Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๔. ราชายตนกถา
4. Rājāyatanakathā
๖. ปาจีนโกเณติ ปุรตฺถิมอเสฺส, ปุพฺพทกฺขิณทิสาภาเคติ อโตฺถฯ ราชายตนรุกฺขนฺติ ขีริการุกฺขํฯ เตน โข ปน สมเยนาติ เอตฺถ ตสทฺทสฺส วิสยํ ปุจฺฉิตฺวา ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘กตเรน สมเยนา’’ติฯ นิสินฺนสฺส ภควโตติ โยชนาฯ เทวราชสทฺทสฺส อเญฺญ ปชาปติอาทโย เทวราชาโน นิวเตฺตตุํ ‘‘สโกฺก’’ติ วุตฺตํฯ ตนฺติ หรีตกํฯ ปริภุตฺตมตฺตเสฺสว ภควโตติ สมฺพโนฺธฯ นิสิเนฺน ภควติฯ
6.Pācīnakoṇeti puratthimaasse, pubbadakkhiṇadisābhāgeti attho. Rājāyatanarukkhanti khīrikārukkhaṃ. Tena kho pana samayenāti ettha tasaddassa visayaṃ pucchitvā dassento āha ‘‘katarena samayenā’’ti. Nisinnassa bhagavatoti yojanā. Devarājasaddassa aññe pajāpatiādayo devarājāno nivattetuṃ ‘‘sakko’’ti vuttaṃ. Tanti harītakaṃ. Paribhuttamattasseva bhagavatoti sambandho. Nisinne bhagavati.
‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติ อิมินา เยน สมเยน ภควา ราชายตนมูเล นิสีทิ, เตน โข ปน สมเยนาติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ อุกฺกลชนปทโตติ อุกฺกลนามกา ชนปทมฺหาฯ ยสฺมิํ เทเส ภควา วิหรติ, ตํ เทสนฺติ โยชนาฯ เอตฺถาติ ‘‘ตํ เทสํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา’’ติปเทฯ เตสนฺติ วาณิชานํฯ ญาติสาโลหิตสทฺทานํ อญฺญมญฺญเววจนตฺตา ‘‘ญาตี’’ติ วุเตฺต สาโลหิตสทฺทสฺส อโตฺถ สิโทฺธติ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘ญาติภูตปุพฺพา เทวตา’’ติฯ สาติ เทวตาฯ เนสนฺติ วาณิชานํฯ ตโตติ อปวตฺตนการณาฯ เตติ วาณิชา ฯ อิทนฺติ อปวตฺตนํฯ พลินฺติ อุปหารํฯ เตสนฺติ วาณิชานํฯ ‘‘สพฺพิมธุผาณิตาทีหิ โยเชตฺวา’’ติ ปทํ ปุพฺพาปราเปกฺขํ, ตสฺมา มเชฺฌ วุตฺตํฯ ปติมาเนถาติ เอตฺถ มาน ปูชายํ เปมเนติ ธาตุปาเฐสุ (สทฺทนีติธาตุมาลายํ ๑๘ นการนฺตธาตุ) วุตฺตตฺตา ปูชนเปมนํ นาม อตฺถโต อุปฎฺฐหนนฺติ อาห ‘‘อุปฎฺฐหถา’’ติฯ ตํ โวติ เอตฺถ ตํสโทฺท ปติมานนวิสโย, โวสโทฺท ตีสุ โวสเทฺทสุ ตุมฺหสทฺทสฺส การิโย โวสโทฺท, โส จ จตุตฺถฺยโตฺถติ อาห ‘‘ตํ ปติมานํ ตุมฺหาก’’นฺติฯ โวกาโร หิ ติวิโธ ตุมฺหสทฺทสฺส การิโย, โยวจนสฺส การิโย, ปทปูรโณติฯ ตตฺถ ตุมฺหสทฺทสฺส การิโย ปญฺจวิโธ ปจฺจตฺตอุปโยคกรณสมฺปทานสามิวจนวเสนาติฯ ตตฺถ ตุมฺหสทฺทการิโย สมฺปทานวจโน อิธาธิเปฺปโตฯ เตนาห ‘‘ตุมฺหาก’’นฺติฯ ‘‘ย’’นฺติสทฺทสฺส วิสโย ปฎิคฺคหณโตฺถติ อาห ‘‘ยํ ปฎิคฺคหณ’’นฺติฯ อสฺสาติ ภเวยฺยฯ โย ปโตฺต อโหสีติ โยชนาฯ อสฺสาติ ภควโตฯ โสติ ปโตฺตฯ สุชาตาย อาคจฺฉนฺติยา เอวาติ สมฺพโนฺธฯ อนาทเร เจตํ สามิวจนํฯ เตนาติ อนฺตรธายเหตุนาฯ อสฺสาติ ภควโตฯ หเตฺถสูติ กรณเตฺถ เจตํ ภุมฺมวจนํฯ หเตฺถหีติ หิ อโตฺถฯ กิมฺหีติ เกนฯ
‘‘Tena kho pana samayenā’’ti iminā yena samayena bhagavā rājāyatanamūle nisīdi, tena kho pana samayenāti atthaṃ dasseti. Ukkalajanapadatoti ukkalanāmakā janapadamhā. Yasmiṃ dese bhagavā viharati, taṃ desanti yojanā. Etthāti ‘‘taṃ desaṃ addhānamaggappaṭipannā’’tipade. Tesanti vāṇijānaṃ. Ñātisālohitasaddānaṃ aññamaññavevacanattā ‘‘ñātī’’ti vutte sālohitasaddassa attho siddhoti dassetuṃ vuttaṃ ‘‘ñātibhūtapubbā devatā’’ti. Sāti devatā. Nesanti vāṇijānaṃ. Tatoti apavattanakāraṇā. Teti vāṇijā . Idanti apavattanaṃ. Balinti upahāraṃ. Tesanti vāṇijānaṃ. ‘‘Sabbimadhuphāṇitādīhi yojetvā’’ti padaṃ pubbāparāpekkhaṃ, tasmā majjhe vuttaṃ. Patimānethāti ettha māna pūjāyaṃ pemaneti dhātupāṭhesu (saddanītidhātumālāyaṃ 18 nakārantadhātu) vuttattā pūjanapemanaṃ nāma atthato upaṭṭhahananti āha ‘‘upaṭṭhahathā’’ti. Taṃ voti ettha taṃsaddo patimānanavisayo, vosaddo tīsu vosaddesu tumhasaddassa kāriyo vosaddo, so ca catutthyatthoti āha ‘‘taṃ patimānaṃ tumhāka’’nti. Vokāro hi tividho tumhasaddassa kāriyo, yovacanassa kāriyo, padapūraṇoti. Tattha tumhasaddassa kāriyo pañcavidho paccattaupayogakaraṇasampadānasāmivacanavasenāti. Tattha tumhasaddakāriyo sampadānavacano idhādhippeto. Tenāha ‘‘tumhāka’’nti. ‘‘Ya’’ntisaddassa visayo paṭiggahaṇatthoti āha ‘‘yaṃ paṭiggahaṇa’’nti. Assāti bhaveyya. Yo patto ahosīti yojanā. Assāti bhagavato. Soti patto. Sujātāya āgacchantiyā evāti sambandho. Anādare cetaṃ sāmivacanaṃ. Tenāti antaradhāyahetunā. Assāti bhagavato. Hatthesūti karaṇatthe cetaṃ bhummavacanaṃ. Hatthehīti hi attho. Kimhīti kena.
อิโตติ อาสฬฺหีมาสชุณฺหปกฺขปญฺจมิโตฯ เอตฺตกํ กาลนฺติ เอตํ ปมาณํ เอกูนปญฺญาสทิวสกาลํฯ ชิฆจฺฉาติ ฆสิตุมิจฺฉาฯ ปิปาสาติ ปาตุมิจฺฉาฯ อสฺสาติ ภควโตฯ เจตสา-เจโตสทฺทานํ สมฺพนฺธาเปกฺขตฺตา เตสํ สมฺพนฺธํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน’’ติ จ ‘‘ภควโต’’ติ จฯ อิเมหิ สมฺพนฺธิสทฺทานมสทิสตฺตา สมฺพโนฺธปิ อสทิโสติ ทเสฺสติฯ อตฺตโนติ จตุนฺนํ มหาราชานํฯ สมาโสเยว อวยวีปธาโน โหติ, วากฺยํ ปน อวยวปธาโนเยวาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘จตูหิ ทิสาหี’’ติฯ ปาฬิยํ ‘‘อาคนฺตฺวา’’ติ ปาฐเสโส โยเชตโพฺพฯ ‘‘สิลามเย’’ติ อิมินา สิลามยเมว เสลามยนฺติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ อิทนฺติ ‘‘เสลามเย ปเตฺต’’ติ วจนํฯ เยติ มุคฺควณฺณสิลามเย ปเตฺตฯ ตโตติ อินฺทนีลมณิมยปตฺตอุปนามนโต, ปรนฺติ สมฺพโนฺธฯ เตสนฺติ จตุนฺนํ มหาราชานํฯ จตฺตาโรปิ อธิฎฺฐหีติ สมฺพโนฺธ ฯ ยถาติ เยนากาเรน, อธิฎฺฐิยมาเนติ โยชนาฯ เอกสทิโสติ เอกํเสน สทิโสฯ อธิฎฺฐิเต ปเตฺตติ สมฺพโนฺธฯ ปเตฺตติ จ กรณเตฺถ ภุมฺมวจนํฯ ปเตฺตน ปฎิคฺคเหสีติ หิ อโตฺถฯ ปจฺจเคฺฆติ เอตฺถ เอกาโร สฺมิํวจนสฺส การิโยติ อาห ‘‘ปจฺจคฺฆสฺมิ’’นฺติฯ ปฎิ อคฺฆนฺติ ปทวิภาคํ กตฺวา ปฎิสโทฺท ปาเฎกฺกโตฺถ, ‘‘อคฺฆ’’นฺติ สามญฺญโต วุเตฺตปิ มหคฺฆโตฺถติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปาเฎกฺกํ มหคฺฆสฺมิ’’นฺติฯ อิมินา จตฺตาโร เอกโต หุตฺวา น มหคฺฆา โหนฺติ, ปาเฎกฺกํ ปน มหคฺฆา โหนฺตีติ ทเสฺสติฯ อถ วา สอุปสโคฺค ปจฺจคฺฆสโทฺท อภินวปริยาโยติ อาห ‘‘อภินเว’’ติฯ อภินโวติ จ อจิรตนวตฺถุสฺส นามํฯ อจิรตนวตฺถุ อจิรตนตฺตา อพฺภุณฺหํ วิย โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อพฺภุเณฺห’’ติฯ ‘‘ตงฺขเณ นิพฺพตฺตสฺมิ’’นฺติ อิมินา ตเมวตฺถํ วิภาเวติฯ เทฺววาจิกาติปทสฺส สมาสวเสน จ ตทฺธิตวเสน จ นิปฺผนฺนภาวํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เทฺว วาจา’’ติอาทิฯ ปตฺตาติ เอตฺถ เอโก อิติสโทฺท ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐฯ อิติ ตสฺมา เทฺววาจิกาอิติ อโตฺถติ โยชนาฯ เตติ วาณิชาฯ อถาติ ตสฺมิํ กาเลฯ เตติ เกเสฯ เตสนฺติ วาณิชานํฯ ปริหรถาติ อตฺตโน อภิวาทนปจฺจุฎฺฐานฎฺฐานนฺติ ปฎิคฺคเหตฺวา, ปริจฺฉินฺทิตฺวา วา หรถาติ อโตฺถฯ เตติ วาณิชาฯ อมเตเนวาติ อมเตน อิว, อภิสิตฺตา อิวาติ โยชนาฯ
Itoti āsaḷhīmāsajuṇhapakkhapañcamito. Ettakaṃ kālanti etaṃ pamāṇaṃ ekūnapaññāsadivasakālaṃ. Jighacchāti ghasitumicchā. Pipāsāti pātumicchā. Assāti bhagavato. Cetasā-cetosaddānaṃ sambandhāpekkhattā tesaṃ sambandhaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘attano’’ti ca ‘‘bhagavato’’ti ca. Imehi sambandhisaddānamasadisattā sambandhopi asadisoti dasseti. Attanoti catunnaṃ mahārājānaṃ. Samāsoyeva avayavīpadhāno hoti, vākyaṃ pana avayavapadhānoyevāti dassento āha ‘‘catūhi disāhī’’ti. Pāḷiyaṃ ‘‘āgantvā’’ti pāṭhaseso yojetabbo. ‘‘Silāmaye’’ti iminā silāmayameva selāmayanti atthaṃ dasseti. Idanti ‘‘selāmaye patte’’ti vacanaṃ. Yeti muggavaṇṇasilāmaye patte. Tatoti indanīlamaṇimayapattaupanāmanato, paranti sambandho. Tesanti catunnaṃ mahārājānaṃ. Cattāropi adhiṭṭhahīti sambandho . Yathāti yenākārena, adhiṭṭhiyamāneti yojanā. Ekasadisoti ekaṃsena sadiso. Adhiṭṭhite patteti sambandho. Patteti ca karaṇatthe bhummavacanaṃ. Pattena paṭiggahesīti hi attho. Paccaggheti ettha ekāro smiṃvacanassa kāriyoti āha ‘‘paccagghasmi’’nti. Paṭi agghanti padavibhāgaṃ katvā paṭisaddo pāṭekkattho, ‘‘aggha’’nti sāmaññato vuttepi mahagghatthoti dassento āha ‘‘pāṭekkaṃ mahagghasmi’’nti. Iminā cattāro ekato hutvā na mahagghā honti, pāṭekkaṃ pana mahagghā hontīti dasseti. Atha vā saupasaggo paccagghasaddo abhinavapariyāyoti āha ‘‘abhinave’’ti. Abhinavoti ca aciratanavatthussa nāmaṃ. Aciratanavatthu aciratanattā abbhuṇhaṃ viya hoti, tasmā vuttaṃ ‘‘abbhuṇhe’’ti. ‘‘Taṅkhaṇe nibbattasmi’’nti iminā tamevatthaṃ vibhāveti. Dvevācikātipadassa samāsavasena ca taddhitavasena ca nipphannabhāvaṃ dassento āha ‘‘dve vācā’’tiādi. Pattāti ettha eko itisaddo luttaniddiṭṭho. Iti tasmā dvevācikāiti atthoti yojanā. Teti vāṇijā. Athāti tasmiṃ kāle. Teti kese. Tesanti vāṇijānaṃ. Pariharathāti attano abhivādanapaccuṭṭhānaṭṭhānanti paṭiggahetvā, paricchinditvā vā harathāti attho. Teti vāṇijā. Amatenevāti amatena iva, abhisittā ivāti yojanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๔. ราชายตนกถา • 4. Rājāyatanakathā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ราชายตนกถา • Rājāyatanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ราชายตนกถาวณฺณนา • Rājāyatanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ราชายตนกถาวณฺณนา • Rājāyatanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ราชายตนกถาวณฺณนา • Rājāyatanakathāvaṇṇanā