Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๔๕] ๕. ราชกุมฺภชาตกวณฺณนา
[345] 5. Rājakumbhajātakavaṇṇanā
วนํ ยทคฺคิ ทหตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ อลสภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ โส กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุโตฺต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิตฺวาปิ อลโส อโหสิ อุเทฺทสปริปุจฺฉาโยนิโสมนสิการวตฺตปฎิวตฺตาทีหิ ปริพาหิโร นีวรณาภิภูโตฯ นิสินฺนฎฺฐานาทีสุ อิริยาปเถสุ ตถา เอว โหติฯ ตสฺส ตํ อาลสิยภาวํ อารพฺภ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม ภิกฺขุ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา อาลสิโย กุสีโต นีวรณาภิภูโต วิหรตี’’ติ ฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปส อาลสิโยเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Vanaṃ yadaggi dahatīti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ alasabhikkhuṃ ārabbha kathesi. So kira sāvatthivāsī kulaputto sāsane uraṃ datvā pabbajitvāpi alaso ahosi uddesaparipucchāyonisomanasikāravattapaṭivattādīhi paribāhiro nīvaraṇābhibhūto. Nisinnaṭṭhānādīsu iriyāpathesu tathā eva hoti. Tassa taṃ ālasiyabhāvaṃ ārabbha bhikkhū dhammasabhāyaṃ kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ ‘‘āvuso, asuko nāma bhikkhu evarūpe niyyānikasāsane pabbajitvā ālasiyo kusīto nīvaraṇābhibhūto viharatī’’ti . Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepesa ālasiyoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต ตสฺส อมจฺจรตนํ อโหสิ, พาราณสิราชา อาลสิยชาติโก อโหสิฯ โพธิสโตฺต ‘‘ราชานํ ปโพเธสฺสามี’’ติ เอกํ อุปมํ อุปธาเรโนฺต วิจรติฯ อเถกทิวสํ ราชา อุยฺยานํ คนฺตฺวา อมจฺจคณปริวุโต ตตฺถ วิจรโนฺต เอกํ ราชกุมฺภํ นาม อาลสิยํ ปสฺสิฯ ตถารูปา กิร อาลสิยา สกลทิวสํ คจฺฉนฺตาปิ เอกทฺวงฺคุลมตฺตเมว คจฺฉนฺติฯ ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘วยสฺส โก นาม โส’’ติ โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิฯ มหาสโตฺต ‘‘ราชกุโมฺภ นาเมส, มหาราช, อาลสิโยฯ เอวรูโป หิ สกลทิวสํ คจฺฉโนฺตปิ เอกงฺคุลทฺวงฺคุลมตฺตเมว คจฺฉตี’’ติ วตฺวา เตน สทฺธิํ สลฺลปโนฺต ‘‘อโมฺภ, ราชกุมฺภ, ตุมฺหากํ ทนฺธคมนํ อิมสฺมิํ อรเญฺญ ทาวคฺคิมฺหิ อุฎฺฐิเต กิํ กโรถา’’ติ วตฺวา ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto tassa amaccaratanaṃ ahosi, bārāṇasirājā ālasiyajātiko ahosi. Bodhisatto ‘‘rājānaṃ pabodhessāmī’’ti ekaṃ upamaṃ upadhārento vicarati. Athekadivasaṃ rājā uyyānaṃ gantvā amaccagaṇaparivuto tattha vicaranto ekaṃ rājakumbhaṃ nāma ālasiyaṃ passi. Tathārūpā kira ālasiyā sakaladivasaṃ gacchantāpi ekadvaṅgulamattameva gacchanti. Rājā taṃ disvā ‘‘vayassa ko nāma so’’ti bodhisattaṃ pucchi. Mahāsatto ‘‘rājakumbho nāmesa, mahārāja, ālasiyo. Evarūpo hi sakaladivasaṃ gacchantopi ekaṅguladvaṅgulamattameva gacchatī’’ti vatvā tena saddhiṃ sallapanto ‘‘ambho, rājakumbha, tumhākaṃ dandhagamanaṃ imasmiṃ araññe dāvaggimhi uṭṭhite kiṃ karothā’’ti vatvā paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๗๓.
173.
‘‘วนํ ยทคฺคิ ทหติ, ปาวโก กณฺหวตฺตนี;
‘‘Vanaṃ yadaggi dahati, pāvako kaṇhavattanī;
กถํ กโรสิ ปจลก, เอวํ ทนฺธปรกฺกโม’’ติฯ
Kathaṃ karosi pacalaka, evaṃ dandhaparakkamo’’ti.
ตตฺถ ยทคฺคีติ ยทา อคฺคิฯ ปาวโก กณฺหวตฺตนีติ อคฺคิโน เววจนํฯ ปจลกาติ ตํ อาลปติฯ โส หิ จลโนฺต จลโนฺต คจฺฉติ, นิจฺจํ วา ปจลายติ, ตสฺมา ‘‘ปจลโก’’ติ วุจฺจติฯ ทนฺธปรกฺกโมติ ครุวีริโยฯ
Tattha yadaggīti yadā aggi. Pāvako kaṇhavattanīti aggino vevacanaṃ. Pacalakāti taṃ ālapati. So hi calanto calanto gacchati, niccaṃ vā pacalāyati, tasmā ‘‘pacalako’’ti vuccati. Dandhaparakkamoti garuvīriyo.
ตํ สุตฺวา ราชกุโมฺภ ทุติยํ คาถมาห –
Taṃ sutvā rājakumbho dutiyaṃ gāthamāha –
๑๗๔.
174.
‘‘พหูนิ รุกฺขฉิทฺทานิ, ปถพฺยา วิวรานิ จ;
‘‘Bahūni rukkhachiddāni, pathabyā vivarāni ca;
ตานิ เจ นาภิสโมฺภม, โหติ โน กาลปริยาโย’’ติฯ
Tāni ce nābhisambhoma, hoti no kālapariyāyo’’ti.
ตสฺสโตฺถ – ปณฺฑิต, อมฺหากํ อิโต อุตฺตริคมนํ นาม นตฺถิฯ อิมสฺมิํ ปน อรเญฺญ รุกฺขฉิทฺทานิ ปถวิยํ วิวรานิ จ พหูนิฯ ยทิ ตานิ น ปาปุณาม, โหติ โน กาลปริยาโยติ มรณเมว โน โหตีติฯ
Tassattho – paṇḍita, amhākaṃ ito uttarigamanaṃ nāma natthi. Imasmiṃ pana araññe rukkhachiddāni pathaviyaṃ vivarāni ca bahūni. Yadi tāni na pāpuṇāma, hoti no kālapariyāyoti maraṇameva no hotīti.
ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต อิตรา เทฺว คาถา อภาสิ –
Taṃ sutvā bodhisatto itarā dve gāthā abhāsi –
๑๗๕.
175.
‘‘โย ทนฺธกาเล ตรติ, ตรณีเย จ ทนฺธติ;
‘‘Yo dandhakāle tarati, taraṇīye ca dandhati;
สุกฺขปณฺณํว อกฺกมฺม, อตฺถํ ภญฺชติ อตฺตโนฯ
Sukkhapaṇṇaṃva akkamma, atthaṃ bhañjati attano.
๑๗๖.
176.
‘‘โย ทนฺธกาเล ทเนฺธติ, ตรณีเย จ ตารยิ;
‘‘Yo dandhakāle dandheti, taraṇīye ca tārayi;
สสีว รตฺติํ วิภชํ, ตสฺสโตฺถ ปริปูรตี’’ติฯ
Sasīva rattiṃ vibhajaṃ, tassattho paripūratī’’ti.
ตตฺถ ทนฺธกาเลติ เตสํ เตสํ กมฺมานํ สณิกํ กตฺตพฺพกาเลฯ ตรตีติ ตุริตตุริโต เวเคน ตานิ กมฺมานิ กโรติฯ สุกฺขปณฺณํวาติ ยถา วาตาตปสุกฺขํ ตาลปณฺณํ พลวา ปุริโส อกฺกมิตฺวา ภเญฺชยฺย, ตเตฺถว จุณฺณวิจุณฺณํ กเรยฺย, เอวํ โส อตฺตโน อตฺถํ วุทฺธิํ ภญฺชติฯ ทเนฺธตีติ ทนฺธยติ ทนฺธกาตพฺพานิ กมฺมานิ ทนฺธเมว กโรติฯ ตารยีติ ตุริตกาตพฺพานิ กมฺมานิ ตุริโตว กโรติฯ สสีว รตฺติํ วิภชนฺติ ยถา จโนฺท ชุณฺหปกฺขํ รตฺติํ โชตยมาโน กาฬปกฺขรตฺติโต รตฺติํ วิภชโนฺต ทิวเส ทิวเส ปริปูรติ, เอวํ ตสฺส ปุริสสฺส อโตฺถ ปริปูรตีติ วุตฺตํ โหติฯ
Tattha dandhakāleti tesaṃ tesaṃ kammānaṃ saṇikaṃ kattabbakāle. Taratīti turitaturito vegena tāni kammāni karoti. Sukkhapaṇṇaṃvāti yathā vātātapasukkhaṃ tālapaṇṇaṃ balavā puriso akkamitvā bhañjeyya, tattheva cuṇṇavicuṇṇaṃ kareyya, evaṃ so attano atthaṃ vuddhiṃ bhañjati. Dandhetīti dandhayati dandhakātabbāni kammāni dandhameva karoti. Tārayīti turitakātabbāni kammāni turitova karoti. Sasīva rattiṃ vibhajanti yathā cando juṇhapakkhaṃ rattiṃ jotayamāno kāḷapakkharattito rattiṃ vibhajanto divase divase paripūrati, evaṃ tassa purisassa attho paripūratīti vuttaṃ hoti.
ราชา โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ตโต ปฎฺฐาย อนลโส ชาโตฯ
Rājā bodhisattassa vacanaṃ sutvā tato paṭṭhāya analaso jāto.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชกุโมฺภ อาลสิยภิกฺขุ อโหสิ, ปณฺฑิตามโจฺจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā rājakumbho ālasiyabhikkhu ahosi, paṇḍitāmacco pana ahameva ahosi’’nti.
ราชกุมฺภชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ
Rājakumbhajātakavaṇṇanā pañcamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๔๕. คชกุมฺภชาตกํ • 345. Gajakumbhajātakaṃ