Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā

    ๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา

    7. Rājaputtapetavatthuvaṇṇanā

    ปุเพฺพ กตานํ กมฺมานนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต ราชปุตฺตเปตํ อารพฺภ กเถสิฯ ตตฺถ โย โส อตีเต กิตวสฺส นาม รโญฺญ ปุโตฺต อตีเต ปเจฺจกพุเทฺธ อปรชฺฌิตฺวา พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน เปเตสุ อุปฺปโนฺนฯ โส อิธ ‘‘ราชปุตฺตเปโต’’ติ อธิเปฺปโตฯ ตสฺส วตฺถุ เหฎฺฐา สาณวาสิเปตวตฺถุมฺหิ วิตฺถารโต อาคตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํฯ สตฺถา หิ ตทา เถเรน อตฺตโน ญาติเปตานํ ปวตฺติยา กถิตาย ‘‘น เกวลํ ตว ญาตกาเยว, อถ โข ตฺวมฺปิ อิโต อนนฺตราตีเต อตฺตภาเว เปโต หุตฺวา มหาทุกฺขํ อนุภวี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต –

    Pubbekatānaṃ kammānanti idaṃ satthā jetavane viharanto rājaputtapetaṃ ārabbha kathesi. Tattha yo so atīte kitavassa nāma rañño putto atīte paccekabuddhe aparajjhitvā bahūni vassasahassāni niraye paccitvā tasseva kammassa vipākāvasesena petesu uppanno. So idha ‘‘rājaputtapeto’’ti adhippeto. Tassa vatthu heṭṭhā sāṇavāsipetavatthumhi vitthārato āgatameva, tasmā tattha vuttanayeneva gahetabbaṃ. Satthā hi tadā therena attano ñātipetānaṃ pavattiyā kathitāya ‘‘na kevalaṃ tava ñātakāyeva, atha kho tvampi ito anantarātīte attabhāve peto hutvā mahādukkhaṃ anubhavī’’ti vatvā tena yācito –

    ๗๕๓.

    753.

    ‘‘ปุเพฺพ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนํ;

    ‘‘Pubbe katānaṃ kammānaṃ, vipāko mathaye manaṃ;

    รูเป สเทฺท รเส คเนฺธ, โผฎฺฐเพฺพ จ มโนรเมฯ

    Rūpe sadde rase gandhe, phoṭṭhabbe ca manorame.

    ๗๕๔.

    754.

    ‘‘อิจฺจํ คีตํ รติํ ขิฑฺฑํ, อนุภุตฺวา อนปฺปกํ;

    ‘‘Iccaṃ gītaṃ ratiṃ khiḍḍaṃ, anubhutvā anappakaṃ;

    อุยฺยาเน ปริจริตฺวา, ปวิสโนฺต คิริพฺพชํฯ

    Uyyāne paricaritvā, pavisanto giribbajaṃ.

    ๗๕๕.

    755.

    ‘‘อิสิํ สุเนตฺตมทฺทกฺขิ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;

    ‘‘Isiṃ sunettamaddakkhi, attadantaṃ samāhitaṃ;

    อปฺปิจฺฉํ หิริสมฺปนฺนํ, อุเญฺฉ ปตฺตคเต รตํฯ

    Appicchaṃ hirisampannaṃ, uñche pattagate rataṃ.

    ๗๕๖.

    756.

    ‘‘หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห, ลทฺธา ภเนฺตติ จาพฺรวิ;

    ‘‘Hatthikkhandhato oruyha, laddhā bhanteti cābravi;

    ตสฺส ปตฺตํ คเหตฺวาน, อุจฺจํ ปคฺคยฺห ขตฺติโยฯ

    Tassa pattaṃ gahetvāna, uccaṃ paggayha khattiyo.

    ๗๕๗.

    757.

    ‘‘ถณฺฑิเล ปตฺตํ ภินฺทิตฺวา, หสมาโน อปกฺกมิ;

    ‘‘Thaṇḍile pattaṃ bhinditvā, hasamāno apakkami;

    รโญฺญ กิตวสฺสาหํ ปุโตฺต, กิํ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสิฯ

    Rañño kitavassāhaṃ putto, kiṃ maṃ bhikkhu karissasi.

    ๗๕๘.

    758.

    ‘‘ตสฺส กมฺมสฺส ผรุสสฺส, วิปาโก กฎุโก อหุ;

    ‘‘Tassa kammassa pharusassa, vipāko kaṭuko ahu;

    ยํ ราชปุโตฺต เวเทสิ, นิรยมฺหิ สมปฺปิโตฯ

    Yaṃ rājaputto vedesi, nirayamhi samappito.

    ๗๕๙.

    759.

    ‘‘ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นหุตานิ จ;

    ‘‘Chaḷeva caturāsīti, vassāni nahutāni ca;

    ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิโตฺถ, นิรเย กตกิพฺพิโสฯ

    Bhusaṃ dukkhaṃ nigacchittho, niraye katakibbiso.

    ๗๖๐.

    760.

    ‘‘อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุโชฺช วามทกฺขิโณ;

    ‘‘Uttānopi ca paccittha, nikujjo vāmadakkhiṇo;

    อุทฺธํปาโท ฐิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถฯ

    Uddhaṃpādo ṭhito ceva, ciraṃ bālo apaccatha.

    ๗๖๑.

    761.

    ‘‘พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ, ปูคานิ นหุตานิ จ;

    ‘‘Bahūni vassasahassāni, pūgāni nahutāni ca;

    ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิโตฺถ, นิรเย กตกิพฺพิโสฯ

    Bhusaṃ dukkhaṃ nigacchittho, niraye katakibbiso.

    ๗๖๒.

    762.

    ‘‘เอตาทิสํ โข กฎุกํ, อปฺปทุฎฺฐปฺปโทสินํ;

    ‘‘Etādisaṃ kho kaṭukaṃ, appaduṭṭhappadosinaṃ;

    ปจฺจนฺติ ปาปกมฺมนฺตา, อิสิมาสชฺช สุพฺพตํฯ

    Paccanti pāpakammantā, isimāsajja subbataṃ.

    ๗๖๓.

    763.

    ‘‘โส ตตฺถ พหุวสฺสานิ, เวทยิตฺวา พหุํ ทุขํ;

    ‘‘So tattha bahuvassāni, vedayitvā bahuṃ dukhaṃ;

    ขุปฺปิปาสหโต นาม, เปโต อาสิ ตโต จุโตฯ

    Khuppipāsahato nāma, peto āsi tato cuto.

    ๗๖๔.

    764.

    ‘‘เอตมาทีนวํ ญตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;

    ‘‘Etamādīnavaṃ ñatvā, issaramadasambhavaṃ;

    ปหาย อิสฺสรมทํ, นิวาตมนุวตฺตเยฯ

    Pahāya issaramadaṃ, nivātamanuvattaye.

    ๗๖๕.

    765.

    ‘‘ทิเฎฺฐว ธเมฺม ปาสํโส, โย พุเทฺธสุ สคารโว;

    ‘‘Diṭṭheva dhamme pāsaṃso, yo buddhesu sagāravo;

    กายสฺส เภทา สปฺปโญฺญ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติฯ –

    Kāyassa bhedā sappañño, saggaṃ so upapajjatī’’ti. –

    อิทํ เปตวตฺถุํ กเถสิฯ

    Idaṃ petavatthuṃ kathesi.

    ๗๕๓. ตตฺถ ปุเพฺพ กตานํ กมฺมานํ, วิปาโก มถเย มนนฺติ ปุริมาสุ ชาตีสุ กตานํ อกุสลกมฺมานํ ผลํ อุฬารํ หุตฺวา อุปฺปชฺชมานํ อนฺธพาลานํ จิตฺตํ มถเยยฺย อภิภเวยฺย, ปเรสํ อนตฺถกรณมุเขน อตฺตโน อตฺถํ อุปฺปาเทยฺยาติ อธิปฺปาโยฯ

    753. Tattha pubbe katānaṃ kammānaṃ, vipāko mathaye mananti purimāsu jātīsu katānaṃ akusalakammānaṃ phalaṃ uḷāraṃ hutvā uppajjamānaṃ andhabālānaṃ cittaṃ mathayeyya abhibhaveyya, paresaṃ anatthakaraṇamukhena attano atthaṃ uppādeyyāti adhippāyo.

    อิทานิ ตํ จิตฺตมถนํ วิสเยน สทฺธิํ ทเสฺสตุํ ‘‘รูเป สเทฺท’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ รูเปติ รูปเหตุ, ยถิจฺฉิตสฺส มนาปิยสฺส รูปารมฺมณสฺส ปฎิลาภนิมิตฺตนฺติ อโตฺถฯ สเทฺทติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ

    Idāni taṃ cittamathanaṃ visayena saddhiṃ dassetuṃ ‘‘rūpe sadde’’tiādi vuttaṃ. Tattha rūpeti rūpahetu, yathicchitassa manāpiyassa rūpārammaṇassa paṭilābhanimittanti attho. Saddetiādīsupi eseva nayo.

    ๗๕๔. เอวํ สาธารณโต วุตฺตมตฺถํ อสาธารณโต นิยเมตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘นจฺจํ คีต’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ รตินฺติ กามรติํฯ ขิฑฺฑนฺติ สหายกาทีหิ เกฬิํฯ คิริพฺพชนฺติ ราชคหํฯ

    754. Evaṃ sādhāraṇato vuttamatthaṃ asādhāraṇato niyametvā dassento ‘‘naccaṃ gīta’’ntiādimāha. Tattha ratinti kāmaratiṃ. Khiḍḍanti sahāyakādīhi keḷiṃ. Giribbajanti rājagahaṃ.

    ๗๕๕. อิสินฺติ อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสนเฎฺฐน อิสิํฯ สุเนตฺตนฺติ เอวํนามกํ ปเจฺจกพุทฺธํฯ อตฺตทนฺตนฺติ อุตฺตเมน ทมเถน ทมิตจิตฺตํฯ สมาหิตนฺติ อรหตฺตผลสมาธินา สมาหิตํฯ อุเญฺฉ ปตฺตคเต รตนฺติ อุเญฺฉน ภิกฺขาจาเรน ลเทฺธ ปตฺตคเต ปตฺตปริยาปเนฺน อาหาเร รตํ สนฺตุฎฺฐํฯ

    755.Isinti asekkhānaṃ sīlakkhandhādīnaṃ esanaṭṭhena isiṃ. Sunettanti evaṃnāmakaṃ paccekabuddhaṃ. Attadantanti uttamena damathena damitacittaṃ. Samāhitanti arahattaphalasamādhinā samāhitaṃ. Uñche pattagate ratanti uñchena bhikkhācārena laddhe pattagate pattapariyāpanne āhāre rataṃ santuṭṭhaṃ.

    ๗๕๖. ลทฺธา, ภเนฺตติ จาพฺรวีติ ‘‘อปิ, ภเนฺต, ภิกฺขา ลทฺธา’’ติ วิสฺสาสชนนตฺถํ กเถสิฯ อุจฺจํ ปคฺคยฺหาติ อุจฺจตรํ กตฺวา ปตฺตํ อุกฺขิปิตฺวาฯ

    756.Laddhā, bhanteti cābravīti ‘‘api, bhante, bhikkhā laddhā’’ti vissāsajananatthaṃ kathesi. Uccaṃ paggayhāti uccataraṃ katvā pattaṃ ukkhipitvā.

    ๗๕๗. ถณฺฑิเล ปตฺตํ ภินฺทิตฺวาติ ขรกฐิเน ภูมิปฺปเทเส ขิปโนฺต ปตฺตํ ภินฺทิตฺวาฯ อปกฺกมีติ โถกํ อปสกฺกิฯ อปสกฺกโนฺต จ ‘‘อการเณเนว อนฺธพาโล มหนฺตํ อนตฺถํ อตฺตโน อกาสี’’ติ กรุณายนวเสน โอโลเกนฺตํ ปเจฺจกพุทฺธํ ราชปุโตฺต อาห ‘‘รโญฺญ กิตวสฺสาหํ ปุโตฺต, กิํ มํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติฯ

    757.Thaṇḍile pattaṃ bhinditvāti kharakaṭhine bhūmippadese khipanto pattaṃ bhinditvā. Apakkamīti thokaṃ apasakki. Apasakkanto ca ‘‘akāraṇeneva andhabālo mahantaṃ anatthaṃ attano akāsī’’ti karuṇāyanavasena olokentaṃ paccekabuddhaṃ rājaputto āha ‘‘rañño kitavassāhaṃ putto, kiṃ maṃ bhikkhu karissasī’’ti.

    ๗๕๘. ผรุสสฺสาติ ทารุณสฺสฯ กฎุโกติ อนิโฎฺฐฯ นฺติ ยํ วิปากํฯ สมปฺปิโตติ อลฺลีโนฯ

    758.Pharusassāti dāruṇassa. Kaṭukoti aniṭṭho. Yanti yaṃ vipākaṃ. Samappitoti allīno.

    ๗๕๙. ฉเฬว จตุราสีติ, วสฺสานิ นหุตานิ จาติ อุตฺตาโน นิปโนฺน จตุราสีติวสฺสสหสฺสานิ, นิกุโชฺช, วามปเสฺสน, ทกฺขิณปเสฺสน, อุทฺธํปาโท, โอลมฺพิโก, ยถาฐิโต จาติ เอวํ ฉ จตุราสีติสหสฺสานิ วสฺสานิ โหนฺติฯ เตนาห –

    759.Chaḷeva caturāsīti, vassāni nahutāni cāti uttāno nipanno caturāsītivassasahassāni, nikujjo, vāmapassena, dakkhiṇapassena, uddhaṃpādo, olambiko, yathāṭhito cāti evaṃ cha caturāsītisahassāni vassāni honti. Tenāha –

    ๗๖๐.

    760.

    ‘‘อุตฺตาโนปิ จ ปจฺจิตฺถ, นิกุโชฺช วามทกฺขิโณ;

    ‘‘Uttānopi ca paccittha, nikujjo vāmadakkhiṇo;

    อุทฺธํปาโท ฐิโต เจว, จิรํ พาโล อปจฺจถา’’ติฯ

    Uddhaṃpādo ṭhito ceva, ciraṃ bālo apaccathā’’ti.

    ตานิ ปน วสฺสานิ ยสฺมา อเนกานิ นหุตานิ โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นหุตานี’’ติฯ ภุสํ ทุกฺขํ นิคจฺฉิโตฺถติ อติวิย ทุกฺขํ ปาปุณิฯ

    Tāni pana vassāni yasmā anekāni nahutāni honti, tasmā vuttaṃ ‘‘nahutānī’’ti. Bhusaṃ dukkhaṃ nigacchitthoti ativiya dukkhaṃ pāpuṇi.

    ๗๖๑. ปูคานีติ วสฺสสมูเห, อิธ ปุริมคาถาย จ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ ทฎฺฐพฺพํฯ

    761.Pūgānīti vassasamūhe, idha purimagāthāya ca accantasaṃyoge upayogavacanaṃ daṭṭhabbaṃ.

    ๗๖๒. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํฯ กฎุกนฺติ อติทุกฺขํ, ภาวนปํสกนิเทฺทโสยํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติอาทีสุ วิยฯ อปฺปทุฎฺฐปฺปโทสินํ อิสิํ สุพฺพตํ อาสชฺช อาสาเทตฺวา ปาปกมฺมนฺตา ปุคฺคลา เอวรูปํ กฎุกํ อติวิย ทุกฺขํ ปจฺจนฺตีติ โยชนาฯ

    762.Etādisanti evarūpaṃ. Kaṭukanti atidukkhaṃ, bhāvanapaṃsakaniddesoyaṃ ‘‘ekamantaṃ nisīdī’’tiādīsu viya. Appaduṭṭhappadosinaṃ isiṃ subbataṃ āsajja āsādetvā pāpakammantā puggalā evarūpaṃ kaṭukaṃ ativiya dukkhaṃ paccantīti yojanā.

    ๗๖๓. โสติ โส ราชปุตฺตเปโตฯ ตตฺถาติ นิรเยฯ เวทยิตฺวาติ อนุภวิตฺวาฯ นามาติ พฺยตฺตปากฎภาเวนฯ ตโต จุโตติ นิรยโต จุโตฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

    763.Soti so rājaputtapeto. Tatthāti niraye. Vedayitvāti anubhavitvā. Nāmāti byattapākaṭabhāvena. Tato cutoti nirayato cuto. Sesaṃ vuttanayameva.

    เอวํ ภควา ราชปุตฺตเปตกถาย ตตฺถ สนฺนิปติตํ มหาชนํ สํเวเชตฺวา อุปริ สจฺจานิ ปกาเสสิฯ สจฺจปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ สมฺปาปุณิํสูติฯ

    Evaṃ bhagavā rājaputtapetakathāya tattha sannipatitaṃ mahājanaṃ saṃvejetvā upari saccāni pakāsesi. Saccapariyosāne bahū sotāpattiphalādīni sampāpuṇiṃsūti.

    ราชปุตฺตเปตวตฺถุวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Rājaputtapetavatthuvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi / ๗. ราชปุตฺตเปตวตฺถุ • 7. Rājaputtapetavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact