Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi |
๑๒. รชฺชุมาลาวิมานวตฺถุ
12. Rajjumālāvimānavatthu
๘๒๖.
826.
‘‘อภิกฺกเนฺตน วเณฺณน, ยา ตฺวํ ติฎฺฐสิ เทวเต;
‘‘Abhikkantena vaṇṇena, yā tvaṃ tiṭṭhasi devate;
หตฺถปาเท จ วิคฺคยฺห, นจฺจสิ สุปฺปวาทิเตฯ
Hatthapāde ca viggayha, naccasi suppavādite.
๘๒๗.
827.
‘‘ตสฺสา เต นจฺจมานาย, องฺคมเงฺคหิ สพฺพโส;
‘‘Tassā te naccamānāya, aṅgamaṅgehi sabbaso;
ทิพฺพา สทฺทา นิจฺฉรนฺติ, สวนียา มโนรมาฯ
Dibbā saddā niccharanti, savanīyā manoramā.
๘๒๘.
828.
‘‘ตสฺสา เต นจฺจมานาย, องฺคมเงฺคหิ สพฺพโส;
‘‘Tassā te naccamānāya, aṅgamaṅgehi sabbaso;
ทิพฺพา คนฺธา ปวายนฺติ, สุจิคนฺธา มโนรมาฯ
Dibbā gandhā pavāyanti, sucigandhā manoramā.
๘๒๙.
829.
‘‘วิวตฺตมานา กาเยน, ยา เวณีสุ ปิฬนฺธนา;
‘‘Vivattamānā kāyena, yā veṇīsu piḷandhanā;
เตสํ สุยฺยติ นิโคฺฆโส, ตุริเย ปญฺจงฺคิเก ยถาฯ
Tesaṃ suyyati nigghoso, turiye pañcaṅgike yathā.
๘๓๐.
830.
‘‘วฎํสกา วาตธุตา, วาเตน สมฺปกมฺปิตา;
‘‘Vaṭaṃsakā vātadhutā, vātena sampakampitā;
เตสํ สุยฺยติ นิโคฺฆโส, ตุริเย ปญฺจงฺคิเก ยถาฯ
Tesaṃ suyyati nigghoso, turiye pañcaṅgike yathā.
๘๓๑.
831.
‘‘ยาปิ เต สิรสฺมิํ มาลา, สุจิคนฺธา มโนรมา;
‘‘Yāpi te sirasmiṃ mālā, sucigandhā manoramā;
วาติ คโนฺธ ทิสา สพฺพา, รุโกฺข มญฺชูสโก ยถาฯ
Vāti gandho disā sabbā, rukkho mañjūsako yathā.
๘๓๒.
832.
‘‘ฆายเส ตํ สุจิคนฺธํ, รูปํ ปสฺสสิ อมานุสํ;
‘‘Ghāyase taṃ sucigandhaṃ, rūpaṃ passasi amānusaṃ;
เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข, กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผล’’นฺติฯ
Devate pucchitācikkha, kissa kammassidaṃ phala’’nti.
๘๓๓.
833.
‘‘ทาสี อหํ ปุเร อาสิํ, คยายํ พฺราหฺมณสฺสหํ;
‘‘Dāsī ahaṃ pure āsiṃ, gayāyaṃ brāhmaṇassahaṃ;
๘๓๔.
834.
๘๓๕.
835.
‘‘วิปเถ กุฎํ นิกฺขิปิตฺวา, วนสณฺฑํ อุปาคมิํ;
‘‘Vipathe kuṭaṃ nikkhipitvā, vanasaṇḍaṃ upāgamiṃ;
๘๓๖.
836.
‘‘ทฬฺหํ ปาสํ กริตฺวาน, อาสุมฺภิตฺวาน ปาทเป;
‘‘Daḷhaṃ pāsaṃ karitvāna, āsumbhitvāna pādape;
ตโต ทิสา วิโลเกสิํ,โก นุ โข วนมสฺสิโตฯ
Tato disā vilokesiṃ,ko nu kho vanamassito.
๘๓๗.
837.
‘‘ตตฺถทฺทสาสิํ สมฺพุทฺธํ, สพฺพโลกหิตํ มุนิํ;
‘‘Tatthaddasāsiṃ sambuddhaṃ, sabbalokahitaṃ muniṃ;
นิสินฺนํ รุกฺขมูลสฺมิํ, ฌายนฺตํ อกุโตภยํฯ
Nisinnaṃ rukkhamūlasmiṃ, jhāyantaṃ akutobhayaṃ.
๘๓๘.
838.
‘‘ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน;
‘‘Tassā me ahu saṃvego, abbhuto lomahaṃsano;
โก นุ โข วนมสฺสิโต, มนุโสฺส อุทาหุ เทวตาฯ
Ko nu kho vanamassito, manusso udāhu devatā.
๘๓๙.
839.
‘‘ปาสาทิกํ ปสาทนียํ, วนา นิพฺพนมาคตํ;
‘‘Pāsādikaṃ pasādanīyaṃ, vanā nibbanamāgataṃ;
ทิสฺวา มโน เม ปสีทิ, นายํ ยาทิสกีทิโสฯ
Disvā mano me pasīdi, nāyaṃ yādisakīdiso.
๘๔๐.
840.
‘‘คุตฺตินฺทฺริโย ฌานรโต, อพหิคฺคตมานโส;
‘‘Guttindriyo jhānarato, abahiggatamānaso;
๘๔๑.
841.
‘‘ภยเภรโว ทุราสโท, สีโหว คุหมสฺสิโต;
‘‘Bhayabheravo durāsado, sīhova guhamassito;
ทุลฺลภายํ ทสฺสนาย, ปุปฺผํ โอทุมฺพรํ ยถาฯ
Dullabhāyaṃ dassanāya, pupphaṃ odumbaraṃ yathā.
๘๔๒.
842.
‘‘โส มํ มุทูหิ วาจาหิ, อาลปิตฺวา ตถาคโต;
‘‘So maṃ mudūhi vācāhi, ālapitvā tathāgato;
รชฺชุมาเลติ มํโวจ, สรณํ คจฺฉ ตถาคตํฯ
Rajjumāleti maṃvoca, saraṇaṃ gaccha tathāgataṃ.
๘๔๓.
843.
‘‘ตาหํ คิรํ สุณิตฺวาน, เนลํ อตฺถวติํ สุจิํ;
‘‘Tāhaṃ giraṃ suṇitvāna, nelaṃ atthavatiṃ suciṃ;
สณฺหํ มุทุญฺจ วคฺคุญฺจ, สพฺพโสกาปนูทนํฯ
Saṇhaṃ muduñca vagguñca, sabbasokāpanūdanaṃ.
๘๔๔.
844.
‘‘กลฺลจิตฺตญฺจ มํ ญตฺวา, ปสนฺนํ สุทฺธมานสํ;
‘‘Kallacittañca maṃ ñatvā, pasannaṃ suddhamānasaṃ;
หิโต สพฺพสฺส โลกสฺส, อนุสาสิ ตถาคโตฯ
Hito sabbassa lokassa, anusāsi tathāgato.
๘๔๕.
845.
‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ มํโวจ, อยํ ทุกฺขสฺส สมฺภโว;
‘‘Idaṃ dukkhanti maṃvoca, ayaṃ dukkhassa sambhavo;
๘๔๖.
846.
‘‘อนุกมฺปกสฺส กุสลสฺส, โอวาทมฺหิ อหํ ฐิตา;
‘‘Anukampakassa kusalassa, ovādamhi ahaṃ ṭhitā;
อชฺฌคา อมตํ สนฺติํ, นิพฺพานํ ปทมจฺจุตํฯ
Ajjhagā amataṃ santiṃ, nibbānaṃ padamaccutaṃ.
๘๔๗.
847.
‘‘สาหํ อวฎฺฐิตาเปมา, ทสฺสเน อวิกมฺปินี;
‘‘Sāhaṃ avaṭṭhitāpemā, dassane avikampinī;
มูลชาตาย สทฺธาย, ธีตา พุทฺธสฺส โอรสาฯ
Mūlajātāya saddhāya, dhītā buddhassa orasā.
๘๔๘.
848.
‘‘สาหํ รมามิ กีฬามิ, โมทามิ อกุโตภยา;
‘‘Sāhaṃ ramāmi kīḷāmi, modāmi akutobhayā;
ทิพฺพมาลํ ธารยามิ, ปิวามิ มธุมทฺทวํฯ
Dibbamālaṃ dhārayāmi, pivāmi madhumaddavaṃ.
๘๔๙.
849.
‘‘สฎฺฐิตุริยสหสฺสานิ, ปฎิโพธํ กโรนฺติ เม;
‘‘Saṭṭhituriyasahassāni, paṭibodhaṃ karonti me;
อาฬโมฺพ คคฺคโร ภีโม, สาธุวาที จ สํสโยฯ
Āḷambo gaggaro bhīmo, sādhuvādī ca saṃsayo.
๘๕๐.
850.
‘‘โปกฺขโร จ สุผโสฺส จ, วีณาโมกฺขา จ นาริโย;
‘‘Pokkharo ca suphasso ca, vīṇāmokkhā ca nāriyo;
นนฺทา เจว สุนนฺทา จ, โสณทินฺนา สุจิมฺหิตาฯ
Nandā ceva sunandā ca, soṇadinnā sucimhitā.
๘๕๑.
851.
๘๕๒.
852.
‘‘เอตา จญฺญา จ เสยฺยาเส, อจฺฉรานํ ปโพธิกา;
‘‘Etā caññā ca seyyāse, accharānaṃ pabodhikā;
ตา มํ กาเลนุปาคนฺตฺวา, อภิภาสนฺติ เทวตาฯ
Tā maṃ kālenupāgantvā, abhibhāsanti devatā.
๘๕๓.
853.
‘‘หนฺท นจฺจาม คายาม, หนฺท ตํ รมยามเส;
‘‘Handa naccāma gāyāma, handa taṃ ramayāmase;
นยิทํ อกตปุญฺญานํ, กตปุญฺญานเมวิทํฯ
Nayidaṃ akatapuññānaṃ, katapuññānamevidaṃ.
๘๕๔.
854.
‘‘อโสกํ นนฺทนํ รมฺมํ, ติทสานํ มหาวนํ;
‘‘Asokaṃ nandanaṃ rammaṃ, tidasānaṃ mahāvanaṃ;
สุขํ อกตปุญฺญานํ, อิธ นตฺถิ ปรตฺถ จฯ
Sukhaṃ akatapuññānaṃ, idha natthi parattha ca.
๘๕๕.
855.
‘‘สุขญฺจ กตปุญฺญานํ, อิธ เจว ปรตฺถ จ;
‘‘Sukhañca katapuññānaṃ, idha ceva parattha ca;
เตสํ สหพฺยกามานํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุํ;
Tesaṃ sahabyakāmānaṃ, kattabbaṃ kusalaṃ bahuṃ;
กตปุญฺญา หิ โมทนฺติ, สเคฺค โภคสมงฺคิโนฯ
Katapuññā hi modanti, sagge bhogasamaṅgino.
๘๕๖.
856.
‘‘พหูนํ วต อตฺถาย, อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา;
‘‘Bahūnaṃ vata atthāya, uppajjanti tathāgatā;
ทกฺขิเณยฺยา มนุสฺสานํ, ปุญฺญเขตฺตานมากรา;
Dakkhiṇeyyā manussānaṃ, puññakhettānamākarā;
ยตฺถ การํ กริตฺวาน, สเคฺค โมทนฺติ ทายกา’’ติฯ
Yattha kāraṃ karitvāna, sagge modanti dāyakā’’ti.
รชฺชุมาลาวิมานํ ทฺวาทสมํฯ
Rajjumālāvimānaṃ dvādasamaṃ.
มญฺชิฎฺฐกวโคฺค จตุโตฺถ นิฎฺฐิโตฯ
Mañjiṭṭhakavaggo catuttho niṭṭhito.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
มญฺชิฎฺฐา ปภสฺสรา นาคา, อโลมากญฺชิกทายิกา;
Mañjiṭṭhā pabhassarā nāgā, alomākañjikadāyikā;
วิหารจตุริตฺถมฺพา, ปีตา อุจฺฉุวนฺทนรชฺชุมาลา จ;
Vihāracaturitthambā, pītā ucchuvandanarajjumālā ca;
วโคฺค เตน ปวุจฺจตีติฯ
Vaggo tena pavuccatīti.
อิตฺถิวิมานํ สมตฺตํฯ
Itthivimānaṃ samattaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā / ๑๒. รชฺชุมาลาวิมานวณฺณนา • 12. Rajjumālāvimānavaṇṇanā