Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๑๐. ปุณฺณมาสเตฺถรคาถาวณฺณนา

    10. Puṇṇamāsattheragāthāvaṇṇanā

    วิหริ อเปกฺขนฺติ อายสฺมโต ปุณฺณมาสเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล จกฺกวากโยนิยํ นิพฺพโตฺต ภควนฺตํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อตฺตโน มุขตุณฺฑเกน สาลปุปฺผํ คเหตฺวา ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิโต สตฺตรเส กเปฺป อฎฺฐกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี ราชา อโหสิฯ อิมสฺมิํ ปน กเปฺป กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน โอสกฺกมาเน กุฎุมฺพิยกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถินคเร สมิทฺธิสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ตสฺส ชาตทิวเส ตสฺมิํ เคเห สพฺพา ริตฺตกุมฺภิโย สุวณฺณมาสานํ ปุณฺณา อเหสุํฯ เตนสฺส ปุณฺณมาโสติ นามํ อกํสุฯ โส วยปฺปโตฺต พฺราหฺมณวิชฺชาสุ นิปฺผตฺติํ ปตฺวา วิวาหกมฺมํ กตฺวา เอกํ ปุตฺตํ ลภิตฺวา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนตาย ฆราวาสํ ชิคุจฺฉโนฺต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท ปุพฺพกิจฺจสมฺปโนฺน จตุสจฺจกมฺมฎฺฐาเน ยุตฺตปฺปยุโตฺต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๗.๑๓-๑๙) –

    Vihariapekkhanti āyasmato puṇṇamāsattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira vipassissa bhagavato kāle cakkavākayoniyaṃ nibbatto bhagavantaṃ gacchantaṃ disvā pasannamānaso attano mukhatuṇḍakena sālapupphaṃ gahetvā pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto ito sattarase kappe aṭṭhakkhattuṃ cakkavattī rājā ahosi. Imasmiṃ pana kappe kassapassa bhagavato sāsane osakkamāne kuṭumbiyakule nibbattitvā pabbajitvā samaṇadhammaṃ katvā tato cuto devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sāvatthinagare samiddhissa nāma brāhmaṇassa putto hutvā nibbatti. Tassa jātadivase tasmiṃ gehe sabbā rittakumbhiyo suvaṇṇamāsānaṃ puṇṇā ahesuṃ. Tenassa puṇṇamāsoti nāmaṃ akaṃsu. So vayappatto brāhmaṇavijjāsu nipphattiṃ patvā vivāhakammaṃ katvā ekaṃ puttaṃ labhitvā upanissayasampannatāya gharāvāsaṃ jigucchanto bhagavantaṃ upasaṅkamitvā dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā laddhūpasampado pubbakiccasampanno catusaccakammaṭṭhāne yuttappayutto vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.7.13-19) –

    ‘‘สินฺธุยา นทิยา ตีเร, จกฺกวาโก อหํ ตทา;

    ‘‘Sindhuyā nadiyā tīre, cakkavāko ahaṃ tadā;

    สุทฺธเสวาลภโกฺขหํ, ปาเปสุ จ สุสญฺญโตฯ

    Suddhasevālabhakkhohaṃ, pāpesu ca susaññato.

    ‘‘อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, คจฺฉนฺตํ อนิลญฺชเส;

    ‘‘Addasaṃ virajaṃ buddhaṃ, gacchantaṃ anilañjase;

    ตุเณฺฑน สาลํ ปคฺคยฺห, วิปสฺสิสฺสาภิโรปยิํฯ

    Tuṇḍena sālaṃ paggayha, vipassissābhiropayiṃ.

    ‘‘ยสฺส สทฺธา ตถาคเต, อจลา สุปฺปติฎฺฐิตา;

    ‘‘Yassa saddhā tathāgate, acalā suppatiṭṭhitā;

    เตน จิตฺตปฺปสาเทน, ทุคฺคติํ โส น คจฺฉติฯ

    Tena cittappasādena, duggatiṃ so na gacchati.

    ‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ, พุทฺธเสฎฺฐสฺส สนฺติเก;

    ‘‘Svāgataṃ vata me āsi, buddhaseṭṭhassa santike;

    วิหงฺคเมน สเนฺตน, สุพีชํ โรปิตํ มยาฯ

    Vihaṅgamena santena, subījaṃ ropitaṃ mayā.

    ‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยิํ;

    ‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ pupphamabhiropayiṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.

    ‘‘สุจารุทสฺสนา นาม, อเฎฺฐเต เอกนามกา;

    ‘‘Sucārudassanā nāma, aṭṭhete ekanāmakā;

    กเปฺป สตฺตรเส อาสุํ, จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ

    Kappe sattarase āsuṃ, cakkavattī mahabbalā.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อถสฺส ปุราณทุติยิกา ตํ ปโลเภตุกามา อลงฺกตปฎิยตฺตา ปุเตฺตน สทฺธิํ อุปคนฺตฺวา ปิยาลาปภาวาทิเกหิ ภาววิวรณกมฺมํ นาม กาตุํ อารภิฯ เถโร ตสฺสา การณํ ทิสฺวา อตฺตโน กตฺถจิปิ อลคฺคภาวํ ปกาเสโนฺต ‘‘วิหริ อเปกฺข’’นฺติ คาถํ อภาสิฯ

    Athassa purāṇadutiyikā taṃ palobhetukāmā alaṅkatapaṭiyattā puttena saddhiṃ upagantvā piyālāpabhāvādikehi bhāvavivaraṇakammaṃ nāma kātuṃ ārabhi. Thero tassā kāraṇaṃ disvā attano katthacipi alaggabhāvaṃ pakāsento ‘‘vihari apekkha’’nti gāthaṃ abhāsi.

    ๑๐. ตตฺถ วิหรีติ วิเสสโต หริ อปหริ อปเนสิฯ อเปกฺขนฺติ ตณฺหํฯ อิธาติ อิมสฺมิํ โลเก อตฺตภาเว วาฯ หุรนฺติ อปรสฺมิํ อนาคเต อตฺตภาเว วาฯ อิธาติ วา อชฺฌตฺติเกสุ อายตเนสุฯ หุรนฺติ พาหิเรสุ ฯ วา-สโทฺท สมุจฺจยโตฺถ ‘‘อปทา วา ทฺวิปทา วา’’ติอาทีสุ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔; ๕.๓๒) วิยฯ โยติ อตฺตานเมว ปรํ วิย ทเสฺสติฯ เวทคูติ เวเทน คโต มคฺคญาเณน นิพฺพานํ คโต อธิคโต, จตฺตาริ วา สจฺจานิ ปริญฺญาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสน อภิสเมจฺจ ฐิโตฯ ยตโตฺตติ มคฺคสํวเรน สํยตสภาโว, สมฺมาวายาเมน วา สํยตสภาโวฯ สเพฺพสุ ธเมฺมสุ อนูปลิโตฺตติ สเพฺพสุ อารมฺมเณสุ ธเมฺมสุ ตณฺหาทิฎฺฐิเลปวเสน น อุปลิโตฺต, เตน ลาภาทิโลกธเมฺม สมติกฺกมํ ทเสฺสติฯ โลกสฺสาติ อุปาทานกฺขนฺธปญฺจกสฺสฯ ตญฺหิ ลุชฺชนปลุชฺชนเฎฺฐน โลโกฯ ชญฺญาติ ชานิตฺวาฯ อุทยพฺพยญฺจาติ อุปฺปาทเญฺจว วยญฺจ, เอเตน ยถาวุตฺตคุณานํ ปุพฺพภาคปฎิปทํ ทเสฺสติฯ อยํ ปเนตฺถ อโตฺถ – โย สกลสฺส ขนฺธาทิโลกสฺส สมปญฺญาสาย อากาเรหิ อุทยพฺพยํ ชานิตฺวา เวทคู ยตโตฺต กตฺถจิ อนุปลิโตฺต, โส สพฺพตฺถ อเปกฺขํ วิเนยฺย สนฺตุสิโต ตาทิสานํ วิปฺปการานํ น กิญฺจิ มญฺญติ, ตสฺมา ตฺวํ อนฺธพาเล ยถาคตมเคฺคเนว คจฺฉาติฯ อถ สา อิตฺถี ‘‘อยํ สมโณ มยิ ปุเตฺต จ นิรเปโกฺข, น สกฺกา อิมํ ปโลเภตุ’’นฺติ ปกฺกามิฯ

    10. Tattha viharīti visesato hari apahari apanesi. Apekkhanti taṇhaṃ. Idhāti imasmiṃ loke attabhāve vā. Huranti aparasmiṃ anāgate attabhāve vā. Idhāti vā ajjhattikesu āyatanesu. Huranti bāhiresu . -saddo samuccayattho ‘‘apadā vā dvipadā vā’’tiādīsu (itivu. 90; a. ni. 4.34; 5.32) viya. Yoti attānameva paraṃ viya dasseti. Vedagūti vedena gato maggañāṇena nibbānaṃ gato adhigato, cattāri vā saccāni pariññāpahānasacchikiriyābhāvanābhisamayavasena abhisamecca ṭhito. Yatattoti maggasaṃvarena saṃyatasabhāvo, sammāvāyāmena vā saṃyatasabhāvo. Sabbesu dhammesu anūpalittoti sabbesu ārammaṇesu dhammesu taṇhādiṭṭhilepavasena na upalitto, tena lābhādilokadhamme samatikkamaṃ dasseti. Lokassāti upādānakkhandhapañcakassa. Tañhi lujjanapalujjanaṭṭhena loko. Jaññāti jānitvā. Udayabbayañcāti uppādañceva vayañca, etena yathāvuttaguṇānaṃ pubbabhāgapaṭipadaṃ dasseti. Ayaṃ panettha attho – yo sakalassa khandhādilokassa samapaññāsāya ākārehi udayabbayaṃ jānitvā vedagū yatatto katthaci anupalitto, so sabbattha apekkhaṃ vineyya santusito tādisānaṃ vippakārānaṃ na kiñci maññati, tasmā tvaṃ andhabāle yathāgatamaggeneva gacchāti. Atha sā itthī ‘‘ayaṃ samaṇo mayi putte ca nirapekkho, na sakkā imaṃ palobhetu’’nti pakkāmi.

    ปุณฺณมาสเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Puṇṇamāsattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.

    ปรมตฺถทีปนิยา เถรคาถาสํวณฺณนาย

    Paramatthadīpaniyā theragāthāsaṃvaṇṇanāya

    ปฐมวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๐. ปุณฺณมาสเตฺถรคาถา • 10. Puṇṇamāsattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact