Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหานิเทฺทสปาฬิ • Mahāniddesapāḷi

    ๑๐. ปุราเภทสุตฺตนิเทฺทโส

    10. Purābhedasuttaniddeso

    อถ ปุราเภทสุตฺตนิเทฺทสํ วกฺขติ –

    Atha purābhedasuttaniddesaṃ vakkhati –

    ๘๓.

    83.

    กถํทสฺสี กถํสีโล, อุปสโนฺตติ วุจฺจติ;

    Kathaṃdassīkathaṃsīlo, upasantoti vuccati;

    ตํ เม โคตม ปพฺรูหิ, ปุจฺฉิโต อุตฺตมํ นรํฯ

    Taṃ me gotama pabrūhi, pucchito uttamaṃ naraṃ.

    กถํทสฺสี กถํสีโล, อุปสโนฺตติ วุจฺจตีติฯ กถํทสฺสีติ กีทิเสน ทสฺสเนน สมนฺนาคโต, กิํสณฺฐิเตน, กิํปกาเรน, กิํปฎิภาเคนาติ – กถํทสฺสีฯ กถํสีโลติ กีทิเสน สีเลน สมนฺนาคโต, กิํสณฺฐิเตน, กิํปกาเรน, กิํปฎิภาเคนาติ – กถํทสฺสี กถํสีโลฯ อุปสโนฺตติ วุจฺจตีติ สโนฺต อุปสโนฺต วูปสโนฺต นิพฺพุโต ปฎิปสฺสโทฺธติ วุจฺจติ ปวุจฺจติ กถียติ ภณียติ ทีปียติ โวหรียติฯ กถํทสฺสีติ อธิปญฺญํ ปุจฺฉติ, กถํสีโลติ อธิสีลํ ปุจฺฉติ, อุปสโนฺตติ อธิจิตฺตํ ปุจฺฉตีติ – กถํทสฺสี กถํสีโล อุปสโนฺตติ วุจฺจติฯ

    Kathaṃdassī kathaṃsīlo, upasantoti vuccatīti. Kathaṃdassīti kīdisena dassanena samannāgato, kiṃsaṇṭhitena, kiṃpakārena, kiṃpaṭibhāgenāti – kathaṃdassī. Kathaṃsīloti kīdisena sīlena samannāgato, kiṃsaṇṭhitena, kiṃpakārena, kiṃpaṭibhāgenāti – kathaṃdassī kathaṃsīlo. Upasantoti vuccatīti santo upasanto vūpasanto nibbuto paṭipassaddhoti vuccati pavuccati kathīyati bhaṇīyati dīpīyati voharīyati. Kathaṃdassīti adhipaññaṃ pucchati, kathaṃsīloti adhisīlaṃ pucchati, upasantoti adhicittaṃ pucchatīti – kathaṃdassī kathaṃsīlo upasantoti vuccati.

    ตํ เม โคตม ปพฺรูหีติฯ นฺติ ยํ ปุจฺฉามิ, ยํ ยาจามิ, ยํ อเชฺฌสามิ, ยํ ปสาเทมิฯ โคตมาติ โส นิมฺมิโต พุทฺธํ ภควนฺตํ โคเตฺตน อาลปติฯ ปพฺรูหีติ พฺรูหิ อาจิกฺข เทเสหิ ปญฺญเปหิ ปฎฺฐเปหิ วิวร วิภช อุตฺตานีกโรหิ ปกาเสหีติ – ตํ เม โคตม ปพฺรูหิฯ

    Taṃ me gotama pabrūhīti. Tanti yaṃ pucchāmi, yaṃ yācāmi, yaṃ ajjhesāmi, yaṃ pasādemi. Gotamāti so nimmito buddhaṃ bhagavantaṃ gottena ālapati. Pabrūhīti brūhi ācikkha desehi paññapehi paṭṭhapehi vivara vibhaja uttānīkarohi pakāsehīti – taṃ me gotama pabrūhi.

    ปุจฺฉิโต อุตฺตมํ นรนฺติฯ ปุจฺฉิโตติ ปุโฎฺฐ ปุจฺฉิโต ยาจิโต อเชฺฌสิโต ปสาทิโตฯ อุตฺตมํ นรนฺติ อคฺคํ เสฎฺฐํ วิสิฎฺฐํ ปาโมกฺขํ อุตฺตมํ ปวรํ นรนฺติ – ปุจฺฉิโต อุตฺตมํ นรํฯ

    Pucchito uttamaṃ naranti. Pucchitoti puṭṭho pucchito yācito ajjhesito pasādito. Uttamaṃ naranti aggaṃ seṭṭhaṃ visiṭṭhaṃ pāmokkhaṃ uttamaṃ pavaraṃ naranti – pucchito uttamaṃ naraṃ.

    เตนาห โส นิมฺมิโต –

    Tenāha so nimmito –

    ‘‘กถํทสฺสี กถํสีโล, อุปสโนฺตติ วุจฺจติ;

    ‘‘Kathaṃdassī kathaṃsīlo, upasantoti vuccati;

    ตํ เม โคตม ปพฺรูหิ, ปุจฺฉิโต อุตฺตมํ นร’’นฺติฯ

    Taṃ me gotama pabrūhi, pucchito uttamaṃ nara’’nti.

    ๘๔.

    84.

    วีตตโณฺห ปุราเภทา, [อิติ ภควา]

    Vītataṇhopurābhedā, [iti bhagavā]

    ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโต;

    Pubbamantamanissito;

    เวมเชฺฌ นุปสเงฺขโยฺย,

    Vemajjhe nupasaṅkheyyo,

    ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตํฯ

    Tassa natthi purakkhataṃ.

    วีตตโณฺห ปุราเภทาติฯ ปุรา กายสฺส เภทา, ปุรา อตฺตภาวสฺส เภทา, ปุรา กเฬวรสฺส นิเกฺขปา, ปุรา ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปเจฺฉทา วีตตโณฺห วิคตตโณฺห จตฺตตโณฺห วนฺตตโณฺห มุตฺตตโณฺห ปหีนตโณฺห ปฎินิสฺสฎฺฐตโณฺห, วีตราโค วิคตราโค จตฺตราโค วนฺตราโค มุตฺตราโค ปหีนราโค ปฎินิสฺสฎฺฐราโค, นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีติภูโต สุขปฺปฎิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ

    Vītataṇho purābhedāti. Purā kāyassa bhedā, purā attabhāvassa bhedā, purā kaḷevarassa nikkhepā, purā jīvitindriyassa upacchedā vītataṇho vigatataṇho cattataṇho vantataṇho muttataṇho pahīnataṇho paṭinissaṭṭhataṇho, vītarāgo vigatarāgo cattarāgo vantarāgo muttarāgo pahīnarāgo paṭinissaṭṭharāgo, nicchāto nibbuto sītibhūto sukhappaṭisaṃvedī brahmabhūtena attanā viharati.

    ภควาติ คารวาธิวจนํฯ อปิ จ ภคฺคราโคติ ภควา, ภคฺคโทโสติ ภควา, ภคฺคโมโหติ ภควา, ภคฺคมาโนติ ภควา, ภคฺคทิฎฺฐีติ ภควา, ภคฺคตโณฺหติ ภควา, ภคฺคกิเลโสติ ภควา, ภชิ วิภชิ ปวิภชิ ธมฺมรตนนฺติ ภควา, ภวานํ อนฺตกโรติ ภควา, ภาวิตกาโย ภาวิตสีโล ภาวิตจิโตฺต ภาวิตปโญฺญติ ภควา, ภชิ วา ภควา อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ อปฺปสทฺทานิ อปฺปนิโคฺฆสานิ วิชนวาตานิ มนุสฺสราหเสฺสยฺยกานิ ปฎิสลฺลานสารุปฺปานีติ ภควา, ภาคี วา ภควา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺติ ภควา, ภาคี วา ภควา อตฺถรสสฺส ธมฺมรสสฺส วิมุตฺติรสสฺส อธิสีลสฺส อธิจิตฺตสฺส อธิปญฺญายาติ ภควา, ภาคี วา ภควา จตุนฺนํ ฌานานํ จตุนฺนํ อปฺปมญฺญานํ จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนนฺติ ภควา, ภาคี วา ภควา อฎฺฐนฺนํ วิโมกฺขานํ อฎฺฐนฺนํ อภิภายตนานํ นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนนฺติ ภควา, ภาคี วา ภควา ทสนฺนํ ปญฺญาภาวนานํ ทสนฺนํ กสิณสมาปตฺตีนํ อานาปานสฺสติสมาธิสฺส อสุภสมาปตฺติยาติ ภควา, ภาคี วา ภควา จตุนฺนํ สติปฎฺฐานานํ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ปญฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปญฺจนฺนํ พลานํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ อริยสฺส อฎฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺสาติ ภควา, ภาคี วา ภควา ทสนฺนํ ตถาคตพลานํ จตุนฺนํ เวสารชฺชานํ จตุนฺนํ ปฎิสมฺภิทานํ ฉนฺนํ อภิญฺญานํ ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานนฺติ ภควาฯ ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ, น ปิตรา กตํ, น ภาตรา กตํ, น ภคินิยา กตํ, น มิตฺตามเจฺจหิ กตํ, น ญาติสาโลหิเตหิ กตํ , น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ, น เทวตาหิ กตํ; วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพญฺญุตญาณสฺส ปฎิลาภา สจฺฉิกา ปญฺญตฺติ ยทิทํ ภควาติ – วีตตโณฺห ปุราเภทาติ ภควาฯ

    Bhagavāti gāravādhivacanaṃ. Api ca bhaggarāgoti bhagavā, bhaggadosoti bhagavā, bhaggamohoti bhagavā, bhaggamānoti bhagavā, bhaggadiṭṭhīti bhagavā, bhaggataṇhoti bhagavā, bhaggakilesoti bhagavā, bhaji vibhaji pavibhaji dhammaratananti bhagavā, bhavānaṃ antakaroti bhagavā, bhāvitakāyo bhāvitasīlo bhāvitacitto bhāvitapaññoti bhagavā, bhaji vā bhagavā araññavanapatthāni pantāni senāsanāni appasaddāni appanigghosāni vijanavātāni manussarāhasseyyakāni paṭisallānasāruppānīti bhagavā, bhāgī vā bhagavā cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārānanti bhagavā, bhāgī vā bhagavā attharasassa dhammarasassa vimuttirasassa adhisīlassa adhicittassa adhipaññāyāti bhagavā, bhāgī vā bhagavā catunnaṃ jhānānaṃ catunnaṃ appamaññānaṃ catunnaṃ arūpasamāpattīnanti bhagavā, bhāgī vā bhagavā aṭṭhannaṃ vimokkhānaṃ aṭṭhannaṃ abhibhāyatanānaṃ navannaṃ anupubbavihārasamāpattīnanti bhagavā, bhāgī vā bhagavā dasannaṃ paññābhāvanānaṃ dasannaṃ kasiṇasamāpattīnaṃ ānāpānassatisamādhissa asubhasamāpattiyāti bhagavā, bhāgī vā bhagavā catunnaṃ satipaṭṭhānānaṃ catunnaṃ sammappadhānānaṃ catunnaṃ iddhipādānaṃ pañcannaṃ indriyānaṃ pañcannaṃ balānaṃ sattannaṃ bojjhaṅgānaṃ ariyassa aṭṭhaṅgikassa maggassāti bhagavā, bhāgī vā bhagavā dasannaṃ tathāgatabalānaṃ catunnaṃ vesārajjānaṃ catunnaṃ paṭisambhidānaṃ channaṃ abhiññānaṃ channaṃ buddhadhammānanti bhagavā. Bhagavāti netaṃ nāmaṃ mātarā kataṃ, na pitarā kataṃ, na bhātarā kataṃ, na bhaginiyā kataṃ, na mittāmaccehi kataṃ, na ñātisālohitehi kataṃ , na samaṇabrāhmaṇehi kataṃ, na devatāhi kataṃ; vimokkhantikametaṃ buddhānaṃ bhagavantānaṃ bodhiyā mūle saha sabbaññutañāṇassa paṭilābhā sacchikā paññatti yadidaṃ bhagavāti – vītataṇho purābhedāti bhagavā.

    ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตติ ปุพฺพโนฺต วุจฺจติ อตีโต อทฺธาฯ อตีตํ อทฺธานํ อารพฺภ ตณฺหา ปหีนา, ทิฎฺฐิ ปฎินิสฺสฎฺฐา ตณฺหาย ปหีนตฺตา, ทิฎฺฐิยา ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตาฯ เอวมฺปิ ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตฯ อถ วา ‘‘เอวํรูโป อโหสิํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺนาเนติ, ‘‘เอวํเวทโน อโหสิํ… เอวํสโญฺญ อโหสิํ… เอวํสงฺขาโร อโหสิํ… เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺนาเนติฯ เอวมฺปิ ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตฯ อถ วา ‘‘อิติ เม จกฺขุ 1 อโหสิ อตีตมทฺธานํ – อิติ รูปา’’ติ ตตฺถ น ฉนฺทราคปฎิพทฺธํ โหติ วิญฺญาณํ, น ฉนฺทราคปฎิพทฺธตฺตา วิญฺญาณสฺส น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตฯ ‘‘อิติ เม โสตํ อโหสิ อตีตมทฺธานํ – อิติ สทฺทา’’ติ, ‘‘อิติ เม ฆานํ อโหสิ อตีตมทฺธานํ – อิติ คนฺธา’’ติ, ‘‘อิติ เม ชิวฺหา อโหสิ อตีตมทฺธานํ – อิติ รสา’’ติ, ‘‘อิติ เม กาโย อโหสิ อตีตมทฺธานํ – อิติ โผฎฺฐพฺพา’’ติ, ‘‘อิติ เม มโน อโหสิ อตีตมทฺธานํ – อิติ ธมฺมา’’ติ ตตฺถ น ฉนฺทราคปฎิพทฺธํ โหติ วิญฺญาณํ, น ฉนฺทราคปฎิพทฺธตฺตา วิญฺญาณสฺส น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตฯ อถ วา ยานิ ตานิ ปุเพฺพ มาตุคาเมน สทฺธิํ หสิตลปิตกีฬิตานิ น ตทสฺสาเทติ, น ตํ นิกาเมติ, น จ เตน วิตฺติํ อาปชฺชติฯ เอวมฺปิ ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโตฯ

    Pubbamantamanissitoti pubbanto vuccati atīto addhā. Atītaṃ addhānaṃ ārabbha taṇhā pahīnā, diṭṭhi paṭinissaṭṭhā taṇhāya pahīnattā, diṭṭhiyā paṭinissaṭṭhattā. Evampi pubbamantamanissito. Atha vā ‘‘evaṃrūpo ahosiṃ atītamaddhāna’’nti tattha nandiṃ na samannāneti, ‘‘evaṃvedano ahosiṃ… evaṃsañño ahosiṃ… evaṃsaṅkhāro ahosiṃ… evaṃviññāṇo ahosiṃ atītamaddhāna’’nti tattha nandiṃ na samannāneti. Evampi pubbamantamanissito. Atha vā ‘‘iti me cakkhu 2 ahosi atītamaddhānaṃ – iti rūpā’’ti tattha na chandarāgapaṭibaddhaṃ hoti viññāṇaṃ, na chandarāgapaṭibaddhattā viññāṇassa na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi pubbamantamanissito. ‘‘Iti me sotaṃ ahosi atītamaddhānaṃ – iti saddā’’ti, ‘‘iti me ghānaṃ ahosi atītamaddhānaṃ – iti gandhā’’ti, ‘‘iti me jivhā ahosi atītamaddhānaṃ – iti rasā’’ti, ‘‘iti me kāyo ahosi atītamaddhānaṃ – iti phoṭṭhabbā’’ti, ‘‘iti me mano ahosi atītamaddhānaṃ – iti dhammā’’ti tattha na chandarāgapaṭibaddhaṃ hoti viññāṇaṃ, na chandarāgapaṭibaddhattā viññāṇassa na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi pubbamantamanissito. Atha vā yāni tāni pubbe mātugāmena saddhiṃ hasitalapitakīḷitāni na tadassādeti, na taṃ nikāmeti, na ca tena vittiṃ āpajjati. Evampi pubbamantamanissito.

    เวมเชฺฌ นุปสเงฺขโยฺยติฯ เวมชฺฌํ วุจฺจติ ปจฺจุปฺปโนฺน อทฺธาฯ ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ ตณฺหา ปหีนา, ทิฎฺฐิ ปฎินิสฺสฎฺฐา ฯ ตณฺหาย ปหีนตฺตา, ทิฎฺฐิยา ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตา รโตฺตติ นุปสเงฺขโยฺย, ทุโฎฺฐติ นุปสเงฺขโยฺย, มูโฬฺหติ นุปสเงฺขโยฺย, วินิพโทฺธติ นุปสเงฺขโยฺย, ปรามโฎฺฐติ นุปสเงฺขโยฺย, วิเกฺขปคโตติ นุปสเงฺขโยฺย, อนิฎฺฐงฺคโตติ นุปสเงฺขโยฺย, ถามคโตติ นุปสเงฺขโยฺย; เต อภิสงฺขารา ปหีนา; อภิสงฺขารานํ ปหีนตฺตา คติยา นุปสเงฺขโยฺย, เนรยิโกติ วา ติรจฺฉานโยนิโกติ วา เปตฺติวิสยิโกติ วา มนุโสฺสติ วา เทโวติ วา รูปีติ วา อรูปีติ วา สญฺญีติ วา อสญฺญีติ วา เนวสญฺญีนาสญฺญีติ วาฯ โส เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย นตฺถิ การณํ นตฺถิ เยน สงฺขํ คเจฺฉยฺยาติ – เวมเชฺฌ นุปสเงฺขโยฺยฯ

    Vemajjhe nupasaṅkheyyoti. Vemajjhaṃ vuccati paccuppanno addhā. Paccuppannaṃ addhānaṃ ārabbha taṇhā pahīnā, diṭṭhi paṭinissaṭṭhā . Taṇhāya pahīnattā, diṭṭhiyā paṭinissaṭṭhattā rattoti nupasaṅkheyyo, duṭṭhoti nupasaṅkheyyo, mūḷhoti nupasaṅkheyyo, vinibaddhoti nupasaṅkheyyo, parāmaṭṭhoti nupasaṅkheyyo, vikkhepagatoti nupasaṅkheyyo, aniṭṭhaṅgatoti nupasaṅkheyyo, thāmagatoti nupasaṅkheyyo; te abhisaṅkhārā pahīnā; abhisaṅkhārānaṃ pahīnattā gatiyā nupasaṅkheyyo, nerayikoti vā tiracchānayonikoti vā pettivisayikoti vā manussoti vā devoti vā rūpīti vā arūpīti vā saññīti vā asaññīti vā nevasaññīnāsaññīti vā. So hetu natthi paccayo natthi kāraṇaṃ natthi yena saṅkhaṃ gaccheyyāti – vemajjhe nupasaṅkheyyo.

    ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตนฺติฯ ตสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ ปุเรกฺขาราติ เทฺว ปุเรกฺขารา – ตณฺหาปุเรกฺขาโร จ ทิฎฺฐิปุเรกฺขาโร จ…เป.… อยํ ตณฺหาปุเรกฺขาโร…เป.… อยํ ทิฎฺฐิปุเรกฺขาโรฯ ตสฺส ตณฺหาปุเรกฺขาโร ปหีโน, ทิฎฺฐิปุเรกฺขาโร ปฎินิสฺสโฎฺฐฯ ตณฺหาปุเรกฺขารสฺส ปหีนตฺตา, ทิฎฺฐิปุเรกฺขารสฺส ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตา น ตณฺหํ วา ทิฎฺฐิํ วา ปุรโต กตฺวา จรติ, น ตณฺหาธโช น ตณฺหาเกตุ น ตณฺหาธิปเตโยฺย, น ทิฎฺฐิธโช น ทิฎฺฐิเกตุ น ทิฎฺฐาธิปเตโยฺย, น ตณฺหาย วา ทิฎฺฐิยา วา ปริวาริโต จรติฯ เอวมฺปิ ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตํฯ อถ วา ‘‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺนาเนติ, ‘‘เอวํเวทโน สิยํ… เอวํสโญฺญ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิญฺญาโณ สิยํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺนาเนติฯ เอวมฺปิ ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตํฯ อถ วา ‘‘อิติ เม จกฺขุ สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ รูปา’’ติ อปฺปฎิลทฺธสฺส ปฎิลาภาย จิตฺตํ น ปณิทหติ, เจตโส อปฺปณิธานปฺปจฺจยา น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตํฯ ‘‘อิติ เม โสตํ สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ สทฺทา’’ติ, ‘‘อิติ เม ฆานํ สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ คนฺธา’’ติ, ‘‘อิติ เม ชิวฺหา สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ รสา’’ติ, ‘‘อิติ เม กาโย สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ โผฎฺฐพฺพา’’ติ, ‘‘อิติ เม มโน สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ ธมฺมา’’ติ อปฺปฎิลทฺธสฺส ปฎิลาภาย จิตฺตํ น ปณิทหติ, เจตโส อปฺปณิธานปฺปจฺจยา น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตํฯ อถ วา ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวญฺญตโร’’ติ วา อปฺปฎิลทฺธสฺส ปฎิลาภาย จิตฺตํ น ปณิทหติ, เจตโส อปฺปณิธานปฺปจฺจยา น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโตฯ เอวมฺปิ ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขตํฯ

    Tassa natthi purakkhatanti. Tassāti arahato khīṇāsavassa. Purekkhārāti dve purekkhārā – taṇhāpurekkhāro ca diṭṭhipurekkhāro ca…pe… ayaṃ taṇhāpurekkhāro…pe… ayaṃ diṭṭhipurekkhāro. Tassa taṇhāpurekkhāro pahīno, diṭṭhipurekkhāro paṭinissaṭṭho. Taṇhāpurekkhārassa pahīnattā, diṭṭhipurekkhārassa paṭinissaṭṭhattā na taṇhaṃ vā diṭṭhiṃ vā purato katvā carati, na taṇhādhajo na taṇhāketu na taṇhādhipateyyo, na diṭṭhidhajo na diṭṭhiketu na diṭṭhādhipateyyo, na taṇhāya vā diṭṭhiyā vā parivārito carati. Evampi tassa natthi purakkhataṃ. Atha vā ‘‘evaṃrūpo siyaṃ anāgatamaddhāna’’nti tattha nandiṃ na samannāneti, ‘‘evaṃvedano siyaṃ… evaṃsañño siyaṃ… evaṃsaṅkhāro siyaṃ… evaṃviññāṇo siyaṃ anāgatamaddhāna’’nti tattha nandiṃ na samannāneti. Evampi tassa natthi purakkhataṃ. Atha vā ‘‘iti me cakkhu siyā anāgatamaddhānaṃ – iti rūpā’’ti appaṭiladdhassa paṭilābhāya cittaṃ na paṇidahati, cetaso appaṇidhānappaccayā na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi tassa natthi purakkhataṃ. ‘‘Iti me sotaṃ siyā anāgatamaddhānaṃ – iti saddā’’ti, ‘‘iti me ghānaṃ siyā anāgatamaddhānaṃ – iti gandhā’’ti, ‘‘iti me jivhā siyā anāgatamaddhānaṃ – iti rasā’’ti, ‘‘iti me kāyo siyā anāgatamaddhānaṃ – iti phoṭṭhabbā’’ti, ‘‘iti me mano siyā anāgatamaddhānaṃ – iti dhammā’’ti appaṭiladdhassa paṭilābhāya cittaṃ na paṇidahati, cetaso appaṇidhānappaccayā na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi tassa natthi purakkhataṃ. Atha vā ‘‘imināhaṃ sīlena vā vatena vā tapena vā brahmacariyena vā devo vā bhavissāmi devaññataro’’ti vā appaṭiladdhassa paṭilābhāya cittaṃ na paṇidahati, cetaso appaṇidhānappaccayā na tadabhinandati; na tadabhinandato. Evampi tassa natthi purakkhataṃ.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘วีตตโณฺห ปุราเภทา, [อิติ ภควา]

    ‘‘Vītataṇho purābhedā, [iti bhagavā]

    ปุพฺพมนฺตมนิสฺสิโต;

    Pubbamantamanissito;

    เวมเชฺฌ นุปสเงฺขโยฺย,

    Vemajjhe nupasaṅkheyyo,

    ตสฺส นตฺถิ ปุรกฺขต’’นฺติฯ

    Tassa natthi purakkhata’’nti.

    ๘๕.

    85.

    อโกฺกธโน อสนฺตาสี, อวิกตฺถี อกุกฺกุโจ;

    Akkodhanoasantāsī, avikatthī akukkuco;

    มนฺตภาณี อนุทฺธโต, ส เว วาจายโต มุนิฯ

    Mantabhāṇī anuddhato, sa ve vācāyato muni.

    อโกฺกธโน อสนฺตาสีติฯ อโกฺกธโนติ ยญฺหิ โข วุตฺตํฯ อปิ จ โกโธ ตาว วตฺตโพฺพฯ ทสหากาเรหิ โกโธ ชายติ – ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติ โกโธ ชายติ, ‘‘อนตฺถํ เม จรตี’’ติ โกโธ ชายติ, ‘‘อนตฺถํ เม จริสฺสตี’’ติ โกโธ ชายติ, ‘‘ปิยสฺส เม มนาปสฺส อนตฺถํ อจริ… อนตฺถํ จรติ… อนตฺถํ จริสฺสตี’’ติ โกโธ ชายติ, ‘‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจริ… อตฺถํ จรติ… อตฺถํ จริสฺสตี’’ติ โกโธ ชายติ, อฎฺฐาเน วา ปน โกโธ ชายติฯ โย เอวรูโป จิตฺตสฺส อาฆาโต ปฎิฆาโต, ปฎิฆํ ปฎิวิโรโธ, โกโป ปโกโป สมฺปโกโป, โทโส ปโทโส สมฺปโทโส, จิตฺตสฺส พฺยาปตฺติ มโนปโทโส , โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตํ, พฺยาปตฺติ พฺยาปชฺชนา พฺยาปชฺชิตตฺตํ, วิโรโธ ปฎิวิโรโธ จณฺฑิกฺกํ, อสุโรโป 3 อนตฺตมนตา จิตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ โกโธฯ

    Akkodhano asantāsīti. Akkodhanoti yañhi kho vuttaṃ. Api ca kodho tāva vattabbo. Dasahākārehi kodho jāyati – ‘‘anatthaṃ me acarī’’ti kodho jāyati, ‘‘anatthaṃ me caratī’’ti kodho jāyati, ‘‘anatthaṃ me carissatī’’ti kodho jāyati, ‘‘piyassa me manāpassa anatthaṃ acari… anatthaṃ carati… anatthaṃ carissatī’’ti kodho jāyati, ‘‘appiyassa me amanāpassa atthaṃ acari… atthaṃ carati… atthaṃ carissatī’’ti kodho jāyati, aṭṭhāne vā pana kodho jāyati. Yo evarūpo cittassa āghāto paṭighāto, paṭighaṃ paṭivirodho, kopo pakopo sampakopo, doso padoso sampadoso, cittassa byāpatti manopadoso , kodho kujjhanā kujjhitattaṃ, doso dussanā dussitattaṃ, byāpatti byāpajjanā byāpajjitattaṃ, virodho paṭivirodho caṇḍikkaṃ, asuropo 4 anattamanatā cittassa – ayaṃ vuccati kodho.

    อปิ จ โกธสฺส อธิมตฺตปริตฺตตา เวทิตพฺพาฯ อตฺถิ กญฺจิ 5 กาลํ โกโธ จิตฺตาวิลกรณมโตฺต โหติ, น จ ตาว มุขกุลานวิกุลาโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ มุขกุลานวิกุลานมโตฺต โหติ, น จ ตาว หนุสโญฺจปโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ หนุสโญฺจปนมโตฺต โหติ, น จ ตาว ผรุสวาจํ นิจฺฉารโณ 6 โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ผรุสวาจํ นิจฺฉารณมโตฺต โหติ, น จ ตาว ทิสาวิทิสานุวิโลกโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ทิสาวิทิสานุวิโลกนมโตฺต โหติ, น จ ตาว ทณฺฑสตฺถปรามสโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ทณฺฑสตฺถปรามสนมโตฺต โหติ, น จ ตาว ทณฺฑสตฺถอพฺภุกฺกิรโณ โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ทณฺฑสตฺถอพฺภุกฺกิรณมโตฺต โหติ, น จ ตาว ทณฺฑสตฺถอภินิปาตโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ทณฺฑสตฺถอภินิปาตมโตฺต โหติ, น จ ตาว ฉินฺนวิจฺฉินฺนกรโณ โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ฉินฺนวิจฺฉินฺนกรณมโตฺต โหติ, น จ ตาว สมฺภญฺชนปลิภญฺชโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ สมฺภญฺชนปลิภญฺชนมโตฺต โหติ, น จ ตาว องฺคมงฺคอปกฑฺฒโน โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ องฺคมงฺคอปกฑฺฒนมโตฺต โหติ, น จ ตาว ชีวิตาโวโรปโน 7 โหติ; อตฺถิ กญฺจิ กาลํ โกโธ ชีวิตาโวโรปนมโตฺต โหติ, น จ ตาว สพฺพจาคปริจฺจาคาย สณฺฐิโต โหติฯ ยโต โกโธ ปรปุคฺคลํ ฆาเฎตฺวา อตฺตานํ ฆาเฎติ, เอตฺตาวตา โกโธ ปรมุสฺสทคโต ปรมเวปุลฺลปฺปโตฺต โหติฯ ยสฺส โส โกโธ ปหีโน สมุจฺฉิโนฺน วูปสโนฺต ปฎิปสฺสโทฺธ อภพฺพุปฺปตฺติโก ญาณคฺคินา ทโฑฺฒ, โส วุจฺจติ อโกฺกธโนฯ โกธสฺส ปหีนตฺตา อโกฺกธโน, โกธวตฺถุสฺส ปริญฺญาตตฺตา อโกฺกธโน, โกธเหตุสฺส อุปจฺฉินฺนตฺตา อโกฺกธโนติ – อโกฺกธโนฯ

    Api ca kodhassa adhimattaparittatā veditabbā. Atthi kañci 8 kālaṃ kodho cittāvilakaraṇamatto hoti, na ca tāva mukhakulānavikulāno hoti; atthi kañci kālaṃ kodho mukhakulānavikulānamatto hoti, na ca tāva hanusañcopano hoti; atthi kañci kālaṃ kodho hanusañcopanamatto hoti, na ca tāva pharusavācaṃ nicchāraṇo 9 hoti; atthi kañci kālaṃ kodho pharusavācaṃ nicchāraṇamatto hoti, na ca tāva disāvidisānuvilokano hoti; atthi kañci kālaṃ kodho disāvidisānuvilokanamatto hoti, na ca tāva daṇḍasatthaparāmasano hoti; atthi kañci kālaṃ kodho daṇḍasatthaparāmasanamatto hoti, na ca tāva daṇḍasatthaabbhukkiraṇo hoti; atthi kañci kālaṃ kodho daṇḍasatthaabbhukkiraṇamatto hoti, na ca tāva daṇḍasatthaabhinipātano hoti; atthi kañci kālaṃ kodho daṇḍasatthaabhinipātamatto hoti, na ca tāva chinnavicchinnakaraṇo hoti; atthi kañci kālaṃ kodho chinnavicchinnakaraṇamatto hoti, na ca tāva sambhañjanapalibhañjano hoti; atthi kañci kālaṃ kodho sambhañjanapalibhañjanamatto hoti, na ca tāva aṅgamaṅgaapakaḍḍhano hoti; atthi kañci kālaṃ kodho aṅgamaṅgaapakaḍḍhanamatto hoti, na ca tāva jīvitāvoropano 10 hoti; atthi kañci kālaṃ kodho jīvitāvoropanamatto hoti, na ca tāva sabbacāgapariccāgāya saṇṭhito hoti. Yato kodho parapuggalaṃ ghāṭetvā attānaṃ ghāṭeti, ettāvatā kodho paramussadagato paramavepullappatto hoti. Yassa so kodho pahīno samucchinno vūpasanto paṭipassaddho abhabbuppattiko ñāṇagginā daḍḍho, so vuccati akkodhano. Kodhassa pahīnattā akkodhano, kodhavatthussa pariññātattā akkodhano, kodhahetussa upacchinnattā akkodhanoti – akkodhano.

    อสนฺตาสีติ อิเธกโจฺจ ตาสี โหติ อุตฺตาสี ปริตฺตาสี, โส ตสติ น อุตฺตสติ ปริตฺตสติ ภายติ สนฺตาสํ อาปชฺชติฯ กุลํ วา น ลภามิ, คณํ วา น ลภามิ, อาวาสํ วา น ลภามิ, ลาภํ วา น ลภามิ, ยสํ วา น ลภามิ, ปสํสํ วา น ลภามิ, สุขํ วา น ลภามิ, จีวรํ วา น ลภามิ, ปิณฺฑปาตํ วา น ลภามิ, เสนาสนํ วา น ลภามิ, คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ วา น ลภามิ, คิลานุปฎฺฐากํ วา น ลภามิ, อปฺปญฺญาโตมฺหีติ ตสติ อุตฺตสติ ปริตฺตสติ ภายติ สนฺตาสํ อาปชฺชติฯ

    Asantāsīti idhekacco tāsī hoti uttāsī parittāsī, so tasati na uttasati parittasati bhāyati santāsaṃ āpajjati. Kulaṃ vā na labhāmi, gaṇaṃ vā na labhāmi, āvāsaṃ vā na labhāmi, lābhaṃ vā na labhāmi, yasaṃ vā na labhāmi, pasaṃsaṃ vā na labhāmi, sukhaṃ vā na labhāmi, cīvaraṃ vā na labhāmi, piṇḍapātaṃ vā na labhāmi, senāsanaṃ vā na labhāmi, gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ vā na labhāmi, gilānupaṭṭhākaṃ vā na labhāmi, appaññātomhīti tasati uttasati parittasati bhāyati santāsaṃ āpajjati.

    อิธ ภิกฺขุ อสนฺตาสี โหติ อนุตฺตาสี อปริตฺตาสี; โส น ตสติ น อุตฺตสติ น ปริตฺตสติ น ภายติ น สนฺตาสํ อาปชฺชติฯ กุลํ วา น ลภามิ, คณํ วา น ลภามิ, อาวาสํ วา น ลภามิ, ลาภํ วา น ลภามิ, ยสํ วา น ลภามิ, ปสํสํ วา น ลภามิ, สุขํ วา น ลภามิ, จีวรํ วา น ลภามิ, ปิณฺฑปาตํ วา น ลภามิ, เสนาสนํ วา น ลภามิ, คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ วา น ลภามิ, คิลานุปฎฺฐากํ วา น ลภามิ, อปฺปญฺญาโตมฺหีติ น ตสติ น อุตฺตสติ น ปริตฺตสติ น ภายติ น สนฺตาสํ อาปชฺชตีติ – อโกฺกธโน อสนฺตาสีฯ

    Idha bhikkhu asantāsī hoti anuttāsī aparittāsī; so na tasati na uttasati na parittasati na bhāyati na santāsaṃ āpajjati. Kulaṃ vā na labhāmi, gaṇaṃ vā na labhāmi, āvāsaṃ vā na labhāmi, lābhaṃ vā na labhāmi, yasaṃ vā na labhāmi, pasaṃsaṃ vā na labhāmi, sukhaṃ vā na labhāmi, cīvaraṃ vā na labhāmi, piṇḍapātaṃ vā na labhāmi, senāsanaṃ vā na labhāmi, gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ vā na labhāmi, gilānupaṭṭhākaṃ vā na labhāmi, appaññātomhīti na tasati na uttasati na parittasati na bhāyati na santāsaṃ āpajjatīti – akkodhano asantāsī.

    อวิกตฺถี อกุกฺกุโจติฯ อิเธกโจฺจ กตฺถี โหติ วิกตฺถี, โส กตฺถติ วิกตฺถติ – อหมสฺมิ สีลสมฺปโนฺนติ วา วตสมฺปโนฺนติ วา สีลพฺพตสมฺปโนฺนติ วา ชาติยา วา โคเตฺตน วา โกลปุตฺติเยน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา ธเนน วา อเชฺฌเนน วา กมฺมายตเนน วา สิปฺปายตเนน วา วิชฺชาฎฺฐาเนน วา สุเตน วา ปฎิภาเนน วา อญฺญตรญฺญตเรน วา วตฺถุนาฯ อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโตติ วา มหากุลา ปพฺพชิโตติ วา, มหาโภคกุลา ปพฺพชิโตติ วา อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโตติ วา, ญาโต ยสสฺสี คหฎฺฐปพฺพชิตานนฺติ วา, ลาภิมฺหิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺติ วา, สุตฺตนฺติโกติ วา วินยธโรติ วา ธมฺมกถิโกติ วา, อารญฺญิโกติ วา ปิณฺฑปาติโกติ วา ปํสุกูลิโกติ วา เตจีวริโกติ วา, สปทานจาริโกติ วา ขลุปจฺฉาภตฺติโกติ วา เนสชฺชิโกติ วา ยถาสนฺถติโกติ วา, ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา ตติยสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติยา… วิญฺญาณญฺจายตนสมาปตฺติยา… อากิญฺจญฺญายตนสมาปตฺติยา… เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา กตฺถติ วิกตฺถติฯ เอวํ น กตฺถติ น วิกตฺถติ, กตฺถนา วิกตฺถนา อารโต วิรโต ปฎิวิรโต นิกฺขโนฺต นิสฺสโฎ วิปฺปมุโตฺต วิสญฺญุโตฺต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรตีติ – อวิกตฺถีฯ

    Avikatthī akukkucoti. Idhekacco katthī hoti vikatthī, so katthati vikatthati – ahamasmi sīlasampannoti vā vatasampannoti vā sīlabbatasampannoti vā jātiyā vā gottena vā kolaputtiyena vā vaṇṇapokkharatāya vā dhanena vā ajjhenena vā kammāyatanena vā sippāyatanena vā vijjāṭṭhānena vā sutena vā paṭibhānena vā aññataraññatarena vā vatthunā. Uccā kulā pabbajitoti vā mahākulā pabbajitoti vā, mahābhogakulā pabbajitoti vā uḷārabhogakulā pabbajitoti vā, ñāto yasassī gahaṭṭhapabbajitānanti vā, lābhimhi cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārānanti vā, suttantikoti vā vinayadharoti vā dhammakathikoti vā, āraññikoti vā piṇḍapātikoti vā paṃsukūlikoti vā tecīvarikoti vā, sapadānacārikoti vā khalupacchābhattikoti vā nesajjikoti vā yathāsanthatikoti vā, paṭhamassa jhānassa lābhīti vā dutiyassa jhānassa lābhīti vā tatiyassa jhānassa lābhīti vā catutthassa jhānassa lābhīti vā, ākāsānañcāyatanasamāpattiyā… viññāṇañcāyatanasamāpattiyā… ākiñcaññāyatanasamāpattiyā… nevasaññānāsaññāyatanasamāpattiyā lābhīti vā katthati vikatthati. Evaṃ na katthati na vikatthati, katthanā vikatthanā ārato virato paṭivirato nikkhanto nissaṭo vippamutto visaññutto vimariyādikatena cetasā viharatīti – avikatthī.

    อกุกฺกุโจติฯ กุกฺกุจฺจนฺติ หตฺถกุกฺกุจฺจมฺปิ กุกฺกุจฺจํ, ปาทกุกฺกุจฺจมฺปิ กุกฺกุจฺจํ, หตฺถปาทกุกฺกุจฺจมฺปิ กุกฺกุจฺจํ, อกปฺปิเย กปฺปิยสญฺญิตา กปฺปิเย อกปฺปิยสญฺญิตา, วิกาเล กาลสญฺญิตา กาเล วิกาลสญฺญิตา, อวเชฺช วชฺชสญฺญิตา วเชฺช อวชฺชสญฺญิตา; ยํ เอวรูปํ กุกฺกุจฺจํ กุกฺกุจฺจายนา กุกฺกุจฺจายิตตฺตํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข – อิทํ วุจฺจติ กุกฺกุจฺจํฯ

    Akukkucoti. Kukkuccanti hatthakukkuccampi kukkuccaṃ, pādakukkuccampi kukkuccaṃ, hatthapādakukkuccampi kukkuccaṃ, akappiye kappiyasaññitā kappiye akappiyasaññitā, vikāle kālasaññitā kāle vikālasaññitā, avajje vajjasaññitā vajje avajjasaññitā; yaṃ evarūpaṃ kukkuccaṃ kukkuccāyanā kukkuccāyitattaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho – idaṃ vuccati kukkuccaṃ.

    อปิ จ ทฺวีหิ การเณหิ อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข กตตฺตา จ อกตตฺตา จฯ กถํ กตตฺตา จ อกตตฺตา จ อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข? ‘‘กตํ เม กายทุจฺจริตํ, อกตํ เม กายสุจริต’’นฺติอุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข; ‘‘กตํ เม วจีทุจฺจริตํ, อกตํ เม วจีสุจริตํ… กตํ เม มโนทุจฺจริตํ, อกตํ เม มโนสุจริต’’นฺติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข; ‘‘กโต เม ปาณาติปาโต, อกตา เม ปาณาติปาตา เวรมณี’’ติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข; ‘‘กตํ เม อทินฺนาทานํ , อกตา เม อทินฺนาทานา เวรมณี’’ติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข; ‘‘กโต เม กาเมสุมิจฺฉาจาโร, อกตา เม กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี’’ติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข; ‘‘กโต เม มุสาวาโท, อกตา เม มุสาวาทา เวรมณี’’ติ… ‘‘กตา เม ปิสุณา วาจา, อกตา เม ปิสุณาย วาจาย เวรมณี’’ติ… ‘‘กตา เม ผรุสา วาจา, อกตา เม ผรุสาย วาจาย เวรมณี’’ติ… ‘‘กโต เม สมฺผปฺปลาโป, อกตา เม สมฺผปฺปลาปา เวรมณี’’ติ… ‘‘กตา เม อภิชฺฌา, อกตา เม อนภิชฺฌา’’ติ… ‘‘กโต เม พฺยาปาโท, อกโต เม อพฺยาปาโท’’ติ… ‘‘กตา เม มิจฺฉาทิฎฺฐิ, อกตา เม สมฺมาทิฎฺฐี’’ติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโขฯ เอวํ กตตฺตา จ อกตตฺตา จ อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโขฯ

    Api ca dvīhi kāraṇehi uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho katattā ca akatattā ca. Kathaṃ katattā ca akatattā ca uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho? ‘‘Kataṃ me kāyaduccaritaṃ, akataṃ me kāyasucarita’’ntiuppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho; ‘‘kataṃ me vacīduccaritaṃ, akataṃ me vacīsucaritaṃ… kataṃ me manoduccaritaṃ, akataṃ me manosucarita’’nti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho; ‘‘kato me pāṇātipāto, akatā me pāṇātipātā veramaṇī’’ti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho; ‘‘kataṃ me adinnādānaṃ , akatā me adinnādānā veramaṇī’’ti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho; ‘‘kato me kāmesumicchācāro, akatā me kāmesumicchācārā veramaṇī’’ti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho; ‘‘kato me musāvādo, akatā me musāvādā veramaṇī’’ti… ‘‘katā me pisuṇā vācā, akatā me pisuṇāya vācāya veramaṇī’’ti… ‘‘katā me pharusā vācā, akatā me pharusāya vācāya veramaṇī’’ti… ‘‘kato me samphappalāpo, akatā me samphappalāpā veramaṇī’’ti… ‘‘katā me abhijjhā, akatā me anabhijjhā’’ti… ‘‘kato me byāpādo, akato me abyāpādo’’ti… ‘‘katā me micchādiṭṭhi, akatā me sammādiṭṭhī’’ti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho. Evaṃ katattā ca akatattā ca uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho.

    อถ วา ‘‘สีเลสุมฺหิ น ปริปูรการี’’ติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโข; ‘‘อินฺทฺริเยสุมฺหิ อคุตฺตทฺวาโร’’ติ… ‘‘โภชเน อมตฺตญฺญุมฺหี’’ติ… ‘‘ชาคริยํ อนนุยุโตฺตมฺหี’’ติ… ‘‘น สติสมฺปชเญฺญน สมนฺนาคโตมฺหี’’ติ… ‘‘อภาวิตา เม จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’’ติ… ‘‘อภาวิตา เม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ… ‘‘อภาวิตา เม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ… ‘‘อภาวิตานิ เม ปญฺจินฺทฺริยานี’’ติ… ‘‘อภาวิตานิ เม ปญฺจ พลานี’’ติ… ‘‘อภาวิตา เม สตฺต โพชฺฌงฺคา’’ติ… ‘‘อภาวิโต เม อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค’’ติ… ‘‘ทุกฺขํ เม อปริญฺญาต’’นฺติ… ‘‘สมุทโย เม อปฺปหีโน’’ติ… ‘‘มโคฺค เม อภาวิโต’’ติ… ‘‘นิโรโธ เม อสจฺฉิกโต’’ติ – อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฎิสาโร มโนวิเลโขฯ ยเสฺสตํ กุกฺกุจฺจํ ปหีนํ สมุจฺฉินฺนํ วูปสนฺตํ ปฎิปสฺสทฺธํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ญาณคฺคินา ทฑฺฒํ, โส วุจฺจติ อกุกฺกุโจฺจติ – อวิกตฺถี อกุกฺกุโจฯ

    Atha vā ‘‘sīlesumhi na paripūrakārī’’ti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho; ‘‘indriyesumhi aguttadvāro’’ti… ‘‘bhojane amattaññumhī’’ti… ‘‘jāgariyaṃ ananuyuttomhī’’ti… ‘‘na satisampajaññena samannāgatomhī’’ti… ‘‘abhāvitā me cattāro satipaṭṭhānā’’ti… ‘‘abhāvitā me cattāro sammappadhānā’’ti… ‘‘abhāvitā me cattāro iddhipādā’’ti… ‘‘abhāvitāni me pañcindriyānī’’ti… ‘‘abhāvitāni me pañca balānī’’ti… ‘‘abhāvitā me satta bojjhaṅgā’’ti… ‘‘abhāvito me ariyo aṭṭhaṅgiko maggo’’ti… ‘‘dukkhaṃ me apariññāta’’nti… ‘‘samudayo me appahīno’’ti… ‘‘maggo me abhāvito’’ti… ‘‘nirodho me asacchikato’’ti – uppajjati kukkuccaṃ cetaso vippaṭisāro manovilekho. Yassetaṃ kukkuccaṃ pahīnaṃ samucchinnaṃ vūpasantaṃ paṭipassaddhaṃ abhabbuppattikaṃ ñāṇagginā daḍḍhaṃ, so vuccati akukkuccoti – avikatthī akukkuco.

    มนฺตภาณี อนุทฺธโตติฯ มนฺตา วุจฺจติ ปญฺญาฯ ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฎฺฐิฯ มนฺตาย ปริคฺคเหตฺวา ปริคฺคเหตฺวา วาจํ ภาสติ พหุมฺปิ กเถโนฺต พหุมฺปิ ภณโนฺต พหุมฺปิ ทีปยโนฺต พหุมฺปิ โวหรโนฺตฯ ทุกฺกถิตํ ทุพฺภณิตํ ทุลฺลปิตํ ทุรุตฺตํ ทุพฺภาสิตํ วาจํ น ภาสตีติ – มนฺตภาณีฯ อนุทฺธโตติฯ ตตฺถ กตมํ อุทฺธจฺจํ? ยํ จิตฺตสฺส อุทฺธจฺจํ อวูปสโม เจตโส วิเกฺขโป ภนฺตตฺตํ จิตฺตสฺส – อิทํ วุจฺจติ อุทฺธจฺจํฯ ยเสฺสตํ อุทฺธจฺจํ ปหีนํ สมุจฺฉินฺนํ วูปสนฺตํ ปฎิปสฺสทฺธํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ญาณคฺคินา ทฑฺฒํ, โส วุจฺจติ อนุทฺธโตติ – มนฺตภาณี อนุทฺธโตฯ

    Mantabhāṇī anuddhatoti. Mantā vuccati paññā. Yā paññā pajānanā…pe… amoho dhammavicayo sammādiṭṭhi. Mantāya pariggahetvā pariggahetvā vācaṃ bhāsati bahumpi kathento bahumpi bhaṇanto bahumpi dīpayanto bahumpi voharanto. Dukkathitaṃ dubbhaṇitaṃ dullapitaṃ duruttaṃ dubbhāsitaṃ vācaṃ na bhāsatīti – mantabhāṇī. Anuddhatoti. Tattha katamaṃ uddhaccaṃ? Yaṃ cittassa uddhaccaṃ avūpasamo cetaso vikkhepo bhantattaṃ cittassa – idaṃ vuccati uddhaccaṃ. Yassetaṃ uddhaccaṃ pahīnaṃ samucchinnaṃ vūpasantaṃ paṭipassaddhaṃ abhabbuppattikaṃ ñāṇagginā daḍḍhaṃ, so vuccati anuddhatoti – mantabhāṇī anuddhato.

    ส เว วาจายโต มุนีติฯ อิธ ภิกฺขุ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสโนฺธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺสฯ ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ – อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทายฯ อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ – ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต โหติ – กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที นิธานวติํ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวติํ อตฺถสํหิตํฯ จตูหิ วจีสุจริเตหิ สมนฺนาคโต จตุโทฺทสาปคตํ วาจํ ภาสติ, พาตฺติํสาย ติรจฺฉานกถาย อารโต อสฺส วิรโต ปฎิวิรโต นิกฺขโนฺต นิสฺสโฎ วิปฺปมุโตฺต วิสญฺญุโตฺต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรติฯ

    Sa ve vācāyato munīti. Idha bhikkhu musāvādaṃ pahāya musāvādā paṭivirato hoti saccavādī saccasandho theto paccayiko avisaṃvādako lokassa. Pisuṇaṃ vācaṃ pahāya pisuṇāya vācāya paṭivirato hoti – ito sutvā na amutra akkhātā imesaṃ bhedāya, amutra vā sutvā na imesaṃ akkhātā amūsaṃ bhedāya. Iti bhinnānaṃ vā sandhātā, sahitānaṃ vā anuppadātā, samaggārāmo samaggarato samagganandī samaggakaraṇiṃ vācaṃ bhāsitā hoti. Pharusaṃ vācaṃ pahāya pharusāya vācāya paṭivirato hoti – yā sā vācā nelā kaṇṇasukhā pemanīyā hadayaṅgamā porī bahujanakantā bahujanamanāpā tathārūpiṃ vācaṃ bhāsitā hoti. Samphappalāpaṃ pahāya samphappalāpā paṭivirato hoti – kālavādī bhūtavādī atthavādī dhammavādī vinayavādī nidhānavatiṃ vācaṃ bhāsitā hoti kālena sāpadesaṃ pariyantavatiṃ atthasaṃhitaṃ. Catūhi vacīsucaritehi samannāgato catuddosāpagataṃ vācaṃ bhāsati, bāttiṃsāya tiracchānakathāya ārato assa virato paṭivirato nikkhanto nissaṭo vippamutto visaññutto vimariyādikatena cetasā viharati.

    ทส กถาวตฺถูนิ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถํ กเถติ, สนฺตุฎฺฐีกถํ กเถติ, ปวิเวกกถํ… อสํสคฺคกถํ… วีริยารมฺภกถํ… สีลกถํ… สมาธิกถํ… ปญฺญากถํ… วิมุตฺติกถํ … วิมุตฺติญาณทสฺสนกถํ… สติปฎฺฐานกถํ… สมฺมปฺปธานกถํ… อิทฺธิปาทกถํ… อินฺทฺริยกถํ… พลกถํ… โพชฺฌงฺคกถํ… มคฺคกถํ… ผลกถํ… นิพฺพานกถํ กเถติฯ วาจายโตติ ยโตฺต ปริยโตฺต คุโตฺต โคปิโต รกฺขิโต วูปสโนฺตฯ มุนีติฯ โมนํ วุจฺจติ ญาณํฯ ยา ปญฺญา ปชานนา…เป.… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฎฺฐิ…เป.… สงฺคชาลมติจฺจ โส มุนีติ – ส เว วาจายโต มุนิฯ

    Dasa kathāvatthūni kathesi, seyyathidaṃ – appicchakathaṃ katheti, santuṭṭhīkathaṃ katheti, pavivekakathaṃ… asaṃsaggakathaṃ… vīriyārambhakathaṃ… sīlakathaṃ… samādhikathaṃ… paññākathaṃ… vimuttikathaṃ … vimuttiñāṇadassanakathaṃ… satipaṭṭhānakathaṃ… sammappadhānakathaṃ… iddhipādakathaṃ… indriyakathaṃ… balakathaṃ… bojjhaṅgakathaṃ… maggakathaṃ… phalakathaṃ… nibbānakathaṃ katheti. Vācāyatoti yatto pariyatto gutto gopito rakkhito vūpasanto. Munīti. Monaṃ vuccati ñāṇaṃ. Yā paññā pajānanā…pe… amoho dhammavicayo sammādiṭṭhi…pe… saṅgajālamaticca so munīti – sa ve vācāyato muni.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘อโกฺกธโน อสนฺตาสี, อวิกตฺถี อกุกฺกุโจ;

    ‘‘Akkodhano asantāsī, avikatthī akukkuco;

    มนฺตภาณี อนุทฺธโต, ส เว วาจายโต มุนี’’ติฯ

    Mantabhāṇī anuddhato, sa ve vācāyato munī’’ti.

    ๘๖.

    86.

    นิราสตฺติ อนาคเต, อตีตํ นานุโสจติ;

    Nirāsattianāgate, atītaṃ nānusocati;

    วิเวกทสฺสี ผเสฺสสุ, ทิฎฺฐีสุ จ น นียติฯ

    Vivekadassī phassesu, diṭṭhīsu ca na nīyati.

    นิราสตฺติ อนาคเตติฯ อาสตฺติ วุจฺจติ ตณฺหาฯ โย ราโค สาราโค…เป.… อภิชฺฌา โลโภ อกุสลมูลํฯ ยเสฺสสา อาสตฺติ ตณฺหา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒาติฯ เอวมฺปิ นิราสตฺติ อนาคเตฯ อถ วา ‘‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺนาเนติ, ‘‘เอวํเวทโน สิยํ… เอวํสโญฺญ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิญฺญาโณ สิยํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺนาเนติฯ เอวมฺปิ นิราสตฺติ อนาคเตฯ อถ วา ‘‘อิติ เม จกฺขุ สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ รูปา’’ติ อปฺปฎิลทฺธสฺส ปฎิลาภาย จิตฺตํ น ปณิทหติ , เจตโส อปฺปณิธานปฺปจฺจยา น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ นิราสตฺติ อนาคเตฯ ‘‘อิติ เม โสตํ สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ สทฺทา’’ติ…เป.… ‘‘อิติ เม มโน สิยา อนาคตมทฺธานํ – อิติ ธมฺมา’’ติ อปฺปฎิลทฺธสฺส ปฎิลาภาย จิตฺตํ น ปณิทหติ, เจตโส อปฺปณิธานปฺปจฺจยา น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ นิราสตฺติ อนาคเตฯ อถ วา ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวญฺญตโร วา’’ติ อปฺปฎิลทฺธสฺส ปฎิลาภาย จิตฺตํ น ปณิทหติ, เจตโส อปฺปณิธานปฺปจฺจยา น ตทภินนฺทติ; น ตทภินนฺทโนฺตฯ เอวมฺปิ นิราสตฺติ อนาคเตฯ

    Nirāsatti anāgateti. Āsatti vuccati taṇhā. Yo rāgo sārāgo…pe… abhijjhā lobho akusalamūlaṃ. Yassesā āsatti taṇhā pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhāti. Evampi nirāsatti anāgate. Atha vā ‘‘evaṃrūpo siyaṃ anāgatamaddhāna’’nti tattha nandiṃ na samannāneti, ‘‘evaṃvedano siyaṃ… evaṃsañño siyaṃ… evaṃsaṅkhāro siyaṃ… evaṃviññāṇo siyaṃ anāgatamaddhāna’’nti tattha nandiṃ na samannāneti. Evampi nirāsatti anāgate. Atha vā ‘‘iti me cakkhu siyā anāgatamaddhānaṃ – iti rūpā’’ti appaṭiladdhassa paṭilābhāya cittaṃ na paṇidahati , cetaso appaṇidhānappaccayā na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi nirāsatti anāgate. ‘‘Iti me sotaṃ siyā anāgatamaddhānaṃ – iti saddā’’ti…pe… ‘‘iti me mano siyā anāgatamaddhānaṃ – iti dhammā’’ti appaṭiladdhassa paṭilābhāya cittaṃ na paṇidahati, cetaso appaṇidhānappaccayā na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi nirāsatti anāgate. Atha vā ‘‘imināhaṃ sīlena vā vatena vā tapena vā brahmacariyena vā devo vā bhavissāmi devaññataro vā’’ti appaṭiladdhassa paṭilābhāya cittaṃ na paṇidahati, cetaso appaṇidhānappaccayā na tadabhinandati; na tadabhinandanto. Evampi nirāsatti anāgate.

    อตีตํ นานุโสจตีติฯ วิปริณตํ วา วตฺถุํ น โสจติ, วิปริณตสฺมิํ วา วตฺถุสฺมิํ น โสจติ, ‘‘จกฺขุ เม วิปริณต’’นฺติ น โสจติ, ‘‘โสตํ เม… ฆานํ เม… ชิวฺหา เม… กาโย เม… รูปา เม… สทฺทา เม… คนฺธา เม… รสา เม… โผฎฺฐพฺพา เม… กุลํ เม… คโณ เม… อาวาโส เม… ลาโภ เม… ยโส เม… ปสํสา เม… สุขํ เม… จีวรํ เม… ปิณฺฑปาโต เม… เสนาสนํ เม… คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร เม… มาตา เม… ปิตา เม… ภาตา เม… ภคินี เม… ปุโตฺต เม… ธีตา เม… มิตฺตา เม… อมจฺจา เม… ญาตกา เม… สาโลหิตา เม วิปริณตา’’ติ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชตีติ – อตีตํ นานุโสจติฯ

    Atītaṃ nānusocatīti. Vipariṇataṃ vā vatthuṃ na socati, vipariṇatasmiṃ vā vatthusmiṃ na socati, ‘‘cakkhu me vipariṇata’’nti na socati, ‘‘sotaṃ me… ghānaṃ me… jivhā me… kāyo me… rūpā me… saddā me… gandhā me… rasā me… phoṭṭhabbā me… kulaṃ me… gaṇo me… āvāso me… lābho me… yaso me… pasaṃsā me… sukhaṃ me… cīvaraṃ me… piṇḍapāto me… senāsanaṃ me… gilānapaccayabhesajjaparikkhāro me… mātā me… pitā me… bhātā me… bhaginī me… putto me… dhītā me… mittā me… amaccā me… ñātakā me… sālohitā me vipariṇatā’’ti na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjatīti – atītaṃ nānusocati.

    วิเวกทสฺสี ผเสฺสสูติฯ จกฺขุสมฺผโสฺส โสตสมฺผโสฺส ฆานสมฺผโสฺส ชิวฺหาสมฺผโสฺส กายสมฺผโสฺส มโนสมฺผโสฺส, อธิวจนสมฺผโสฺส ปฎิฆสมฺผโสฺส, สุขเวทนีโย ผโสฺส ทุกฺขเวทนีโย ผโสฺส อทุกฺขมสุขเวทนีโย ผโสฺส, กุสโล ผโสฺส อกุสโล ผโสฺส อพฺยากโต ผโสฺส, กามาวจโร ผโสฺส รูปาวจโร ผโสฺส อรูปาวจโร ผโสฺส, สุญฺญโต ผโสฺส อนิมิโตฺต ผโสฺส อปฺปณิหิโต ผโสฺส, โลกิโย ผโสฺส โลกุตฺตโร ผโสฺส, อตีโต ผโสฺส อนาคโต ผโสฺส ปจฺจุปฺปโนฺน ผโสฺส; โย เอวรูโป ผโสฺส ผุสนา สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ผโสฺสฯ

    Vivekadassīphassesūti. Cakkhusamphasso sotasamphasso ghānasamphasso jivhāsamphasso kāyasamphasso manosamphasso, adhivacanasamphasso paṭighasamphasso, sukhavedanīyo phasso dukkhavedanīyo phasso adukkhamasukhavedanīyo phasso, kusalo phasso akusalo phasso abyākato phasso, kāmāvacaro phasso rūpāvacaro phasso arūpāvacaro phasso, suññato phasso animitto phasso appaṇihito phasso, lokiyo phasso lokuttaro phasso, atīto phasso anāgato phasso paccuppanno phasso; yo evarūpo phasso phusanā samphusanā samphusitattaṃ – ayaṃ vuccati phasso.

    วิเวกทสฺสี ผเสฺสสูติฯ จกฺขุสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ อเตฺตน วา อตฺตนิเยน วา นิเจฺจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธเมฺมน วา, โสตสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… ฆานสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… ชิวฺหาสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… กายสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… มโนสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… อธิวจนสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… ปฎิฆสมฺผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ… สุขเวทนียํ ผสฺสํ… ทุกฺขเวทนียํ ผสฺสํ… อทุกฺขมสุขเวทนียํ ผสฺสํ… กุสลํ ผสฺสํ… อกุสลํ ผสฺสํ… อพฺยากตํ ผสฺสํ… กามาวจรํ ผสฺสํ… รูปาวจรํ ผสฺสํ… อรูปาวจรํ ผสฺสํ… โลกิยํ ผสฺสํ วิวิตฺตํ ปสฺสติ อเตฺตน วา อตฺตนิเยน วา นิเจฺจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธเมฺมน วาฯ

    Vivekadassī phassesūti. Cakkhusamphassaṃ vivittaṃ passati attena vā attaniyena vā niccena vā dhuvena vā sassatena vā avipariṇāmadhammena vā, sotasamphassaṃ vivittaṃ passati… ghānasamphassaṃ vivittaṃ passati… jivhāsamphassaṃ vivittaṃ passati… kāyasamphassaṃ vivittaṃ passati… manosamphassaṃ vivittaṃ passati… adhivacanasamphassaṃ vivittaṃ passati… paṭighasamphassaṃ vivittaṃ passati… sukhavedanīyaṃ phassaṃ… dukkhavedanīyaṃ phassaṃ… adukkhamasukhavedanīyaṃ phassaṃ… kusalaṃ phassaṃ… akusalaṃ phassaṃ… abyākataṃ phassaṃ… kāmāvacaraṃ phassaṃ… rūpāvacaraṃ phassaṃ… arūpāvacaraṃ phassaṃ… lokiyaṃ phassaṃ vivittaṃ passati attena vā attaniyena vā niccena vā dhuvena vā sassatena vā avipariṇāmadhammena vā.

    อถ วา อตีตํ ผสฺสํ อนาคเตหิ จ ปจฺจุปฺปเนฺนหิ จ ผเสฺสหิ วิวิตฺตํ ปสฺสติ, อนาคตํ ผสฺสํ อตีเตหิ จ ปจฺจุปฺปเนฺนหิ จ ผเสฺสหิ วิวิตฺตํ ปสฺสติ, ปจฺจุปฺปนฺนํ ผสฺสํ อตีเตหิ จ อนาคเตหิ จ ผเสฺสหิ วิวิตฺตํ ปสฺสติฯ อถ วา เย เต ผสฺสา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา สุญฺญตปฎิสญฺญุตฺตา, เต ผเสฺส วิวิเตฺต ปสฺสติ ราเคน โทเสน โมเหน โกเธน อุปนาเหน มเกฺขน ปฬาเสน อิสฺสาย มจฺฉริเยน มายาย สาเฐเยฺยน ถเมฺภน สารเมฺภน มาเนน อติมาเนน มเทน ปมาเทน สพฺพกิเลเสหิ สพฺพทุจฺจริเตหิ สพฺพทรเถหิ สพฺพปริฬาเหหิ สพฺพสนฺตาเปหิ สพฺพากุสลาภิสงฺขาเรหิ วิวิเตฺต ปสฺสตีติ – วิเวกทสฺสี ผเสฺสสุฯ

    Atha vā atītaṃ phassaṃ anāgatehi ca paccuppannehi ca phassehi vivittaṃ passati, anāgataṃ phassaṃ atītehi ca paccuppannehi ca phassehi vivittaṃ passati, paccuppannaṃ phassaṃ atītehi ca anāgatehi ca phassehi vivittaṃ passati. Atha vā ye te phassā ariyā anāsavā lokuttarā suññatapaṭisaññuttā, te phasse vivitte passati rāgena dosena mohena kodhena upanāhena makkhena paḷāsena issāya macchariyena māyāya sāṭheyyena thambhena sārambhena mānena atimānena madena pamādena sabbakilesehi sabbaduccaritehi sabbadarathehi sabbapariḷāhehi sabbasantāpehi sabbākusalābhisaṅkhārehi vivitte passatīti – vivekadassī phassesu.

    ทิฎฺฐีสุ จ น นียตีติฯ ตสฺส ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิ ปหีนานิ สมุจฺฉินฺนานิ วูปสนฺตานิ ปฎิปสฺสทฺธานิ อภพฺพุปฺปตฺติกานิ ญาณคฺคินา ทฑฺฒานิฯ โส ทิฎฺฐิยา น ยายติ น นียติ น วุยฺหติ น สํหรียติ; นปิ ตํ ทิฎฺฐิคตํ สารโต ปเจฺจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ – ทิฎฺฐีสุ จ น นียติฯ

    Diṭṭhīsu ca na nīyatīti. Tassa dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni pahīnāni samucchinnāni vūpasantāni paṭipassaddhāni abhabbuppattikāni ñāṇagginā daḍḍhāni. So diṭṭhiyā na yāyati na nīyati na vuyhati na saṃharīyati; napi taṃ diṭṭhigataṃ sārato pacceti na paccāgacchatīti – diṭṭhīsu ca na nīyati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘นิราสตฺติ อนาคเต, อตีตํ นานุโสจติ;

    ‘‘Nirāsatti anāgate, atītaṃ nānusocati;

    วิเวกทสฺสี ผเสฺสสุ, ทิฎฺฐีสุ จ น นียตี’’ติฯ

    Vivekadassī phassesu, diṭṭhīsu ca na nīyatī’’ti.

    ๘๗.

    87.

    ปติลีโน อกุหโก, อปิหาลุ อมจฺฉรี;

    Patilīno akuhako, apihālu amaccharī;

    อปฺปคโพฺภ อเชคุโจฺฉ, เปสุเณเยฺย จ โน ยุโตฯ

    Appagabbho ajeguccho, pesuṇeyye ca no yuto.

    ปติลีโน อกุหโกติฯ ปติลีโนติ ราคสฺส ปหีนตฺตา ปติลีโน, โทสสฺส ปหีนตฺตา ปติลีโน, โมหสฺส ปหีนตฺตา ปติลีโน, โกธสฺส… อุปนาหสฺส … มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส…เป.… สพฺพากุสลาภิสงฺขารานํ ปหีนตฺตา ปติลีโนฯ วุตฺตเญฺหตํ ภควตา – ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปติลีโน โหติ? อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺมฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปติลีโน โหตี’’ติ – ปติลีโนฯ

    Patilīno akuhakoti. Patilīnoti rāgassa pahīnattā patilīno, dosassa pahīnattā patilīno, mohassa pahīnattā patilīno, kodhassa… upanāhassa … makkhassa… paḷāsassa… issāya… macchariyassa…pe… sabbākusalābhisaṅkhārānaṃ pahīnattā patilīno. Vuttañhetaṃ bhagavatā – ‘‘kathañca, bhikkhave, bhikkhu patilīno hoti? Imassa, bhikkhave, bhikkhuno asmimāno pahīno hoti ucchinnamūlo tālāvatthukato anabhāvaṃkato āyatiṃ anuppādadhammo. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu patilīno hotī’’ti – patilīno.

    อกุหโกติ ตีณิ กุหนวตฺถูนิ – ปจฺจยปฎิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ, อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ, สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุฯ

    Akuhakoti tīṇi kuhanavatthūni – paccayapaṭisevanasaṅkhātaṃ kuhanavatthu, iriyāpathasaṅkhātaṃ kuhanavatthu, sāmantajappanasaṅkhātaṃ kuhanavatthu.

    กตมํ ปจฺจยปฎิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิธ คหปติกา ภิกฺขุํ นิมเนฺตนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิฯ โส ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต อตฺถิโก จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ ภิโยฺยกมฺยตํ อุปาทาย จีวรํ ปจฺจกฺขาติ, ปิณฺฑปาตํ ปจฺจกฺขาติ, เสนาสนํ ปจฺจกฺขาติ, คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปจฺจกฺขาติฯ โส เอวมาห – ‘‘กิํ สมณสฺส มหเคฺฆน จีวเรน! เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ สุสานา วา สงฺการกูฎา วา ปาปณิกา วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา สงฺฆาฎิํ กตฺวา ธาเรยฺยฯ กิํ สมณสฺส มหเคฺฆน ปิณฺฑปาเตน ! เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ อุญฺฉาจริยาย ปิณฺฑิยาโลเปน ชีวิกํ กเปฺปยฺยฯ กิํ สมณสฺส มหเคฺฆน เสนาสเนน! เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ รุกฺขมูลิโก วา อสฺส โสสานิโก วา อโพฺภกาสิโก วาฯ กิํ สมณสฺส มหเคฺฆน คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน! เอตํ สารุปฺปํ ยํ สมโณ ปูติมุเตฺตน วา หริตกีขเณฺฑน วา โอสธํ กเรยฺยา’’ติฯ ตทุปาทาย ลูขํ จีวรํ ธาเรติ, ลูขํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชติ, ลูขํ เสนาสนํ ปฎิเสวติ , ลูขํ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปฎิเสวติฯ ตเมนํ คหปติกา เอวํ ชานนฺติ – ‘‘อยํ สมโณ อปฺปิโจฺฉ สนฺตุโฎฺฐ ปวิวิโตฺต อสํสโฎฺฐ อารทฺธวีริโย ธุตวาโท’’ติ ภิโยฺย ภิโยฺย นิมเนฺตนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิฯ โส เอวมาห – ‘‘ติณฺณํ สมฺมุขีภาวา สโทฺธ กุลปุโตฺต พหุํ ปุญฺญํ ปสวติฯ สทฺธาย สมฺมุขีภาวา สโทฺธ กุลปุโตฺต พหุํ ปุญฺญํ ปสวติ, เทยฺยธมฺมสฺส สมฺมุขีภาวา สโทฺธ กุลปุโตฺต พหุํ ปุญฺญํ ปสวติ, ทกฺขิเณยฺยานํ สมฺมุขีภาวา สโทฺธ กุลปุโตฺต พหุํ ปุญฺญํ ปสวติฯ ‘ตุมฺหากเญฺจวายํ สทฺธา อตฺถิ, เทยฺยธโมฺม จ สํวิชฺชติ, อหญฺจ ปฎิคฺคาหโกฯ สเจหํ น ปฎิคฺคเหสฺสามิ, เอวํ ตุเมฺห ปุเญฺญน ปริพาหิรา ภวิสฺสนฺติฯ น มยฺหํ อิมินา อโตฺถฯ อปิ จ ตุมฺหากํเยว อนุกมฺปาย ปฎิคฺคณฺหามี’’’ติฯ ตทุปาทาย พหุมฺปิ จีวรํ ปฎิคฺคณฺหาติ, พหุมฺปิ ปิณฺฑปาตํ ปฎิคฺคณฺหาติ, พหุมฺปิ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปฎิคฺคณฺหาติฯ ยา เอวรูปา ภากุฎิกา ภากุฎิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ ปจฺจยปฎิเสวนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุฯ

    Katamaṃ paccayapaṭisevanasaṅkhātaṃ kuhanavatthu? Idha gahapatikā bhikkhuṃ nimantenti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārehi. So pāpiccho icchāpakato atthiko cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārānaṃ bhiyyokamyataṃ upādāya cīvaraṃ paccakkhāti, piṇḍapātaṃ paccakkhāti, senāsanaṃ paccakkhāti, gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ paccakkhāti. So evamāha – ‘‘kiṃ samaṇassa mahagghena cīvarena! Etaṃ sāruppaṃ yaṃ samaṇo susānā vā saṅkārakūṭā vā pāpaṇikā vā nantakāni uccinitvā saṅghāṭiṃ katvā dhāreyya. Kiṃ samaṇassa mahagghena piṇḍapātena ! Etaṃ sāruppaṃ yaṃ samaṇo uñchācariyāya piṇḍiyālopena jīvikaṃ kappeyya. Kiṃ samaṇassa mahagghena senāsanena! Etaṃ sāruppaṃ yaṃ samaṇo rukkhamūliko vā assa sosāniko vā abbhokāsiko vā. Kiṃ samaṇassa mahagghena gilānapaccayabhesajjaparikkhārena! Etaṃ sāruppaṃ yaṃ samaṇo pūtimuttena vā haritakīkhaṇḍena vā osadhaṃ kareyyā’’ti. Tadupādāya lūkhaṃ cīvaraṃ dhāreti, lūkhaṃ piṇḍapātaṃ paribhuñjati, lūkhaṃ senāsanaṃ paṭisevati , lūkhaṃ gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ paṭisevati. Tamenaṃ gahapatikā evaṃ jānanti – ‘‘ayaṃ samaṇo appiccho santuṭṭho pavivitto asaṃsaṭṭho āraddhavīriyo dhutavādo’’ti bhiyyo bhiyyo nimantenti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārehi. So evamāha – ‘‘tiṇṇaṃ sammukhībhāvā saddho kulaputto bahuṃ puññaṃ pasavati. Saddhāya sammukhībhāvā saddho kulaputto bahuṃ puññaṃ pasavati, deyyadhammassa sammukhībhāvā saddho kulaputto bahuṃ puññaṃ pasavati, dakkhiṇeyyānaṃ sammukhībhāvā saddho kulaputto bahuṃ puññaṃ pasavati. ‘Tumhākañcevāyaṃ saddhā atthi, deyyadhammo ca saṃvijjati, ahañca paṭiggāhako. Sacehaṃ na paṭiggahessāmi, evaṃ tumhe puññena paribāhirā bhavissanti. Na mayhaṃ iminā attho. Api ca tumhākaṃyeva anukampāya paṭiggaṇhāmī’’’ti. Tadupādāya bahumpi cīvaraṃ paṭiggaṇhāti, bahumpi piṇḍapātaṃ paṭiggaṇhāti, bahumpi gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ paṭiggaṇhāti. Yā evarūpā bhākuṭikā bhākuṭiyaṃ kuhanā kuhāyanā kuhitattaṃ – idaṃ paccayapaṭisevanasaṅkhātaṃ kuhanavatthu.

    กตมํ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิเธกโจฺจ ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต สมฺภาวนาธิปฺปาโย, ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ, คมนํ สณฺฐเปติ ฐานํ สณฺฐเปติ นิสชฺชํ สณฺฐเปติ สยนํ สณฺฐเปติ, ปณิธาย คจฺฉติ ปณิธาย ติฎฺฐติ ปณิธาย นิสีทติ ปณิธาย เสยฺยํ กเปฺปติ, สมาหิโต วิย คจฺฉติ สมาหิโต วิย ติฎฺฐติ สมาหิโต วิย นิสีทติ สมาหิโต วิย เสยฺยํ กเปฺปติ, อาปาถกชฺฌายีว โหติฯ ยา เอวรูปา อิริยาปถสฺส ฐปนา อาฐปนา 11 สณฺฐปนา ภากุฎิกา ภากุฎิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ อิริยาปถสงฺขาตํ กุหนวตฺถุฯ

    Katamaṃ iriyāpathasaṅkhātaṃ kuhanavatthu? Idhekacco pāpiccho icchāpakato sambhāvanādhippāyo, ‘‘evaṃ maṃ jano sambhāvessatī’’ti, gamanaṃ saṇṭhapeti ṭhānaṃ saṇṭhapeti nisajjaṃ saṇṭhapeti sayanaṃ saṇṭhapeti, paṇidhāya gacchati paṇidhāya tiṭṭhati paṇidhāya nisīdati paṇidhāya seyyaṃ kappeti, samāhito viya gacchati samāhito viya tiṭṭhati samāhito viya nisīdati samāhito viya seyyaṃ kappeti, āpāthakajjhāyīva hoti. Yā evarūpā iriyāpathassa ṭhapanā āṭhapanā 12 saṇṭhapanā bhākuṭikā bhākuṭiyaṃ kuhanā kuhāyanā kuhitattaṃ – idaṃ iriyāpathasaṅkhātaṃ kuhanavatthu.

    กตมํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุ? อิเธกโจฺจ ปาปิโจฺฉ อิจฺฉาปกโต สมฺภาวนาธิปฺปาโย, ‘‘เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตี’’ติ, อริยธมฺมสนฺนิสฺสิตํ วาจํ ภาสติฯ ‘‘โย เอวรูปํ จีวรํ ธาเรติ โส สมโณ มเหสโกฺข’’ติ ภณติ; ‘‘โย เอวรูปํ ปตฺตํ ธาเรติ… โลหถาลกํ ธาเรติ… ธมฺมกรณํ ธาเรติ… ปริสาวนํ ธาเรติ… กุญฺจิกํ ธาเรติ… อุปาหนํ ธาเรติ… กายพนฺธนํ ธาเรติ… อาโยคํ ธาเรติ โส สมโณ มเหสโกฺข’’ติ ภณติ; ‘‘ยสฺส เอวรูโป อุปชฺฌาโย โส สมโณ มเหสโกฺข’’ติ ภณติ; ‘‘ยสฺส เอวรูโป อาจริโย… เอวรูปา สมานุปชฺฌายกา… สมานาจริยกา… มิตฺตา… สนฺทิฎฺฐา… สมฺภตฺตา… สหายา โส สมโณ มเหสโกฺข’’ติ ภณติ; ‘‘โย เอวรูเป วิหาเร วสติ โส สมโณ มเหสโกฺข’’ติ ภณติ; ‘‘โย เอวรูเป อฑฺฒโยเค วสติ… ปาสาเท วสติ… หมฺมิเย วสติ… คุหายํ วสติ… เลเณ วสติ… กุฎิยา วสติ… กูฎาคาเร วสติ… อเฎฺฎ วสติ … มาเฬ วสติ… อุทฺทเณฺฑ วสติ… อุปฎฺฐานสาลายํ วสติ… มณฺฑเป วสติ… รุกฺขมูเล วสติ, โส สมโณ มเหสโกฺข’’ติ ภณติฯ

    Katamaṃ sāmantajappanasaṅkhātaṃ kuhanavatthu? Idhekacco pāpiccho icchāpakato sambhāvanādhippāyo, ‘‘evaṃ maṃ jano sambhāvessatī’’ti, ariyadhammasannissitaṃ vācaṃ bhāsati. ‘‘Yo evarūpaṃ cīvaraṃ dhāreti so samaṇo mahesakkho’’ti bhaṇati; ‘‘yo evarūpaṃ pattaṃ dhāreti… lohathālakaṃ dhāreti… dhammakaraṇaṃ dhāreti… parisāvanaṃ dhāreti… kuñcikaṃ dhāreti… upāhanaṃ dhāreti… kāyabandhanaṃ dhāreti… āyogaṃ dhāreti so samaṇo mahesakkho’’ti bhaṇati; ‘‘yassa evarūpo upajjhāyo so samaṇo mahesakkho’’ti bhaṇati; ‘‘yassa evarūpo ācariyo… evarūpā samānupajjhāyakā… samānācariyakā… mittā… sandiṭṭhā… sambhattā… sahāyā so samaṇo mahesakkho’’ti bhaṇati; ‘‘yo evarūpe vihāre vasati so samaṇo mahesakkho’’ti bhaṇati; ‘‘yo evarūpe aḍḍhayoge vasati… pāsāde vasati… hammiye vasati… guhāyaṃ vasati… leṇe vasati… kuṭiyā vasati… kūṭāgāre vasati… aṭṭe vasati … māḷe vasati… uddaṇḍe vasati… upaṭṭhānasālāyaṃ vasati… maṇḍape vasati… rukkhamūle vasati, so samaṇo mahesakkho’’ti bhaṇati.

    อถ วา โกรชิกโกรชิโก 13 ภากุฎิกภากุฎิโก กุหกกุหโก ลปกลปโก มุขสมฺภาวิโก, ‘‘อยํ สมโณ อิมาสํ เอวรูปานํ สนฺตานํ วิหารสมาปตฺตีนํ ลาภี’’ติ ตาทิสํ คมฺภีรํ คูฬฺหํ นิปุณํ ปฎิจฺฉนฺนํ โลกุตฺตรํ สุญฺญตาปฎิสํยุตฺตํ กถํ กเถสิฯ ยา เอวรูปา ภากุฎิกา ภากุฎิยํ กุหนา กุหายนา กุหิตตฺตํ – อิทํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตํ กุหนวตฺถุฯ ยสฺสิมานิ ตีณิ กุหนวตฺถูนิ ปหีนานิ สมุจฺฉินฺนานิ วูปสนฺตานิ ปฎิปสฺสทฺธานิ อภพฺพุปฺปตฺติกานิ ญาณคฺคินา ทฑฺฒานิ, โส วุจฺจติ อกุหโกติ – ปติลีโน อกุหโกฯ

    Atha vā korajikakorajiko 14 bhākuṭikabhākuṭiko kuhakakuhako lapakalapako mukhasambhāviko, ‘‘ayaṃ samaṇo imāsaṃ evarūpānaṃ santānaṃ vihārasamāpattīnaṃ lābhī’’ti tādisaṃ gambhīraṃ gūḷhaṃ nipuṇaṃ paṭicchannaṃ lokuttaraṃ suññatāpaṭisaṃyuttaṃ kathaṃ kathesi. Yā evarūpā bhākuṭikā bhākuṭiyaṃ kuhanā kuhāyanā kuhitattaṃ – idaṃ sāmantajappanasaṅkhātaṃ kuhanavatthu. Yassimāni tīṇi kuhanavatthūni pahīnāni samucchinnāni vūpasantāni paṭipassaddhāni abhabbuppattikāni ñāṇagginā daḍḍhāni, so vuccati akuhakoti – patilīno akuhako.

    อปิหาลุ อมจฺฉรีติฯ ปิหา วุจฺจติ ตณฺหาฯ โย ราโค สาราโค…เป.… อภิชฺฌา โลโภ อกุสลมูลํฯ ยเสฺสสา ปิหา ตณฺหา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒา, โส วุจฺจติ อปิหาลุฯ โส รูเป น ปิเหติ, สเทฺท… คเนฺธ… รเส… โผฎฺฐเพฺพ… กุลํ… คณํ… อาวาสํ… ลาภํ… ยสํ… ปสํสํ… สุขํ… จีวรํ… ปิณฺฑปาตํ… เสนาสนํ… คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ… กามธาตุํ… รูปธาตุํ… อรูปธาตุํ… กามภวํ… รูปภวํ… อรูปภวํ… สญฺญาภวํ… อสญฺญาภวํ … เนวสญฺญานาสญฺญาภวํ… เอกโวการภวํ… จตุโวการภวํ… ปญฺจโวการภวํ… อตีตํ… อนาคตํ… ปจฺจุปฺปนฺนํ… ทิฎฺฐสุตมุตวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม น ปิเหติ น อิจฺฉติ น สาทิยติ น ปเตฺถติ นาภิชปฺปตีติ – อปิหาลุฯ อมจฺฉรีติ ปญฺจ มจฺฉริยานิ – อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํฯ ยํ เอวรูปํ มจฺฉรํ มจฺฉรายนา มจฺฉรายิตตฺตํ เววิจฺฉํ กทริยํ กฎุกญฺจุกตา อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺส – อิทํ วุจฺจติ มจฺฉริยํฯ อปิ จ ขนฺธมจฺฉริยมฺปิ มจฺฉริยํ, ธาตุมจฺฉริยมฺปิ มจฺฉริยํ, อายตนมจฺฉริยมฺปิ มจฺฉริยํ คาโห – อิทํ วุจฺจติ มจฺฉริยํฯ ยเสฺสตํ มจฺฉริยํ ปหีนํ สมุจฺฉินฺนํ วูปสนฺตํ ปฎิปสฺสทฺธํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ญาณคฺคินา ทฑฺฒํ, โส วุจฺจติ อมจฺฉรีติ – อปิหาลุ อมจฺฉรีฯ

    Apihālu amaccharīti. Pihā vuccati taṇhā. Yo rāgo sārāgo…pe… abhijjhā lobho akusalamūlaṃ. Yassesā pihā taṇhā pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhā, so vuccati apihālu. So rūpe na piheti, sadde… gandhe… rase… phoṭṭhabbe… kulaṃ… gaṇaṃ… āvāsaṃ… lābhaṃ… yasaṃ… pasaṃsaṃ… sukhaṃ… cīvaraṃ… piṇḍapātaṃ… senāsanaṃ… gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ… kāmadhātuṃ… rūpadhātuṃ… arūpadhātuṃ… kāmabhavaṃ… rūpabhavaṃ… arūpabhavaṃ… saññābhavaṃ… asaññābhavaṃ … nevasaññānāsaññābhavaṃ… ekavokārabhavaṃ… catuvokārabhavaṃ… pañcavokārabhavaṃ… atītaṃ… anāgataṃ… paccuppannaṃ… diṭṭhasutamutaviññātabbe dhamme na piheti na icchati na sādiyati na pattheti nābhijappatīti – apihālu. Amaccharīti pañca macchariyāni – āvāsamacchariyaṃ, kulamacchariyaṃ, lābhamacchariyaṃ, vaṇṇamacchariyaṃ, dhammamacchariyaṃ. Yaṃ evarūpaṃ maccharaṃ maccharāyanā maccharāyitattaṃ vevicchaṃ kadariyaṃ kaṭukañcukatā aggahitattaṃ cittassa – idaṃ vuccati macchariyaṃ. Api ca khandhamacchariyampi macchariyaṃ, dhātumacchariyampi macchariyaṃ, āyatanamacchariyampi macchariyaṃ gāho – idaṃ vuccati macchariyaṃ. Yassetaṃ macchariyaṃ pahīnaṃ samucchinnaṃ vūpasantaṃ paṭipassaddhaṃ abhabbuppattikaṃ ñāṇagginā daḍḍhaṃ, so vuccati amaccharīti – apihālu amaccharī.

    อปฺปคโพฺภ อเชคุโจฺฉติฯ ปาคพฺภิยนฺติ ตีณิ ปาคพฺภิยานิ – กายิกํ ปาคพฺภิยํ, วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ, เจตสิกํ ปาคพฺภิยํฯ กตมํ กายิกํ ปาคพฺภิยํ? อิเธกโจฺจ สงฺฆคโตปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, คณคโตปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, โภชนสาลายมฺปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, ชนฺตาฆเรปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, อุทกติเตฺถปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, อนฺตรฆรํ ปวิสโนฺตปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐปิ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Appagabbhoajegucchoti. Pāgabbhiyanti tīṇi pāgabbhiyāni – kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ, vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ, cetasikaṃ pāgabbhiyaṃ. Katamaṃ kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ? Idhekacco saṅghagatopi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, gaṇagatopi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, bhojanasālāyampi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, jantāgharepi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, udakatitthepi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, antaragharaṃ pavisantopi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, antaragharaṃ paviṭṭhopi kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ สงฺฆคโต กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ สงฺฆคโต อจิตฺตีการกโต 15 เถเร ภิกฺขู ฆฎฺฎยโนฺตปิ ติฎฺฐติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ นิสีทติ, ปุรโตปิ ติฎฺฐติ, ปุรโตปิ นิสีทติ, อุเจฺจปิ อาสเน นิสีทติ, สสีสํ ปารุปิตฺวาปิ นิสีทติ, ฐิตโกปิ ภณติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ เอวํ สงฺฆคโต กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ saṅghagato kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco saṅghagato acittīkārakato 16 there bhikkhū ghaṭṭayantopi tiṭṭhati, ghaṭṭayantopi nisīdati, puratopi tiṭṭhati, puratopi nisīdati, uccepi āsane nisīdati, sasīsaṃ pārupitvāpi nisīdati, ṭhitakopi bhaṇati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Evaṃ saṅghagato kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ คณคโต กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ คณคโต อจิตฺตีการกโต เถรานํ ภิกฺขูนํ อนุปาหนานํ จงฺกมนฺตานํ สอุปาหโน จงฺกมติ, นีเจ จงฺกเม จงฺกมนฺตานํ อุเจฺจ จงฺกเม จงฺกมติ, ฉมาย จงฺกมนฺตานํ จงฺกเม จงฺกมติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ ติฎฺฐติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ นิสีทติ, ปุรโตปิ ติฎฺฐติ, ปุรโตปิ นิสีทติ, อุเจฺจปิ อาสเน นิสีทติ, สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสีทติ, ฐิตโกปิ ภณติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ เอวํ คณคโต กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ gaṇagato kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco gaṇagato acittīkārakato therānaṃ bhikkhūnaṃ anupāhanānaṃ caṅkamantānaṃ saupāhano caṅkamati, nīce caṅkame caṅkamantānaṃ ucce caṅkame caṅkamati, chamāya caṅkamantānaṃ caṅkame caṅkamati, ghaṭṭayantopi tiṭṭhati, ghaṭṭayantopi nisīdati, puratopi tiṭṭhati, puratopi nisīdati, uccepi āsane nisīdati, sasīsaṃ pārupitvā nisīdati, ṭhitakopi bhaṇati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Evaṃ gaṇagato kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ โภชนสาลายํ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ โภชนสาลายํ อจิตฺตีการกโต เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช นิสีทติ, นเวปิ ภิกฺขู อาสเนน ปฎิพาหติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ ติฎฺฐติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ นิสีทติ, ปุรโตปิ ติฎฺฐติ, ปุรโตปิ นิสีทติ, อุเจฺจปิ อาสเน นิสีทติ, สสีสํ ปารุปิตฺวาปิ นิสีทติ, ฐิตโกปิ ภณติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ เอวํ โภชนสาลายํ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ bhojanasālāyaṃ kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco bhojanasālāyaṃ acittīkārakato there bhikkhū anupakhajja nisīdati, navepi bhikkhū āsanena paṭibāhati, ghaṭṭayantopi tiṭṭhati, ghaṭṭayantopi nisīdati, puratopi tiṭṭhati, puratopi nisīdati, uccepi āsane nisīdati, sasīsaṃ pārupitvāpi nisīdati, ṭhitakopi bhaṇati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Evaṃ bhojanasālāyaṃ kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ ชนฺตาฆเร กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ ชนฺตาฆเร อจิตฺตีการกโต เถเร ภิกฺขู ฆฎฺฎยโนฺตปิ ติฎฺฐติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ นิสีทติ, ปุรโตปิ ติฎฺฐติ, ปุรโตปิ นิสีทติ, อุเจฺจปิ อาสเน นิสีทติ , อนาปุจฺฉมฺปิ อนชฺฌิโฎฺฐปิ กฎฺฐํ ปกฺขิปติ, ทฺวารมฺปิ ปิทหติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ เอวํ ชนฺตาฆเร กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ jantāghare kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco jantāghare acittīkārakato there bhikkhū ghaṭṭayantopi tiṭṭhati, ghaṭṭayantopi nisīdati, puratopi tiṭṭhati, puratopi nisīdati, uccepi āsane nisīdati , anāpucchampi anajjhiṭṭhopi kaṭṭhaṃ pakkhipati, dvārampi pidahati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Evaṃ jantāghare kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ อุทกติเตฺถ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ อุทกติเตฺถ อจิตฺตีการกโต เถเร ภิกฺขู ฆฎฺฎยโนฺตปิ โอตรติ, ปุรโตปิ โอตรติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ นฺหายติ 17, ปุรโตปิ นฺหายติ , อุปริโตปิ นฺหายติ, ฆฎฺฎยโนฺตปิ อุตฺตรติ, ปุรโตปิ อุตฺตรติ, อุปริโตปิ อุตฺตรติฯ เอวํ อุทกติเตฺถ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ udakatitthe kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco udakatitthe acittīkārakato there bhikkhū ghaṭṭayantopi otarati, puratopi otarati, ghaṭṭayantopi nhāyati 18, puratopi nhāyati , uparitopi nhāyati, ghaṭṭayantopi uttarati, puratopi uttarati, uparitopi uttarati. Evaṃ udakatitthe kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ อนฺตรฆรํ ปวิสโนฺต กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ อนฺตรฆรํ ปวิสโนฺต อจิตฺตีการกโต เถเร ภิกฺขู ฆฎฺฎยโนฺตปิ คจฺฉติ, ปุรโตปิ คจฺฉติ, โวกฺกมฺมาปิ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปุรโต ปุรโต คจฺฉติฯ เอวํ อนฺตรฆรํ ปวิสโนฺต กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ antaragharaṃ pavisanto kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco antaragharaṃ pavisanto acittīkārakato there bhikkhū ghaṭṭayantopi gacchati, puratopi gacchati, vokkammāpi therānaṃ bhikkhūnaṃ purato purato gacchati. Evaṃ antaragharaṃ pavisanto kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐ, ‘‘น ปวิส 19, ภเนฺต’’ติ วุจฺจมาโน ปวิสติ, ‘‘น ติฎฺฐ, ภเนฺต’’ติ วุจฺจมาโน ติฎฺฐติ, ‘‘น นิสีท, ภเนฺต’’ติ วุจฺจมาโน นิสีทติ, อโนกาสมฺปิ ปวิสติ, อโนกาเสปิ ติฎฺฐติ, อโนกาเสปิ นิสีทติ, ยานิปิ ตานิ โหนฺติ กุลานํ โอวรกานิ คูฬฺหานิ จ ปฎิจฺฉนฺนานิ จฯ ยตฺถ กุลิตฺถิโย กุลธีตโร กุลสุณฺหาโย กุลกุมาริโย นิสีทนฺติ, ตตฺถปิ สหสา ปวิสติ กุมารกสฺสปิ สิรํ ปรามสติฯ เอวํ อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ – อิทํ กายิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ antaragharaṃ paviṭṭho kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco antaragharaṃ paviṭṭho, ‘‘na pavisa 20, bhante’’ti vuccamāno pavisati, ‘‘na tiṭṭha, bhante’’ti vuccamāno tiṭṭhati, ‘‘na nisīda, bhante’’ti vuccamāno nisīdati, anokāsampi pavisati, anokāsepi tiṭṭhati, anokāsepi nisīdati, yānipi tāni honti kulānaṃ ovarakāni gūḷhāni ca paṭicchannāni ca. Yattha kulitthiyo kuladhītaro kulasuṇhāyo kulakumāriyo nisīdanti, tatthapi sahasā pavisati kumārakassapi siraṃ parāmasati. Evaṃ antaragharaṃ paviṭṭho kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti – idaṃ kāyikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กตมํ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ สงฺฆคโตปิ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, คณคโตปิ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ, อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐปิ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Katamaṃ vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco saṅghagatopi vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, gaṇagatopi vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti, antaragharaṃ paviṭṭhopi vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ สงฺฆคโต วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ สงฺฆคโต อจิตฺตีการกโต เถเร ภิกฺขู อนาปุจฺฉํ วา อนชฺฌิโฎฺฐ วา อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ ภณติ, ปญฺหํ วิสเชฺชติ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสติ, ฐิตโกปิ ภณติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ เอวํ สงฺฆคโต วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ saṅghagato vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco saṅghagato acittīkārakato there bhikkhū anāpucchaṃ vā anajjhiṭṭho vā ārāmagatānaṃ bhikkhūnaṃ dhammaṃ bhaṇati, pañhaṃ visajjeti, pātimokkhaṃ uddisati, ṭhitakopi bhaṇati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Evaṃ saṅghagato vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ คณคโต วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ คณคโต อจิตฺตีการกโต เถเร ภิกฺขู อนาปุจฺฉํ วา อนชฺฌิโฎฺฐ วา อารามคตานํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ ภณติ, ปญฺหํ วิสเชฺชติ, ฐิตโกปิ ภณติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ อารามคตานํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ ธมฺมํ ภณติ, ปญฺหํ วิสเชฺชติ, ฐิตโกปิ ภณติ, พาหาวิเกฺขปโกปิ ภณติฯ เอวํ คณคโต วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติฯ

    Kathaṃ gaṇagato vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco gaṇagato acittīkārakato there bhikkhū anāpucchaṃ vā anajjhiṭṭho vā ārāmagatānaṃ bhikkhūnaṃ dhammaṃ bhaṇati, pañhaṃ visajjeti, ṭhitakopi bhaṇati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Ārāmagatānaṃ bhikkhunīnaṃ upāsakānaṃ upāsikānaṃ dhammaṃ bhaṇati, pañhaṃ visajjeti, ṭhitakopi bhaṇati, bāhāvikkhepakopi bhaṇati. Evaṃ gaṇagato vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti.

    กถํ อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ? อิเธกโจฺจ อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐ อิตฺถิํ วา กุมาริํ วา เอวมาห – ‘‘อิตฺถํนาเม อิตฺถํโคเตฺต กิํ อตฺถิ? ยาคุ อตฺถิ, ภตฺตํ อตฺถิ, ขาทนียํ อตฺถิฯ กิํ ปิวิสฺสาม, กิํ ภุญฺชิสฺสาม, กิํ ขาทิสฺสาม? กิํ วา อตฺถิ, กิํ วา เม ทสฺสถา’’ติ วิปฺปลปติ, ยา เอวรูปา วาจา ปลาโป วิปฺปลาโป ลาลโปฺป ลาลปฺปนา ลาลปฺปิตตฺตํฯ เอวํ อนฺตรฆรํ ปวิโฎฺฐ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํ ทเสฺสติ – อิทํ วาจสิกํ ปาคพฺภิยํฯ

    Kathaṃ antaragharaṃ paviṭṭho vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti? Idhekacco antaragharaṃ paviṭṭho itthiṃ vā kumāriṃ vā evamāha – ‘‘itthaṃnāme itthaṃgotte kiṃ atthi? Yāgu atthi, bhattaṃ atthi, khādanīyaṃ atthi. Kiṃ pivissāma, kiṃ bhuñjissāma, kiṃ khādissāma? Kiṃ vā atthi, kiṃ vā me dassathā’’ti vippalapati, yā evarūpā vācā palāpo vippalāpo lālappo lālappanā lālappitattaṃ. Evaṃ antaragharaṃ paviṭṭho vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ dasseti – idaṃ vācasikaṃ pāgabbhiyaṃ.

    กตมํ เจตสิกํ ปาคพฺภิยํ? อิเธกโจฺจ น อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโต สมาโน อุจฺจา กุลา ปพฺพชิเตน สทฺธิํ สทิสํ อตฺตานํ ทหติ จิเตฺตน, น มหากุลา ปพฺพชิโต สมาโน มหากุลา ปพฺพชิเตน สทฺธิํ สทิสํ อตฺตานํ ทหติ จิเตฺตน, น มหาโภคกุลา ปพฺพชิโต สมาโน มหาโภคกุลา ปพฺพชิเตน สทฺธิํ สทิสํ อตฺตานํ ทหติ จิเตฺตน, น อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโต สมาโน… น สุตฺตนฺติโก สมาโน สุตฺตนฺติเกน สทฺธิํ สทิสํ อตฺตานํ ทหติ จิเตฺตน, น วินยธโร สมาโน… น ธมฺมกถิโก สมาโน… น อารญฺญิโก สมาโน… น ปิณฺฑปาติโก สมาโน… น ปํสุกูลิโก สมาโน… น เตจีวริโก สมาโน… น สปทานจาริโก สมาโน… น ขลุปจฺฉาภตฺติโก สมาโน… น เนสชฺชิโก สมาโน… น ยถาสนฺถติโก สมาโน… น ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี สมาโน ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภินา สทฺธิํ สทิสํ อตฺตานํ ทหติ จิเตฺตน…เป.… น เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปตฺติยา ลาภี สมาโน เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปตฺติยา ลาภินา สทฺธิํ สทิสํ อตฺตานํ ทหติ จิเตฺตน – อิทํ เจตสิกํ ปาคพฺภิยํฯ ยสฺสิมานิ ตีณิ ปาคพฺภิยานิ ปหีนานิ สมุจฺฉินฺนานิ วูปสนฺตานิ ปฎิปสฺสทฺธานิ อภพฺพุปฺปตฺติกานิ ญาณคฺคินา ทฑฺฒานิ, โส วุจฺจติ อปฺปคโพฺภติ – อปฺปคโพฺภฯ

    Katamaṃ cetasikaṃ pāgabbhiyaṃ? Idhekacco na uccā kulā pabbajito samāno uccā kulā pabbajitena saddhiṃ sadisaṃ attānaṃ dahati cittena, na mahākulā pabbajito samāno mahākulā pabbajitena saddhiṃ sadisaṃ attānaṃ dahati cittena, na mahābhogakulā pabbajito samāno mahābhogakulā pabbajitena saddhiṃ sadisaṃ attānaṃ dahati cittena, na uḷārabhogakulā pabbajito samāno… na suttantiko samāno suttantikena saddhiṃ sadisaṃ attānaṃ dahati cittena, na vinayadharo samāno… na dhammakathiko samāno… na āraññiko samāno… na piṇḍapātiko samāno… na paṃsukūliko samāno… na tecīvariko samāno… na sapadānacāriko samāno… na khalupacchābhattiko samāno… na nesajjiko samāno… na yathāsanthatiko samāno… na paṭhamassa jhānassa lābhī samāno paṭhamassa jhānassa lābhinā saddhiṃ sadisaṃ attānaṃ dahati cittena…pe… na nevasaññānāsaññāyatanasamāpattiyā lābhī samāno nevasaññānāsaññāyatanasamāpattiyā lābhinā saddhiṃ sadisaṃ attānaṃ dahati cittena – idaṃ cetasikaṃ pāgabbhiyaṃ. Yassimāni tīṇi pāgabbhiyāni pahīnāni samucchinnāni vūpasantāni paṭipassaddhāni abhabbuppattikāni ñāṇagginā daḍḍhāni, so vuccati appagabbhoti – appagabbho.

    อเชคุโจฺฉติ ฯ อตฺถิ ปุคฺคโล เชคุโจฺฉ, อตฺถิ อเชคุโจฺฉฯ กตโม จ ปุคฺคโล เชคุโจฺฉ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธโมฺม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฎิจฺฉนฺนกมฺมโนฺต อสฺสมโณ สมณปฎิโญฺญ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฎิโญฺญ อโนฺตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เชคุโจฺฉฯ อถ วา โกธโน โหติ อุปายาสพหุโล, อปฺปมฺปิ วุโตฺต สมาโน อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติฎฺฐียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เชคุโจฺฉฯ อถ วา โกธโน โหติ อุปนาหี, มกฺขี โหติ ปฬาสี, อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรี, สโฐ โหติ มายาวี , ถโทฺธ โหติ อติมานี, ปาปิโจฺฉ โหติ มิจฺฉาทิฎฺฐิ 21, สนฺทิฎฺฐิปรามาสี โหติ อาทานคฺคาหี ทุปฺปฎินิสฺสคฺคี – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เชคุโจฺฉฯ

    Ajegucchoti . Atthi puggalo jeguccho, atthi ajeguccho. Katamo ca puggalo jeguccho? Idhekacco puggalo dussīlo hoti pāpadhammo asucisaṅkassarasamācāro paṭicchannakammanto assamaṇo samaṇapaṭiñño abrahmacārī brahmacāripaṭiñño antopūti avassuto kasambujāto – ayaṃ vuccati puggalo jeguccho. Atha vā kodhano hoti upāyāsabahulo, appampi vutto samāno abhisajjati kuppati byāpajjati patiṭṭhīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti – ayaṃ vuccati puggalo jeguccho. Atha vā kodhano hoti upanāhī, makkhī hoti paḷāsī, issukī hoti maccharī, saṭho hoti māyāvī , thaddho hoti atimānī, pāpiccho hoti micchādiṭṭhi 22, sandiṭṭhiparāmāsī hoti ādānaggāhī duppaṭinissaggī – ayaṃ vuccati puggalo jeguccho.

    กตโม จ ปุคฺคโล อเชคุโจฺฉ? อิธ ภิกฺขุ สีลวา โหติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปโนฺน อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อเชคุโจฺฉฯ อถ วา อโกฺกธโน โหติ อนุปายาสพหุโล, พหุมฺปิ วุโตฺต สมาโน น อภิสชฺชติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติฎฺฐียติ, น โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อเชคุโจฺฉฯ อถ วา อโกฺกธโน โหติ อนุปนาหี, อมกฺขี โหติ อปฬาสี, อนิสฺสุกี โหติ อมจฺฉรี, อสโฐ โหติ อมายาวี, อถโทฺธ โหติ อนติมานี , น ปาปิโจฺฉ โหติ น มิจฺฉาทิฎฺฐิ, อสนฺทิฎฺฐิปรามาสี โหติ อนาทานคฺคาหี สุปฺปฎินิสฺสคฺคี – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อเชคุโจฺฉฯ สเพฺพ พาลปุถุชฺชนา เชคุจฺฉา, ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ อุปาทาย อฎฺฐ อริยปุคฺคลา อเชคุจฺฉาติ – อปฺปคโพฺภ อเชคุโจฺฉฯ

    Katamo ca puggalo ajeguccho? Idha bhikkhu sīlavā hoti pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati ācāragocarasampanno aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhati sikkhāpadesu – ayaṃ vuccati puggalo ajeguccho. Atha vā akkodhano hoti anupāyāsabahulo, bahumpi vutto samāno na abhisajjati na kuppati na byāpajjati na patiṭṭhīyati, na kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti – ayaṃ vuccati puggalo ajeguccho. Atha vā akkodhano hoti anupanāhī, amakkhī hoti apaḷāsī, anissukī hoti amaccharī, asaṭho hoti amāyāvī, athaddho hoti anatimānī , na pāpiccho hoti na micchādiṭṭhi, asandiṭṭhiparāmāsī hoti anādānaggāhī suppaṭinissaggī – ayaṃ vuccati puggalo ajeguccho. Sabbe bālaputhujjanā jegucchā, puthujjanakalyāṇakaṃ upādāya aṭṭha ariyapuggalā ajegucchāti – appagabbho ajeguccho.

    เปสุเณเยฺย จ โน ยุโตติฯ เปสุญฺญนฺติ อิเธกโจฺจ ปิสุณวาโจ โหติ, อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทายฯ อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา 23, ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา, วคฺคาราโม, วคฺครโต, วคฺคนนฺที, วคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติ – อิทํ วุจฺจติ เปสุญฺญํฯ

    Pesuṇeyye ca no yutoti. Pesuññanti idhekacco pisuṇavāco hoti, ito sutvā amutra akkhātā imesaṃ bhedāya, amutra vā sutvā imesaṃ akkhātā amūsaṃ bhedāya. Iti samaggānaṃ vā bhettā 24, bhinnānaṃ vā anuppadātā, vaggārāmo, vaggarato, vagganandī, vaggakaraṇiṃ vācaṃ bhāsitā hoti – idaṃ vuccati pesuññaṃ.

    อปิ จ ทฺวีหิ การเณหิ เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ปิยกมฺยตาย วา, เภทาธิปฺปาเยน 25 วาฯ กถํ ปิยกมฺยตาย เปสุญฺญํ อุปสํหรติ? อิมสฺส ปิโย ภวิสฺสามิ, มนาโป ภวิสฺสามิ, วิสฺสาสิโก ภวิสฺสามิ, อพฺภนฺตริโก ภวิสฺสามิ, สุหทโย ภวิสฺสามีติฯ เอวํ ปิยกมฺยตาย เปสุญฺญํ อุปสํหรติฯ กถํ เภทาธิปฺปาเยน เปสุญฺญํ อุปสํหรติ? ‘‘กถํ อิเม นานา อสฺสุ วินา อสฺสุ วคฺคา อสฺสุ เทฺวธา อสฺสุ เทฺวชฺฌา อสฺสุ เทฺว ปกฺขา อสฺสุ ภิเชฺชยฺยุํ น สมาคเจฺฉยฺยุํ ทุกฺขํ น ผาสุ 26 วิหเรยฺยุ’’นฺติฯ เอวํ เภทาธิปฺปาเยน เปสุญฺญํ อุปสํหรติฯ ยเสฺสตํ เปสุญฺญํ ปหีนํ สมุจฺฉินฺนํ วูปสนฺตํ ปฎิปสฺสทฺธํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ญาณคฺคินา ทฑฺฒํ, โส เปสุเญฺญ โน ยุโต น ยุโตฺต น ปยุโตฺต น สมฺมายุโตฺตติ – เปสุเณเยฺย จ โน ยุโตฯ

    Api ca dvīhi kāraṇehi pesuññaṃ upasaṃharati – piyakamyatāya vā, bhedādhippāyena 27 vā. Kathaṃ piyakamyatāya pesuññaṃ upasaṃharati? Imassa piyo bhavissāmi, manāpo bhavissāmi, vissāsiko bhavissāmi, abbhantariko bhavissāmi, suhadayo bhavissāmīti. Evaṃ piyakamyatāya pesuññaṃ upasaṃharati. Kathaṃ bhedādhippāyena pesuññaṃ upasaṃharati? ‘‘Kathaṃ ime nānā assu vinā assu vaggā assu dvedhā assu dvejjhā assu dve pakkhā assu bhijjeyyuṃ na samāgaccheyyuṃ dukkhaṃ na phāsu 28 vihareyyu’’nti. Evaṃ bhedādhippāyena pesuññaṃ upasaṃharati. Yassetaṃ pesuññaṃ pahīnaṃ samucchinnaṃ vūpasantaṃ paṭipassaddhaṃ abhabbuppattikaṃ ñāṇagginā daḍḍhaṃ, so pesuññe no yuto na yutto na payutto na sammāyuttoti – pesuṇeyye ca no yuto.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘ปติลีโน อกุหโก, อปิหาลุ อมจฺฉรี;

    ‘‘Patilīno akuhako, apihālu amaccharī;

    อปฺปคโพฺภ อเชคุโจฺฉ, เปสุเณเยฺย จ โน ยุโต’’ติฯ

    Appagabbho ajeguccho, pesuṇeyye ca no yuto’’ti.

    ๘๘.

    88.

    สาติเยสุ อนสฺสาวี, อติมาเน จ โน ยุโต;

    Sātiyesu anassāvī, atimāne ca no yuto;

    สโณฺห จ ปฎิภานวา, น สโทฺธ น วิรชฺชติฯ

    Saṇho ca paṭibhānavā, na saddho na virajjati.

    สาติเยสุ อนสฺสาวีติฯ สาติยา วุจฺจนฺติ ปญฺจ กามคุณาฯ กิํการณา สาติยา วุจฺจนฺติ ปญฺจ กามคุณา? เยภุเยฺยน เทวมนุสฺสา ปญฺจ กามคุเณ อิจฺฉนฺติ สาติยนฺติ ปตฺถยนฺติ ปิหยนฺติ อภิชปฺปนฺติ, ตํการณา สาติยา วุจฺจนฺติ ปญฺจ กามคุณาฯ เยสํ เอสา สาติยา ตณฺหา อปฺปหีนา เตสํ จกฺขุโต รูปตณฺหา สวติ อาสวติ 29 สนฺทติ ปวตฺตติ, โสตโต สทฺทตณฺหา… ฆานโต คนฺธตณฺหา… ชิวฺหาโต รสตณฺหา… กายโต โผฎฺฐพฺพตณฺหา… มนโต ธมฺมตณฺหา สวติ อาสวติ สนฺทติ ปวตฺตติฯ เยสํ เอสา สาติยา ตณฺหา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒา เตสํ จกฺขุโต รูปตณฺหา น สวติ นาสวติ 30 น สนฺทติ น ปวตฺตติ , โสตโต สทฺทตณฺหา…เป.… มนโต ธมฺมตณฺหา น สวติ นาสวติ น สนฺทติ น ปวตฺตตีติ – สาติเยสุ อนสฺสาวีฯ

    Sātiyesu anassāvīti. Sātiyā vuccanti pañca kāmaguṇā. Kiṃkāraṇā sātiyā vuccanti pañca kāmaguṇā? Yebhuyyena devamanussā pañca kāmaguṇe icchanti sātiyanti patthayanti pihayanti abhijappanti, taṃkāraṇā sātiyā vuccanti pañca kāmaguṇā. Yesaṃ esā sātiyā taṇhā appahīnā tesaṃ cakkhuto rūpataṇhā savati āsavati 31 sandati pavattati, sotato saddataṇhā… ghānato gandhataṇhā… jivhāto rasataṇhā… kāyato phoṭṭhabbataṇhā… manato dhammataṇhā savati āsavati sandati pavattati. Yesaṃ esā sātiyā taṇhā pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhā tesaṃ cakkhuto rūpataṇhā na savati nāsavati 32 na sandati na pavattati , sotato saddataṇhā…pe… manato dhammataṇhā na savati nāsavati na sandati na pavattatīti – sātiyesu anassāvī.

    อติมาเน จ โน ยุโตติฯ กตโม อติมาโน? อิเธกโจฺจ ปรํ อติมญฺญติ ชาติยา วา โคเตฺตน วา…เป.… อญฺญตรญฺญตเรน วา วตฺถุนาฯ โย เอวรูโป มาโน มญฺญนา มญฺญิตตฺตํ อุนฺนติ อุนฺนโม ธโช สมฺปคฺคาโห เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ อติมาโนฯ ยเสฺสโส อติมาโน ปหีโน สมุจฺฉิโนฺน วูปสโนฺต ปฎิปสฺสโทฺธ อภพฺพุปฺปตฺติโก ญาณคฺคินา ทโฑฺฒ, โส อติมาเน จ โน ยุโต น ยุโตฺต นปฺปยุโตฺต น สมฺมายุโตฺตติ – อติมาเน จ โน ยุโตฯ

    Atimāne ca no yutoti. Katamo atimāno? Idhekacco paraṃ atimaññati jātiyā vā gottena vā…pe… aññataraññatarena vā vatthunā. Yo evarūpo māno maññanā maññitattaṃ unnati unnamo dhajo sampaggāho ketukamyatā cittassa – ayaṃ vuccati atimāno. Yasseso atimāno pahīno samucchinno vūpasanto paṭipassaddho abhabbuppattiko ñāṇagginā daḍḍho, so atimāne ca no yuto na yutto nappayutto na sammāyuttoti – atimāne ca no yuto.

    สโณฺห จ ปฎิภานวาติฯ สโณฺหติ สเณฺหน กายกเมฺมน สมนฺนาคโตติ สโณฺห, สเณฺหน วจีกเมฺมน… สเณฺหน มโนกเมฺมน สมนฺนาคโตติ สโณฺห, สเณฺหหิ สติปฎฺฐาเนหิ สมนฺนาคโตติ สโณฺห, สเณฺหหิ สมฺมปฺปธาเนหิ… สเณฺหหิ อิทฺธิปาเทหิ… สเณฺหหิ อินฺทฺริเยหิ… สเณฺหหิ พเลหิ… สเณฺหหิ โพชฺฌเงฺคหิ สมนฺนาคโตติ สโณฺห, สเณฺหน อริเยน อฎฺฐงฺคิเกน มเคฺคน สมนฺนาคโตติ – สโณฺหฯ

    Saṇho ca paṭibhānavāti. Saṇhoti saṇhena kāyakammena samannāgatoti saṇho, saṇhena vacīkammena… saṇhena manokammena samannāgatoti saṇho, saṇhehi satipaṭṭhānehi samannāgatoti saṇho, saṇhehi sammappadhānehi… saṇhehi iddhipādehi… saṇhehi indriyehi… saṇhehi balehi… saṇhehi bojjhaṅgehi samannāgatoti saṇho, saṇhena ariyena aṭṭhaṅgikena maggena samannāgatoti – saṇho.

    ปฎิภานวาติ ตโย ปฎิภานวโนฺต – ปริยตฺติปฎิภานวา, ปริปุจฺฉาปฎิภานวา, อธิคมปฎิภานวาฯ กตโม ปริยตฺติปฎิภานวา? อิเธกจฺจสฺส ปกติยา ปริยาปุฎํ โหติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, ตสฺส ปริยตฺติํ นิสฺสาย ปฎิภายติ – อยํ ปริยตฺติปฎิภานวาฯ กตโม ปริปุจฺฉาปฎิภานวา? อิเธกโจฺจ ปริปุจฺฉิตา 33 โหติ อตฺตเตฺถ จ ญายเตฺถ จ ลกฺขเณ จ การเณ จ ฐานาฐาเน จ, ตสฺส ตํ ปริปุจฺฉํ นิสฺสาย ปฎิภายติ – อยํ ปริปุจฺฉาปฎิภานวาฯ กตโม อธิคมปฎิภานวา? อิเธกจฺจสฺส อธิคตา โหนฺติ จตฺตาโร สติปฎฺฐานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปญฺจินฺทฺริยานิ ปญฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ สามญฺญผลานิ จตโสฺส ปฎิสมฺภิทาโย ฉ อภิญฺญาโย, ตสฺส อโตฺถ ญาโต ธโมฺม ญาโต นิรุตฺติ ญาตา, อเตฺถ ญาเต อโตฺถ ปฎิภายติ , ธเมฺม ญาเต ธโมฺม ปฎิภายติ, นิรุตฺติยา ญาตาย นิรุตฺติ ปฎิภายติ; อิเมสุ ตีสุ ญาเณสุ ญาณํ ปฎิภานปฎิสมฺภิทาฯ อิมาย ปฎิภานปฎิสมฺภิทาย อุเปโต สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต อุปปโนฺน สมุปปโนฺน สมนฺนาคโต โส วุจฺจติ ปฎิภานวาฯ ยสฺส ปริยตฺติ นตฺถิ, ปริปุจฺฉา นตฺถิ, อธิคโม นตฺถิ, กิํ ตสฺส ปฎิภายิสฺสตีติ – สโณฺห จ ปฎิภานวาฯ

    Paṭibhānavāti tayo paṭibhānavanto – pariyattipaṭibhānavā, paripucchāpaṭibhānavā, adhigamapaṭibhānavā. Katamo pariyattipaṭibhānavā? Idhekaccassa pakatiyā pariyāpuṭaṃ hoti – suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthā udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ, tassa pariyattiṃ nissāya paṭibhāyati – ayaṃ pariyattipaṭibhānavā. Katamo paripucchāpaṭibhānavā? Idhekacco paripucchitā 34 hoti attatthe ca ñāyatthe ca lakkhaṇe ca kāraṇe ca ṭhānāṭhāne ca, tassa taṃ paripucchaṃ nissāya paṭibhāyati – ayaṃ paripucchāpaṭibhānavā. Katamo adhigamapaṭibhānavā? Idhekaccassa adhigatā honti cattāro satipaṭṭhānā cattāro sammappadhānā cattāro iddhipādā pañcindriyāni pañca balāni satta bojjhaṅgā ariyo aṭṭhaṅgiko maggo cattāro ariyamaggā cattāri sāmaññaphalāni catasso paṭisambhidāyo cha abhiññāyo, tassa attho ñāto dhammo ñāto nirutti ñātā, atthe ñāte attho paṭibhāyati , dhamme ñāte dhammo paṭibhāyati, niruttiyā ñātāya nirutti paṭibhāyati; imesu tīsu ñāṇesu ñāṇaṃ paṭibhānapaṭisambhidā. Imāya paṭibhānapaṭisambhidāya upeto samupeto upagato samupagato upapanno samupapanno samannāgato so vuccati paṭibhānavā. Yassa pariyatti natthi, paripucchā natthi, adhigamo natthi, kiṃ tassa paṭibhāyissatīti – saṇho ca paṭibhānavā.

    น สโทฺธ น วิรชฺชตีติฯ น สโทฺธติ สามํ สยํ อภิญฺญาตํ อตฺตปจฺจกฺขํ ธมฺมํ น กสฺสจิ สทฺทหติ อญฺญสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เทวสฺส วา มารสฺส วา พฺรหฺมุโน วาฯ ‘‘สเพฺพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ สามํ สยํ อภิญฺญาตํ…เป.… ‘‘สเพฺพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ… ‘‘สเพฺพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ… ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ…เป.… ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ… ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติ…เป.… ‘‘ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ’’ติ… ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ… ‘‘อิเม อาสวา’’ติ…เป.… ‘‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ… ‘‘อิเม ธมฺมา อภิเญฺญยฺยา’’ติ…เป.… ‘‘อิเม ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา’’ติ สามํ สยํ อภิญฺญาตํ…เป.… ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ, ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ สมุทยญฺจ…เป.… จตุนฺนํ มหาภูตานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ สามํ สยํ อภิญฺญาตํ…เป.… ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ สามํ สยํ อภิญฺญาตํ อตฺตปจฺจกฺขํ ธมฺมํ น กสฺสจิ สทฺทหติ อญฺญสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา เทวสฺส วา มารสฺส วา พฺรหฺมุโน วา 35

    Na saddho na virajjatīti. Na saddhoti sāmaṃ sayaṃ abhiññātaṃ attapaccakkhaṃ dhammaṃ na kassaci saddahati aññassa samaṇassa vā brāhmaṇassa vā devassa vā mārassa vā brahmuno vā. ‘‘Sabbe saṅkhārā aniccā’’ti sāmaṃ sayaṃ abhiññātaṃ…pe… ‘‘sabbe saṅkhārā dukkhā’’ti… ‘‘sabbe dhammā anattā’’ti… ‘‘avijjāpaccayā saṅkhārā’’ti…pe… ‘‘jātipaccayā jarāmaraṇa’’nti… ‘‘avijjānirodhā saṅkhāranirodho’’ti…pe… ‘‘jātinirodhā jarāmaraṇanirodho’’ti… ‘‘idaṃ dukkha’’nti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti… ‘‘ime āsavā’’ti…pe… ‘‘ayaṃ āsavanirodhagāminī paṭipadā’’ti… ‘‘ime dhammā abhiññeyyā’’ti…pe… ‘‘ime dhammā sacchikātabbā’’ti sāmaṃ sayaṃ abhiññātaṃ…pe… channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca, pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ samudayañca…pe… catunnaṃ mahābhūtānaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca sāmaṃ sayaṃ abhiññātaṃ…pe… ‘‘yaṃ kiñci samudayadhammaṃ sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’nti sāmaṃ sayaṃ abhiññātaṃ attapaccakkhaṃ dhammaṃ na kassaci saddahati aññassa samaṇassa vā brāhmaṇassa vā devassa vā mārassa vā brahmuno vā 36.

    วุตฺตเญฺหตํ ภควตา – ‘‘สทฺทหสิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, สทฺธินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํ; วีริยินฺทฺริยํ… สตินฺทฺริยํ… สมาธินฺทฺริยํ… ปญฺญินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสาน’’นฺติ?

    Vuttañhetaṃ bhagavatā – ‘‘saddahasi tvaṃ, sāriputta, saddhindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ; vīriyindriyaṃ… satindriyaṃ… samādhindriyaṃ… paññindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosāna’’nti?

    ‘‘น ขฺวาหํ เอตฺถ, ภเนฺต, ภควโต สทฺธาย คจฺฉามิ สทฺธินฺทฺริยํ… วีริยินฺทฺริยํ… สตินฺทฺริยํ… สมาธินฺทฺริยํ… ปญฺญินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํฯ เยสํ นูเนตํ, ภเนฺต , อญฺญาตํ อสฺส อทิฎฺฐํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปญฺญาย, เต ตตฺถ ปเรสํ สทฺธาย คเจฺฉยฺยุํ สทฺธินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํฯ วีริยินฺทฺริยํ… สตินฺทฺริยํ… สมาธินฺทฺริยํ … ปญฺญินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํฯ เยสญฺจ โข เอตํ, ภเนฺต, ญาตํ ทิฎฺฐํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปญฺญาย, นิกฺกงฺขา เต ตตฺถ นิพฺพิจิกิจฺฉาฯ สทฺธินฺทฺริยํ… วีริยินฺทฺริยํ… สตินฺทฺริยํ… สมาธินฺทฺริยํ… ปญฺญินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสานํฯ มยฺหญฺจ โข, เอตํ ภเนฺต, ญาตํ ทิฎฺฐํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผสฺสิตํ ปญฺญาย, นิกฺกโงฺขหํ ตตฺถ นิพฺพิจิกิโจฺฉฯ สทฺธินฺทฺริยํ… วีริยินฺทฺริยํ… สตินฺทฺริยํ… สมาธินฺทฺริยํ… ปญฺญินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสาน’’นฺติฯ

    ‘‘Na khvāhaṃ ettha, bhante, bhagavato saddhāya gacchāmi saddhindriyaṃ… vīriyindriyaṃ… satindriyaṃ… samādhindriyaṃ… paññindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ. Yesaṃ nūnetaṃ, bhante , aññātaṃ assa adiṭṭhaṃ aviditaṃ asacchikataṃ aphassitaṃ paññāya, te tattha paresaṃ saddhāya gaccheyyuṃ saddhindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ. Vīriyindriyaṃ… satindriyaṃ… samādhindriyaṃ … paññindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ. Yesañca kho etaṃ, bhante, ñātaṃ diṭṭhaṃ viditaṃ sacchikataṃ phassitaṃ paññāya, nikkaṅkhā te tattha nibbicikicchā. Saddhindriyaṃ… vīriyindriyaṃ… satindriyaṃ… samādhindriyaṃ… paññindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosānaṃ. Mayhañca kho, etaṃ bhante, ñātaṃ diṭṭhaṃ viditaṃ sacchikataṃ phassitaṃ paññāya, nikkaṅkhohaṃ tattha nibbicikiccho. Saddhindriyaṃ… vīriyindriyaṃ… satindriyaṃ… samādhindriyaṃ… paññindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosāna’’nti.

    ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! เยสเญฺหตํ, สาริปุตฺต, อญฺญาตํ อสฺส อทิฎฺฐํ อวิทิตํ อสจฺฉิกตํ อผสฺสิตํ ปญฺญาย, เต ตตฺถ ปเรสํ สทฺธาย คเจฺฉยฺยุํ สทฺธินฺทฺริยํ…เป.… ปญฺญินฺทฺริยํ ภาวิตํ พหุลีกตํ อมโตคธํ โหติ อมตปรายนํ อมตปริโยสานนฺติฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, sāriputta! Yesañhetaṃ, sāriputta, aññātaṃ assa adiṭṭhaṃ aviditaṃ asacchikataṃ aphassitaṃ paññāya, te tattha paresaṃ saddhāya gaccheyyuṃ saddhindriyaṃ…pe… paññindriyaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ amatogadhaṃ hoti amataparāyanaṃ amatapariyosānanti.

    ‘‘อสฺสโทฺธ อกตญฺญู จ, สนฺธิเจฺฉโท จ โย นโร;

    ‘‘Assaddho akataññū ca, sandhicchedo ca yo naro;

    หตาวกาโส วนฺตาโส, ส เว อุตฺตมโปริโส’’ติฯ

    Hatāvakāso vantāso, sa ve uttamaporiso’’ti.

    น สโทฺธ น วิรชฺชตีติฯ สเพฺพ พาลปุถุชฺชนา รชฺชนฺติ, ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ อุปาทาย สตฺต เสกฺขา วิรชฺชนฺติฯ อรหา เนว รชฺชติ โน วิรชฺชติ, วิรโตฺต โส ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา ขยา โทสสฺส วีตโทสตฺตา, ขยา โมหสฺส วีตโมหตฺตาฯ โส วุฎฺฐวาโส จิณฺณจรโณ…เป.… ชาติมรณสํสาโร นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโวติ – น สโทฺธ น วิรชฺชติฯ

    Na saddho na virajjatīti. Sabbe bālaputhujjanā rajjanti, puthujjanakalyāṇakaṃ upādāya satta sekkhā virajjanti. Arahā neva rajjati no virajjati, viratto so khayā rāgassa vītarāgattā khayā dosassa vītadosattā, khayā mohassa vītamohattā. So vuṭṭhavāso ciṇṇacaraṇo…pe… jātimaraṇasaṃsāro natthi tassa punabbhavoti – na saddho na virajjati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘สาติเยสุ อนสฺสาวี, อติมาเน จ โน ยุโต;

    ‘‘Sātiyesu anassāvī, atimāne ca no yuto;

    สโณฺห จ ปฎิภานวา, น สโทฺธ น วิรชฺชตี’’ติฯ

    Saṇho ca paṭibhānavā, na saddho na virajjatī’’ti.

    ๘๙.

    89.

    ลาภกมฺยา น สิกฺขติ, อลาเภ จ น กุปฺปติ;

    Lābhakamyā na sikkhati, alābhe ca na kuppati;

    อวิรุโทฺธ จ ตณฺหาย, รเสสุ 37 นานุคิชฺฌติฯ

    Aviruddho ca taṇhāya, rasesu38nānugijjhati.

    ลาภกมฺยา น สิกฺขติ, อลาเภ จ น กุปฺปตีติฯ กถํ ลาภกมฺยา สิกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ลาภิํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เกน นุ โข อยมายสฺมา ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ? ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา สุตฺตนฺติโก, เตนายมายสฺมา ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติฯ โส ลาภเหตุ ลาภปจฺจยา ลาภการณา ลาภาภินิพฺพตฺติยา ลาภํ ปริปาเจโนฺต สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณาติฯ เอวมฺปิ ลาภกมฺยา สิกฺขติฯ

    Lābhakamyā na sikkhati, alābhe ca na kuppatīti. Kathaṃ lābhakamyā sikkhati? Idha, bhikkhave, bhikkhu bhikkhuṃ passati lābhiṃ cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘‘kena nu kho ayamāyasmā lābhī cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārāna’’nti? Tassa evaṃ hoti – ‘‘ayaṃ kho āyasmā suttantiko, tenāyamāyasmā lābhī cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārāna’’nti. So lābhahetu lābhapaccayā lābhakāraṇā lābhābhinibbattiyā lābhaṃ paripācento suttantaṃ pariyāpuṇāti. Evampi lābhakamyā sikkhati.

    อถ วา ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ลาภิํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เกน นุ โข อยมายสฺมา ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ? ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา วินยธโร…เป.… ธมฺมกถิโก… อาภิธมฺมิโก, เตนายมายสฺมา ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติฯ โส ลาภเหตุ ลาภปจฺจยา ลาภการณา ลาภาภินิพฺพตฺติยา ลาภํ ปริปาเจโนฺต อภิธมฺมํ ปริยาปุณาติฯ เอวมฺปิ ลาภกมฺยา สิกฺขติฯ

    Atha vā bhikkhu bhikkhuṃ passati lābhiṃ cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘‘kena nu kho ayamāyasmā lābhī cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārāna’’nti? Tassa evaṃ hoti – ‘‘ayaṃ kho āyasmā vinayadharo…pe… dhammakathiko… ābhidhammiko, tenāyamāyasmā lābhī cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārāna’’nti. So lābhahetu lābhapaccayā lābhakāraṇā lābhābhinibbattiyā lābhaṃ paripācento abhidhammaṃ pariyāpuṇāti. Evampi lābhakamyā sikkhati.

    อถ วา ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ปสฺสติ ลาภิํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘เกน นุ โข อยมายสฺมา ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ? ตสฺส เอวํ โหติ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา อารญฺญิโก… ปิณฺฑปาติโก… ปํสุกูลิโก… เตจีวริโก… สปทานจาริโก… ขลุปจฺฉาภตฺติโก… เนสชฺชิโก… ยถาสนฺถติโก, เตนายมายสฺมา ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติฯ โส ลาภเหตุ ลาภปจฺจยา ลาภการณา ลาภาภินิพฺพตฺติยา ลาภํ ปริปาเจโนฺต อารญฺญิโก โหติ…เป.… ยถาสนฺถติโก โหติฯ เอวมฺปิ ลาภกมฺยา สิกฺขติฯ

    Atha vā bhikkhu bhikkhuṃ passati lābhiṃ cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārānaṃ. Tassa evaṃ hoti – ‘‘kena nu kho ayamāyasmā lābhī cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārāna’’nti? Tassa evaṃ hoti – ‘‘ayaṃ kho āyasmā āraññiko… piṇḍapātiko… paṃsukūliko… tecīvariko… sapadānacāriko… khalupacchābhattiko… nesajjiko… yathāsanthatiko, tenāyamāyasmā lābhī cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārāna’’nti. So lābhahetu lābhapaccayā lābhakāraṇā lābhābhinibbattiyā lābhaṃ paripācento āraññiko hoti…pe… yathāsanthatiko hoti. Evampi lābhakamyā sikkhati.

    กถํ น ลาภกมฺยา สิกฺขติ? อิธ ภิกฺขุ น ลาภเหตุ, น ลาภปจฺจยา, น ลาภการณา, น ลาภาภินิพฺพตฺติยา, น ลาภํ ปริปาเจโนฺต, ยาวเทว อตฺตทมตฺถาย อตฺตสมตฺถาย อตฺตปรินิพฺพาปนตฺถาย สุตฺตนฺตํ ปริยาปุณาติ, วินยํ ปริยาปุณาติ, อภิธมฺมํ ปริยาปุณาติฯ เอวมฺปิ น ลาภกมฺยา สิกฺขติฯ

    Kathaṃ na lābhakamyā sikkhati? Idha bhikkhu na lābhahetu, na lābhapaccayā, na lābhakāraṇā, na lābhābhinibbattiyā, na lābhaṃ paripācento, yāvadeva attadamatthāya attasamatthāya attaparinibbāpanatthāya suttantaṃ pariyāpuṇāti, vinayaṃ pariyāpuṇāti, abhidhammaṃ pariyāpuṇāti. Evampi na lābhakamyā sikkhati.

    อถ วา ภิกฺขุ น ลาภเหตุ, น ลาภปจฺจยา, น ลาภการณา, น ลาภาภินิพฺพตฺติยา, น ลาภํ ปริปาเจโนฺต, ยาวเทว อปฺปิจฺฉเญฺญว 39 นิสฺสาย สนฺตุฎฺฐิเญฺญว นิสฺสาย สเลฺลขเญฺญว นิสฺสาย ปวิเวกเญฺญว นิสฺสาย อิทมตฺถิตเญฺญว 40 นิสฺสาย อารญฺญิโก โหติ, ปิณฺฑปาติโก โหติ, ปํสุกูลิโก โหติ, เตจีวริโก โหติ , สปทานจาริโก โหติ, ขลุปจฺฉาภตฺติโก โหติ, เนสชฺชิโก โหติ, ยถาสนฺถติโก โหติฯ เอวมฺปิ น ลาภกมฺยา สิกฺขตีติ – ลาภกมฺยา น สิกฺขติฯ

    Atha vā bhikkhu na lābhahetu, na lābhapaccayā, na lābhakāraṇā, na lābhābhinibbattiyā, na lābhaṃ paripācento, yāvadeva appicchaññeva 41 nissāya santuṭṭhiññeva nissāya sallekhaññeva nissāya pavivekaññeva nissāya idamatthitaññeva 42 nissāya āraññiko hoti, piṇḍapātiko hoti, paṃsukūliko hoti, tecīvariko hoti , sapadānacāriko hoti, khalupacchābhattiko hoti, nesajjiko hoti, yathāsanthatiko hoti. Evampi na lābhakamyā sikkhatīti – lābhakamyā na sikkhati.

    อลาเภ จ น กุปฺปตีติฯ กถํ อลาเภ กุปฺปติ? อิเธกโจฺจ ‘‘กุลํ วา น ลภามิ, คณํ วา น ลภามิ, อาวาสํ วา น ลภามิ, ลาภํ วา น ลภามิ, ยสํ วา น ลภามิ, ปสํสํ วา น ลภามิ, สุขํ วา น ลภามิ, จีวรํ วา น ลภามิ, ปิณฺฑปาตํ วา น ลภามิ, เสนาสนํ วา น ลภามิ, คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ วา น ลภามิ, คิลานุปฎฺฐากํ วา น ลภามิ, อปฺปญฺญาโตมฺหี’’ติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติฎฺฐียติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติฯ เอวํ อลาเภ กุปฺปติฯ

    Alābheca na kuppatīti. Kathaṃ alābhe kuppati? Idhekacco ‘‘kulaṃ vā na labhāmi, gaṇaṃ vā na labhāmi, āvāsaṃ vā na labhāmi, lābhaṃ vā na labhāmi, yasaṃ vā na labhāmi, pasaṃsaṃ vā na labhāmi, sukhaṃ vā na labhāmi, cīvaraṃ vā na labhāmi, piṇḍapātaṃ vā na labhāmi, senāsanaṃ vā na labhāmi, gilānapaccayabhesajjaparikkhāraṃ vā na labhāmi, gilānupaṭṭhākaṃ vā na labhāmi, appaññātomhī’’ti kuppati byāpajjati patiṭṭhīyati, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti. Evaṃ alābhe kuppati.

    กถํ อลาเภ น กุปฺปติ? อิธ ภิกฺขุ ‘‘กุลํ วา น ลภามิ คณํ วา น ลภามิ…เป.… อปฺปญฺญาโตมฺหี’’ติ น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติฎฺฐียติ, น โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติฯ เอวํ อลาเภ น กุปฺปตีติ – ลาภกมฺยา น สิกฺขติ อลาเภ จ น กุปฺปติฯ

    Kathaṃ alābhe na kuppati? Idha bhikkhu ‘‘kulaṃ vā na labhāmi gaṇaṃ vā na labhāmi…pe… appaññātomhī’’ti na kuppati na byāpajjati na patiṭṭhīyati, na kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti. Evaṃ alābhe na kuppatīti – lābhakamyā na sikkhati alābhe ca na kuppati.

    อวิรุโทฺธ จ ตณฺหาย, รเสสุ นานุคิชฺฌตีติฯ วิรุโทฺธติ โย จิตฺตสฺส อาฆาโต ปฎิฆาโต, ปฎิฆํ ปฎิวิโรโธ, โกโป ปโกโป สมฺปโกโป, โทโส ปโทโส สมฺปโทโส, จิตฺตสฺส พฺยาปตฺติ มโนปโทโส, โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺตํ, พฺยาปตฺติ พฺยาปชฺชนา พฺยาปชฺชิตตฺตํ วิโรโธ ปฎิวิโรโธ, จณฺฑิกฺกํ, อสุโรโป, อนตฺตมนตา จิตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ วิโรโธฯ ยเสฺสโส วิโรโธ ปหีโน สมุจฺฉิโนฺน วูปสโนฺต ปฎิปสฺสโทฺธ อภพฺพุปฺปตฺติโก ญาณคฺคินา ทโฑฺฒ, โส วุจฺจติ อวิรุโทฺธฯ ตณฺหาติ รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฎฺฐพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหาฯ รโสติ มูลรโส ขนฺธรโส ตจรโส ปตฺตรโส ปุปฺผรโส ผลรโส, อมฺพิลํ มธุรํ ติตฺตกํ กฎุกํ โลณิกํ ขาริกํ ลมฺพิกํ 43 กสาโว สาทุ อสาทุ สีตํ อุณฺหํฯ สเนฺตเก สมณพฺราหฺมณา รสคิทฺธาฯ เต ชิวฺหเคฺคน รสคฺคานิ ปริเยสนฺตา อาหิณฺฑนฺติ, เต อมฺพิลํ ลภิตฺวา อนมฺพิลํ ปริเยสนฺติ, อนมฺพิลํ ลภิตฺวา อมฺพิลํ ปริเยสนฺติ; มธุรํ ลภิตฺวา อมธุรํ ปริเยสนฺติ, อมธุรํ ลภิตฺวา มธุรํ ปริเยสนฺติ; ติตฺตกํ ลภิตฺวา อติตฺตกํ ปริเยสนฺติ, อติตฺตกํ ลภิตฺวา ติตฺตกํ ปริเยสนฺติ; กฎุกํ ลภิตฺวา อกฎุกํ ปริเยสนฺติ, อกฎุกํ ลภิตฺวา กฎุกํ ปริเยสนฺติ; โลณิกํ ลภิตฺวา อโลณิกํ ปริเยสนฺติ, อโลณิกํ ลภิตฺวา โลณิกํ ปริเยสนฺติ; ขาริกํ ลภิตฺวา อขาริกํ ปริเยสนฺติ, อขาริกํ ลภิตฺวา ขาริกํ ปริเยสนฺติ; ลมฺพิกํ ลภิตฺวา กสาวํ ปริเยสนฺติ , กสาวํ ลภิตฺวา ลมฺพิกํ ปริเยสนฺติ; สาทุํ ลภิตฺวา อสาทุํ ปริเยสนฺติ, อสาทุํ ลภิตฺวา สาทุํ ปริเยสนฺติ; สีตํ ลภิตฺวา อุณฺหํ ปริเยสนฺติ, อุณฺหํ ลภิตฺวา สีตํ ปริเยสนฺติฯ เต ยํ ยํ ลภิตฺวา เตน เตน น สนฺตุสฺสนฺติ อปราปรํ ปริเยสนฺติ, มนาปิเกสุ รเสสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อโชฺฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาฯ ยเสฺสสา รสตณฺหา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒา, โส ปฎิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ฐิติยา ยาปนาย วิหิํสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหายฯ อิติ ปุราณญฺจ เวทนํ ปฎิหงฺขามิ, นวญฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’’ติฯ

    Aviruddhoca taṇhāya, rasesu nānugijjhatīti. Viruddhoti yo cittassa āghāto paṭighāto, paṭighaṃ paṭivirodho, kopo pakopo sampakopo, doso padoso sampadoso, cittassa byāpatti manopadoso, kodho kujjhanā kujjhitattaṃ, doso dussanā dussitattaṃ, byāpatti byāpajjanā byāpajjitattaṃ virodho paṭivirodho, caṇḍikkaṃ, asuropo, anattamanatā cittassa – ayaṃ vuccati virodho. Yasseso virodho pahīno samucchinno vūpasanto paṭipassaddho abhabbuppattiko ñāṇagginā daḍḍho, so vuccati aviruddho. Taṇhāti rūpataṇhā saddataṇhā gandhataṇhā rasataṇhā phoṭṭhabbataṇhā dhammataṇhā. Rasoti mūlaraso khandharaso tacaraso pattaraso puppharaso phalaraso, ambilaṃ madhuraṃ tittakaṃ kaṭukaṃ loṇikaṃ khārikaṃ lambikaṃ 44 kasāvo sādu asādu sītaṃ uṇhaṃ. Santeke samaṇabrāhmaṇā rasagiddhā. Te jivhaggena rasaggāni pariyesantā āhiṇḍanti, te ambilaṃ labhitvā anambilaṃ pariyesanti, anambilaṃ labhitvā ambilaṃ pariyesanti; madhuraṃ labhitvā amadhuraṃ pariyesanti, amadhuraṃ labhitvā madhuraṃ pariyesanti; tittakaṃ labhitvā atittakaṃ pariyesanti, atittakaṃ labhitvā tittakaṃ pariyesanti; kaṭukaṃ labhitvā akaṭukaṃ pariyesanti, akaṭukaṃ labhitvā kaṭukaṃ pariyesanti; loṇikaṃ labhitvā aloṇikaṃ pariyesanti, aloṇikaṃ labhitvā loṇikaṃ pariyesanti; khārikaṃ labhitvā akhārikaṃ pariyesanti, akhārikaṃ labhitvā khārikaṃ pariyesanti; lambikaṃ labhitvā kasāvaṃ pariyesanti , kasāvaṃ labhitvā lambikaṃ pariyesanti; sāduṃ labhitvā asāduṃ pariyesanti, asāduṃ labhitvā sāduṃ pariyesanti; sītaṃ labhitvā uṇhaṃ pariyesanti, uṇhaṃ labhitvā sītaṃ pariyesanti. Te yaṃ yaṃ labhitvā tena tena na santussanti aparāparaṃ pariyesanti, manāpikesu rasesu rattā giddhā gadhitā mucchitā ajjhosannā laggā laggitā palibuddhā. Yassesā rasataṇhā pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhā, so paṭisaṅkhā yoniso āhāraṃ āhāreti – ‘‘neva davāya na madāya na maṇḍanāya na vibhūsanāya, yāvadeva imassa kāyassa ṭhitiyā yāpanāya vihiṃsūparatiyā brahmacariyānuggahāya. Iti purāṇañca vedanaṃ paṭihaṅkhāmi, navañca vedanaṃ na uppādessāmi, yātrā ca me bhavissati anavajjatā ca phāsuvihāro cā’’ti.

    ยถา วนํ อาลิเมฺปยฺย ยาวเทว โรปนตฺถาย, ยถา วา ปน อกฺขํ อพฺภเญฺชยฺย ยาวเทว ภารสฺส นิตฺถรณตฺถาย, ยถา วา ปน ปุตฺตมํสํ อาหารํ อาหเรยฺย ยาวเทว กนฺตารสฺส นิตฺถรณตฺถาย; เอวเมว ภิกฺขุ ปฎิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘‘เนว ทวาย…เป.… ผาสุวิหาโร จา’’ติฯ รสตณฺหํ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺติํ กโรติ อนภาวํ คเมติ, รสตณฺหาย อารโต อสฺส วิรโต ปฎิวิรโต นิกฺขโนฺต นิสฺสโฎ วิปฺปมุโตฺต วิสญฺญุโตฺต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรตีติ – อวิรุโทฺธ จ ตณฺหาย รเสสุ นานุคิชฺฌติฯ

    Yathā vanaṃ ālimpeyya yāvadeva ropanatthāya, yathā vā pana akkhaṃ abbhañjeyya yāvadeva bhārassa nittharaṇatthāya, yathā vā pana puttamaṃsaṃ āhāraṃ āhareyya yāvadeva kantārassa nittharaṇatthāya; evameva bhikkhu paṭisaṅkhā yoniso āhāraṃ āhāreti – ‘‘neva davāya…pe… phāsuvihāro cā’’ti. Rasataṇhaṃ pajahati vinodeti byantiṃ karoti anabhāvaṃ gameti, rasataṇhāya ārato assa virato paṭivirato nikkhanto nissaṭo vippamutto visaññutto vimariyādikatena cetasā viharatīti – aviruddho ca taṇhāya rasesu nānugijjhati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘ลาภกมฺยา น สิกฺขติ, อลาเภ จ น กุปฺปติ;

    ‘‘Lābhakamyā na sikkhati, alābhe ca na kuppati;

    อวิรุโทฺธ จ ตณฺหาย, รเสสุ นานุคิชฺฌตี’’ติฯ

    Aviruddho ca taṇhāya, rasesu nānugijjhatī’’ti.

    ๙๐.

    90.

    อุเปกฺขโก สทา สโต, น โลเก มญฺญเต สมํ;

    Upekkhako sadā sato, na loke maññate samaṃ;

    น วิเสสี น นีเจโยฺย, ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทาฯ

    Na visesī na nīceyyo, tassa no santi ussadā.

    อุเปกฺขโก สทา สโตติฯ อุเปกฺขโกติ ฉฬงฺคุเปกฺขาย สมนฺนาคโตฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา มนาปํ นาภิคิชฺฌติ นาภิหํสติ 45 น ราคํ ชเนติ, ตสฺส ฐิโตว กาโย โหติ, ฐิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ สุสณฺฐิตํ สุวิมุตฺตํฯ จกฺขุนา โข ปเนว รูปํ ทิสฺวา อมนาปํ น มงฺกุ โหติ อปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต 46 อลีนมนโส 47 อพฺยาปนฺนเจตโส, ตสฺส ฐิโตว กาโย โหติ, ฐิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ สุสณฺฐิตํ สุวิมุตฺตํฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย มนาปํ นาภิคิชฺฌติ นาภิหํสติ น ราคํ ชเนติ, ตสฺส ฐิโตว กาโย โหติ, ฐิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ สุสณฺฐิตํ สุวิมุตฺตํฯ มนสา โข ปเนว ธมฺมํ วิญฺญาย อมนาปํ น มงฺกุ โหติ อปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต อลีนมนโส อพฺยาปนฺนเจตโส, ตสฺส ฐิโตว กาโย โหติ, ฐิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ สุสณฺฐิตํ สุวิมุตฺตํฯ

    Upekkhako sadā satoti. Upekkhakoti chaḷaṅgupekkhāya samannāgato. Cakkhunā rūpaṃ disvā neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno. Sotena saddaṃ sutvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno. Cakkhunā rūpaṃ disvā manāpaṃ nābhigijjhati nābhihaṃsati 48 na rāgaṃ janeti, tassa ṭhitova kāyo hoti, ṭhitaṃ cittaṃ ajjhattaṃ susaṇṭhitaṃ suvimuttaṃ. Cakkhunā kho paneva rūpaṃ disvā amanāpaṃ na maṅku hoti appatiṭṭhitacitto 49 alīnamanaso 50 abyāpannacetaso, tassa ṭhitova kāyo hoti, ṭhitaṃ cittaṃ ajjhattaṃ susaṇṭhitaṃ suvimuttaṃ. Sotena saddaṃ sutvā… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā… manasā dhammaṃ viññāya manāpaṃ nābhigijjhati nābhihaṃsati na rāgaṃ janeti, tassa ṭhitova kāyo hoti, ṭhitaṃ cittaṃ ajjhattaṃ susaṇṭhitaṃ suvimuttaṃ. Manasā kho paneva dhammaṃ viññāya amanāpaṃ na maṅku hoti appatiṭṭhitacitto alīnamanaso abyāpannacetaso, tassa ṭhitova kāyo hoti, ṭhitaṃ cittaṃ ajjhattaṃ susaṇṭhitaṃ suvimuttaṃ.

    จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา มนาปามนาเปสุ รูเปสุ ตสฺส ฐิโตว กาโย โหติ, ฐิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ สุสณฺฐิตํ สุวิมุตฺตํฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย มนาปามนาเปสุ ธเมฺมสุ ตสฺส ฐิโตว กาโย โหติ, ฐิตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตํ สุสณฺฐิตํ สุวิมุตฺตํฯ

    Cakkhunā rūpaṃ disvā manāpāmanāpesu rūpesu tassa ṭhitova kāyo hoti, ṭhitaṃ cittaṃ ajjhattaṃ susaṇṭhitaṃ suvimuttaṃ. Sotena saddaṃ sutvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya manāpāmanāpesu dhammesu tassa ṭhitova kāyo hoti, ṭhitaṃ cittaṃ ajjhattaṃ susaṇṭhitaṃ suvimuttaṃ.

    จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา รชนีเย น รชฺชติ, ทุสฺสนีเย 51 น ทุสฺสติ, โมหนีเย น มุยฺหติ, โกปนีเย น กุปฺปติ, มทนีเย น มชฺชติ, กิเลสนีเย น กิลิสฺสติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย รชนีเย น รชฺชติ ทุสฺสนีเย น ทุสฺสติ, โมหนีเย น มุยฺหติ, โกปนีเย น กุปฺปติ, มทนีเย น มชฺชติ, กิเลสนีเย น กิลิสฺสติฯ ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมโตฺต, สุเต สุตมโตฺต, มุเต มุตมโตฺต, วิญฺญาเต วิญฺญาตมโตฺตฯ ทิเฎฺฐ น ลิมฺปติ, สุเต น ลิมฺปติ, มุเต น ลิมฺปติ, วิญฺญาเต น ลิมฺปติฯ ทิเฎฺฐ อนูปโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฎิพโทฺธ วิปฺปมุโตฺต วิสญฺญุโตฺต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรติฯ สุเต… มุเต… วิญฺญาเต อนูปโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฎิพโทฺธ วิปฺปมุโตฺต วิสญฺญุโตฺต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรติฯ

    Cakkhunā rūpaṃ disvā rajanīye na rajjati, dussanīye 52 na dussati, mohanīye na muyhati, kopanīye na kuppati, madanīye na majjati, kilesanīye na kilissati. Sotena saddaṃ sutvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya rajanīye na rajjati dussanīye na dussati, mohanīye na muyhati, kopanīye na kuppati, madanīye na majjati, kilesanīye na kilissati. Diṭṭhe diṭṭhamatto, sute sutamatto, mute mutamatto, viññāte viññātamatto. Diṭṭhe na limpati, sute na limpati, mute na limpati, viññāte na limpati. Diṭṭhe anūpayo anapāyo anissito appaṭibaddho vippamutto visaññutto vimariyādikatena cetasā viharati. Sute… mute… viññāte anūpayo anapāyo anissito appaṭibaddho vippamutto visaññutto vimariyādikatena cetasā viharati.

    สํวิชฺชติ อรหโต จกฺขุ, ปสฺสติ อรหา จกฺขุนา รูปํฯ ฉนฺทราโค อรหโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิโตฺต อรหาฯ สํวิชฺชติ อรหโต โสตํ, สุณาติ อรหา โสเตน สทฺทํฯ ฉนฺทราโค อรหโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิโตฺต อรหาฯ สํวิชฺชติ อรหโต ฆานํ, ฆายติ อรหา ฆาเนน คนฺธํฯ ฉนฺทราโค อรหโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิโตฺต อรหาฯ สํวิชฺชติ อรหโต ชิวฺหา, สายติ อรหา ชิวฺหาย รสํ…เป.… สํวิชฺชติ อรหโต กาโย, ผุสติ อรหา กาเยน โผฎฺฐพฺพํ…เป.… สํวิชฺชติ อรหโต มโน, วิชานาติ อรหา มนสา ธมฺมํฯ ฉนฺทราโค อรหโต นตฺถิ สุวิมุตฺตจิโตฺต อรหาฯ

    Saṃvijjati arahato cakkhu, passati arahā cakkhunā rūpaṃ. Chandarāgo arahato natthi, suvimuttacitto arahā. Saṃvijjati arahato sotaṃ, suṇāti arahā sotena saddaṃ. Chandarāgo arahato natthi, suvimuttacitto arahā. Saṃvijjati arahato ghānaṃ, ghāyati arahā ghānena gandhaṃ. Chandarāgo arahato natthi, suvimuttacitto arahā. Saṃvijjati arahato jivhā, sāyati arahā jivhāya rasaṃ…pe… saṃvijjati arahato kāyo, phusati arahā kāyena phoṭṭhabbaṃ…pe… saṃvijjati arahato mano, vijānāti arahā manasā dhammaṃ. Chandarāgo arahato natthi suvimuttacitto arahā.

    จกฺขุ รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิตํ, ตํ อรหโต ทนฺตํ คุตฺตํ รกฺขิตํ สํวุตํ, ตสฺส จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติฯ โสตํ สทฺทารามํ…เป.… ฆานํ คนฺธารามํ… ชิวฺหา รสารามา รสรตา รสสมฺมุทิตา, สา อรหโต ทนฺตา คุตฺตา รกฺขิตา สํวุตา, ตสฺสา จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติฯ กาโย โผฎฺฐพฺพาราโม…เป.… มโน ธมฺมาราโม ธมฺมรโต ธมฺมสมฺมุทิโต, โส อรหโต ทโนฺต คุโตฺต รกฺขิโต สํวุโต, ตสฺส จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติฯ

    Cakkhu rūpārāmaṃ rūparataṃ rūpasammuditaṃ, taṃ arahato dantaṃ guttaṃ rakkhitaṃ saṃvutaṃ, tassa ca saṃvarāya dhammaṃ deseti. Sotaṃ saddārāmaṃ…pe… ghānaṃ gandhārāmaṃ… jivhā rasārāmā rasaratā rasasammuditā, sā arahato dantā guttā rakkhitā saṃvutā, tassā ca saṃvarāya dhammaṃ deseti. Kāyo phoṭṭhabbārāmo…pe… mano dhammārāmo dhammarato dhammasammudito, so arahato danto gutto rakkhito saṃvuto, tassa ca saṃvarāya dhammaṃ deseti.

    ‘‘ทนฺตํ นยนฺติ สมิติํ, ทนฺตํ ราชาภิรูหติ;

    ‘‘Dantaṃ nayanti samitiṃ, dantaṃ rājābhirūhati;

    ทโนฺต เสโฎฺฐ มนุเสฺสสุ, โยติวากฺยํ ติติกฺขติฯ

    Danto seṭṭho manussesu, yotivākyaṃ titikkhati.

    ‘‘วรมสฺสตรา ทนฺตา, อาชานียา จ 53 สินฺธวา;

    ‘‘Varamassatarā dantā, ājānīyā ca 54 sindhavā;

    กุญฺชรา จ มหานาคา, อตฺตทโนฺต ตโต วรํฯ

    Kuñjarā ca mahānāgā, attadanto tato varaṃ.

    ‘‘น หิ เอเตหิ ยาเนหิ, คเจฺฉยฺย อคตํ ทิสํ;

    ‘‘Na hi etehi yānehi, gaccheyya agataṃ disaṃ;

    ยถาตฺตนา สุทเนฺตน, ทโนฺต ทเนฺตน คจฺฉติฯ

    Yathāttanā sudantena, danto dantena gacchati.

    ‘‘วิธาสุ น วิกมฺปนฺติ, วิปฺปมุตฺตา ปุนพฺภวา;

    ‘‘Vidhāsu na vikampanti, vippamuttā punabbhavā;

    ทนฺตภูมิมนุปฺปตฺตา, เต โลเก วิชิตาวิโนฯ

    Dantabhūmimanuppattā, te loke vijitāvino.

    ‘‘ยสฺสินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ 55, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ 56 สพฺพโลเก;

    ‘‘Yassindriyāni bhāvitāni 57, ajjhattaṃ bahiddhā ca 58 sabbaloke;

    นิพฺพิชฺฌ อิมํ 59 ปรญฺจ โลกํ, กาลํ กงฺขติ ภาวิโต ส ทโนฺต’’ติฯ

    Nibbijjha imaṃ 60 parañca lokaṃ, kālaṃ kaṅkhati bhāvito sa danto’’ti.

    อุเปกฺขโก สทาติฯ สทา สพฺพทา สพฺพกาลํ นิจฺจกาลํ ธุวกาลํ…เป.… ปจฺฉิเม วโยขเนฺธฯ สโตติ จตูหิ การเณหิ สโต – กาเย กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ ภาเวโนฺต สโต, เวทนาสุ… จิเตฺต… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ ภาเวโนฺต สโต…เป.… โส วุจฺจติ สโตติ – อุเปกฺขโก สทา สโตฯ

    Upekkhako sadāti. Sadā sabbadā sabbakālaṃ niccakālaṃ dhuvakālaṃ…pe… pacchime vayokhandhe. Satoti catūhi kāraṇehi sato – kāye kāyānupassanāsatipaṭṭhānaṃ bhāvento sato, vedanāsu… citte… dhammesu dhammānupassanāsatipaṭṭhānaṃ bhāvento sato…pe… so vuccati satoti – upekkhako sadā sato.

    น โลเก มญฺญเต สมนฺติฯ ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มานํ น ชเนติ ชาติยา วา โคเตฺตน วา…เป.… อญฺญตรญฺญตเรน วา วตฺถุนาติ – น โลเก มญฺญเต สมํฯ

    Na loke maññate samanti. ‘‘Sadisohamasmī’’ti mānaṃ na janeti jātiyā vā gottena vā…pe… aññataraññatarena vā vatthunāti – na loke maññate samaṃ.

    น วิเสสี น นีเจโยฺยติฯ ‘‘เสโยฺยหมสฺมี’’ติ อติมานํ น ชเนติ ชาติยา วา โคเตฺตน วา…เป.… อญฺญตรญฺญตเรน วา วตฺถุนา ฯ ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ โอมานํ น ชเนติ ชาติยา วา โคเตฺตน วา…เป.… อญฺญตรญฺญตเรน วา วตฺถุนาติ – น วิเสสี น นีเจโยฺยฯ

    Na visesī na nīceyyoti. ‘‘Seyyohamasmī’’ti atimānaṃ na janeti jātiyā vā gottena vā…pe… aññataraññatarena vā vatthunā . ‘‘Hīnohamasmī’’ti omānaṃ na janeti jātiyā vā gottena vā…pe… aññataraññatarena vā vatthunāti – na visesī na nīceyyo.

    ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทาติฯ ตสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ อุสฺสทาติ สตฺตุสฺสทา – ราคุสฺสโท โทสุสฺสโท โมหุสฺสโท มานุสฺสโท ทิฎฺฐุสฺสโท กิเลสุสฺสโท กมฺมุสฺสโทฯ ตสฺสิเม อุสฺสทา นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชนฺติ นุปลพฺภนฺติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒาติ – ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทาฯ

    Tassa no santi ussadāti. Tassāti arahato khīṇāsavassa. Ussadāti sattussadā – rāgussado dosussado mohussado mānussado diṭṭhussado kilesussado kammussado. Tassime ussadā natthi na santi na saṃvijjanti nupalabbhanti, pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhāti – tassa no santi ussadā.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘อุเปกฺขโก สทา สโต, น โลเก มญฺญเต สมํ;

    ‘‘Upekkhako sadā sato, na loke maññate samaṃ;

    น วิเสสี น นีเจโยฺย, ตสฺส โน สนฺติ อุสฺสทา’’ติฯ

    Na visesī na nīceyyo, tassa no santi ussadā’’ti.

    ๙๑.

    91.

    ยสฺส นิสฺสยตา 61 นตฺถิ, ญตฺวา ธมฺมํ อนิสฺสิโต;

    Yassanissayatā62natthi, ñatvā dhammaṃ anissito;

    ภวาย วิภวาย วา, ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติฯ

    Bhavāya vibhavāya vā, taṇhā yassa na vijjati.

    ยสฺส นิสฺสยตา นตฺถีติฯ ยสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ นิสฺสยาติ เทฺว นิสฺสยา – ตณฺหานิสฺสโย จ ทิฎฺฐินิสฺสโย จ…เป.… อยํ ตณฺหานิสฺสโย…เป.… อยํ ทิฎฺฐินิสฺสโย ฯ ตสฺส ตณฺหานิสฺสโย ปหีโน, ทิฎฺฐินิสฺสโย ปฎินิสฺสโฎฺฐ; ตณฺหานิสฺสยสฺส ปหีนตฺตา ทิฎฺฐินิสฺสยสฺส ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตา นิสฺสยตา ยสฺส นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชติ นุปลพฺภติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒาติ – ยสฺส นิสฺสยตา นตฺถิฯ

    Yassanissayatā natthīti. Yassāti arahato khīṇāsavassa. Nissayāti dve nissayā – taṇhānissayo ca diṭṭhinissayo ca…pe… ayaṃ taṇhānissayo…pe… ayaṃ diṭṭhinissayo . Tassa taṇhānissayo pahīno, diṭṭhinissayo paṭinissaṭṭho; taṇhānissayassa pahīnattā diṭṭhinissayassa paṭinissaṭṭhattā nissayatā yassa natthi na santi na saṃvijjati nupalabbhati, pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhāti – yassa nissayatā natthi.

    ญตฺวา ธมฺมํ อนิสฺสิโตติฯ ญตฺวาติ ญตฺวา ชานิตฺวา ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา, ‘‘สเพฺพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ ญตฺวา ชานิตฺวา ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา, ‘‘สเพฺพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ… ‘‘สเพฺพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ…เป.… ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺตฺนฺตฺติ ญตฺวา ชานิตฺวา ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวาฯ อนิสฺสิโตติ เทฺว นิสฺสยา – ตณฺหานิสฺสโย จ ทิฎฺฐินิสฺสโย จ…เป.… อยํ ตณฺหานิสฺสโย…เป.… อยํ ทิฎฺฐินิสฺสโยฯ ตณฺหานิสฺสยํ ปหาย ทิฎฺฐินิสฺสยํ ปฎินิสฺสชฺชิตฺวา จกฺขุํ อนิสฺสิโต, โสตํ อนิสฺสิโต, ฆานํ อนิสฺสิโต, ชิวฺหํ อนิสฺสิโต, กายํ อนิสฺสิโต, มนํ อนิสฺสิโต, รูเป… สเทฺท… คเนฺธ… รเส… โผฎฺฐเพฺพ… กุลํ… คณํ… อาวาสํ…เป.… ทิฎฺฐสุตมุตวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม อนิสฺสิโต อนลฺลีโน อนุปคโต อนโชฺฌสิโต อนธิมุโตฺต นิกฺขโนฺต นิสฺสโฎ วิปฺปมุโตฺต วิสญฺญุโตฺต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรตีติ – ญตฺวา ธมฺมํ อนิสฺสิโตฯ

    Ñatvādhammaṃ anissitoti. Ñatvāti ñatvā jānitvā tulayitvā tīrayitvā vibhāvayitvā vibhūtaṃ katvā, ‘‘sabbe saṅkhārā aniccā’’ti ñatvā jānitvā tulayitvā tīrayitvā vibhāvayitvā vibhūtaṃ katvā, ‘‘sabbe saṅkhārā dukkhā’’ti… ‘‘sabbe dhammā anattā’’ti…pe… ‘‘yaṃ kiñci samudayadhammaṃ sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’ntntti ñatvā jānitvā tulayitvā tīrayitvā vibhāvayitvā vibhūtaṃ katvā. Anissitoti dve nissayā – taṇhānissayo ca diṭṭhinissayo ca…pe… ayaṃ taṇhānissayo…pe… ayaṃ diṭṭhinissayo. Taṇhānissayaṃ pahāya diṭṭhinissayaṃ paṭinissajjitvā cakkhuṃ anissito, sotaṃ anissito, ghānaṃ anissito, jivhaṃ anissito, kāyaṃ anissito, manaṃ anissito, rūpe… sadde… gandhe… rase… phoṭṭhabbe… kulaṃ… gaṇaṃ… āvāsaṃ…pe… diṭṭhasutamutaviññātabbe dhamme anissito anallīno anupagato anajjhosito anadhimutto nikkhanto nissaṭo vippamutto visaññutto vimariyādikatena cetasā viharatīti – ñatvā dhammaṃ anissito.

    ภวาย วิภวาย วา, ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชตีติฯ ตณฺหาติ รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฎฺฐพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหาฯ ยสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ ภวายาติ ภวทิฎฺฐิยา, วิภวายาติ วิภวทิฎฺฐิยา; ภวายาติ สสฺสตทิฎฺฐิยา, วิภวายาติ อุเจฺฉททิฎฺฐิยา; ภวายาติ ปุนปฺปุนภวาย ปุนปฺปุนคติยา ปุนปฺปุนอุปปตฺติยา ปุนปฺปุนปฎิสนฺธิยา ปุนปฺปุนอตฺตภาวาภินิพฺพตฺติยา ฯ ตณฺหา ยสฺส นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชติ นุปลพฺภติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒาติ – ภวาย วิภวาย วา ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติฯ

    Bhavāya vibhavāya vā, taṇhā yassa na vijjatīti. Taṇhāti rūpataṇhā saddataṇhā gandhataṇhā rasataṇhā phoṭṭhabbataṇhā dhammataṇhā. Yassāti arahato khīṇāsavassa. Bhavāyāti bhavadiṭṭhiyā, vibhavāyāti vibhavadiṭṭhiyā; bhavāyāti sassatadiṭṭhiyā, vibhavāyāti ucchedadiṭṭhiyā; bhavāyāti punappunabhavāya punappunagatiyā punappunaupapattiyā punappunapaṭisandhiyā punappunaattabhāvābhinibbattiyā . Taṇhā yassa natthi na santi na saṃvijjati nupalabbhati, pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhāti – bhavāya vibhavāya vā taṇhā yassa na vijjati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘ยสฺส นิสฺสยตา นตฺถิ, ญตฺวา ธมฺมํ อนิสฺสิโต;

    ‘‘Yassa nissayatā natthi, ñatvā dhammaṃ anissito;

    ภวาย วิภวาย วา, ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชตี’’ติฯ

    Bhavāya vibhavāya vā, taṇhā yassa na vijjatī’’ti.

    ๙๒.

    92.

    ตํ พฺรูมิ อุปสโนฺตติ, กาเมสุ อนเปกฺขินํ;

    Taṃbrūmi upasantoti, kāmesu anapekkhinaṃ;

    คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺติ, อตรี โส วิสตฺติกํฯ

    Ganthā tassa na vijjanti, atarī so visattikaṃ.

    ตํ พฺรูมิ อุปสโนฺตติฯ อุปสโนฺต วูปสโนฺต นิพฺพุโต ปฎิปสฺสโทฺธติฯ ตํ พฺรูมิ ตํ กเถมิ ตํ ภณามิ ตํ ทีปยามิ ตํ โวหรามีติ – ตํ พฺรูมิ อุปสโนฺตติฯ

    Taṃ brūmi upasantoti. Upasanto vūpasanto nibbuto paṭipassaddhoti. Taṃ brūmi taṃ kathemi taṃ bhaṇāmi taṃ dīpayāmi taṃ voharāmīti – taṃ brūmi upasantoti.

    กาเมสุ อนเปกฺขินนฺติฯ กามาติ อุทฺทานโต เทฺว กามา – วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ…เป.… อิเม วุจฺจนฺติ วตฺถุกามา…เป.… อิเม วุจฺจนฺติ กิเลสกามาฯ วตฺถุกาเม ปริชานิตฺวา, กิเลสกาเม ปหาย ปชหิตฺวา วิโนเทตฺวา พฺยนฺติํ กริตฺวา อนภาวํ คเมตฺวา กาเมสุ อนเปกฺขิโน วีตกาโม จตฺตกาโม วนฺตกาโม มุตฺตกาโม ปหีนกาโม ปฎินิสฺสฎฺฐกาโม, กาเมสุ วีตราโค วิคตราโค จตฺตราโค วนฺตราโค มุตฺตราโค ปหีนราโค ปฎินิสฺสฎฺฐราโค นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีติภูโต สุขปฺปฎิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรตีติ – กาเมสุ อนเปกฺขินํฯ

    Kāmesu anapekkhinanti. Kāmāti uddānato dve kāmā – vatthukāmā ca kilesakāmā ca…pe… ime vuccanti vatthukāmā…pe… ime vuccanti kilesakāmā. Vatthukāme parijānitvā, kilesakāme pahāya pajahitvā vinodetvā byantiṃ karitvā anabhāvaṃ gametvā kāmesu anapekkhino vītakāmo cattakāmo vantakāmo muttakāmo pahīnakāmo paṭinissaṭṭhakāmo, kāmesu vītarāgo vigatarāgo cattarāgo vantarāgo muttarāgo pahīnarāgo paṭinissaṭṭharāgo nicchāto nibbuto sītibhūto sukhappaṭisaṃvedī brahmabhūtena attanā viharatīti – kāmesu anapekkhinaṃ.

    คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺตีติฯ คนฺถาติ จตฺตาโร คนฺถา – อภิชฺฌา กายคโนฺถ, พฺยาปาโท กายคโนฺถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคโนฺถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคโนฺถฯ อตฺตโน ทิฎฺฐิยา ราโค อภิชฺฌา กายคโนฺถ, ปรวาเทสุ อาฆาโต อปฺปจฺจโย พฺยาปาโท กายคโนฺถ, อตฺตโน สีลํ วา วตํ วา สีลพฺพตํ วา ปรามาโส สีลพฺพตปรามาโส กายคโนฺถ, อตฺตโน ทิฎฺฐิ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคโนฺถฯ ตสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺตีติฯ คนฺถา ตสฺส นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชนฺติ นุปลพฺภนฺติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒาติ – คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺติฯ

    Ganthātassa na vijjantīti. Ganthāti cattāro ganthā – abhijjhā kāyagantho, byāpādo kāyagantho, sīlabbataparāmāso kāyagantho, idaṃsaccābhiniveso kāyagantho. Attano diṭṭhiyā rāgo abhijjhā kāyagantho, paravādesu āghāto appaccayo byāpādo kāyagantho, attano sīlaṃ vā vataṃ vā sīlabbataṃ vā parāmāso sīlabbataparāmāso kāyagantho, attano diṭṭhi idaṃsaccābhiniveso kāyagantho. Tassāti arahato khīṇāsavassa. Ganthā tassa na vijjantīti. Ganthā tassa natthi na santi na saṃvijjanti nupalabbhanti, pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhāti – ganthā tassa na vijjanti.

    อตรี โส วิสตฺติกนฺติฯ วิสตฺติกา วุจฺจติ ตณฺหาฯ โย ราโค สาราโค…เป.… อภิชฺฌา โลโภ อกุสลมูลํฯ วิสตฺติกาติ เกนเฎฺฐน วิสตฺติกา ? วิสตาติ วิสตฺติกา, วิสาลาติ วิสตฺติกา, วิสฎาติ วิสตฺติกา, วิสมาติ วิสตฺติกา, วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา, วิสํหรตีติ วิสตฺติกา, วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา, วิสมูลาติ วิสตฺติกา, วิสผลาติ วิสตฺติกา, วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา, วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป… สเทฺท… คเนฺธ… รเส… โผฎฺฐเพฺพ… กุเล… คเณ… อาวาเส…เป.… ทิฎฺฐสุตมุตวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ วิสตํ วิตฺถตาติ วิสตฺติกาฯ อตรี โส วิสตฺติกนฺติฯ โส อิมํ วิสตฺติกํ ตณฺหํ อตริ อุตฺตริ ปตริ สมติกฺกมิ วีติวตฺตีติ – อตรี โส วิสตฺติกํฯ

    Atarī so visattikanti. Visattikā vuccati taṇhā. Yo rāgo sārāgo…pe… abhijjhā lobho akusalamūlaṃ. Visattikāti kenaṭṭhena visattikā ? Visatāti visattikā, visālāti visattikā, visaṭāti visattikā, visamāti visattikā, visakkatīti visattikā, visaṃharatīti visattikā, visaṃvādikāti visattikā, visamūlāti visattikā, visaphalāti visattikā, visaparibhogāti visattikā, visālā vā pana sā taṇhā rūpe… sadde… gandhe… rase… phoṭṭhabbe… kule… gaṇe… āvāse…pe… diṭṭhasutamutaviññātabbesu dhammesu visataṃ vitthatāti visattikā. Atarī so visattikanti. So imaṃ visattikaṃ taṇhaṃ atari uttari patari samatikkami vītivattīti – atarī so visattikaṃ.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘ตํ พฺรูมิ อุปสโนฺตติ, กาเมสุ อนเปกฺขินํ;

    ‘‘Taṃ brūmi upasantoti, kāmesu anapekkhinaṃ;

    คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺติ, อตรี โส วิสตฺติก’’นฺติฯ

    Ganthā tassa na vijjanti, atarī so visattika’’nti.

    ๙๓.

    93.

    น ตสฺส ปุตฺตา ปสโว, เขตฺตํ วตฺถุญฺจ วิชฺชติ;

    Na tassa puttā pasavo, khettaṃ vatthuñca vijjati;

    อตฺตา วาปิ นิรตฺตา วา, น ตสฺมิํ อุปลพฺภติฯ

    Attā vāpi nirattā vā, na tasmiṃ upalabbhati.

    น ตสฺส ปุตฺตา ปสโว, เขตฺตํ วตฺถุญฺจ วิชฺชตีติฯ นาติ ปฎิเกฺขโปฯ ตสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ ปุตฺตาติ จตฺตาโร ปุตฺตา – อตฺตโช ปุโตฺต, เขตฺตโช ปุโตฺต, ทินฺนโก ปุโตฺต , อเนฺตวาสิโก ปุโตฺตฯ ปสโวติฯ อเชฬกา กุกฺกุฎสูกรา หตฺถิคาวาสฺสวฬวาฯ เขตฺตนฺติ สาลิเขตฺตํ วีหิเขตฺตํ มุคฺคเขตฺตํ มาสเขตฺตํ ยวเขตฺตํ โคธุมเขตฺตํ ติลเขตฺตํฯ วตฺถุนฺติ ฆรวตฺถุํ โกฎฺฐวตฺถุํ ปุเรวตฺถุํ ปจฺฉาวตฺถุํ อารามวตฺถุํ วิหารวตฺถุํฯ น ตสฺส ปุตฺตา ปสโว, เขตฺตํ วตฺถุญฺจ วิชฺชตีติฯ ตสฺส ปุตฺตปริคฺคโห วา ปสุปริคฺคโห วา เขตฺตปริคฺคโห วา วตฺถุปริคฺคโห วา นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชนฺติ นุปลพฺภนฺติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฎิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา ญาณคฺคินา ทฑฺฒาติ – น ตสฺส ปุตฺตา ปสโว, เขตฺตํ วตฺถุญฺจ วิชฺชติฯ

    Na tassa puttā pasavo, khettaṃ vatthuñca vijjatīti. ti paṭikkhepo. Tassāti arahato khīṇāsavassa. Puttāti cattāro puttā – attajo putto, khettajo putto, dinnako putto , antevāsiko putto. Pasavoti. Ajeḷakā kukkuṭasūkarā hatthigāvāssavaḷavā. Khettanti sālikhettaṃ vīhikhettaṃ muggakhettaṃ māsakhettaṃ yavakhettaṃ godhumakhettaṃ tilakhettaṃ. Vatthunti gharavatthuṃ koṭṭhavatthuṃ purevatthuṃ pacchāvatthuṃ ārāmavatthuṃ vihāravatthuṃ. Na tassa puttā pasavo, khettaṃ vatthuñca vijjatīti. Tassa puttapariggaho vā pasupariggaho vā khettapariggaho vā vatthupariggaho vā natthi na santi na saṃvijjanti nupalabbhanti, pahīnā samucchinnā vūpasantā paṭipassaddhā abhabbuppattikā ñāṇagginā daḍḍhāti – na tassa puttā pasavo, khettaṃ vatthuñca vijjati.

    อตฺตา วาปิ นิรตฺตา วา, น ตสฺมิํ อุปลพฺภตีติฯ อตฺตาติ อตฺตทิฎฺฐิ, นิรตฺตาติ อุเจฺฉททิฎฺฐิ; อตฺตาติ คหิตํ นตฺถิ, นิรตฺตาติ มุญฺจิตพฺพํ นตฺถิฯ ยสฺส นตฺถิ คหิตํ ตสฺส นตฺถิ มุญฺจิตพฺพํฯ ยสฺส นตฺถิ มุญฺจิตพฺพํ ตสฺส นตฺถิ คหิตํฯ คาหมุญฺจนสมติกฺกโนฺต อรหา วุทฺธิปริหานิวีติวโตฺตฯ โส วุฎฺฐวาโส จิณฺณจรโณ…เป.… ชาติมรณสํสาโร นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโวติ – อตฺตา วาปิ นิรตฺตา วา, น ตสฺมิํ อุปลพฺภติฯ

    Attā vāpi nirattā vā, na tasmiṃ upalabbhatīti. Attāti attadiṭṭhi, nirattāti ucchedadiṭṭhi; attāti gahitaṃ natthi, nirattāti muñcitabbaṃ natthi. Yassa natthi gahitaṃ tassa natthi muñcitabbaṃ. Yassa natthi muñcitabbaṃ tassa natthi gahitaṃ. Gāhamuñcanasamatikkanto arahā vuddhiparihānivītivatto. So vuṭṭhavāso ciṇṇacaraṇo…pe… jātimaraṇasaṃsāro natthi tassa punabbhavoti – attā vāpi nirattā vā, na tasmiṃ upalabbhati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘น ตสฺส ปุตฺตา ปสโว, เขตฺตํ วตฺถุญฺจ วิชฺชติ;

    ‘‘Na tassa puttā pasavo, khettaṃ vatthuñca vijjati;

    อตฺตา วาปิ นิรตฺตา วา, น ตสฺมิํ อุปลพฺภตี’’ติฯ

    Attā vāpi nirattā vā, na tasmiṃ upalabbhatī’’ti.

    ๙๔.

    94.

    เยน นํ วชฺชุํ ปุถุชฺชนา, อโถ สมณพฺราหฺมณา;

    Yena naṃ vajjuṃ puthujjanā, atho samaṇabrāhmaṇā;

    ตํ ตสฺส อปุรกฺขตํ, ตสฺมา วาเทสุ เนชติฯ

    Taṃ tassa apurakkhataṃ, tasmā vādesu nejati.

    เยน นํ วชฺชุํ ปุถุชฺชนา, อโถ สมณพฺราหฺมณาติฯ ปุถุชฺชนาติ ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา , ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฎฺฐิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สตฺถารานํ มุขุโลฺลกิกาติ 63 ปุถุชฺชนา, ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฎฺฐิตาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาสนฺตาเปหิ สนฺตเปฺปนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาปริฬาเหหิ ปริฑยฺหนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปญฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อโชฺฌสนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปญฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฎิจฺฉนฺนา ปฎิกุชฺชิตาติ – ปุถุชฺชนาฯ สมณาติ เย เกจิ อิโต พหิทฺธา ปริพฺพชูปคตา ปริพฺพชสมาปนฺนาฯ พฺราหฺมณาติ เย เกจิ โภวาทิกาฯ เยน นํ วชฺชุํ ปุถุชฺชนา, อโถ สมณพฺราหฺมณาติ ฯ ปุถุชฺชนา เยน ตํ ราเคน วเทยฺยุํ, เยน โทเสน วเทยฺยุํ, เยน โมเหน วเทยฺยุํ, เยน มาเนน วเทยฺยุํ, ยาย ทิฎฺฐิยา วเทยฺยุํ, เยน อุทฺธเจฺจน วเทยฺยุํ, ยาย วิจิกิจฺฉาย วเทยฺยุํ, เยหิ อนุสเยหิ วเทยฺยุํ, รโตฺตติ วา ทุโฎฺฐติ วา มูโฬฺหติ วา วินิพโทฺธติ วา ปรามโฎฺฐติ วา วิเกฺขปคโตติ วา อนิฎฺฐงฺคโตติ วา ถามคโตติ วา เต อภิสงฺขารา ปหีนา; อภิสงฺขารานํ ปหีนตฺตา คติยา 64 เยน ตํ วเทยฺยุํ – เนรยิโกติ วา ติรจฺฉานโยนิโกติ วา เปตฺติวิสยิโกติ วา มนุโสฺสติ วา เทโวติ วา รูปีติ วา อรูปีติ วา สญฺญีติ วา อสญฺญีติ วา เนวสญฺญีนาสญฺญีติ วาฯ โส เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย นตฺถิ การณํ นตฺถิ เยน นํ วเทยฺยุํ กเถยฺยุํ ภเณยฺยุํ ทีปเยยฺยุํ โวหเรยฺยุนฺติ – เยน นํ วชฺชุํ ปุถุชฺชนา, อโถ สมณพฺราหฺมณาฯ

    Yena naṃ vajjuṃ puthujjanā, atho samaṇabrāhmaṇāti. Puthujjanāti puthu kilese janentīti puthujjanā , puthu avihatasakkāyadiṭṭhikāti puthujjanā, puthu satthārānaṃ mukhullokikāti 65 puthujjanā, puthu sabbagatīhi avuṭṭhitāti puthujjanā, puthu nānābhisaṅkhāre abhisaṅkharontīti puthujjanā, puthu nānāoghehi vuyhantīti puthujjanā, puthu nānāsantāpehi santappentīti puthujjanā, puthu nānāpariḷāhehi pariḍayhantīti puthujjanā, puthu pañcasu kāmaguṇesu rattā giddhā gadhitā mucchitā ajjhosannā laggā laggitā palibuddhāti puthujjanā, puthu pañcahi nīvaraṇehi āvutā nivutā ovutā pihitā paṭicchannā paṭikujjitāti – puthujjanā. Samaṇāti ye keci ito bahiddhā paribbajūpagatā paribbajasamāpannā. Brāhmaṇāti ye keci bhovādikā. Yena naṃ vajjuṃ puthujjanā, atho samaṇabrāhmaṇāti . Puthujjanā yena taṃ rāgena vadeyyuṃ, yena dosena vadeyyuṃ, yena mohena vadeyyuṃ, yena mānena vadeyyuṃ, yāya diṭṭhiyā vadeyyuṃ, yena uddhaccena vadeyyuṃ, yāya vicikicchāya vadeyyuṃ, yehi anusayehi vadeyyuṃ, rattoti vā duṭṭhoti vā mūḷhoti vā vinibaddhoti vā parāmaṭṭhoti vā vikkhepagatoti vā aniṭṭhaṅgatoti vā thāmagatoti vā te abhisaṅkhārā pahīnā; abhisaṅkhārānaṃ pahīnattā gatiyā 66 yena taṃ vadeyyuṃ – nerayikoti vā tiracchānayonikoti vā pettivisayikoti vā manussoti vā devoti vā rūpīti vā arūpīti vā saññīti vā asaññīti vā nevasaññīnāsaññīti vā. So hetu natthi paccayo natthi kāraṇaṃ natthi yena naṃ vadeyyuṃ katheyyuṃ bhaṇeyyuṃ dīpayeyyuṃ vohareyyunti – yena naṃ vajjuṃ puthujjanā, atho samaṇabrāhmaṇā.

    ตํ ตสฺส อปุรกฺขตนฺติฯ ตสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ ปุเรกฺขาราติ เทฺว ปุเรกฺขารา – ตณฺหาปุเรกฺขาโร จ ทิฎฺฐิปุเรกฺขาโร จ…เป.… อยํ ตณฺหาปุเรกฺขาโร…เป.… อยํ ทิฎฺฐิปุเรกฺขาโรฯ ตสฺส ตณฺหาปุเรกฺขาโร ปหีโน, ทิฎฺฐิปุเรกฺขาโร ปฎินิสฺสโฎฺฐ; ตณฺหาปุเรกฺขารสฺส ปหีนตฺตา, ทิฎฺฐิปุเรกฺขารสฺส ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตา น ตณฺหํ วา ทิฎฺฐิํ วา ปุรโต กตฺวา จรติ, น ตณฺหาธโช น ตณฺหาเกตุ น ตณฺหาธิปเตโยฺย, น ทิฎฺฐิธโช น ทิฎฺฐิเกตุ น ทิฎฺฐาธิปเตโยฺย, น ตณฺหาย วา น ทิฎฺฐิยา วา ปริวาริโต จรตีติ – ตํ ตสฺส อปุรกฺขตํฯ

    Taṃ tassa apurakkhatanti. Tassāti arahato khīṇāsavassa. Purekkhārāti dve purekkhārā – taṇhāpurekkhāro ca diṭṭhipurekkhāro ca…pe… ayaṃ taṇhāpurekkhāro…pe… ayaṃ diṭṭhipurekkhāro. Tassa taṇhāpurekkhāro pahīno, diṭṭhipurekkhāro paṭinissaṭṭho; taṇhāpurekkhārassa pahīnattā, diṭṭhipurekkhārassa paṭinissaṭṭhattā na taṇhaṃ vā diṭṭhiṃ vā purato katvā carati, na taṇhādhajo na taṇhāketu na taṇhādhipateyyo, na diṭṭhidhajo na diṭṭhiketu na diṭṭhādhipateyyo, na taṇhāya vā na diṭṭhiyā vā parivārito caratīti – taṃ tassa apurakkhataṃ.

    ตสฺมา วาเทสุ เนชตีติฯ ตสฺมาติ ตสฺมา ตํการณา ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ตํนิทานา วาเทสุ อุปวาเทสุ นินฺทาย ครหาย อกิตฺติยา อวณฺณหาริกาย เนชติ น อิญฺชติ น จลติ น เวธติ นปฺปเวธติ น สมฺปเวธตีติ – ตสฺมา วาเทสุ เนชติฯ

    Tasmā vādesu nejatīti. Tasmāti tasmā taṃkāraṇā taṃhetu tappaccayā taṃnidānā vādesu upavādesu nindāya garahāya akittiyā avaṇṇahārikāya nejati na iñjati na calati na vedhati nappavedhati na sampavedhatīti – tasmā vādesu nejati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘เยน นํ วชฺชุํ ปุถุชฺชนา, อโถ สมณพฺราหฺมณา;

    ‘‘Yena naṃ vajjuṃ puthujjanā, atho samaṇabrāhmaṇā;

    ตํ ตสฺส อปุรกฺขตํ, ตสฺมา วาเทสุ เนชตี’’ติฯ

    Taṃ tassa apurakkhataṃ, tasmā vādesu nejatī’’ti.

    ๙๕.

    95.

    วีตเคโธ อมจฺฉรี, น อุเสฺสสุ วทเต มุนิ;

    Vītagedho amaccharī, na ussesu vadate muni;

    น สเมสุ น โอเมสุ, กปฺปํ เนติ อกปฺปิโยฯ

    Na samesu na omesu, kappaṃ neti akappiyo.

    วีตเคโธ อมจฺฉรีติฯ เคโธ วุจฺจติ ตณฺหาฯ โย ราโค สาราโค…เป.… อภิชฺฌา โลโภ อกุสลมูลํฯ ยเสฺสโส เคโธ ปหีโน สมุจฺฉิโนฺน วูปสโนฺต ปฎิปสฺสโทฺธ อภพฺพุปฺปตฺติโก ญาณคฺคินา ทโฑฺฒ, โส วุจฺจติ วีตเคโธฯ โส รูเป อคิโทฺธ…เป.… ทิฎฺฐสุตมุตวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ อคิโทฺธ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนโชฺฌสิโต, วีตเคโธ วิคตเคโธ จตฺตเคโธ วนฺตเคโธ มุตฺตเคโธ ปหีนเคโธ ปฎินิสฺสฎฺฐเคโธ นิจฺฉาโต…เป.… พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรตีติ – วีตเคโธฯ อมจฺฉรีติ มจฺฉริยนฺติ ปญฺจ มจฺฉริยานิ – อาวาสมจฺฉริยํ, กุลมจฺฉริยํ, ลาภมจฺฉริยํ, วณฺณมจฺฉริยํ, ธมฺมมจฺฉริยํฯ ยํ เอวรูปํ…เป.… คาโห – อิทํ วุจฺจติ มจฺฉริยํฯ ยเสฺสตํ มจฺฉริยํ ปหีนํ สมุจฺฉินฺนํ วูปสนฺตํ ปฎิปสฺสทฺธํ อภพฺพุปฺปตฺติกํ ญาณคฺคินา ทฑฺฒํ, โส วุจฺจติ อมจฺฉรีติ – วีตเคโธ อมจฺฉรีฯ

    Vītagedho amaccharīti. Gedho vuccati taṇhā. Yo rāgo sārāgo…pe… abhijjhā lobho akusalamūlaṃ. Yasseso gedho pahīno samucchinno vūpasanto paṭipassaddho abhabbuppattiko ñāṇagginā daḍḍho, so vuccati vītagedho. So rūpe agiddho…pe… diṭṭhasutamutaviññātabbesu dhammesu agiddho agadhito amucchito anajjhosito, vītagedho vigatagedho cattagedho vantagedho muttagedho pahīnagedho paṭinissaṭṭhagedho nicchāto…pe… brahmabhūtena attanā viharatīti – vītagedho. Amaccharīti macchariyanti pañca macchariyāni – āvāsamacchariyaṃ, kulamacchariyaṃ, lābhamacchariyaṃ, vaṇṇamacchariyaṃ, dhammamacchariyaṃ. Yaṃ evarūpaṃ…pe… gāho – idaṃ vuccati macchariyaṃ. Yassetaṃ macchariyaṃ pahīnaṃ samucchinnaṃ vūpasantaṃ paṭipassaddhaṃ abhabbuppattikaṃ ñāṇagginā daḍḍhaṃ, so vuccati amaccharīti – vītagedho amaccharī.

    น อุเสฺสสุ วทเต มุนิ, น สเมสุ น โอเมสูติฯ มุนีติฯ โมนํ วุจฺจติ ญาณํ…เป.… สงฺคชาลมติจฺจ โส มุนิฯ ‘‘เสโยฺยหมสฺมี’’ติ วา, ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ วา, ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ วา น วทติ น กเถติ น ภณติ น ทีปยติ น โวหรตีติ – น อุเสฺสสุ วทเต มุนิ, น สเมสุ น โอเมสุฯ

    Na ussesu vadate muni, na samesu na omesūti. Munīti. Monaṃ vuccati ñāṇaṃ…pe… saṅgajālamaticca so muni. ‘‘Seyyohamasmī’’ti vā, ‘‘sadisohamasmī’’ti vā, ‘‘hīnohamasmī’’ti vā na vadati na katheti na bhaṇati na dīpayati na voharatīti – na ussesu vadate muni, na samesu na omesu.

    กปฺปํ เนติ อกปฺปิโยติฯ กปฺปาติ เทฺว กปฺปา – ตณฺหากโปฺป จ ทิฎฺฐิกโปฺป จ…เป.… อยํ ตณฺหากโปฺป…เป.… อยํ ทิฎฺฐิกโปฺปฯ ตสฺส ตณฺหากโปฺป ปหีโน, ทิฎฺฐิกโปฺป ปฎินิสฺสโฎฺฐ; ตณฺหากปฺปสฺส ปหีนตฺตา, ทิฎฺฐิกปฺปสฺส ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตา ตณฺหากปฺปํ วา ทิฎฺฐิกปฺปํ วา เนติ น อุเปติ น อุปคจฺฉติ น คณฺหาติ น ปรามสติ นาภินิวิสตีติ – กปฺปํ เนติฯ อกปฺปิโยติฯ กปฺปาติ เทฺว กปฺปา – ตณฺหากโปฺป จ ทิฎฺฐิกโปฺป จ…เป.… อยํ ตณฺหากโปฺป…เป.… อยํ ทิฎฺฐิกโปฺปฯ ตสฺส ตณฺหากโปฺป ปหีโน, ทิฎฺฐิกโปฺป ปฎินิสฺสโฎฺฐ; ตสฺส ตณฺหากปฺปสฺส ปหีนตฺตา, ทิฎฺฐิกปฺปสฺส ปฎินิสฺสฎฺฐตฺตา ตณฺหากปฺปํ วา ทิฎฺฐิกปฺปํ วา น กเปฺปติ น ชเนติ น สญฺชเนติ น นิพฺพเตฺตติ นาภินิพฺพเตฺตตีติ – กปฺปํ เนติ อกปฺปิโยฯ

    Kappaṃ neti akappiyoti. Kappāti dve kappā – taṇhākappo ca diṭṭhikappo ca…pe… ayaṃ taṇhākappo…pe… ayaṃ diṭṭhikappo. Tassa taṇhākappo pahīno, diṭṭhikappo paṭinissaṭṭho; taṇhākappassa pahīnattā, diṭṭhikappassa paṭinissaṭṭhattā taṇhākappaṃ vā diṭṭhikappaṃ vā neti na upeti na upagacchati na gaṇhāti na parāmasati nābhinivisatīti – kappaṃ neti. Akappiyoti. Kappāti dve kappā – taṇhākappo ca diṭṭhikappo ca…pe… ayaṃ taṇhākappo…pe… ayaṃ diṭṭhikappo. Tassa taṇhākappo pahīno, diṭṭhikappo paṭinissaṭṭho; tassa taṇhākappassa pahīnattā, diṭṭhikappassa paṭinissaṭṭhattā taṇhākappaṃ vā diṭṭhikappaṃ vā na kappeti na janeti na sañjaneti na nibbatteti nābhinibbattetīti – kappaṃ neti akappiyo.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘วีตเคโธ อมจฺฉรี, น อุเสฺสสุ วทเต มุนิ;

    ‘‘Vītagedho amaccharī, na ussesu vadate muni;

    น สเมสุ น โอเมสุ, กปฺปํ เนติ อกปฺปิโย’’ติฯ

    Na samesu na omesu, kappaṃ neti akappiyo’’ti.

    ๙๖.

    96.

    ยสฺส โลเก สกํ นตฺถิ, อสตา จ น โสจติ;

    Yassa loke sakaṃ natthi, asatā ca na socati;

    ธเมฺมสุ จ น คจฺฉติ, ส เว สโนฺตติ วุจฺจติฯ

    Dhammesu ca na gacchati, sa ve santoti vuccati.

    ยสฺส โลเก สกํ นตฺถีติฯ ยสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺสฯ โลเก สกํ นตฺถีติฯ ตสฺส มยฺหํ วา อิทํ ปเรสํ วา อิทนฺติ กิญฺจิ รูปคตํ เวทนาคตํ สญฺญาคตํ สงฺขารคตํ วิญฺญาณคตํ, คหิตํ ปรามฎฺฐํ อภินิวิฎฺฐํ อโชฺฌสิตํ อธิมุตฺตํ, นตฺถิ น สนฺติ…เป.… ญาณคฺคินา ทฑฺฒนฺติ – ยสฺส โลเก สกํ นตฺถิฯ อสตา จ น โสจตีติฯ วิปริณตํ วา วตฺถุํ น โสจติ, วิปริณตสฺมิํ วา วตฺถุสฺมิํ น โสจติฯ จกฺขุ เม วิปริณตนฺติ น โสจติฯ โสตํ เม… ฆานํ เม… ชิวฺหา เม… กาโย เม… มโน เม… รูปา เม… สทฺทา เม… คนฺธา เม… รสา เม… โผฎฺฐพฺพา เม… กุลํ เม… คโณ เม… อาวาโส เม… ลาโภ เม… ยโส เม… ปสํสา เม… สุขํ เม… จีวรํ เม… ปิณฺฑปาโต เม… เสนาสนํ เม… คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร เม… มาตา เม… ปิตา เม… ภาตา เม… ภคินี เม… ปุโตฺต เม… ธีตา เม… มิตฺตา เม… อมจฺจา เม… ญาตกา เม… สาโลหิตา เม วิปริณตาติ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชตีติฯ เอวมฺปิ, อสตา จ น โสจติฯ

    Yassaloke sakaṃ natthīti. Yassāti arahato khīṇāsavassa. Loke sakaṃ natthīti. Tassa mayhaṃ vā idaṃ paresaṃ vā idanti kiñci rūpagataṃ vedanāgataṃ saññāgataṃ saṅkhāragataṃ viññāṇagataṃ, gahitaṃ parāmaṭṭhaṃ abhiniviṭṭhaṃ ajjhositaṃ adhimuttaṃ, natthi na santi…pe… ñāṇagginā daḍḍhanti – yassa loke sakaṃ natthi. Asatā ca na socatīti. Vipariṇataṃ vā vatthuṃ na socati, vipariṇatasmiṃ vā vatthusmiṃ na socati. Cakkhu me vipariṇatanti na socati. Sotaṃ me… ghānaṃ me… jivhā me… kāyo me… mano me… rūpā me… saddā me… gandhā me… rasā me… phoṭṭhabbā me… kulaṃ me… gaṇo me… āvāso me… lābho me… yaso me… pasaṃsā me… sukhaṃ me… cīvaraṃ me… piṇḍapāto me… senāsanaṃ me… gilānapaccayabhesajjaparikkhāro me… mātā me… pitā me… bhātā me… bhaginī me… putto me… dhītā me… mittā me… amaccā me… ñātakā me… sālohitā me vipariṇatāti na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjatīti. Evampi, asatā ca na socati.

    อถ วา อสนฺตาย 67 ทุกฺขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ ปเรโต สโมหิโต สมนฺนาคโต น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ จกฺขุโรเคน ผุโฎฺฐ ปเรโต สโมหิโต สมนฺนาคโต น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชติ, โสตโรเคน… ฆานโรเคน… ชิวฺหาโรเคน… กายโรเคน… สีสโรเคน… กณฺณโรเคน… มุขโรเคน… ทนฺตโรเคน… กาเสน… สาเสน… ปินาเสน… ฑาเหน… ชเรน… กุจฺฉิโรเคน… มุจฺฉาย… ปกฺขนฺทิกาย… สูเลน… วิสูจิกาย… กุเฎฺฐน… คเณฺฑน… กิลาเสน… โสเสน… อปมาเรน… ททฺทุยา… กณฺฑุยา… กจฺฉุยา… รขสาย … วิตจฺฉิกาย… โลหิเตน… ปิเตฺตน… มธุเมเหน… อํสาย… ปิฬกาย… ภคนฺทเลน 68 … ปิตฺตสมุฎฺฐาเนน อาพาเธน… เสมฺหสมุฎฺฐาเนน อาพาเธน… วาตสมุฎฺฐาเนน อาพาเธน… สนฺนิปาติเกน อาพาเธน… อุตุปริณามเชน อาพาเธน… วิสมปริหารเชน อาพาเธน… โอปกฺกมิเกน อาพาเธน… กมฺมวิปากเชน อาพาเธน… สีเตน… อุเณฺหน… ชิฆจฺฉาย… ปิปาสาย… ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผเสฺสหิ ผุโฎฺฐ ปเรโต สโมหิโต สมนฺนาคโต น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชตีติฯ เอวมฺปิ, อสตา จ น โสจติฯ

    Atha vā asantāya 69 dukkhāya vedanāya phuṭṭho pareto samohito samannāgato na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjati. Cakkhurogena phuṭṭho pareto samohito samannāgato na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjati, sotarogena… ghānarogena… jivhārogena… kāyarogena… sīsarogena… kaṇṇarogena… mukharogena… dantarogena… kāsena… sāsena… pināsena… ḍāhena… jarena… kucchirogena… mucchāya… pakkhandikāya… sūlena… visūcikāya… kuṭṭhena… gaṇḍena… kilāsena… sosena… apamārena… dadduyā… kaṇḍuyā… kacchuyā… rakhasāya … vitacchikāya… lohitena… pittena… madhumehena… aṃsāya… piḷakāya… bhagandalena 70 … pittasamuṭṭhānena ābādhena… semhasamuṭṭhānena ābādhena… vātasamuṭṭhānena ābādhena… sannipātikena ābādhena… utupariṇāmajena ābādhena… visamaparihārajena ābādhena… opakkamikena ābādhena… kammavipākajena ābādhena… sītena… uṇhena… jighacchāya… pipāsāya… ḍaṃsamakasavātātapasarīsapasamphassehi phuṭṭho pareto samohito samannāgato na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjatīti. Evampi, asatā ca na socati.

    อถ วา อสเนฺต อสํวิชฺชมาเน อนุปลพฺภมาเน 71 – ‘‘อโห วต เม ตํ นตฺถิ, สิยา วต เม ตํ, ตํ วตาหํ น จ ลภามี’’ติ น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชตีติฯ เอวมฺปิ อสตา จ น โสจติฯ ธเมฺมสุ จ น คจฺฉตีติ น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, น ราควเสน คจฺฉติ, น โทสวเสน คจฺฉติ, น โมหวเสน คจฺฉติ, น มานวเสน คจฺฉติ, น ทิฎฺฐิวเสน คจฺฉติ, น อุทฺธจฺจวเสน คจฺฉติ, น วิจิกิจฺฉาวเสน คจฺฉติ, น อนุสยวเสน คจฺฉติ น จ วเคฺคหิ ธเมฺมหิ ยายติ นียติ วุยฺหติ สํหรียตีติ – ธเมฺมสุ จ น คจฺฉติฯ

    Atha vā asante asaṃvijjamāne anupalabbhamāne 72 – ‘‘aho vata me taṃ natthi, siyā vata me taṃ, taṃ vatāhaṃ na ca labhāmī’’ti na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjatīti. Evampi asatā ca na socati. Dhammesuca na gacchatīti na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, na rāgavasena gacchati, na dosavasena gacchati, na mohavasena gacchati, na mānavasena gacchati, na diṭṭhivasena gacchati, na uddhaccavasena gacchati, na vicikicchāvasena gacchati, na anusayavasena gacchati na ca vaggehi dhammehi yāyati nīyati vuyhati saṃharīyatīti – dhammesu ca na gacchati.

    ส เว สโนฺตติ วุจฺจตีติฯ โส สโนฺต อุปสโนฺต วูปสโนฺต นิพฺพุโต ปฎิปสฺสโทฺธติ วุจฺจติ ปวุจฺจติ กถียติ ภณียติ ทีปียติ โวหรียตีติ – ส เว สโนฺตติ วุจฺจติฯ

    Sa ve santoti vuccatīti. So santo upasanto vūpasanto nibbuto paṭipassaddhoti vuccati pavuccati kathīyati bhaṇīyati dīpīyati voharīyatīti – sa ve santoti vuccati.

    เตนาห ภควา –

    Tenāha bhagavā –

    ‘‘ยสฺส โลเก สกํ นตฺถิ, อสตา จ น โสจติ;

    ‘‘Yassa loke sakaṃ natthi, asatā ca na socati;

    ธเมฺมสุ จ น คจฺฉติ, ส เว สโนฺตติ วุจฺจตี’’ติฯ

    Dhammesu ca na gacchati, sa ve santoti vuccatī’’ti.

    ปุราเภทสุตฺตนิเทฺทโส ทสโมฯ

    Purābhedasuttaniddeso dasamo.







    Footnotes:
    1. จกฺขุํ (สี. ก.)
    2. cakkhuṃ (sī. ka.)
    3. อสฺสุโรโป (สี. ก.)
    4. assuropo (sī. ka.)
    5. กิญฺจิ (ก.)
    6. ผรุสวาจนิจฺฉารโณ (สฺยา.)
    7. ชีวิตปนาสโน (สฺยา.)
    8. kiñci (ka.)
    9. pharusavācanicchāraṇo (syā.)
    10. jīvitapanāsano (syā.)
    11. อฎฺฐปนา (สี.)
    12. aṭṭhapanā (sī.)
    13. โกรญฺชิกโกรญฺชิโก (สี.)
    14. korañjikakorañjiko (sī.)
    15. อจิตฺติการกโต (สฺยา. ก.)
    16. acittikārakato (syā. ka.)
    17. นหายติ (สี.)
    18. nahāyati (sī.)
    19. ปวิสถ (สี.) เอวมเญฺญสุ ปททฺวเยสุปิ
    20. pavisatha (sī.) evamaññesu padadvayesupi
    21. มิจฺฉาทิฎฺฐี (สี.)
    22. micchādiṭṭhī (sī.)
    23. เภโท (ก.)
    24. bhedo (ka.)
    25. เภทาธิปฺปาโย (พหูสุ)
    26. อผาสุํ (สี.)
    27. bhedādhippāyo (bahūsu)
    28. aphāsuṃ (sī.)
    29. ปสวติ (สฺยา.)
    30. น ปสวติ (สฺยา.)
    31. pasavati (syā.)
    32. na pasavati (syā.)
    33. ปริปุจฺฉิตํ (สี.), ปริปุจฺฉโก (สฺยา.)
    34. paripucchitaṃ (sī.), paripucchako (syā.)
    35. พฺรหฺมุโน วา…เป.… (สี. ก.)
    36. brahmuno vā…pe… (sī. ka.)
    37. รเส จ (สี. สฺยา.)
    38. rase ca (sī. syā.)
    39. อปฺปิจฺฉํเยว (สี.)
    40. อิทมตฺถิกตเญฺญว (สี.)
    41. appicchaṃyeva (sī.)
    42. idamatthikataññeva (sī.)
    43. ลปิลํ (สี.), ลมฺพิลํ (สฺยา.), ลพิลํ (ก.), อายตนวิภเงฺค
    44. lapilaṃ (sī.), lambilaṃ (syā.), labilaṃ (ka.), āyatanavibhaṅge
    45. นาภิหสติ (สี. สฺยา.)
    46. อปฺปติฎฺฐีน จิโตฺต (สฺยา.), อปฺปติฎฺฐนจิโตฺต (ก.)
    47. อาทินมนโส (สฺยา.)
    48. nābhihasati (sī. syā.)
    49. appatiṭṭhīna citto (syā.), appatiṭṭhanacitto (ka.)
    50. ādinamanaso (syā.)
    51. โทสนีเย (พหูสุ)
    52. dosanīye (bahūsu)
    53. อาชานิยาว (สฺยา.)
    54. ājāniyāva (syā.)
    55. วิภาวิตานิ (สี.)
    56. อชฺฌตฺตพหิทฺธา จ (สี.), อชฺฌตฺตญฺจ พหิทฺธา จ (สฺยา. ก.) สุ. นิ. ๕๒๑
    57. vibhāvitāni (sī.)
    58. ajjhattabahiddhā ca (sī.), ajjhattañca bahiddhā ca (syā. ka.) su. ni. 521
    59. นิพฺพิชฺฌิมํ (สฺยา.), นิพฺพิชฺช อิมํ (ก.)
    60. nibbijjhimaṃ (syā.), nibbijja imaṃ (ka.)
    61. นิสฺสยนา (ก.)
    62. nissayanā (ka.)
    63. มุขุโลฺลกกาติ (สี.)
    64. คติโย (สฺยา.)
    65. mukhullokakāti (sī.)
    66. gatiyo (syā.)
    67. อสตาย (สี.), อสาตาย (สฺยา.)
    68. ภคนฺทลาย (สี. สฺยา.)
    69. asatāya (sī.), asātāya (syā.)
    70. bhagandalāya (sī. syā.)
    71. อนุปลพฺภิยมาเน (สฺยา. ก.)
    72. anupalabbhiyamāne (syā. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / มหานิเทฺทส-อฎฺฐกถา • Mahāniddesa-aṭṭhakathā / ๑๐. ปุราเภทสุตฺตนิเทฺทสวณฺณนา • 10. Purābhedasuttaniddesavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact