส อตฺถวณฺณนายํ ‘‘น สโกฺกมี’’ติ, ‘‘อนุวิชฺชาปิ มํ วิญฺญู ครเหยฺยุ’’นฺติ เอตสฺส ปทสฺส อตฺถวณฺณนายํ ‘‘น สโกฺกตี’’ติ วตฺตพฺพํ, อิมินา นเยน ปจฺฉิเมสุปิ จตูสุ ยถารหํ โยชนา เวทิตพฺพาฯ อติมาเน ภวาสวอวิชฺชาสวาติ วุตฺตํ มาเนน สห ทิฎฺฐิยา อนุปฺปชฺชนโต, อติมาโน ปน กามราเคนปิ อุปฺปชฺชเตวาติ ‘‘อติมาเน กามาสวอวิชฺชาสวา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, สฺวายํ นโย วุตฺตนยตฺตา สุวิเญฺญโยฺยติ น ทสฺสิโตฯ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ กถิตํ อาทิโต จตูหิ ฉเฎฺฐน วาติ ปญฺจหิ วาเรหิ, เสเสหิ ตีหิ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ฐิตสฺส ภิกฺขุโน ปฎิสงฺขาปหานํ, สเพฺพหิปิ ปน ภิกฺขุภาเว ฐิตสฺส คิหิโวหารสมุเจฺฉโท กถิโตฯ ตตฺถ สพฺพตฺถ วตฺตํ ‘‘อิทญฺจิทญฺจ มยฺหํ กาตุํ นปฺปติรูป’’นฺติ ปฎิสงฺขานวเสน อกรณํ ปชหนญฺจ ปฎิสงฺขาปหานํฯ
Evaṃ āsavuppatti veditabbāti ettha vuttassapi ekajjhaṃ vuccamānattā ‘‘puna ayaṃ saṅkhepavinicchayo’’ti vuttaṃ. Asammohatthaṃ ārammaṇassa. Purimesu tāva catūsu vāresu viramituṃ na sakkomīti vattabbaṃ. ‘‘Attāpi maṃ upavadeyyā’’ti etassa padassa atthavaṇṇanāyaṃ ‘‘na sakkomī’’ti, ‘‘anuvijjāpi maṃ viññū garaheyyu’’nti etassa padassa atthavaṇṇanāyaṃ ‘‘na sakkotī’’tivattabbaṃ, iminā nayena pacchimesupi catūsu yathārahaṃ yojanā veditabbā. Atimāne bhavāsavaavijjāsavāti vuttaṃ mānena saha diṭṭhiyā anuppajjanato, atimāno pana kāmarāgenapi uppajjatevāti ‘‘atimāne kāmāsavaavijjāsavā’’ti vattabbaṃ siyā, svāyaṃ nayo vuttanayattā suviññeyyoti na dassito. Pātimokkhasaṃvarasīlaṃ kathitaṃ ādito catūhi chaṭṭhena vāti pañcahi vārehi, sesehi tīhi pātimokkhasaṃvarasīle ṭhitassa bhikkhuno paṭisaṅkhāpahānaṃ, sabbehipi pana bhikkhubhāve ṭhitassa gihivohārasamucchedo kathito. Tattha sabbattha vattaṃ ‘‘idañcidañca mayhaṃ kātuṃ nappatirūpa’’nti paṭisaṅkhānavasena akaraṇaṃ pajahanañca paṭisaṅkhāpahānaṃ.
กามาทีนวกถาวณฺณนา
Kāmādīnavakathāvaṇṇanā
๔๒. อุปสุเมฺภยฺยาติ เอตฺถ อุป-สโทฺท สมีปโตฺถ, สุมฺภนํ วิเกฺขปนํฯ เตเนว ตเมนนฺติ ภุมฺมเตฺถ อุปโยควจนนฺติ อาห – ‘‘ตสฺส สมีเป ขิเปยฺยา’’ติ, ตสฺส กุกฺกุรสฺส สมีเป อฎฺฐิกงฺกลํ ขิเปยฺยาติ อโตฺถฯ นิมฺมํสตฺตา กงฺกลนฺติ วุจฺจตีติ อิมินา วิคตมํสาย อฎฺฐิกงฺกลิกาย อุรฎฺฐิมฺหิ วา ปิฎฺฐิกณฺฎเก วา สีสฎฺฐิมฺหิ วา กงฺกล-สโทฺท นิรุโฬฺหติ ทเสฺสติฯ สุนิกฺกนฺตนฺติ นิลฺลิขิตํ กตฺวาว นิพฺพิเสสํ ลิขิตํฯ
42.Upasumbheyyāti ettha upa-saddo samīpattho, sumbhanaṃ vikkhepanaṃ. Teneva tamenanti bhummatthe upayogavacananti āha – ‘‘tassa samīpe khipeyyā’’ti, tassa kukkurassa samīpe aṭṭhikaṅkalaṃ khipeyyāti attho. Nimmaṃsattā kaṅkalanti vuccatīti iminā vigatamaṃsāya aṭṭhikaṅkalikāya uraṭṭhimhi vā piṭṭhikaṇṭake vā sīsaṭṭhimhi vā kaṅkala-saddo niruḷhoti dasseti. Sunikkantanti nillikhitaṃ katvāva nibbisesaṃ likhitaṃ.
เอกตฺตุปฎฺฐานสฺส อชฺฌุเปกฺขนวเสน ปวตฺติยา เอกตฺตาฯ เตนาห ‘‘จตุตฺถฌานุเปกฺขา’’ติฯ ยสฺมา ปนสฺส อารมฺมณมฺปิ เอกสภาวเมว, ตสฺมา อาห ‘‘สา หี’’ติอาทิฯ โลกามิสสงฺขาตาติ อปริญฺญาตวตฺถุนา โลเกน อามสิตพฺพโต, โลเก วา อามิโสติ สงฺขํ คตาย วเสน กามคุณานํ กามภาโว จ อามิสภาโว จ, โส เอว นิปฺปริยายโต อามิสนฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติฯ กามคุณามิสาติ กามคุเณ ฉนฺทราคาฯ คหณเฎฺฐน ภุสํ อาทานเฎฺฐนฯ
Ekattupaṭṭhānassa ajjhupekkhanavasena pavattiyā ekattā. Tenāha ‘‘catutthajhānupekkhā’’ti. Yasmā panassa ārammaṇampi ekasabhāvameva, tasmā āha ‘‘sā hī’’tiādi. Lokāmisasaṅkhātāti apariññātavatthunā lokena āmasitabbato, loke vā āmisoti saṅkhaṃ gatāya vasena kāmaguṇānaṃ kāmabhāvo ca āmisabhāvo ca, so eva nippariyāyato āmisanti vattabbataṃ arahati. Kāmaguṇāmisāti kāmaguṇe chandarāgā. Gahaṇaṭṭhena bhusaṃ ādānaṭṭhena.
๔๓. ฑยนํ อากาเสน คมนนฺติ อาห ‘‘อุปฺปติตฺวา คเจฺฉยฺยา’’ติฯ คิชฺฌาทีนํ วาสิผรสุ น โหตีติ อาห – ‘‘มุขตุณฺฑเกน ฑสนฺตา ตเจฺฉยฺยุ’’นฺติฯ วิสฺสเชฺชยฺยุนฺติ เอตฺถ ‘‘วิสฺสชฺชน’’นฺติ อากฑฺฒนํ อธิเปฺปตํ อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ, อากฑฺฒนญฺจ อนุพนฺธิตฺวา ปาตนนฺติ อาห ‘‘มํสเปสิํ นเขหิ กฑฺฒิตฺวา ปาเตยฺยุ’’นฺติฯ
43. Ḍayanaṃ ākāsena gamananti āha ‘‘uppatitvā gaccheyyā’’ti. Gijjhādīnaṃ vāsipharasu na hotīti āha – ‘‘mukhatuṇḍakena ḍasantā taccheyyu’’nti. Vissajjeyyunti ettha ‘‘vissajjana’’nti ākaḍḍhanaṃ adhippetaṃ anekatthattā dhātūnaṃ, ākaḍḍhanañca anubandhitvā pātananti āha ‘‘maṃsapesiṃ nakhehi kaḍḍhitvā pāteyyu’’nti.
๔๗. ปุริสสฺส อาโรหนโยคฺยํ โปริเสยฺยํฯ
47. Purisassa ārohanayogyaṃ poriseyyaṃ.
๔๘. สมฺปนฺนํ สุนฺทรํ ผลมสฺสาติ สมฺปนฺนผลํฯ ผลูปปนฺนนฺติ ผเลหิ อุเปตนฺติ อาห ‘‘พหุผล’’นฺติฯ
48. Sampannaṃ sundaraṃ phalamassāti sampannaphalaṃ. Phalūpapannanti phalehi upetanti āha ‘‘bahuphala’’nti.
๕๐. สุวิทูรวิทูเรติ อริยสฺส วินเย โวหารสมุเจฺฉทโต สุฎฺฐุ วิทูรภูเต เอว วิทูเร อหํ ฐิโตฯ กสฺสจิ นาม อตฺถสฺสปิ อชานนโต น อาชานนฺตีติ อนาชานียาติ กตฺตุสาธนมสฺส ทเสฺสโนฺต อชานนเกติ อชานนฺตโภชนสีเสน เตสํ ทาตพฺพปจฺจเย วทติฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
50.Suvidūravidūreti ariyassa vinaye vohārasamucchedato suṭṭhu vidūrabhūte eva vidūre ahaṃ ṭhito. Kassaci nāma atthassapi ajānanato na ājānantīti anājānīyāti kattusādhanamassa dassento ajānanaketi ajānantabhojanasīsena tesaṃ dātabbapaccaye vadati. Sesaṃ suviññeyyameva.
โปตลิยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Potaliyasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๔. โปตลิยสุตฺตํ • 4. Potaliyasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. โปตลิยสุตฺตวณฺณนา • 4. Potaliyasuttavaṇṇanā