Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๖. ปุญฺญกิริยวตฺถุสุตฺตํ
6. Puññakiriyavatthusuttaṃ
๓๖. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปุญฺญกิริยวตฺถูนิฯ กตมานิ ตีณิ? ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ 1, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุฯ อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ ปริตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ ปริตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ 2 นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสโทภคฺยํ อุปปชฺชติฯ
36. ‘‘Tīṇimāni, bhikkhave, puññakiriyavatthūni. Katamāni tīṇi? Dānamayaṃ puññakiriyavatthu 3, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthu. Idha, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu parittaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu parittaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ 4 nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā manussadobhagyaṃ upapajjati.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ มตฺตโส กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ มตฺตโส กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสโสภคฺยํ อุปปชฺชติฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu mattaso kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu mattaso kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā manussasobhagyaṃ upapajjati.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว , เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาราชาโน ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, จาตุมหาราชิเก เทเว ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหนฺติ – ทิเพฺพน อายุนา, ทิเพฺพน วเณฺณน, ทิเพฺพน สุเขน, ทิเพฺพน ยเสน, ทิเพฺพน อาธิปเตเยฺยน, ทิเพฺพหิ รูเปหิ, ทิเพฺพหิ สเทฺทหิ, ทิเพฺพหิ คเนฺธหิ, ทิเพฺพหิ รเสหิ, ทิเพฺพหิ โผฎฺฐเพฺพหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave , ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā cātumahārājikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Tatra, bhikkhave, cattāro mahārājāno dānamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, sīlamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, cātumahārājike deve dasahi ṭhānehi adhigaṇhanti – dibbena āyunā, dibbena vaṇṇena, dibbena sukhena, dibbena yasena, dibbena ādhipateyyena, dibbehi rūpehi, dibbehi saddehi, dibbehi gandhehi, dibbehi rasehi, dibbehi phoṭṭhabbehi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวติํสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, สโกฺก เทวานมิโนฺท ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา ตาวติํเส เทเว ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิเพฺพน อายุนา…เป.… ทิเพฺพหิ โผฎฺฐเพฺพหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā tāvatiṃsānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Tatra, bhikkhave, sakko devānamindo dānamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā sīlamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā tāvatiṃse deve dasahi ṭhānehi adhigaṇhāti – dibbena āyunā…pe… dibbehi phoṭṭhabbehi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, สุยาโม เทวปุโตฺต ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา , สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ยาเม เทเว ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิเพฺพน อายุนา…เป.… ทิเพฺพหิ โผฎฺฐเพฺพหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā yāmānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Tatra, bhikkhave, suyāmo devaputto dānamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā , sīlamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, yāme deve dasahi ṭhānehi adhigaṇhāti – dibbena āyunā…pe… dibbehi phoṭṭhabbehi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตตฺร , ภิกฺขเว, สนฺตุสิโต เทวปุโตฺต ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ตุสิเต เทเว ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิเพฺพน อายุนา…เป.… ทิเพฺพหิ โผฎฺฐเพฺพหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā tusitānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Tatra , bhikkhave, santusito devaputto dānamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, sīlamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, tusite deve dasahi ṭhānehi adhigaṇhāti – dibbena āyunā…pe… dibbehi phoṭṭhabbehi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, สุนิมฺมิโต เทวปุโตฺต ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, นิมฺมานรตีเทเว ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิเพฺพน อายุนา…เป.… ทิเพฺพหิ โผฎฺฐเพฺพหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā nimmānaratīnaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Tatra, bhikkhave, sunimmito devaputto dānamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, sīlamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, nimmānaratīdeve dasahi ṭhānehi adhigaṇhāti – dibbena āyunā…pe… dibbehi phoṭṭhabbehi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ นาภิสโมฺภติฯ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, วสวตฺตี เทวปุโตฺต ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีเทเว ทสหิ ฐาเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิเพฺพน อายุนา, ทิเพฺพน วเณฺณน, ทิเพฺพน สุเขน, ทิเพฺพน ยเสน, ทิเพฺพน อาธิปเตเยฺยน, ทิเพฺพหิ รูเปหิ, ทิเพฺพหิ สเทฺทหิ, ทิเพฺพหิ คเนฺธหิ, ทิเพฺพหิ รเสหิ, ทิเพฺพหิ โผฎฺฐเพฺพหิฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปุญฺญกิริยวตฺถูนี’’ติฯ ฉฎฺฐํฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, ekaccassa dānamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, sīlamayaṃ puññakiriyavatthu adhimattaṃ kataṃ hoti, bhāvanāmayaṃ puññakiriyavatthuṃ nābhisambhoti. So kāyassa bhedā paraṃ maraṇā paranimmitavasavattīnaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Tatra, bhikkhave, vasavattī devaputto dānamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, sīlamayaṃ puññakiriyavatthuṃ atirekaṃ karitvā, paranimmitavasavattīdeve dasahi ṭhānehi adhigaṇhāti – dibbena āyunā, dibbena vaṇṇena, dibbena sukhena, dibbena yasena, dibbena ādhipateyyena, dibbehi rūpehi, dibbehi saddehi, dibbehi gandhehi, dibbehi rasehi, dibbehi phoṭṭhabbehi. Imāni kho, bhikkhave, tīṇi puññakiriyavatthūnī’’ti. Chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๖. ปุญฺญกิริยวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 6. Puññakiriyavatthusuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๖. ปุญฺญกิริยวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 6. Puññakiriyavatthusuttavaṇṇanā