Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๗. ปุนพฺพสุสุตฺตวณฺณนา
7. Punabbasusuttavaṇṇanā
๒๔๑. วสนฎฺฐานคฺคหเณน รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐานาทโย สงฺคณฺหาติฯ ทฺวาทสหตฺถมตฺตเมว คณฺหาติ ปกติสญฺจรณูปจารมตฺตพฺยาปนโตฯ ยถาปริสนฺติ ปริสานุรูปํ, ยตฺถ ยตฺถ ปริสา ติฎฺฐติ, ตํ ตํ ฐานํ คจฺฉติ ปริสปริยนฺติกตฺตาฯ สตฺถุ มุขวิการาภาวโต ปเวสานุญฺญํ สลฺลเกฺขนฺตี ‘‘นูน อยํ กตาธิการา ภวิสฺสตี’’ติ อนุมานสิทฺธํ อุปนิสฺสยํ ทิสฺวาฯ เอกีภาวคมเนนาติ หตฺถปาสูปคมเนน ปริสาย มิสฺสีภาวปฺปตฺติยาฯ ปุตฺตกาติ ปุตฺตปุตฺติโยฯ อนุกมฺปายญฺหิ ก-สโทฺทฯ
241. Vasanaṭṭhānaggahaṇena rattiṭṭhānadivāṭṭhānādayo saṅgaṇhāti. Dvādasahatthamattameva gaṇhāti pakatisañcaraṇūpacāramattabyāpanato. Yathāparisanti parisānurūpaṃ, yattha yattha parisā tiṭṭhati, taṃ taṃ ṭhānaṃ gacchati parisapariyantikattā. Satthu mukhavikārābhāvato pavesānuññaṃ sallakkhentī ‘‘nūna ayaṃ katādhikārā bhavissatī’’ti anumānasiddhaṃ upanissayaṃ disvā. Ekībhāvagamanenāti hatthapāsūpagamanena parisāya missībhāvappattiyā. Puttakāti puttaputtiyo. Anukampāyañhi ka-saddo.
นิพฺพานารมฺมเณน อริยมเคฺคน มุญฺจิยมานา คนฺถา ‘‘นิพฺพานํ อาคมฺม ปมุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตาฯ เวลาติกฺกนฺตาติ ปมาณโต ปริจฺฉินฺทิตุํ น สกฺกาติ อาห ‘‘ปมาณาติกฺกนฺตา’’ติฯ ปิยายนาติ อาสีสนาฯ อาสีสนํ เปมวเสน เปมวตฺถุโน เอสนา ปตฺถนาว โหตีติ อาห ‘‘มคฺคนา ปตฺถนา’’ติฯ ตโตติ ปิยปุตฺตาทิโตฯ ปาณีนนฺติ สามิอเตฺถ ปุถุวจนํ ทุกฺขสทฺทาเปกฺขํฯ เก โมเจตีติ โมจนกิริยาย กมฺมํ ปุจฺฉติ? อิภโร ปน อตฺถวเสน วิภตฺติวิปริณาโมติ ‘‘ปาณิเนติ อาหริตฺวา วตฺตพฺพ’’นฺติ อาหฯ อภิสมฺพุธนฺติ อภิสมฺพุธโนฺตฯ เตนาห ‘‘อภิสมฺพุโทฺธ’’ติฯ สทฺธมฺมสฺสาติ อุปโยคเตฺถ สามิวจนนฺติ อาห ‘‘สทฺธมฺมเมว อชานิตฺวา’’ติฯ
Nibbānārammaṇena ariyamaggena muñciyamānā ganthā ‘‘nibbānaṃ āgamma pamuccantī’’ti vuttā. Velātikkantāti pamāṇato paricchindituṃ na sakkāti āha ‘‘pamāṇātikkantā’’ti. Piyāyanāti āsīsanā. Āsīsanaṃ pemavasena pemavatthuno esanā patthanāva hotīti āha ‘‘magganā patthanā’’ti. Tatoti piyaputtādito. Pāṇīnanti sāmiatthe puthuvacanaṃ dukkhasaddāpekkhaṃ. Ke mocetīti mocanakiriyāya kammaṃ pucchati? Ibharo pana atthavasena vibhattivipariṇāmoti ‘‘pāṇineti āharitvā vattabba’’nti āha. Abhisambudhanti abhisambudhanto. Tenāha ‘‘abhisambuddho’’ti. Saddhammassāti upayogatthe sāmivacananti āha ‘‘saddhammameva ajānitvā’’ti.
ปุตฺตสฺส อนุโมทนํ กโรนฺตีติ ปุตฺตสฺส ปฎิปตฺติอนุโมทนํ กโรนฺตีฯ อุคฺคตาติ เอตฺถ กลเล วฎฺฎทุเกฺข นิมุชฺชมานา ตโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ อสโกฺกนฺติ อชฺช พุทฺธานุภาเวน ปญฺญาสีสํ อุกฺขิปิตา อุคฺคตาฯ ปุน วินิปาตาภาวโต สมฺมเทว อุคฺคตตฺตา สมุคฺคตาฯ ตถาภูตา สาสเนปิ อุคฺคตา สมุคฺคตา ชาตาฯ จตุสจฺจปฎิเวธภาวนฺติ จตุสจฺจปฎิเวธสฺส อตฺถิภาวํฯ กณฺฑุกจฺฉุอาทีติ อาทิ-สเทฺทน เชคุจฺฉอสาตาทิํ สงฺคณฺหาติฯ ทิพฺพสมฺปตฺติํ ปฎิลภติ ปวตฺติยํ สมฺปตฺติทายิโน กมฺมสฺส กโตกาสตฺตาฯ ตุณฺหี อุตฺตริเก โหหีติ มาตุ-วจนํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา ตสฺส วิเสสาธิคมสฺส อวิพนฺธกรณสมฺมาปโยเคน ยถาลทฺธวิเสสาย มาตุยา วเสน ยสฺมา ธีตา ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปตฺติลาภี, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มาตุ อานุภาเวเนวา’’ติฯ
Puttassa anumodanaṃ karontīti puttassa paṭipattianumodanaṃ karontī. Uggatāti ettha kalale vaṭṭadukkhe nimujjamānā tato sīsaṃ ukkhipituṃ asakkonti ajja buddhānubhāvena paññāsīsaṃ ukkhipitā uggatā. Puna vinipātābhāvato sammadeva uggatattā samuggatā. Tathābhūtā sāsanepi uggatā samuggatā jātā. Catusaccapaṭivedhabhāvanti catusaccapaṭivedhassa atthibhāvaṃ. Kaṇḍukacchuādīti ādi-saddena jegucchaasātādiṃ saṅgaṇhāti. Dibbasampattiṃ paṭilabhati pavattiyaṃ sampattidāyino kammassa katokāsattā. Tuṇhī uttarike hohīti mātu-vacanaṃ sampaṭicchitvā tassa visesādhigamassa avibandhakaraṇasammāpayogena yathāladdhavisesāya mātuyā vasena yasmā dhītā diṭṭhadhammikasampattilābhī, tasmā vuttaṃ ‘‘mātu ānubhāvenevā’’ti.
ปุนพฺพสุสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Punabbasusuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. ปุนพฺพสุสุตฺตํ • 7. Punabbasusuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ปุนพฺพสุสุตฺตวณฺณนา • 7. Punabbasusuttavaṇṇanā