Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๓. ตติยวโคฺค
3. Tatiyavaggo
๑. ปุคฺคลสุตฺตํ
1. Puggalasuttaṃ
๑๓๒. สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทิํ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘จตฺตาโรเม, มหาราช, ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? ตโมตมปรายโน, ตโมโชติปรายโน, โชติตมปรายโน, โชติโชติปรายโน’’ฯ
132. Sāvatthinidānaṃ . Atha kho rājā pasenadi kosalo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho rājānaṃ pasenadiṃ kosalaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘cattārome, mahārāja, puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Tamotamaparāyano, tamojotiparāyano, jotitamaparāyano, jotijotiparāyano’’.
‘‘กถญฺจ, มหาราช ปุคฺคโล ตโมตมปรายโน โหติ? อิธ, มหาราช, เอกโจฺจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล 1 วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิเทฺท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก , ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติฯ โส จ โหติ ทุพฺพโณฺณ ทุทฺทสิโก โอโกฎิมโก พวฺหาพาโธ 2 กาโณ วา กุณี วา ขโญฺช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ
‘‘Kathañca, mahārāja puggalo tamotamaparāyano hoti? Idha, mahārāja, ekacco puggalo nīce kule paccājāto hoti, caṇḍālakule vā venakule 3 vā nesādakule vā rathakārakule vā pukkusakule vā dalidde appannapānabhojane kasiravuttike , yattha kasirena ghāsacchādo labbhati. So ca hoti dubbaṇṇo duddasiko okoṭimako bavhābādho 4 kāṇo vā kuṇī vā khañjo vā pakkhahato vā, na lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena duccaritaṃ carati, vācāya duccaritaṃ carati, manasā duccaritaṃ carati. So kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā, kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช , ปุริโส อนฺธการา วา อนฺธการํ คเจฺฉยฺย, ตมา วา ตมํ คเจฺฉยฺย, โลหิตมลา วา โลหิตมลํ คเจฺฉยฺยฯ ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล ตโมตมปรายโน โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, mahārāja , puriso andhakārā vā andhakāraṃ gaccheyya, tamā vā tamaṃ gaccheyya, lohitamalā vā lohitamalaṃ gaccheyya. Tathūpamāhaṃ, mahārāja, imaṃ puggalaṃ vadāmi. Evaṃ kho, mahārāja, puggalo tamotamaparāyano hoti.
‘‘กถญฺจ, มหาราช, ปุคฺคโล ตโมโชติปรายโน โหติ? อิธ, มหาราช, เอกโจฺจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, จณฺฑาลกุเล วา เวนกุเล วา เนสาทกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิเทฺท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติฯ โส จ โข โหติ ทุพฺพโณฺณ ทุทฺทสิโก โอโกฎิมโก พวฺหาพาโธ, กาโณ วา กุณี วา ขโญฺช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติฯ โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ
‘‘Kathañca, mahārāja, puggalo tamojotiparāyano hoti? Idha, mahārāja, ekacco puggalo nīce kule paccājāto hoti, caṇḍālakule vā venakule vā nesādakule vā rathakārakule vā pukkusakule vā dalidde appannapānabhojane kasiravuttike, yattha kasirena ghāsacchādo labbhati. So ca kho hoti dubbaṇṇo duddasiko okoṭimako bavhābādho, kāṇo vā kuṇī vā khañjo vā pakkhahato vā, na lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena sucaritaṃ carati, vācāya sucaritaṃ carati, manasā sucaritaṃ carati. So kāyena sucaritaṃ caritvā vācāya sucaritaṃ caritvā manasā sucaritaṃ caritvā, kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ปถวิยา วา ปลฺลงฺกํ อาโรเหยฺย, ปลฺลงฺกา วา อสฺสปิฎฺฐิํ อาโรเหยฺย, อสฺสปิฎฺฐิยา วา หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเหยฺย, หตฺถิกฺขนฺธา วา ปาสาทํ อาโรเหยฺยฯ ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล ตโมโชติปรายโน โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, mahārāja, puriso pathaviyā vā pallaṅkaṃ āroheyya, pallaṅkā vā assapiṭṭhiṃ āroheyya, assapiṭṭhiyā vā hatthikkhandhaṃ āroheyya, hatthikkhandhā vā pāsādaṃ āroheyya. Tathūpamāhaṃ, mahārāja, imaṃ puggalaṃ vadāmi. Evaṃ kho, mahārāja, puggalo tamojotiparāyano hoti.
‘‘กถญฺจ, มหาราช, ปุคฺคโล โชติตมปรายโน โหติ? อิธ , มหาราช, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อุเจฺจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา, อเฑฺฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธเญฺญฯ โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ
‘‘Kathañca, mahārāja, puggalo jotitamaparāyano hoti? Idha , mahārāja, ekacco puggalo ucce kule paccājāto hoti, khattiyamahāsālakule vā brāhmaṇamahāsālakule vā gahapatimahāsālakule vā, aḍḍhe mahaddhane mahābhoge pahūtajātarūparajate pahūtavittūpakaraṇe pahūtadhanadhaññe. So ca hoti abhirūpo dassanīyo pāsādiko, paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato, lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena duccaritaṃ carati, vācāya duccaritaṃ carati, manasā duccaritaṃ carati. So kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā, kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ปาสาทา วา หตฺถิกฺขนฺธํ โอโรเหยฺย, หตฺถิกฺขนฺธา วา อสฺสปิฎฺฐิํ โอโรเหยฺย, อสฺสปิฎฺฐิยา วา ปลฺลงฺกํ โอโรเหยฺย, ปลฺลงฺกา วา ปถวิํ โอโรเหยฺย, ปถวิยา วา อนฺธการํ ปวิเสยฺยฯ ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล โชติตมปรายโน โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, mahārāja, puriso pāsādā vā hatthikkhandhaṃ oroheyya, hatthikkhandhā vā assapiṭṭhiṃ oroheyya, assapiṭṭhiyā vā pallaṅkaṃ oroheyya, pallaṅkā vā pathaviṃ oroheyya, pathaviyā vā andhakāraṃ paviseyya. Tathūpamāhaṃ, mahārāja, imaṃ puggalaṃ vadāmi. Evaṃ kho, mahārāja, puggalo jotitamaparāyano hoti.
‘‘กถญฺจ, มหาราช, ปุคฺคโล โชติโชติปรายโน โหติ? อิธ, มหาราช, เอกโจฺจ ปุคฺคโล อุเจฺจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ, ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา, อเฑฺฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธเญฺญฯ โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต , ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติฯ โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ
‘‘Kathañca, mahārāja, puggalo jotijotiparāyano hoti? Idha, mahārāja, ekacco puggalo ucce kule paccājāto hoti, khattiyamahāsālakule vā brāhmaṇamahāsālakule vā gahapatimahāsālakule vā, aḍḍhe mahaddhane mahābhoge pahūtajātarūparajate pahūtavittūpakaraṇe pahūtadhanadhaññe. So ca hoti abhirūpo dassanīyo pāsādiko, paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato , lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena sucaritaṃ carati, vācāya sucaritaṃ carati, manasā sucaritaṃ carati. So kāyena sucaritaṃ caritvā vācāya sucaritaṃ caritvā manasā sucaritaṃ caritvā, kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati.
‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, ปุริโส ปลฺลงฺกา วา ปลฺลงฺกํ สงฺกเมยฺย, อสฺสปิฎฺฐิยา วา อสฺสปิฎฺฐิํ สงฺกเมยฺย, หตฺถิกฺขนฺธา วา หตฺถิกฺขนฺธํ สงฺกเมยฺย, ปาสาทา วา ปาสาทํ สงฺกเมยฺยฯ ตถูปมาหํ, มหาราช, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิฯ เอวํ โข, มหาราช, ปุคฺคโล โชติโชติปรายโน โหติฯ อิเม โข, มหาราช, จตฺตาโร ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติฯ อิทมโวจ…เป.…
‘‘Seyyathāpi, mahārāja, puriso pallaṅkā vā pallaṅkaṃ saṅkameyya, assapiṭṭhiyā vā assapiṭṭhiṃ saṅkameyya, hatthikkhandhā vā hatthikkhandhaṃ saṅkameyya, pāsādā vā pāsādaṃ saṅkameyya. Tathūpamāhaṃ, mahārāja, imaṃ puggalaṃ vadāmi. Evaṃ kho, mahārāja, puggalo jotijotiparāyano hoti. Ime kho, mahārāja, cattāro puggalā santo saṃvijjamānā lokasmi’’nti. Idamavoca…pe…
‘‘ทลิโทฺท ปุริโส ราช, อสฺสโทฺธ โหติ มจฺฉรี;
‘‘Daliddo puriso rāja, assaddho hoti maccharī;
กทริโย ปาปสงฺกโปฺป, มิจฺฉาทิฎฺฐิ อนาทโรฯ
Kadariyo pāpasaṅkappo, micchādiṭṭhi anādaro.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อเญฺญ วาปิ วนิพฺพเก;
‘‘Samaṇe brāhmaṇe vāpi, aññe vāpi vanibbake;
อโกฺกสติ ปริภาสติ, นตฺถิโก โหติ โรสโกฯ
Akkosati paribhāsati, natthiko hoti rosako.
‘‘ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชนํ;
‘‘Dadamānaṃ nivāreti, yācamānāna bhojanaṃ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
Tādiso puriso rāja, mīyamāno janādhipa;
อุเปติ นิรยํ โฆรํ, ตโมตมปรายโนฯ
Upeti nirayaṃ ghoraṃ, tamotamaparāyano.
‘‘ทลิโทฺท ปุริโส ราช, สโทฺธ โหติ อมจฺฉรี;
‘‘Daliddo puriso rāja, saddho hoti amaccharī;
ททาติ เสฎฺฐสงฺกโปฺป, อพฺยคฺคมนโส นโรฯ
Dadāti seṭṭhasaṅkappo, abyaggamanaso naro.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อเญฺญ วาปิ วนิพฺพเก;
‘‘Samaṇe brāhmaṇe vāpi, aññe vāpi vanibbake;
อุฎฺฐาย อภิวาเทติ, สมจริยาย สิกฺขติฯ
Uṭṭhāya abhivādeti, samacariyāya sikkhati.
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
Tādiso puriso rāja, mīyamāno janādhipa;
อุเปติ ติทิวํ ฐานํ, ตโมโชติปรายโนฯ
Upeti tidivaṃ ṭhānaṃ, tamojotiparāyano.
กทริโย ปาปสงฺกโปฺป, มิจฺฉาทิฎฺฐิ อนาทโรฯ
Kadariyo pāpasaṅkappo, micchādiṭṭhi anādaro.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อเญฺญ วาปิ วนิพฺพเก;
‘‘Samaṇe brāhmaṇe vāpi, aññe vāpi vanibbake;
อโกฺกสติ ปริภาสติ, นตฺถิโก โหติ โรสโกฯ
Akkosati paribhāsati, natthiko hoti rosako.
‘‘ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชนํ;
‘‘Dadamānaṃ nivāreti, yācamānāna bhojanaṃ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
Tādiso puriso rāja, mīyamāno janādhipa;
อุเปติ นิรยํ โฆรํ, โชติตมปรายโนฯ
Upeti nirayaṃ ghoraṃ, jotitamaparāyano.
‘‘อโฑฺฒ เจ ปุริโส ราช, สโทฺธ โหติ อมจฺฉรี;
‘‘Aḍḍho ce puriso rāja, saddho hoti amaccharī;
ททาติ เสฎฺฐสงฺกโปฺป, อพฺยคฺคมนโส นโรฯ
Dadāti seṭṭhasaṅkappo, abyaggamanaso naro.
‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ วาปิ, อเญฺญ วาปิ วนิพฺพเก;
‘‘Samaṇe brāhmaṇe vāpi, aññe vāpi vanibbake;
อุฎฺฐาย อภิวาเทติ, สมจริยาย สิกฺขติฯ
Uṭṭhāya abhivādeti, samacariyāya sikkhati.
‘‘ททมานํ น วาเรติ, ยาจมานาน โภชนํ;
‘‘Dadamānaṃ na vāreti, yācamānāna bhojanaṃ;
ตาทิโส ปุริโส ราช, มียมาโน ชนาธิป;
Tādiso puriso rāja, mīyamāno janādhipa;
อุเปติ ติทิวํ ฐานํ, โชติโชติปรายโน’’ติฯ
Upeti tidivaṃ ṭhānaṃ, jotijotiparāyano’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา • 1. Puggalasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. ปุคฺคลสุตฺตวณฺณนา • 1. Puggalasuttavaṇṇanā