Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๑๐. รชฺชสุตฺตวณฺณนา
10. Rajjasuttavaṇṇanā
๑๕๖. อหนนฺติ กรเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘อหนเนฺตนา’’ติ, ปจฺจเตฺต เอว วา ปจฺจตฺตวจนํ, ‘‘อหนโนฺต หุตฺวา’’ติ วจนเสเสน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ อชินนฺติ อโนฺตคธเหตุอตฺถํ วทตีติ อาห ‘‘ปรสฺส ธนชานิํ อกโรเนฺตนา’’ติฯ อการาเปเนฺตนาติ ปรสฺส ธนชานิํ อกาเรเนฺตนฯ อโสจเนฺตนาติ โภคพฺยสนาทิวเสน ปรํ อโสจเนฺตนฯ กสฺมา ภควา เอวํ จิเนฺตสีติ ตตฺถ การณมาห ‘‘อิตี’’ติอาทินาฯ รเชฺช วิชิเต ทณฺฑกรปีฬิเตติ ธนทณฺฑาทิทเณฺฑน เจว พลินา จ พาธิเตฯ
156.Ahananti karaṇe paccattavacananti āha ‘‘ahanantenā’’ti, paccatte eva vā paccattavacanaṃ, ‘‘ahananto hutvā’’ti vacanasesena bhavitabbanti adhippāyo. Sesapadesupi eseva nayo. Ajinanti antogadhahetuatthaṃ vadatīti āha ‘‘parassa dhanajāniṃ akarontenā’’ti. Akārāpentenāti parassa dhanajāniṃ akārentena. Asocantenāti bhogabyasanādivasena paraṃ asocantena. Kasmā bhagavā evaṃ cintesīti tattha kāraṇamāha ‘‘itī’’tiādinā. Rajje vijite daṇḍakarapīḷiteti dhanadaṇḍādidaṇḍena ceva balinā ca bādhite.
อิชฺฌนกโกฎฺฐาสาติ เจโตวสิภาวาทิกสฺส สาธนกโกฎฺฐาสาฯ วฑฺฒิตาติ ภาวนาปาริปูริวเสน อนุพฺรูหิตาฯ ปุนปฺปุนํ กตาติ ภาวนาย พหุลีกรเณน อปราปรํ ปวตฺติตาฯ ยุตฺตยานนฺติ ยถา ยุตฺตานํ อาชญฺญรถานํ สารถินา อธิฎฺฐิตํ ยถารุจิ ปวตฺตติ, เอวํ ยถารุจิปวตฺติตํ คมิตาฯ ปติฎฺฐเฎฺฐนาติ อธิฎฺฐานเฎฺฐนฯ วตฺถุกตาติ สพฺพโส อุปกฺกิเลสโสธเนน อิทฺธิวิสยตาย ปติฎฺฐานภาวโต สุวิโสธิตปริสฺสยวตฺถุ วิย กตาฯ อวิชหิตาติ ปฎิปกฺขทูรีภาวโต สุภาวิตภาเวน ตํตํอธิฎฺฐานโยคฺยตาย น ชหาปิตาฯ นิจฺจานุพทฺธาติ ตโต เอว นิจฺจํ อนุพทฺธา วิย กตาฯ สุปริจิตาติ สุฎฺฐุ สพฺพภาเคน ภาวนานุปจยํ คมิตาฯ อวิราธิตเวธิหโตฺถ วิยาติ อวิรชฺฌนภาเวน วิรชฺฌนหโตฺถ วิยฯ สุฎฺฐุ สมารทฺธาติ ภาวนาอุปฺปตฺติยา สมฺมเทว สมฺปาทิตาฯ จิเนฺตยฺยาติ อตฺถุทฺธารวเสน จิเนฺตยฺยฯ
Ijjhanakakoṭṭhāsāti cetovasibhāvādikassa sādhanakakoṭṭhāsā. Vaḍḍhitāti bhāvanāpāripūrivasena anubrūhitā. Punappunaṃ katāti bhāvanāya bahulīkaraṇena aparāparaṃ pavattitā. Yuttayānanti yathā yuttānaṃ ājaññarathānaṃ sārathinā adhiṭṭhitaṃ yathāruci pavattati, evaṃ yathārucipavattitaṃ gamitā. Patiṭṭhaṭṭhenāti adhiṭṭhānaṭṭhena. Vatthukatāti sabbaso upakkilesasodhanena iddhivisayatāya patiṭṭhānabhāvato suvisodhitaparissayavatthu viya katā. Avijahitāti paṭipakkhadūrībhāvato subhāvitabhāvena taṃtaṃadhiṭṭhānayogyatāya na jahāpitā. Niccānubaddhāti tato eva niccaṃ anubaddhā viya katā. Suparicitāti suṭṭhu sabbabhāgena bhāvanānupacayaṃ gamitā. Avirādhitavedhihattho viyāti avirajjhanabhāvena virajjhanahattho viya. Suṭṭhu samāraddhāti bhāvanāuppattiyā sammadeva sampāditā. Cinteyyāti atthuddhāravasena cinteyya.
ปพฺพตสฺสาติ ปพฺพโต อสฺสฯ ปพฺพโต อสฺสาติ ปพฺพโต ภเวยฺย กีทิสสฺสาติ อาห ‘‘สุวณฺณสฺสา’’ติอาทิฯ ชาตรูปสฺสาติ อาตปรูปสมฺปนฺนสฺสฯ ทฺวิกฺขตฺตุมฺปิ ตาว มหโนฺตติ ยตฺตโก โส ปพฺพโต โหติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ตตฺตโกฯ เอกสฺสาติ เอกสฺสปิ ปุคฺคลสฺส นาลํ น ปริยโตฺต ตณฺหาย ทุปฺปูรณภาวาฯ เอวํ ชานโนฺตติ เอวํ ตณฺหาย ทุปฺปูรณภาวาทีนวตํ ชานโนฺตฯ สมํ จเรยฺยาติ ปรวตฺถุปรามาสาทิํ วิหาย กายาทีหิ สมเมว ปฎิปเชฺชยฺยฯ
Pabbatassāti pabbato assa. Pabbato assāti pabbato bhaveyya kīdisassāti āha ‘‘suvaṇṇassā’’tiādi. Jātarūpassāti ātaparūpasampannassa. Dvikkhattumpi tāva mahantoti yattako so pabbato hoti, dvikkhattuṃ tattako. Ekassāti ekassapi puggalassa nālaṃ na pariyatto taṇhāya duppūraṇabhāvā. Evaṃ jānantoti evaṃ taṇhāya duppūraṇabhāvādīnavataṃ jānanto. Samaṃ careyyāti paravatthuparāmāsādiṃ vihāya kāyādīhi samameva paṭipajjeyya.
ทุกฺขํ ตณฺหานิทานํ, ตณฺหา กามคุณนิทานา, ตสฺมา ทุกฺขสฺส ตณฺหาปจฺจยกามคุณนิทานตฺตํ วุตฺตํฯ ตนฺติ ทุกฺขํฯ ยโตนิทานํ โหตีติ ยํนิทานํ ยํการณํ ตํ ปวตฺตติฯ เอวํ โย อทกฺขีติ โย ปริญฺญาตวตฺถุโก เอวํ ทุกฺขํ ตสฺส นิทานภูเต กามคุเณ จ ตถโต ปญฺญาจกฺขุนา ปสฺสิฯ เกน การเณน นเมยฺย? ตํ การณํ นตฺถีติ อโตฺถฯ กามคุณอุปธินฺติ กามคุณสงฺขาตํ อุปธิํฯ สชฺชติ เอตฺถาติ สโงฺค เอโส, ลคฺคนเมตนฺติ เอวํ วิทิตฺวาฯ ตเมว กามาภิภูโต นปฺปฎิเสเวยฺย น ลเคฺคยฺยาติ เอวํ วินยาย วูปสมาย สิเกฺขยฺยาติฯ
Dukkhaṃ taṇhānidānaṃ, taṇhā kāmaguṇanidānā, tasmā dukkhassa taṇhāpaccayakāmaguṇanidānattaṃ vuttaṃ. Tanti dukkhaṃ. Yatonidānaṃ hotīti yaṃnidānaṃ yaṃkāraṇaṃ taṃ pavattati. Evaṃ yo adakkhīti yo pariññātavatthuko evaṃ dukkhaṃ tassa nidānabhūte kāmaguṇe ca tathato paññācakkhunā passi. Kena kāraṇena nameyya? Taṃ kāraṇaṃ natthīti attho. Kāmaguṇaupadhinti kāmaguṇasaṅkhātaṃ upadhiṃ. Sajjati etthāti saṅgo eso, lagganametanti evaṃviditvā. Tameva kāmābhibhūto nappaṭiseveyya na laggeyyāti evaṃ vinayāya vūpasamāya sikkheyyāti.
รชฺชสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Rajjasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๐. รชฺชสุตฺตํ • 10. Rajjasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. รชฺชสุตฺตวณฺณนา • 10. Rajjasuttavaṇṇanā