Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา
Rāhulavatthukathāvaṇṇanā
๑๐๕. โปกฺขรวสฺสนฺติ โปกฺขเร ปทุมคเจฺฉ วิย อเตมิตุกามานํ สรีรโต ปวฎฺฎนกวสฺสํฯ ตสฺมิํ กิร วสฺสเนฺต เตมิตุกามาว เตเมนฺติ, น อิตเรฯ ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คโต นาม นตฺถีติ อตฺตโน สนฺตเก รเชฺช สพฺพมฺปิ สาปเตยฺยํ สยเมว ปริภุญฺชิสฺสตีติ คารเวน สุโทฺธทนมหาราชาปิ น นิมเนฺตสิ, คนฺตฺวา ปน เคเห สกลรตฺติํ มหาทานเญฺจว พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส อาสนปญฺญตฺติฎฺฐานาลงฺการญฺจ สํวิทหโนฺตว วีตินาเมสิฯ
105.Pokkharavassanti pokkhare padumagacche viya atemitukāmānaṃ sarīrato pavaṭṭanakavassaṃ. Tasmiṃ kira vassante temitukāmāva tementi, na itare. ‘‘Bhikkhaṃ gaṇhathā’’ti vatvā gato nāma natthīti attano santake rajje sabbampi sāpateyyaṃ sayameva paribhuñjissatīti gāravena suddhodanamahārājāpi na nimantesi, gantvā pana gehe sakalarattiṃ mahādānañceva buddhappamukhassa saṅghassa āsanapaññattiṭṭhānālaṅkārañca saṃvidahantova vītināmesi.
น โกจิ…เป.… ปตฺตํ วา อคฺคเหสีติ ภควา อตฺตโน ปิตุ นิเวสนเมว คมิสฺสตีติสญฺญาย นคฺคเหสิฯ กุลนคเรติ ญาติกุลนฺตเก นคเรฯ ปิณฺฑจาริยวตฺตนฺติ อตฺตโน ญาติคาเมสุปิ สปทานจาริกวตฺตํฯ ภิกฺขาย จาโร จรณํ เอตสฺสาติ ภิกฺขาจาโร, ขตฺติโยฯ
Nakoci…pe… pattaṃ vā aggahesīti bhagavā attano pitu nivesanameva gamissatītisaññāya naggahesi. Kulanagareti ñātikulantake nagare. Piṇḍacāriyavattanti attano ñātigāmesupi sapadānacārikavattaṃ. Bhikkhāya cāro caraṇaṃ etassāti bhikkhācāro, khattiyo.
อุตฺติเฎฺฐติ อุตฺติฎฺฐิตฺวา ปเรสํ ฆรทฺวาเร อุทฺทิสฺส ฐตฺวา คเหตพฺพปิเณฺฑฯ นปฺปมเชฺชยฺยาติ นิมนฺตนาทิวเสน ลพฺภมานปณีตโภชนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑาย จรณวเสน ตตฺถ นปฺปมเชฺชยฺยฯ ธมฺมนฺติ อเนสนํ ปหาย สปทานํ จรโนฺต ตเมว ภิกฺขาจริยธมฺมํ สุจริตํ จเรยฺยฯ สุขํ เสตีติ จตูหิ อิริยาปเถหิ สุขํ วิหรตีติ อโตฺถฯ
Uttiṭṭheti uttiṭṭhitvā paresaṃ gharadvāre uddissa ṭhatvā gahetabbapiṇḍe. Nappamajjeyyāti nimantanādivasena labbhamānapaṇītabhojanaṃ paṭikkhipitvā piṇḍāya caraṇavasena tattha nappamajjeyya. Dhammanti anesanaṃ pahāya sapadānaṃ caranto tameva bhikkhācariyadhammaṃ sucaritaṃ careyya. Sukhaṃ setīti catūhi iriyāpathehi sukhaṃ viharatīti attho.
ทุติยคาถายํ น นํ ทุจฺจริตนฺติ เวสิยาทิเภเท อโคจเร จรณวเสน ตํ ยถาวุตฺตํ ธมฺมํ ทุจฺจริตํ น จ จเรฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ อิมํ ปน คาถํ สุตฺวาติ นิเวสเน นิสิเนฺนน ภควตา ญาติสมาคเม อตฺตโน ปิณฺฑาย จรณํ นิสฺสาย ปวตฺตาย คาถาย วุตฺตํ อิมํ ทุติยคาถํ สุตฺวาฯ
Dutiyagāthāyaṃ na naṃ duccaritanti vesiyādibhede agocare caraṇavasena taṃ yathāvuttaṃ dhammaṃ duccaritaṃ na ca care. Sesaṃ vuttanayameva. Imaṃ pana gāthaṃ sutvāti nivesane nisinnena bhagavatā ñātisamāgame attano piṇḍāya caraṇaṃ nissāya pavattāya gāthāya vuttaṃ imaṃ dutiyagāthaṃ sutvā.
ธมฺมปาลชาตกนฺติอาทีสุ ปน ตโต ปรกาเลสุปิ รโญฺญ ปวตฺติ ปรินิพฺพานํ ปาเปตฺวา ยถาปสงฺควเสน ทเสฺสตุํ วุตฺตาฯ เตนาห ‘‘โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกตฺวา’’ติอาทิฯ สิริคพฺภํ คนฺตฺวาติ เอตฺถ ยทิ หิ ภควา ตทเหว คนฺตฺวา น ปเสฺสยฺย, สา หทเยน ผลิเตน มเรยฺยาติ อคมาสีติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Dhammapālajātakantiādīsu pana tato parakālesupi rañño pavatti parinibbānaṃ pāpetvā yathāpasaṅgavasena dassetuṃ vuttā. Tenāha ‘‘sotāpattiphalaṃ sacchikatvā’’tiādi. Sirigabbhaṃ gantvāti ettha yadi hi bhagavā tadaheva gantvā na passeyya, sā hadayena phalitena mareyyāti agamāsīti daṭṭhabbaṃ.
ตํ ทิวสเมวาติ ตสฺมิํ ราหุลมาตุทสฺสนทิวเสเยวฯ ธมฺมปทฎฺฐกถายํ ปน ‘‘สตฺถา กปิลปุรํ คนฺตฺวา ตติยทิวเส นนฺทํ ปพฺพาเชสี’’ติ (ธ. ป. อฎฺฐ. ๑.๑๒ นนฺทเตฺถรวตฺถุ) วุตฺตํฯ เกสวิสฺสชฺชนนฺติ ราชโมฬิพนฺธนตฺถํ กุมารกาเล พนฺธิตสิขาเวณิโมจนํ, ตํ กิร กโรนฺตา มงฺคลํ กโรนฺติฯ สารตฺถทีปนิยํ ปน ‘‘เกสวิสฺสชฺชนนฺติ กุลมริยาทวเสน เกโสโรปน’’นฺติ (สารตฺถ. ฎี. มหาวคฺค ๓.๑๐๕) วุตฺตํฯ ปฎฺฎพโนฺธติ ‘‘อสุกราชา’’ติ นฬาเฎ สุวณฺณปฎฺฎพนฺธนํฯ อภินวปาสาทปฺปเวสมงฺคลํ ฆรมงฺคลํฯ ฉตฺตุสฺสาปเน มงฺคลํ ฉตฺตมงฺคลํฯ ชนปทกลฺยาณีติ ชนปทมฺหิ กลฺยาณี ปเรหิ อสาธารเณหิ ปญฺจกลฺยาณาทีหิ สหิตตฺตา สา เอวํ วุตฺตาฯ ตุวฎนฺติ สีฆํฯ อนิจฺฉมานนฺติ มนสา อโรเจนฺตํ, วาจาย ปน ภควตา ‘‘ปพฺพชิสฺสสิ นนฺทา’’ติ วุเตฺต คารเวน ปฎิกฺขิปิตุํ อวิสหโนฺต ‘‘อามา’’ติ อโวจฯ ภควา จ เอเตน เลเสน ปพฺพาเชสิฯ
Taṃ divasamevāti tasmiṃ rāhulamātudassanadivaseyeva. Dhammapadaṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘satthā kapilapuraṃ gantvā tatiyadivase nandaṃ pabbājesī’’ti (dha. pa. aṭṭha. 1.12 nandattheravatthu) vuttaṃ. Kesavissajjananti rājamoḷibandhanatthaṃ kumārakāle bandhitasikhāveṇimocanaṃ, taṃ kira karontā maṅgalaṃ karonti. Sāratthadīpaniyaṃ pana ‘‘kesavissajjananti kulamariyādavasena kesoropana’’nti (sārattha. ṭī. mahāvagga 3.105) vuttaṃ. Paṭṭabandhoti ‘‘asukarājā’’ti naḷāṭe suvaṇṇapaṭṭabandhanaṃ. Abhinavapāsādappavesamaṅgalaṃ gharamaṅgalaṃ. Chattussāpane maṅgalaṃ chattamaṅgalaṃ. Janapadakalyāṇīti janapadamhi kalyāṇī parehi asādhāraṇehi pañcakalyāṇādīhi sahitattā sā evaṃ vuttā. Tuvaṭanti sīghaṃ. Anicchamānanti manasā arocentaṃ, vācāya pana bhagavatā ‘‘pabbajissasi nandā’’ti vutte gāravena paṭikkhipituṃ avisahanto ‘‘āmā’’ti avoca. Bhagavā ca etena lesena pabbājesi.
พฺรหฺมรูปวณฺณนฺติ พฺรหฺมรูปสมานรูปํฯ ตฺยสฺสาติ เต อสฺสฯ นิวเตฺตตุํ น วิสหีติ ‘‘มา นํ นิวตฺตยิตฺถา’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา นาสกฺขิฯ สตฺตวิธํ อริยธนนฺติ –
Brahmarūpavaṇṇanti brahmarūpasamānarūpaṃ. Tyassāti te assa. Nivattetuṃ na visahīti ‘‘mā naṃ nivattayitthā’’ti bhagavatā vuttattā nāsakkhi. Sattavidhaṃ ariyadhananti –
‘‘สทฺธาธนํ สีลธนํ, หิริโอตฺตปฺปิยํ ธนํ;
‘‘Saddhādhanaṃ sīladhanaṃ, hiriottappiyaṃ dhanaṃ;
สุตธนญฺจ จาโค จ, ปญฺญา เว สตฺตมํ ธน’’นฺติฯ (อ. นิ. ๗.๕, ๖) –
Sutadhanañca cāgo ca, paññā ve sattamaṃ dhana’’nti. (a. ni. 7.5, 6) –
เอวํ วุตฺตํ สตฺตวิธํ อริยธนํฯ อธิมตฺตํ ราหุเลติ ราหุเล ปพฺพชิเต นนฺทปพฺพชฺชาย อุปฺปนฺนทุกฺขโตปิ อธิกตรํ ทุกฺขํ อโหสีติ อโตฺถฯ อิโต ปจฺฉาติ อิโต วุตฺตโสกุปฺปตฺติโต อปรทิวเสสุ อนาคามีนํ ญาติสิเนหปฎิฆจิตฺตุปฺปาทาภาวาฯ ปาฬิยํ ปุตฺตเปมนฺติอาทิ รญฺญา ปุตฺตสิเนหสฺส ติพฺพภาวํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ ปุตฺตสิเนโห หิ อตฺตนา สหชาตปีติเวคสมุฎฺฐิตานํ รูปธมฺมานํ สกลสรีรํ โขเภตฺวา ปวตฺตนวเสน ‘‘ฉวิํ…เป.… อฎฺฐิมิญฺชํ อาหจฺจ ติฎฺฐตี’’ติ วุโตฺตฯ อตฺตโน ปิยตราติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติฯ ปุเตฺตติ ราหุลํฯ สทฺทหเนฺตนาติ ตสฺส วจเนน อเวมติเกนาติ อโตฺถฯ วิมติยา สติ อาปตฺติ เอวฯ
Evaṃ vuttaṃ sattavidhaṃ ariyadhanaṃ. Adhimattaṃ rāhuleti rāhule pabbajite nandapabbajjāya uppannadukkhatopi adhikataraṃ dukkhaṃ ahosīti attho. Ito pacchāti ito vuttasokuppattito aparadivasesu anāgāmīnaṃ ñātisinehapaṭighacittuppādābhāvā. Pāḷiyaṃ puttapemantiādi raññā puttasinehassa tibbabhāvaṃ dassetuṃ vuttaṃ. Puttasineho hi attanā sahajātapītivegasamuṭṭhitānaṃ rūpadhammānaṃ sakalasarīraṃ khobhetvā pavattanavasena ‘‘chaviṃ…pe… aṭṭhimiñjaṃ āhacca tiṭṭhatī’’ti vutto. Attano piyatarāti bhagavantaṃ sandhāya vadati. Putteti rāhulaṃ. Saddahantenāti tassa vacanena avematikenāti attho. Vimatiyā sati āpatti eva.
ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Rāhulavatthukathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๔๑. ราหุลวตฺถุ • 41. Rāhulavatthu
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ราหุลวตฺถุกถา • Rāhulavatthukathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา • Rāhulavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ราหุลวตฺถุกถาวณฺณนา • Rāhulavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๔๑. ราหุลวตฺถุกถา • 41. Rāhulavatthukathā