Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi |
๙. ราธเตฺถรอปทานํ
9. Rādhattheraapadānaṃ
๒๙๖.
296.
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพโลกวิทู มุนิ;
‘‘Padumuttaro nāma jino, sabbalokavidū muni;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ จกฺขุมาฯ
Ito satasahassamhi, kappe uppajji cakkhumā.
๒๙๗.
297.
‘‘โอวาทโก วิญฺญาปโก, ตารโก สพฺพปาณินํ;
‘‘Ovādako viññāpako, tārako sabbapāṇinaṃ;
เทสนากุสโล พุโทฺธ, ตาเรสิ ชนตํ พหุํฯ
Desanākusalo buddho, tāresi janataṃ bahuṃ.
๒๙๘.
298.
‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, หิเตสี สพฺพปาณินํ;
‘‘Anukampako kāruṇiko, hitesī sabbapāṇinaṃ;
สมฺปเตฺต ติตฺถิเย สเพฺพ, ปญฺจสีเล ปติฎฺฐปิฯ
Sampatte titthiye sabbe, pañcasīle patiṭṭhapi.
๒๙๙.
299.
‘‘เอวํ นิรากุลํ อาสิ, สุญฺญตํ ติตฺถิเยหิ จ;
‘‘Evaṃ nirākulaṃ āsi, suññataṃ titthiyehi ca;
วิจิตฺตํ อรหเนฺตหิ, วสีภูเตหิ ตาทิภิฯ
Vicittaṃ arahantehi, vasībhūtehi tādibhi.
๓๐๐.
300.
‘‘รตนานฎฺฐปญฺญาสํ, อุคฺคโต โส มหามุนิ;
‘‘Ratanānaṭṭhapaññāsaṃ, uggato so mahāmuni;
กญฺจนคฺฆิยสงฺกาโส, พาตฺติํสวรลกฺขโณฯ
Kañcanagghiyasaṅkāso, bāttiṃsavaralakkhaṇo.
๓๐๑.
301.
‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;
‘‘Vassasatasahassāni, āyu vijjati tāvade;
ตาวตา ติฎฺฐมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํฯ
Tāvatā tiṭṭhamāno so, tāresi janataṃ bahuṃ.
๓๐๒.
302.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, พฺราหฺมโณ มนฺตปารคู;
‘‘Tadāhaṃ haṃsavatiyaṃ, brāhmaṇo mantapāragū;
อุเปจฺจ ตํ นรวรํ, อโสฺสสิํ ธมฺมเทสนํฯ
Upecca taṃ naravaraṃ, assosiṃ dhammadesanaṃ.
๓๐๓.
303.
‘‘ปญฺญเปนฺตํ มหาวีรํ, ปริสาสุ วิสารทํ;
‘‘Paññapentaṃ mahāvīraṃ, parisāsu visāradaṃ;
ปฎิภาเนยฺยกํ ภิกฺขุํ, เอตทเคฺค วินายกํฯ
Paṭibhāneyyakaṃ bhikkhuṃ, etadagge vināyakaṃ.
๓๐๔.
304.
‘‘ตทาหํ การํ กตฺวาน, สสเงฺฆ โลกนายเก;
‘‘Tadāhaṃ kāraṃ katvāna, sasaṅghe lokanāyake;
นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ตํ ฐานํ อภิปตฺถยิํฯ
Nipacca sirasā pāde, taṃ ṭhānaṃ abhipatthayiṃ.
๓๐๕.
305.
‘‘ตโต มํ ภควา อาห, สิงฺคีนิกฺขสมปฺปโภ;
‘‘Tato maṃ bhagavā āha, siṅgīnikkhasamappabho;
สเรน รชนีเยน, กิเลสมลหารินาฯ
Sarena rajanīyena, kilesamalahārinā.
๓๐๖.
306.
‘‘‘สุขี ภวสฺสุ ทีฆายุ, สิชฺฌตุ ปณิธี ตว;
‘‘‘Sukhī bhavassu dīghāyu, sijjhatu paṇidhī tava;
สสเงฺฆ เม กตํ การํ, อตีว วิปุลํ ตยาฯ
Sasaṅghe me kataṃ kāraṃ, atīva vipulaṃ tayā.
๓๐๗.
307.
‘‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
‘‘‘Satasahassito kappe, okkākakulasambhavo;
โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ
Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.
๓๐๘.
308.
‘‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;
‘‘‘Tassa dhammesu dāyādo, oraso dhammanimmito;
ราโธติ นามเธเยฺยน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโกฯ
Rādhoti nāmadheyyena, hessati satthu sāvako.
๓๐๙.
309.
ปฎิภาเนยฺยกานคฺคํ, ปญฺญเปสฺสติ นายโก’ฯ
Paṭibhāneyyakānaggaṃ, paññapessati nāyako’.
๓๑๐.
310.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิโต หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
‘‘Taṃ sutvā mudito hutvā, yāvajīvaṃ tadā jinaṃ;
เมตฺตจิโตฺต ปริจริํ, สโต ปญฺญาสมาหิโตฯ
Mettacitto paricariṃ, sato paññāsamāhito.
๓๑๑.
311.
‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ
Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.
๓๑๒.
312.
‘‘สตานํ ตีณิกฺขตฺตุญฺจ, เทวรชฺชมการยิํ;
‘‘Satānaṃ tīṇikkhattuñca, devarajjamakārayiṃ;
สตานํ ปญฺจกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํฯ
Satānaṃ pañcakkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ.
๓๑๓.
313.
‘‘ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;
‘‘Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ;
สพฺพตฺถ สุขิโต อาสิํ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสาฯ
Sabbattha sukhito āsiṃ, tassa kammassa vāhasā.
๓๑๔.
314.
‘‘ปจฺฉิเม ภเว สมฺปเตฺต, คิริพฺพชปุรุตฺตเม;
‘‘Pacchime bhave sampatte, giribbajapuruttame;
ชาโต วิปฺปกุเล นิเทฺธ, วิกลจฺฉาทนาสเนฯ
Jāto vippakule niddhe, vikalacchādanāsane.
๓๑๕.
315.
‘‘กฎจฺฉุภิกฺขํ ปาทาสิํ, สาริปุตฺตสฺส ตาทิโน;
‘‘Kaṭacchubhikkhaṃ pādāsiṃ, sāriputtassa tādino;
ยทา ชิโณฺณ จ วุโทฺธ จ, ตทารามมุปาคมิํฯ
Yadā jiṇṇo ca vuddho ca, tadārāmamupāgamiṃ.
๓๑๖.
316.
๓๑๗.
317.
‘กิมตฺถํ ปุตฺตโสกโฎฺฎ, พฺรูหิ เต จิตฺตชํ รุชํ’ฯ
‘Kimatthaṃ puttasokaṭṭo, brūhi te cittajaṃ rujaṃ’.
๓๑๘.
318.
‘‘‘ปพฺพชฺชํ น ลเภ วีร, สฺวากฺขาเต ตว สาสเน;
‘‘‘Pabbajjaṃ na labhe vīra, svākkhāte tava sāsane;
เตน โสเกน ทีโนสฺมิ, สรณํ โหหิ นายก’ฯ
Tena sokena dīnosmi, saraṇaṃ hohi nāyaka’.
๓๑๙.
319.
‘‘ตทา ภิกฺขู สมาเนตฺวา, อปุจฺฉิ มุนิสตฺตโม;
‘‘Tadā bhikkhū samānetvā, apucchi munisattamo;
‘อิมสฺส อธิการํ เย, สรนฺติ พฺยาหรนฺตุ เต’ฯ
‘Imassa adhikāraṃ ye, saranti byāharantu te’.
๓๒๐.
320.
‘‘สาริปุโตฺต ตทาโวจ, ‘การมสฺส สรามหํ;
‘‘Sāriputto tadāvoca, ‘kāramassa sarāmahaṃ;
กฎจฺฉุภิกฺขํ ทาเปสิ, ปิณฺฑาย จรโต มม’ฯ
Kaṭacchubhikkhaṃ dāpesi, piṇḍāya carato mama’.
๓๒๑.
321.
‘‘‘สาธุ สาธุ กตญฺญูสิ, สาริปุตฺต อิมํ ตุวํ;
‘‘‘Sādhu sādhu kataññūsi, sāriputta imaṃ tuvaṃ;
ปพฺพาเชหิ ทิชํ วุฑฺฒํ, เหสฺสตาชานิโย อยํ’ฯ
Pabbājehi dijaṃ vuḍḍhaṃ, hessatājāniyo ayaṃ’.
๓๒๒.
322.
‘‘ตโต อลตฺถํ ปพฺพชฺชํ, กมฺมวาโจปสมฺปทํ;
‘‘Tato alatthaṃ pabbajjaṃ, kammavācopasampadaṃ;
น จิเรเนว กาเลน, ปาปุณิํ อาสวกฺขยํฯ
Na cireneva kālena, pāpuṇiṃ āsavakkhayaṃ.
๓๒๓.
323.
‘‘สกฺกจฺจํ มุนิโน วากฺยํ, สุณามิ มุทิโต ยโต;
‘‘Sakkaccaṃ munino vākyaṃ, suṇāmi mudito yato;
ปฎิภาเนยฺยกานคฺคํ, ตโต มํ ฐปยี ชิโนฯ
Paṭibhāneyyakānaggaṃ, tato maṃ ṭhapayī jino.
๓๒๔.
324.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… วิหรามิ อนาสโวฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… viharāmi anāsavo.
๓๒๕.
325.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
๓๒๖.
326.
‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ
‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ราโธ เถโร อิมา คาถาโย
Itthaṃ sudaṃ āyasmā rādho thero imā gāthāyo
อภาสิตฺถาติฯ
Abhāsitthāti.
ราธเตฺถรสฺสาปทานํ นวมํฯ
Rādhattherassāpadānaṃ navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā / ๙. ราธเตฺถรอปทานวณฺณนา • 9. Rādhattheraapadānavaṇṇanā