Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถา • Suttanipāta-aṭṭhakathā |
๓. ปุณฺณกสุตฺตวณฺณนา
3. Puṇṇakasuttavaṇṇanā
๑๐๕๐. อเนชนฺติ ปุณฺณกสุตฺตํฯ อิมมฺปิ ปุริมนเยเนว โมฆราชานํ ปฎิกฺขิปิตฺวา วุตฺตํฯ ตตฺถ มูลทสฺสาวินฺติ อกุสลมูลาทิทสฺสาวิํฯ อิสโยติ อิสินามกา ชฎิลาฯ ยญฺญนฺติ เทยฺยธมฺมํฯ อกปฺปยิํสูติ ปริเยสนฺติฯ
1050.Anejanti puṇṇakasuttaṃ. Imampi purimanayeneva mogharājānaṃ paṭikkhipitvā vuttaṃ. Tattha mūladassāvinti akusalamūlādidassāviṃ. Isayoti isināmakā jaṭilā. Yaññanti deyyadhammaṃ. Akappayiṃsūti pariyesanti.
๑๐๕๑. อาสีสมานาติ รูปาทีนิ ปตฺถยมานาฯ อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวญฺจ ปตฺถยมานา, มนุสฺสาทิภาวํ อิจฺฉนฺตาติ วุตฺตํ โหติฯ ชรํ สิตาติ ชรํ นิสฺสิตาฯ ชรามุเขน เจตฺถ สพฺพวฎฺฎทุกฺขํ วุตฺตํฯ เตน วฎฺฎทุกฺขนิสฺสิตา ตโต อปริมุจฺจมานา เอว กปฺปยิํสูติ ทีเปติฯ
1051.Āsīsamānāti rūpādīni patthayamānā. Itthattanti itthabhāvañca patthayamānā, manussādibhāvaṃ icchantāti vuttaṃ hoti. Jaraṃ sitāti jaraṃ nissitā. Jarāmukhena cettha sabbavaṭṭadukkhaṃ vuttaṃ. Tena vaṭṭadukkhanissitā tato aparimuccamānā eva kappayiṃsūti dīpeti.
๑๐๕๒. กจฺจิสฺสุ เต ภควา ยญฺญปเถ อปฺปมตฺตา, อตารุํ ชาติญฺจ ชรญฺจ มาริสาติ เอตฺถ ยโญฺญเยว ยญฺญปโถฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ เต ยเญฺญ อปฺปมตฺตา หุตฺวา ยญฺญํ กปฺปยนฺตา วฎฺฎทุกฺขมตริํสูติฯ
1052.Kaccissu te bhagavā yaññapathe appamattā, atāruṃ jātiñca jarañca mārisāti ettha yaññoyeva yaññapatho. Idaṃ vuttaṃ hoti – kacci te yaññe appamattā hutvā yaññaṃ kappayantā vaṭṭadukkhamatariṃsūti.
๑๐๕๓. อาสีสนฺตีติ รูปปฎิลาภาทโย ปเตฺถนฺติฯ โถมยนฺตีติ ‘‘สุยิฎฺฐํ สุจิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน ยญฺญาทีนิ ปสํสนฺติฯ อภิชปฺปนฺตีติ รูปาทิปฎิลาภาย วาจํ ภินฺทนฺติฯ ชุหนฺตีติ เทนฺติฯ กามาภิชปฺปนฺติ ปฎิจฺจ ลาภนฺติ รูปาทิปฎิลาภํ ปฎิจฺจ ปุนปฺปุนํ กาเม เอว อภิชปฺปนฺติ, ‘‘อโห วต อมฺหากํ สิยุ’’นฺติ วทนฺติ, ตณฺหญฺจ ตตฺถ วเฑฺฒนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ ยาชโยคาติ ยาคาธิมุตฺตาฯ ภวราครตฺตาติ เอวมิเมหิ อาสีสนาทีหิ ภวราเคเนว รตฺตา, ภวราครตฺตา วา หุตฺวา เอตานิ อาสีสนาทีนิ กโรนฺตา นาตริํสุ ชาติอาทิวฎฺฎทุกฺขํ น อุตฺตริํสูติฯ
1053.Āsīsantīti rūpapaṭilābhādayo patthenti. Thomayantīti ‘‘suyiṭṭhaṃ suci dinna’’ntiādinā nayena yaññādīni pasaṃsanti. Abhijappantīti rūpādipaṭilābhāya vācaṃ bhindanti. Juhantīti denti. Kāmābhijappanti paṭicca lābhanti rūpādipaṭilābhaṃ paṭicca punappunaṃ kāme eva abhijappanti, ‘‘aho vata amhākaṃ siyu’’nti vadanti, taṇhañca tattha vaḍḍhentīti vuttaṃ hoti. Yājayogāti yāgādhimuttā. Bhavarāgarattāti evamimehi āsīsanādīhi bhavarāgeneva rattā, bhavarāgarattā vā hutvā etāni āsīsanādīni karontā nātariṃsu jātiādivaṭṭadukkhaṃ na uttariṃsūti.
๑๐๕๔-๕. อถโกจรหีติ อถ อิทานิ โก อโญฺญ อตารีติฯ สงฺขายาติ ญาเณน วีมํสิตฺวาฯ ปโรปรานีติ ปรานิ จ โอรานิ จ, ปรตฺตภาวสกตฺตภาวาทีนิ ปรานิ จ โอรานิ จาติ วุตฺตํ โหติฯ วิธูโมติ กายทุจฺจริตาทิธูมวิรหิโตฯ อนีโฆติ ราคาทิอีฆวิรหิโต ฯ อตาริ โสติ โส เอวรูโป อรหา ชาติชรํ อตาริฯ เสสเมตฺถ ปากฎเมวฯ
1054-5.Athakocarahīti atha idāni ko añño atārīti. Saṅkhāyāti ñāṇena vīmaṃsitvā. Paroparānīti parāni ca orāni ca, parattabhāvasakattabhāvādīni parāni ca orāni cāti vuttaṃ hoti. Vidhūmoti kāyaduccaritādidhūmavirahito. Anīghoti rāgādiīghavirahito . Atāri soti so evarūpo arahā jātijaraṃ atāri. Sesamettha pākaṭameva.
เอวํ ภควา อิมมฺปิ สุตฺตํ อรหตฺตนิกูเฎเนว เทเสสิฯ เทสนาปริโยสาเน อยมฺปิ พฺราหฺมโณ อรหเตฺต ปติฎฺฐาสิ สทฺธิํ อเนฺตวาสิสหเสฺสน, อเญฺญสญฺจ อเนกสตานํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิฯ เสสํ วุตฺตสทิสเมวาติฯ
Evaṃ bhagavā imampi suttaṃ arahattanikūṭeneva desesi. Desanāpariyosāne ayampi brāhmaṇo arahatte patiṭṭhāsi saddhiṃ antevāsisahassena, aññesañca anekasatānaṃ dhammacakkhuṃ udapādi. Sesaṃ vuttasadisamevāti.
ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฎฺฐกถาย
Paramatthajotikāya khuddaka-aṭṭhakathāya
สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถาย ปุณฺณกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suttanipāta-aṭṭhakathāya puṇṇakasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / สุตฺตนิปาตปาฬิ • Suttanipātapāḷi / ๓. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา • 3. Puṇṇakamāṇavapucchā