Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๕. ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา
5. Rāhulovādasuttavaṇṇanā
๔๑๖. วิมุตฺติํ ปริปาเจนฺตีติ กิเลสานํ ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติภูตํ อรหตฺตํ สพฺพโส ปาเจนฺติ สาเธนฺติ นิพฺพาเปนฺตีติ วิมุตฺติปริปาจนียาฯ ธมฺมาติ การณธมฺมาฯ เตนาห – ‘‘วิสุทฺธิการณวเสนา’’ติ, อรหตฺตสงฺขาตาย วิสุทฺธิยา สมฺปาทนวเสนาติ อโตฺถฯ สทฺธินฺทฺริยาทโย วิสุชฺฌมานา มคฺคปฎิปาฎิยาว สพฺพโส อสฺสทฺธิยาทีหิ จิตฺตํ วิโมเจนฺตา อคฺคผลวิมุตฺติํ สมฺปาเทนฺติฯ เตสํ ปน วิสุทฺธิ พาลปริวชฺชเนน ปณฺฑิตปยิรุปาสเนน ปสาทาวหธมฺมปจฺจเวกฺขณาย จ โหติฯ ตโต อิธ ปนฺนรส ธมฺมา อธิเปฺปตาติ ทเสฺสโนฺต, ‘‘วุตฺตเญฺหต’’นฺติอาทิมาหฯ
416.Vimuttiṃparipācentīti kilesānaṃ paṭippassaddhivimuttibhūtaṃ arahattaṃ sabbaso pācenti sādhenti nibbāpentīti vimuttiparipācanīyā. Dhammāti kāraṇadhammā. Tenāha – ‘‘visuddhikāraṇavasenā’’ti, arahattasaṅkhātāya visuddhiyā sampādanavasenāti attho. Saddhindriyādayo visujjhamānā maggapaṭipāṭiyāva sabbaso assaddhiyādīhi cittaṃ vimocentā aggaphalavimuttiṃ sampādenti. Tesaṃ pana visuddhi bālaparivajjanena paṇḍitapayirupāsanena pasādāvahadhammapaccavekkhaṇāya ca hoti. Tato idha pannarasa dhammā adhippetāti dassento, ‘‘vuttañheta’’ntiādimāha.
ตตฺถ อสฺสเทฺธ ปุคฺคเลติ สทฺธารหิเต ปุคฺคเลฯ เต หิ นิสฺสาย น กทาจิ สทฺธา สมฺภวติ, เตสํ ปน ทิฎฺฐานุคติอาปชฺชเนน อญฺญทตฺถุ อสทฺธิยเมว วฑฺฒติ, ตสฺมา เต ปฎิภยมโคฺค วิย ทูรโต วเชฺชตพฺพาฯ อสฺสทฺธิยนฺติ จ สทฺธาย ปฎิปกฺขภูตา อสเทฺธยฺยวตฺถุสฺมิํ อธิมุจฺจนากาเรน ปวตฺตา สํกิเลสธมฺมา เวทิตพฺพาฯ สเทฺธ ปุคฺคเลติ สทฺธาสมฺปเนฺน ปุคฺคเลฯ เต หิ นิสฺสาย สเทฺธยฺยวตฺถุสฺมิํ อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนา ภิโยฺยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติฯ สเทฺธยฺยวตฺถูติ จ พุทฺธาทีนิ รตนานิ กมฺมกมฺมผลานิ จฯ เสวโตติ ลพฺภมานํ สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทตุํ วเฑฺฒตุญฺจ นิเสวโตฯ เสสปทานิ ตเสฺสว เววจนานิฯ อถ วา เสวโต อุปสงฺกมโตฯ ภชโต เตสํ ปฎิปตฺติยํ ภตฺติํ กุพฺพโตฯ ปยิรุปาสโตติ เตสํ โอวาทานุสาสนิกรณวเสน อุปฎฺฐหโตฯ ปสาทนียสุตฺตนฺตา นาม พุทฺธาทิคุณปฎิสํยุตฺตา ปสาทาวหา สมฺปสาทนียสุตฺตาทโยฯ เต หิ ปจฺจเวกฺขโต พุทฺธาทีสุ อนุปฺปนฺนา ปสนฺนา อุปชฺชติ, อุปฺปนฺนา ภิโยฺยภาวํ เวปุลฺลํ อาปชฺชติฯ อิเมหิ ตีหากาเรหีติ อิเมหิ ยถาวุเตฺตหิ ตีหิ การเณหิฯ ปฎิปกฺขทูรีภาวโต ปเจฺจกํ สูปหารโต จ อาเสวนํ ภาวนํ ลภนฺติฯ สทฺธินฺทฺริยํ วิสุชฺฌติ มคฺคผลาวหภาเวน อจฺฉติ วิสุทฺธิํ ปาปุณาติฯ อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Tattha assaddhe puggaleti saddhārahite puggale. Te hi nissāya na kadāci saddhā sambhavati, tesaṃ pana diṭṭhānugatiāpajjanena aññadatthu asaddhiyameva vaḍḍhati, tasmā te paṭibhayamaggo viya dūrato vajjetabbā. Assaddhiyanti ca saddhāya paṭipakkhabhūtā asaddheyyavatthusmiṃ adhimuccanākārena pavattā saṃkilesadhammā veditabbā. Saddhe puggaleti saddhāsampanne puggale. Te hi nissāya saddheyyavatthusmiṃ anuppannā uppajjati, uppannā bhiyyobhāvaṃ vepullaṃ āpajjati. Saddheyyavatthūti ca buddhādīni ratanāni kammakammaphalāni ca. Sevatoti labbhamānaṃ saddhāsampadaṃ uppādetuṃ vaḍḍhetuñca nisevato. Sesapadāni tasseva vevacanāni. Atha vā sevato upasaṅkamato. Bhajato tesaṃ paṭipattiyaṃ bhattiṃ kubbato. Payirupāsatoti tesaṃ ovādānusāsanikaraṇavasena upaṭṭhahato. Pasādanīyasuttantā nāma buddhādiguṇapaṭisaṃyuttā pasādāvahā sampasādanīyasuttādayo. Te hi paccavekkhato buddhādīsu anuppannā pasannā upajjati, uppannā bhiyyobhāvaṃ vepullaṃ āpajjati. Imehi tīhākārehīti imehi yathāvuttehi tīhi kāraṇehi. Paṭipakkhadūrībhāvato paccekaṃ sūpahārato ca āsevanaṃ bhāvanaṃ labhanti. Saddhindriyaṃ visujjhati maggaphalāvahabhāvena acchati visuddhiṃ pāpuṇāti. Iminā nayena sesapadesupi attho veditabbo.
อยํ ปน วิเสโส – กุสีเตติ อลเส สมฺมาปฎิปตฺติยํ นิกฺขิตฺตธุเรฯ อารทฺธวีริเยติ ปคฺคหิตวีริเย สมฺมาปฎิปเนฺนฯ สมฺมปฺปธาเนติ อนุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ อนุปฺปาทนาทิวเสน ปวเตฺต จตฺตาโร อุปายปฺปธาเนฯ ปจฺจเวกฺขโต ปฎิปตฺติํ อเวกฺขโตฯ เต หิ ปจฺจเวกฺขโต ลีนํ อภิภวิตฺวา สมฺมเทว อารมฺภธาตุอาทิ อนุปฺปนฺนานํ วิธินา สติสมฺปทาย อุปฺปาทาย ภิโยฺยภาวาย สํวตฺตติฯ อสมาหิเต ภนฺตมิคภนฺตโคณสปฺปฎิภาเค วิพฺภนฺตจิเตฺตฯ สมาหิเต อุปจารสมาธินา อปฺปนาสมาธินา จ สมฺมเทว สมาหิตจิเตฺตฯ ฌานวิโมเกฺขติ สวิตกฺกสวิจาราทิฌานานิ ปฐมาทิวิโมเกฺข จฯ เตสญฺหิ ปจฺจเวกฺขณา อุปรูปริ อจฺจนฺตเมว สมาธานาย สํวตฺตติฯ ทุปฺปเญฺญติ นิปฺปเญฺญ, อริยธมฺมสฺส อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนสมฺมสนาภาเวน สพฺพโส ปญฺญารหิเต จฯ ปญฺญวเนฺตติ วิปสฺสนาปญฺญาย เจว มคฺคปญฺญาย จ สมนฺนาคเตฯ คมฺภีรญาณจริยนฺติ คมฺภีรํ ขนฺธายตนธาตุสจฺจปฎิจฺจสมุปฺปาทาทิเภทํ ญาณสฺส จริตพฺพฎฺฐานํ, ยตฺถ วา คมฺภีรญาณสฺส จริยํ ปวตฺตติฯ ตตฺถ หิ ปจฺจเวกฺขณา สโมฺมหํ วิธมติ, อนุปฺปนฺนาย ปญฺญาย อุปฺปาทาย ภิโยฺยภาวาย สํวตฺตติฯ สุตฺตนฺตกฺขเนฺธติ สุตฺตสมูเหฯ
Ayaṃ pana viseso – kusīteti alase sammāpaṭipattiyaṃ nikkhittadhure. Āraddhavīriyeti paggahitavīriye sammāpaṭipanne. Sammappadhāneti anuppannānaṃ akusalānaṃ anuppādanādivasena pavatte cattāro upāyappadhāne. Paccavekkhato paṭipattiṃ avekkhato. Te hi paccavekkhato līnaṃ abhibhavitvā sammadeva ārambhadhātuādi anuppannānaṃ vidhinā satisampadāya uppādāya bhiyyobhāvāya saṃvattati. Asamāhite bhantamigabhantagoṇasappaṭibhāge vibbhantacitte. Samāhite upacārasamādhinā appanāsamādhinā ca sammadeva samāhitacitte. Jhānavimokkheti savitakkasavicārādijhānāni paṭhamādivimokkhe ca. Tesañhi paccavekkhaṇā uparūpari accantameva samādhānāya saṃvattati. Duppaññeti nippaññe, ariyadhammassa uggahaparipucchāsavanasammasanābhāvena sabbaso paññārahite ca. Paññavanteti vipassanāpaññāya ceva maggapaññāya ca samannāgate. Gambhīrañāṇacariyanti gambhīraṃ khandhāyatanadhātusaccapaṭiccasamuppādādibhedaṃ ñāṇassa caritabbaṭṭhānaṃ, yattha vā gambhīrañāṇassa cariyaṃ pavattati. Tattha hi paccavekkhaṇā sammohaṃ vidhamati, anuppannāya paññāya uppādāya bhiyyobhāvāya saṃvattati. Suttantakkhandheti suttasamūhe.
ปุเพฺพ สทฺธินฺทฺริยาทีนํ วิสุทฺธิการณานิ, ‘‘วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา’’ติ วุตฺตานีติ อิธ สทฺธาทิเก อเญฺญ จ ธเมฺม ทเสฺสโนฺต, ‘‘อปเรปี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สทฺธาทีนํ วิมุตฺติปริปาจนียตา ทสฺสิตา เอว, อนิจฺจสญฺญาทีนํ ปน วิมุตฺติปริปาจนียตาย วตฺตพฺพเมว นตฺถิ วิปสฺสนาภาวโตฯ เตนาห – ‘‘อิเม ปญฺจ นิเพฺพธภาคิยา สญฺญา’’ติฯ กลฺยาณมิตฺตตาทโยติ กลฺยาณมิตฺตตา สีลสํวโร อภิสเลฺลขกถา วีริยารโมฺภ นิเพฺพธิกา ปญฺญา อิเม กลฺยาณมิตฺตตาทโย ปญฺจ ธมฺมาฯ อยเมตฺถ สเงฺขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘เมฆิยสุตฺตสํวณฺณนายํ’’ (อุทา. อฎฺฐ. ๓๑) วุตฺตนเยน เวทิตโพฺพฯ โลกํ โวโลเกนฺตสฺสาติ พุทฺธเวเนยฺยสตฺตโลกํ พุทฺธจกฺขุนา วิเสสโต โอโลเกนฺตสฺสฯ
Pubbe saddhindriyādīnaṃ visuddhikāraṇāni, ‘‘vimuttiparipācanīyā dhammā’’ti vuttānīti idha saddhādike aññe ca dhamme dassento, ‘‘aparepī’’tiādimāha. Tattha saddhādīnaṃ vimuttiparipācanīyatā dassitā eva, aniccasaññādīnaṃ pana vimuttiparipācanīyatāya vattabbameva natthi vipassanābhāvato. Tenāha – ‘‘ime pañca nibbedhabhāgiyā saññā’’ti. Kalyāṇamittatādayoti kalyāṇamittatā sīlasaṃvaro abhisallekhakathā vīriyārambho nibbedhikā paññā ime kalyāṇamittatādayo pañca dhammā. Ayamettha saṅkhepo, vitthāro pana ‘‘meghiyasuttasaṃvaṇṇanāyaṃ’’ (udā. aṭṭha. 31) vuttanayena veditabbo. Lokaṃ volokentassāti buddhaveneyyasattalokaṃ buddhacakkhunā visesato olokentassa.
๔๑๙. อายสฺมโต ราหุลสฺส อินฺทฺริยานํ ปริปกฺกตฺตา สทฺธิํ ปฎฺฐปิตปตฺถนา เทวตา อุทิกฺขมานา ติฎฺฐนฺติ, – ‘‘กทา นุ โข อุตฺตริ อาสวานํ ขเย วิเนสฺสตี’’ติฯ ยทา ปน สตฺถา เอวํ ปริวิตเกฺกสิ, ตาวเทว สมานชฺฌาสยตาย สพฺพกาลํ ตงฺขณํ อาคเมนฺติโย ตา เทวตาโย ตํ สมวายํ ทิสฺวา เอกสฺมิํ อนฺธวนสฺมิํเยว สนฺนิปติตาฯ อุปาลิสฺส คหปติโน ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส จตุสจฺจธเมฺมสุ ทสฺสนกิเจฺจน ปวโตฺต โสตาปตฺติมโคฺคติ เตสุ สุเตฺตสุ (ปฎิ. ม. อฎฺฐ. ๒.๒.๓๐) ปฐมมโคฺค ‘‘ธมฺมจกฺขุ’’นฺติ วุโตฺต, ตสฺส ทสฺสนตฺถสฺส สาติสยตฺตา, พฺรหฺมายุโน ปน ผลญาณานิ เหฎฺฐิมานิ ตีณิ สาติสยานีติ พฺรหฺมายุสุเตฺต(ม. นิ. ๒.๓๘๓ อาทโย) ตีณิ ผลานิ ‘‘ธมฺมจกฺขุ’’นฺติ วุตฺตานิฯ อิทํ ปเนตฺถ อายสฺมโต ราหุลสฺส มคฺคญาณํ ผลญาณญฺจ ทสฺสนโตฺถ สาติสโย, ตาหิ จ เทวตาหิ ยํ ญาณํ อธิคตํ, ตํ สาติสยเมวาติ วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมิํ สุเตฺต จตฺตาโร มคฺคา, จตฺตาริ จ ผลานิ ธมฺมจกฺขุนฺติ เวทิตพฺพานี’’ติฯ กิํ ปน สาวกานํ สจฺจาภิสมยญาเณ อตฺถิ โกจิ วิเสโสติ? อาม อตฺถิฯ โส จ โข ปุพฺพภาเค วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนาย ปวตฺติยาการวิเสเสน ลเภยฺย กาจิ วิเสสมตฺตาฯ สฺวายมโตฺถ อภิธเมฺม ‘‘โน จ โข ยถา ทิฎฺฐิปฺปตฺตสฺสา’’ติ สทฺธาวิมุตฺตโต ทิฎฺฐิปฺปตฺตสฺส กิเลสปฺปหานํ ปติ วิเสสกิตฺตเนน ทีเปตโพฺพฯ กิํ ปน อายสฺมา ราหุโล วิย ตา เทวตา สพฺพา เอกจิตฺตา ปเคว จตฺตาริ ผลานิ อธิคณฺหิํสูติ? โนติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิมาหฯ กิตฺตกา ปน ตา เทวตาติ อาห ‘‘ตาสญฺจ ปนา’’ติอาทิฯ
419. Āyasmato rāhulassa indriyānaṃ paripakkattā saddhiṃ paṭṭhapitapatthanā devatā udikkhamānā tiṭṭhanti, – ‘‘kadā nu kho uttari āsavānaṃ khaye vinessatī’’ti. Yadā pana satthā evaṃ parivitakkesi, tāvadeva samānajjhāsayatāya sabbakālaṃ taṅkhaṇaṃ āgamentiyo tā devatāyo taṃ samavāyaṃ disvā ekasmiṃ andhavanasmiṃyeva sannipatitā. Upālissa gahapatino dīghanakhaparibbājakassa catusaccadhammesu dassanakiccena pavatto sotāpattimaggoti tesu suttesu (paṭi. ma. aṭṭha. 2.2.30) paṭhamamaggo ‘‘dhammacakkhu’’nti vutto, tassa dassanatthassa sātisayattā, brahmāyuno pana phalañāṇāni heṭṭhimāni tīṇi sātisayānīti brahmāyusutte(ma. ni. 2.383 ādayo) tīṇi phalāni ‘‘dhammacakkhu’’nti vuttāni. Idaṃ panettha āyasmato rāhulassa maggañāṇaṃ phalañāṇañca dassanattho sātisayo, tāhi ca devatāhi yaṃ ñāṇaṃ adhigataṃ, taṃ sātisayamevāti vuttaṃ – ‘‘imasmiṃ sutte cattāro maggā, cattāri ca phalāni dhammacakkhuntiveditabbānī’’ti. Kiṃ pana sāvakānaṃ saccābhisamayañāṇe atthi koci visesoti? Āma atthi. So ca kho pubbabhāge vuṭṭhānagāminivipassanāya pavattiyākāravisesena labheyya kāci visesamattā. Svāyamattho abhidhamme ‘‘no ca kho yathā diṭṭhippattassā’’ti saddhāvimuttato diṭṭhippattassa kilesappahānaṃ pati visesakittanena dīpetabbo. Kiṃ pana āyasmā rāhulo viya tā devatā sabbā ekacittā pageva cattāri phalāni adhigaṇhiṃsūti? Noti dassento ‘‘tattha hī’’tiādimāha. Kittakā pana tā devatāti āha ‘‘tāsañca panā’’tiādi.
ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Rāhulovādasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๕. จูฬราหุโลวาทสุตฺตํ • 5. Cūḷarāhulovādasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. ราหุโลวาทสุตฺตวณฺณนา • 5. Rāhulovādasuttavaṇṇanā