Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā |
๖. ราหุลเตฺถรอปทานวณฺณนา
6. Rāhulattheraapadānavaṇṇanā
ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิกํ อายสฺมโต ราหุลเตฺถรสฺส อปทานํฯ อยมฺปิ อายสฺมา ปุริมชินวเรสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพโตฺต วิญฺญุตํ ปตฺวา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุณโนฺต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ สิกฺขากามานํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ ฐานนฺตรํ ปเตฺถโนฺต เสนาสนวิโสธนวิโชฺชตนาทิกํ อุฬารํ ปุญฺญํ กตฺวา ปณิธานํ อกาสิฯ โส ตโต จวิตฺวา เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อุภยสมฺปตฺติโย อนุภวิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท อมฺหากํ โพธิสตฺตํ ปฎิจฺจ ยโสธราย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา ราหุโลติ ลทฺธนาโม มหตา ขตฺติยปริวาเรน วฑฺฒิฯ ตสฺส ปพฺพชฺชาวิธานํ ขนฺธเก (มหาว. ๑๐๕) อาคตเมวฯ โส ปพฺพชิตฺวา สตฺถุ สนฺติเก อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ สุลโทฺธวาโท ปริปกฺกญาโณ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อรหา ปน หุตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –
Padumuttarassabhagavatotiādikaṃ āyasmato rāhulattherassa apadānaṃ. Ayampi āyasmā purimajinavaresu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayāni puññāni upacinanto padumuttarassa bhagavato kāle kulagehe nibbatto viññutaṃ patvā satthu dhammadesanaṃ suṇanto satthāraṃ ekaṃ bhikkhuṃ sikkhākāmānaṃ aggaṭṭhāne ṭhapentaṃ disvā sayampi taṃ ṭhānantaraṃ patthento senāsanavisodhanavijjotanādikaṃ uḷāraṃ puññaṃ katvā paṇidhānaṃ akāsi. So tato cavitvā devamanussesu saṃsaranto ubhayasampattiyo anubhavitvā imasmiṃ buddhuppāde amhākaṃ bodhisattaṃ paṭicca yasodharāya deviyā kucchimhi nibbattitvā rāhuloti laddhanāmo mahatā khattiyaparivārena vaḍḍhi. Tassa pabbajjāvidhānaṃ khandhake (mahāva. 105) āgatameva. So pabbajitvā satthu santike anekehi suttapadehi suladdhovādo paripakkañāṇo vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Arahā pana hutvā attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā aññaṃ byākaronto –
‘‘อุภเยเนว สมฺปโนฺน, ราหุลภโทฺทติ มํ วิทู;
‘‘Ubhayeneva sampanno, rāhulabhaddoti maṃ vidū;
ยญฺจมฺหิ ปุโตฺต พุทฺธสฺส, ยญฺจ ธเมฺมสุ จกฺขุมาฯ
Yañcamhi putto buddhassa, yañca dhammesu cakkhumā.
‘‘ยญฺจ เม อาสวา ขีณา, ยญฺจ นตฺถิ ปุนพฺภโว;
‘‘Yañca me āsavā khīṇā, yañca natthi punabbhavo;
อรหา ทกฺขิเณโยฺยมฺหิ, เตวิโชฺช อมตทฺทโสฯ
Arahā dakkhiṇeyyomhi, tevijjo amataddaso.
‘‘กามนฺธา ชาลปจฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;
‘‘Kāmandhā jālapacchannā, taṇhāchadanachāditā;
ปมตฺตพนฺธุนา พนฺธา, มจฺฉาว กุมินา มุเขฯ
Pamattabandhunā bandhā, macchāva kuminā mukhe.
‘‘ตํ กามํ อหมุชฺฌิตฺวา, เฉตฺวา มารสฺส พนฺธนํ;
‘‘Taṃ kāmaṃ ahamujjhitvā, chetvā mārassa bandhanaṃ;
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต’’ติฯ (เถรคา. ๒๙๕-๒๙๘);
Samūlaṃ taṇhamabbuyha, sītibhūtosmi nibbuto’’ti. (theragā. 295-298);
จตโสฺส คาถา อภาสิฯ ตตฺถ อุภเยเนว สมฺปโนฺนติ ชาติสมฺปทา ปฎิปตฺติสมฺปทาติ อุภยสมฺปตฺติยาปิ สมฺปโนฺน สมนฺนาคโตฯ ราหุลภโทฺทติ มํ วิทูติ ‘‘ราหุลภโทฺท’’ติ มํ สพฺรหฺมจาริโน สญฺชานนฺติฯ ตสฺส หิ ชาตสาสนํ สุตฺวา โพธิสเตฺตน, ‘‘ราหุ, ชาโต, พนฺธนํ ชาต’’นฺติ วุตฺตวจนํ อุปาทาย สุโทฺธทนมหาราชา ‘‘ราหุโล’’ติ นามํ คณฺหิฯ ตตฺถ อาทิโต ปิตรา วุตฺตปริยายเมว คเหตฺวา อาห – ‘‘ราหุลภโทฺทติ มํ วิทู’’ติฯ ภโทฺทติ ปสํสาวจนเมวฯ อปรภาเค สตฺถา ตํ สิกฺขากามภาเวน อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิ ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สิกฺขากามานํ ยทิทํ ราหุโล’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๐๙)ฯ
Catasso gāthā abhāsi. Tattha ubhayeneva sampannoti jātisampadā paṭipattisampadāti ubhayasampattiyāpi sampanno samannāgato. Rāhulabhaddoti maṃ vidūti ‘‘rāhulabhaddo’’ti maṃ sabrahmacārino sañjānanti. Tassa hi jātasāsanaṃ sutvā bodhisattena, ‘‘rāhu, jāto, bandhanaṃ jāta’’nti vuttavacanaṃ upādāya suddhodanamahārājā ‘‘rāhulo’’ti nāmaṃ gaṇhi. Tattha ādito pitarā vuttapariyāyameva gahetvā āha – ‘‘rāhulabhaddoti maṃ vidū’’ti. Bhaddoti pasaṃsāvacanameva. Aparabhāge satthā taṃ sikkhākāmabhāvena aggaṭṭhāne ṭhapesi ‘‘etadaggaṃ, bhikkhave, mama sāvakānaṃ bhikkhūnaṃ sikkhākāmānaṃ yadidaṃ rāhulo’’ti (a. ni. 1.209).
๖๘. เอวํ โส ปตฺตเอตทคฺคฎฺฐาโน อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ สริตฺวา โสมนสฺสชาโต ปุพฺพจริตาปทานํ ปกาเสโนฺต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโตติอาทิมาหฯ สตฺตภูมิมฺหิ ปาสาเทติ ปสาทํ โสมนสฺสํ ชเนตีติ ปาสาโทฯ อุปรูปริ ฐิตา สตฺต ภูมิโย ยสฺมิํ ปาสาเท โสยํ สตฺตภูมิ, ตสฺมิํ สตฺตภูมิมฺหิ ปาสาเทฯ อาทาสํ สนฺถริํ อหนฺติ อาทาสตลํ นิปฺผาเทตฺวา โลกเชฎฺฐสฺส ภควโต ตาทิโน อหํ สนฺถรํ อทาสิํ, สนฺถริตฺวา ปูเชสินฺติ อโตฺถฯ
68. Evaṃ so pattaetadaggaṭṭhāno attano pubbakammaṃ saritvā somanassajāto pubbacaritāpadānaṃ pakāsento padumuttarassa bhagavatotiādimāha. Sattabhūmimhi pāsādeti pasādaṃ somanassaṃ janetīti pāsādo. Uparūpari ṭhitā satta bhūmiyo yasmiṃ pāsāde soyaṃ sattabhūmi, tasmiṃ sattabhūmimhi pāsāde. Ādāsaṃ santhariṃ ahanti ādāsatalaṃ nipphādetvā lokajeṭṭhassa bhagavato tādino ahaṃ santharaṃ adāsiṃ, santharitvā pūjesinti attho.
๖๙. ขีณาสวสหเสฺสหีติ อรหนฺตสหเสฺสหิ ปริกิโณฺณ ปริวุโตฯ ทฺวิปทิโนฺท ทฺวิปทานํ อิโนฺท สามิ นราสโภ มหามุนิ คนฺธกุฎิํ เตหิ สห อุปาคมิ ปาวิสีติ อโตฺถฯ
69.Khīṇāsavasahassehīti arahantasahassehi parikiṇṇo parivuto. Dvipadindo dvipadānaṃ indo sāmi narāsabho mahāmuni gandhakuṭiṃ tehi saha upāgami pāvisīti attho.
๗๐. วิโรเจโนฺต คนฺธกุฎินฺติ ตํ คนฺธกุฎิํ โสภยมาโน เทวานํ เทโว เทวเทโว นรานํ อาสโภ นราสโภ เชโฎฺฐ สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆมเชฺฌ นิสีทิตฺวา อิมา พฺยากรณคาถาโย อภาสถ กเถสีติ สมฺพโนฺธฯ
70.Virocento gandhakuṭinti taṃ gandhakuṭiṃ sobhayamāno devānaṃ devo devadevo narānaṃ āsabho narāsabho jeṭṭho satthā bhikkhusaṅghamajjhe nisīditvā imā byākaraṇagāthāyo abhāsatha kathesīti sambandho.
๗๑. เยนายํ โชติตา เสยฺยาติ เยน อุปาสเกน อยํ ปาสาทสงฺขาตา เสยฺยา โชติตา ปภาสิตา ปชฺชลิตาฯ อาทาโสว กํสโลหมยํ อาทาสตลํ อิว สุฎฺฐุ สมํ กตฺวา สนฺถตาฯ ตํ อุปาสกํ กิตฺตยิสฺสามิ ปากฎํ กริสฺสามีติ อโตฺถฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
71.Yenāyaṃ jotitā seyyāti yena upāsakena ayaṃ pāsādasaṅkhātā seyyā jotitā pabhāsitā pajjalitā. Ādāsova kaṃsalohamayaṃ ādāsatalaṃ iva suṭṭhu samaṃ katvā santhatā. Taṃ upāsakaṃ kittayissāmi pākaṭaṃ karissāmīti attho. Sesaṃ suviññeyyameva.
๘๑. อฎฺฐานเมตํ ยํ ตาทีติ ยํ เยน การเณน ตาที อิฎฺฐานิเฎฺฐสุ อกมฺปิยสภาวตฺตา ตาที อคาเร ฆราวาเส รติํ อลฺลีนภาวํ อชฺฌคา ปาปุณิ, เอตํ การณํ อฎฺฐานํ อการณนฺติ อโตฺถฯ
81.Aṭṭhānametaṃ yaṃ tādīti yaṃ yena kāraṇena tādī iṭṭhāniṭṭhesu akampiyasabhāvattā tādī agāre gharāvāse ratiṃ allīnabhāvaṃ ajjhagā pāpuṇi, etaṃ kāraṇaṃ aṭṭhānaṃ akāraṇanti attho.
๘๒. นิกฺขมิตฺวา อคารสฺมาติ ฆราวาสโต นิกฺขมิตฺวา ตํ ติณทลมิว ปริจฺจชิตฺวา สุพฺพโต สุสิกฺขิโต ปพฺพชิสฺสติฯ ราหุโล นาม นาเมนาติ สุโทฺธทนมหาราเชน เปสิตํ กุมารสฺส ชาตสาสนํ สุตฺวา ปิตรา สิทฺธเตฺถน, ‘‘ราหุ ชาโต, พนฺธนํ ชาต’’นฺติ วุตฺตนามตฺตา ราหุโล นามาติ อโตฺถฯ ‘‘ยถา จนฺทสูริยานํ วิมานปภาย กิลิฎฺฐกรเณน ราหุ อสุริโนฺท อุเปติ คจฺฉติ, เอวเมวายํ มม อภินิกฺขมนปพฺพชฺชาทีนํ อนฺตรายํ กโรโนฺตริว ชาโต’’ติ อธิปฺปาเยน, ‘‘ราหุ ชาโตติ อาหา’’ติ ทฎฺฐพฺพํฯ อรหา โส ภวิสฺสตีติ โส ตาทิโส อุปนิสฺสยสมฺปโนฺน วิปสฺสนายํ ยุตฺตปฺปยุโตฺต อรหา ขีณาสโว ภวิสฺสตีติ อโตฺถฯ
82.Nikkhamitvāagārasmāti gharāvāsato nikkhamitvā taṃ tiṇadalamiva pariccajitvā subbato susikkhito pabbajissati. Rāhulo nāmanāmenāti suddhodanamahārājena pesitaṃ kumārassa jātasāsanaṃ sutvā pitarā siddhatthena, ‘‘rāhu jāto, bandhanaṃ jāta’’nti vuttanāmattā rāhulo nāmāti attho. ‘‘Yathā candasūriyānaṃ vimānapabhāya kiliṭṭhakaraṇena rāhu asurindo upeti gacchati, evamevāyaṃ mama abhinikkhamanapabbajjādīnaṃ antarāyaṃ karontoriva jāto’’ti adhippāyena, ‘‘rāhu jātoti āhā’’ti daṭṭhabbaṃ. Arahā so bhavissatīti so tādiso upanissayasampanno vipassanāyaṃ yuttappayutto arahā khīṇāsavo bhavissatīti attho.
๘๓. กิกีว อณฺฑํ รเกฺขยฺยาติ อณฺฑํ พีชํ รกฺขมานา กิกี สกุณี อิว อปฺปมโตฺต สีลํ รเกฺขยฺย, จามรี วิย วาลธินฺติ วาลํ รกฺขมานา กณฺฑเกสุ วาเล ลคฺคเนฺต ภินฺทนภเยน อนากฑฺฒิตฺวา มรมานา จามรี วิย ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา สีลํ อภินฺทิตฺวา รเกฺขยฺยฯ นิปโก สีลสมฺปโนฺนติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปญฺญา, เตน เนปเกฺกน สมนฺนาคโต นิปโก ขณฺฑฉิทฺทาทิภาวํ อปาเปตฺวา รกฺขณโต สีลสมฺปโนฺน ภวิสฺสตีติ เอวํ โส ภควา พฺยากรณมกาสิฯ โส เอวํ ปตฺตอรหตฺตผโล เอกทิวสํ วิเวกฎฺฐาเน นิสิโนฺน โสมนสฺสวเสน เอวํ รกฺขิํ มหามุนีติอาทิมาหฯ ตํ สุวิเญฺญยฺยเมวาติฯ
83.Kikīva aṇḍaṃ rakkheyyāti aṇḍaṃ bījaṃ rakkhamānā kikī sakuṇī iva appamatto sīlaṃ rakkheyya, cāmarī viya vāladhinti vālaṃ rakkhamānā kaṇḍakesu vāle laggante bhindanabhayena anākaḍḍhitvā maramānā cāmarī viya jīvitampi pariccajitvā sīlaṃ abhinditvā rakkheyya. Nipako sīlasampannoti nepakkaṃ vuccati paññā, tena nepakkena samannāgato nipako khaṇḍachiddādibhāvaṃ apāpetvā rakkhaṇato sīlasampanno bhavissatīti evaṃ so bhagavā byākaraṇamakāsi. So evaṃ pattaarahattaphalo ekadivasaṃ vivekaṭṭhāne nisinno somanassavasena evaṃ rakkhiṃ mahāmunītiādimāha. Taṃ suviññeyyamevāti.
ราหุลเตฺถรอปทานวณฺณนา สมตฺตาฯ
Rāhulattheraapadānavaṇṇanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi / ๖. ราหุลเตฺถรอปทานํ • 6. Rāhulattheraapadānaṃ