Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๑๒. ราสิยสุตฺตํ

    12. Rāsiyasuttaṃ

    ๓๖๔. อถ โข ราสิโย คามณิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราสิโย คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภเนฺต, ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสิํ ลูขชีวิํ เอกํเสน อุปวทติ อุปโกฺกสตี’ติ 1ฯ เย เต, ภเนฺต, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสิํ ลูขชีวิํ เอกํเสน อุปวทติ อุปโกฺกสตี’ติ, กจฺจิ เต, ภเนฺต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉตี’’ติ? ‘‘เย เต, คามณิ, เอวมาหํสุ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสิํ ลูขชีวิํ เอกํเสน อุปวทติ อุปโกฺกสตี’ติ, น เม เต วุตฺตวาทิโน, อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ เต อสตา ตุจฺฉา อภูเตน’’ฯ

    364. Atha kho rāsiyo gāmaṇi yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rāsiyo gāmaṇi bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sutaṃ metaṃ, bhante, ‘samaṇo gotamo sabbaṃ tapaṃ garahati, sabbaṃ tapassiṃ lūkhajīviṃ ekaṃsena upavadati upakkosatī’ti 2. Ye te, bhante, evamāhaṃsu – ‘samaṇo gotamo sabbaṃ tapaṃ garahati, sabbaṃ tapassiṃ lūkhajīviṃ ekaṃsena upavadati upakkosatī’ti, kacci te, bhante, bhagavato vuttavādino, na ca bhagavantaṃ abhūtena abbhācikkhanti, dhammassa cānudhammaṃ byākaronti, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchatī’’ti? ‘‘Ye te, gāmaṇi, evamāhaṃsu – ‘samaṇo gotamo sabbaṃ tapaṃ garahati, sabbaṃ tapassiṃ lūkhajīviṃ ekaṃsena upavadati upakkosatī’ti, na me te vuttavādino, abbhācikkhanti ca pana maṃ te asatā tucchā abhūtena’’.

    ‘‘เทฺวเม, คามณิ, อนฺตา ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา – โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโค หีโน คโมฺม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, โย จายํ อตฺตกิลมถานุโยโค ทุโกฺข อนริโย อนตฺถสํหิโตฯ เอเต เต, คามณิ, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฎิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา – จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ กตมา จ สา, คามณิ, มชฺฌิมา ปฎิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา – จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ…เป.… สมฺมาสมาธิฯ อยํ โข สา, คามณิ, มชฺฌิมา ปฎิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา – จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ

    ‘‘Dveme, gāmaṇi, antā pabbajitena na sevitabbā – yo cāyaṃ kāmesu kāmasukhallikānuyogo hīno gammo pothujjaniko anariyo anatthasaṃhito, yo cāyaṃ attakilamathānuyogo dukkho anariyo anatthasaṃhito. Ete te, gāmaṇi, ubho ante anupagamma majjhimā paṭipadā tathāgatena abhisambuddhā – cakkhukaraṇī ñāṇakaraṇī upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati. Katamā ca sā, gāmaṇi, majjhimā paṭipadā tathāgatena abhisambuddhā – cakkhukaraṇī ñāṇakaraṇī upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati? Ayameva ariyo aṭṭhaṅgiko maggo, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi…pe… sammāsamādhi. Ayaṃ kho sā, gāmaṇi, majjhimā paṭipadā tathāgatena abhisambuddhā – cakkhukaraṇī ñāṇakaraṇī upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati.

    ‘‘ตโย โข เม, คามณิ, กามโภคิโน สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม ตโย? อิธ, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ, สาหเสน อธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปุญฺญานิ กโรติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนฯ อธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปุญฺญานิ กโรติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนฯ อธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ

    ‘‘Tayo kho me, gāmaṇi, kāmabhogino santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame tayo? Idha, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī adhammena bhoge pariyesati, sāhasena adhammena bhoge pariyesitvā sāhasena na attānaṃ sukheti na pīṇeti na saṃvibhajati na puññāni karoti. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī adhammena bhoge pariyesati sāhasena. Adhammena bhoge pariyesitvā sāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti, na saṃvibhajati na puññāni karoti. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī adhammena bhoge pariyesati sāhasena. Adhammena bhoge pariyesitvā sāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti.

    ‘‘อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิฯ ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิฯ ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสติ, สาหเสนปิ อสาหเสนปิ ฯ ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ

    ‘‘Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammādhammena bhoge pariyesati sāhasenapi asāhasenapi. Dhammādhammena bhoge pariyesitvā sāhasenapi asāhasenapi na attānaṃ sukheti, na pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammādhammena bhoge pariyesati sāhasenapi asāhasenapi. Dhammādhammena bhoge pariyesitvā sāhasenapi asāhasenapi attānaṃ sukheti pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammādhammena bhoge pariyesati, sāhasenapi asāhasenapi . Dhammādhammena bhoge pariyesitvā sāhasenapi asāhasenapi attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti.

    ‘‘อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนฯ ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนฯ ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนฯ ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ เต จ โภเค คธิโต 3 มุจฺฉิโต อโชฺฌปโนฺน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติฯ อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนฯ ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ เต จ โภเค อคธิโต อมุจฺฉิโต อนโชฺฌปโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติฯ

    ‘‘Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena. Dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena na attānaṃ sukheti, na pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena. Dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena. Dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti. Te ca bhoge gadhito 4 mucchito ajjhopanno anādīnavadassāvī anissaraṇapañño paribhuñjati. Idha pana, gāmaṇi, ekacco kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena. Dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti. Te ca bhoge agadhito amucchito anajjhopanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjati.

    ‘‘ตตฺร , คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ กตเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ตติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra , gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī adhammena bhoge pariyesati sāhasena, adhammena bhoge pariyesitvā sāhasena na attānaṃ sukheti, na pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī tīhi ṭhānehi gārayho. Katamehi tīhi ṭhānehi gārayho? Adhammena bhoge pariyesati sāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Na attānaṃ sukheti na pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Na saṃvibhajati, na puññāni karotīti, iminā tatiyena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi tīhi ṭhānehi gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห, เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน ปาสํโส? อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห, อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī adhammena bhoge pariyesati sāhasena, adhammena bhoge pariyesitvā sāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī dvīhi ṭhānehi gārayho, ekena ṭhānena pāsaṃso. Katamehi dvīhi ṭhānehi gārayho? Adhammena bhoge pariyesati sāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Na saṃvibhajati, na puññāni karotīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Katamena ekena ṭhānena pāsaṃso? Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā ekena ṭhānena pāsaṃso. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi dvīhi ṭhānehi gārayho, iminā ekena ṭhānena pāsaṃso.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี เอเกน ฐาเนน คารโยฺห, ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโสฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน คารโยฺห? อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนาติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺห, อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโสฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī adhammena bhoge pariyesati sāhasena, adhammena bhoge pariyesitvā sāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī ekena ṭhānena gārayho, dvīhi ṭhānehi pāsaṃso. Katamena ekena ṭhānena gārayho? Adhammena bhoge pariyesati sāhasenāti, iminā ekena ṭhānena gārayho. Katamehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso? Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Saṃvibhajati puññāni karotīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī, iminā ekena ṭhānena gārayho, imehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี เอเกน ฐาเนน ปาสํโส, ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ กตเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ตติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโส, อิเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammādhammena bhoge pariyesati sāhasenapi asāhasenapi, dhammādhammena bhoge pariyesitvā sāhasenapi asāhasenapi na attānaṃ sukheti, na pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī ekena ṭhānena pāsaṃso, tīhi ṭhānehi gārayho. Katamena ekena ṭhānena pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā ekena ṭhānena pāsaṃso. Katamehi tīhi ṭhānehi gārayho? Adhammena bhoge pariyesati sāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Na attānaṃ sukheti, na pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Na saṃvibhajati, na puññāni karotīti, iminā tatiyena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī iminā ekena ṭhānena pāsaṃso, imehi tīhi ṭhānehi gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโส ฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammādhammena bhoge pariyesati sāhasenapi asāhasenapi, dhammādhammena bhoge pariyesitvā sāhasenapi asāhasenapi attānaṃ sukheti pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī dvīhi ṭhānehi pāsaṃso, dvīhi ṭhānehi gārayho. Katamehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso . Katamehi dvīhi ṭhānehi gārayho? Adhammena bhoge pariyesati sāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Na saṃvibhajati, na puññāni karotīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso, imehi dvīhi ṭhānehi gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี ตีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ตติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน คารโยฺห? อธเมฺมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนาติ , อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammādhammena bhoge pariyesati sāhasenapi asāhasenapi, dhammādhammena bhoge pariyesitvā sāhasenapi asāhasenapi attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī tīhi ṭhānehi pāsaṃso, ekena ṭhānena gārayho. Katamehi tīhi ṭhānehi pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso. Saṃvibhajati puññāni karotīti, iminā tatiyena ṭhānena pāsaṃso. Katamena ekena ṭhānena gārayho? Adhammena bhoge pariyesati sāhasenāti , iminā ekena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi tīhi ṭhānehi pāsaṃso, iminā ekena ṭhānena gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน , ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน, น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี เอเกน ฐาเนน ปาสํโส, ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? น อตฺตานํ สุเขติ, น ปีเณตีติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโส, อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena , dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena, na attānaṃ sukheti, na pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī ekena ṭhānena pāsaṃso, dvīhi ṭhānehi gārayho. Katamena ekena ṭhānena pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā ekena ṭhānena pāsaṃso. Katamehi dvīhi ṭhānehi gārayho? Na attānaṃ sukheti, na pīṇetīti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Na saṃvibhajati, na puññāni karotīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī iminā ekena ṭhānena pāsaṃso, imehi dvīhi ṭhānehi gārayho.

    ‘‘ตตฺร , คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน คารโยฺห ? น สํวิภชติ, น ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra , gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena, dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti, na saṃvibhajati, na puññāni karoti. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī dvīhi ṭhānehi pāsaṃso, ekena ṭhānena gārayho. Katamehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso. Katamena ekena ṭhānena gārayho ? Na saṃvibhajati, na puññāni karotīti, iminā ekena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso, iminā ekena ṭhānena gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน , ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติ, เต จ โภเค คธิโต มุจฺฉิโต อโชฺฌปโนฺน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี ตีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ตติเยน ฐาเนน ปาสํโส ฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน คารโยฺห? เต จ โภเค คธิโต มุจฺฉิโต อโชฺฌปโนฺน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชตีติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena , dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti, te ca bhoge gadhito mucchito ajjhopanno anādīnavadassāvī anissaraṇapañño paribhuñjati. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī tīhi ṭhānehi pāsaṃso, ekena ṭhānena gārayho. Katamehi tīhi ṭhānehi pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso. Saṃvibhajati puññāni karotīti, iminā tatiyena ṭhānena pāsaṃso . Katamena ekena ṭhānena gārayho? Te ca bhoge gadhito mucchito ajjhopanno anādīnavadassāvī anissaraṇapañño paribhuñjatīti, iminā ekena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi tīhi ṭhānehi pāsaṃso, iminā ekena ṭhānena gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ กามโภคี ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธเมฺมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรติฯ เต จ โภเค อคธิโต อมุจฺฉิโต อนโชฺฌปโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี จตูหิ ฐาเนหิ ปาสํโสฯ กตเมหิ จตูหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? ธเมฺมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนาติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ สํวิภชติ ปุญฺญานิ กโรตีติ, อิมินา ตติเยน ฐาเนน ปาสํโสฯ เต จ โภเค อคธิโต อมุจฺฉิโต อนโชฺฌปโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชตีติ, อิมินา จตุเตฺถน ฐาเนน ปาสํโสฯ อยํ, คามณิ, กามโภคี อิเมหิ จตูหิ ฐาเนหิ ปาสํโสฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ kāmabhogī dhammena bhoge pariyesati asāhasena, dhammena bhoge pariyesitvā asāhasena attānaṃ sukheti pīṇeti saṃvibhajati puññāni karoti. Te ca bhoge agadhito amucchito anajjhopanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjati. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī catūhi ṭhānehi pāsaṃso. Katamehi catūhi ṭhānehi pāsaṃso? Dhammena bhoge pariyesati asāhasenāti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Attānaṃ sukheti pīṇetīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso. Saṃvibhajati puññāni karotīti, iminā tatiyena ṭhānena pāsaṃso. Te ca bhoge agadhito amucchito anajjhopanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjatīti, iminā catutthena ṭhānena pāsaṃso. Ayaṃ, gāmaṇi, kāmabhogī imehi catūhi ṭhānehi pāsaṃso.

    ‘‘ตโยเม, คามณิ, ตปสฺสิโน ลูขชีวิโน สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม ตโย? อิธ, คามณิ, เอกโจฺจ ตปสฺสี ลูขชีวี สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘อเปฺปว นาม กุสลํ ธมฺมํ อธิคเจฺฉยฺยํ, อเปฺปว นาม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกเรยฺย’นฺติฯ โส อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, กุสลญฺจ ธมฺมํ นาธิคจฺฉติ, อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ น สจฺฉิกโรติฯ

    ‘‘Tayome, gāmaṇi, tapassino lūkhajīvino santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame tayo? Idha, gāmaṇi, ekacco tapassī lūkhajīvī saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti – ‘appeva nāma kusalaṃ dhammaṃ adhigaccheyyaṃ, appeva nāma uttarimanussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ sacchikareyya’nti. So attānaṃ ātāpeti paritāpeti, kusalañca dhammaṃ nādhigacchati, uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ na sacchikaroti.

    ‘‘อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ ตปสฺสี ลูขชีวี สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘อเปฺปว นาม กุสลํ ธมฺมํ อธิคเจฺฉยฺยํ, อเปฺปว นาม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกเรยฺย’นฺติฯ โส อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, กุสลญฺหิ โข ธมฺมํ อธิคจฺฉติ, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ น สจฺฉิกโรติฯ

    ‘‘Idha pana, gāmaṇi, ekacco tapassī lūkhajīvī saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti – ‘appeva nāma kusalaṃ dhammaṃ adhigaccheyyaṃ, appeva nāma uttarimanussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ sacchikareyya’nti. So attānaṃ ātāpeti paritāpeti, kusalañhi kho dhammaṃ adhigacchati, uttarimanussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ na sacchikaroti.

    ‘‘อิธ ปน, คามณิ, เอกโจฺจ ตปสฺสี ลูขชีวี สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ – ‘อเปฺปว นาม กุสลํ ธมฺมํ อธิคเจฺฉยฺยํ, อเปฺปว นาม อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกเรยฺย’นฺติฯ โส อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ , กุสลญฺจ ธมฺมํ อธิคจฺฉติ, อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกโรติฯ

    ‘‘Idha pana, gāmaṇi, ekacco tapassī lūkhajīvī saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti – ‘appeva nāma kusalaṃ dhammaṃ adhigaccheyyaṃ, appeva nāma uttarimanussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ sacchikareyya’nti. So attānaṃ ātāpeti paritāpeti , kusalañca dhammaṃ adhigacchati, uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ sacchikaroti.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ ตปสฺสี ลูขชีวี อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, กุสลญฺจ ธมฺมํ นาธิคจฺฉติ, อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ น สจฺฉิกโรติฯ อยํ, คามณิ, ตปสฺสี ลูขชีวี ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ กตเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปตีติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ กุสลญฺจ ธมฺมํ นาธิคจฺฉตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ น สจฺฉิกโรตีติ, อิมินา ตติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ อยํ, คามณิ, ตปสฺสี ลูขชีวี, อิเมหิ ตีหิ ฐาเนหิ คารโยฺหฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ tapassī lūkhajīvī attānaṃ ātāpeti paritāpeti, kusalañca dhammaṃ nādhigacchati, uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ na sacchikaroti. Ayaṃ, gāmaṇi, tapassī lūkhajīvī tīhi ṭhānehi gārayho. Katamehi tīhi ṭhānehi gārayho? Attānaṃ ātāpeti paritāpetīti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Kusalañca dhammaṃ nādhigacchatīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ na sacchikarotīti, iminā tatiyena ṭhānena gārayho. Ayaṃ, gāmaṇi, tapassī lūkhajīvī, imehi tīhi ṭhānehi gārayho.

    ‘‘ตตฺร, คามณิ, ยฺวายํ ตปสฺสี ลูขชีวี อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, กุสลญฺหิ โข ธมฺมํ อธิคจฺฉติ, อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ น สจฺฉิกโรติฯ อยํ, คามณิ, ตปสฺสี ลูขชีวี ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห, เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห? อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปตีติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน คารโยฺหฯ อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ น สจฺฉิกโรตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน ปาสํโส? กุสลญฺหิ โข ธมฺมํ อธิคจฺฉตีติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ อยํ, คามณิ, ตปสฺสี ลูขชีวี อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ คารโยฺห, อิมินา เอเกน ฐาเนน ปาสํโสฯ

    ‘‘Tatra, gāmaṇi, yvāyaṃ tapassī lūkhajīvī attānaṃ ātāpeti paritāpeti, kusalañhi kho dhammaṃ adhigacchati, uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ na sacchikaroti. Ayaṃ, gāmaṇi, tapassī lūkhajīvī dvīhi ṭhānehi gārayho, ekena ṭhānena pāsaṃso. Katamehi dvīhi ṭhānehi gārayho? Attānaṃ ātāpeti paritāpetīti, iminā paṭhamena ṭhānena gārayho. Uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ na sacchikarotīti, iminā dutiyena ṭhānena gārayho. Katamena ekena ṭhānena pāsaṃso? Kusalañhi kho dhammaṃ adhigacchatīti, iminā ekena ṭhānena pāsaṃso. Ayaṃ, gāmaṇi, tapassī lūkhajīvī imehi dvīhi ṭhānehi gārayho, iminā ekena ṭhānena pāsaṃso.

    ‘‘ตตฺร , คามณิ, ยฺวายํ ตปสฺสี ลูขชีวี อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปติ, กุสลญฺจ ธมฺมํ อธิคจฺฉติ, อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกโรติฯ อยํ, คามณิ, ตปสฺสี ลูขชีวี เอเกน ฐาเนน คารโยฺห, ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโสฯ กตเมน เอเกน ฐาเนน คารโยฺห? อตฺตานํ อาตาเปติ ปริตาเปตีติ, อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺหฯ กตเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโส? กุสลญฺจ ธมฺมํ อธิคจฺฉตีติ, อิมินา ปฐเมน ฐาเนน ปาสํโสฯ อุตฺตริ จ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสสํ สจฺฉิกโรตีติ, อิมินา ทุติเยน ฐาเนน ปาสํโส ฯ อยํ, คามณิ, ตปสฺสี ลูขชีวี อิมินา เอเกน ฐาเนน คารโยฺห, อิเมหิ ทฺวีหิ ฐาเนหิ ปาสํโสฯ

    ‘‘Tatra , gāmaṇi, yvāyaṃ tapassī lūkhajīvī attānaṃ ātāpeti paritāpeti, kusalañca dhammaṃ adhigacchati, uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ sacchikaroti. Ayaṃ, gāmaṇi, tapassī lūkhajīvī ekena ṭhānena gārayho, dvīhi ṭhānehi pāsaṃso. Katamena ekena ṭhānena gārayho? Attānaṃ ātāpeti paritāpetīti, iminā ekena ṭhānena gārayho. Katamehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso? Kusalañca dhammaṃ adhigacchatīti, iminā paṭhamena ṭhānena pāsaṃso. Uttari ca manussadhammā alamariyañāṇadassanavisesaṃ sacchikarotīti, iminā dutiyena ṭhānena pāsaṃso . Ayaṃ, gāmaṇi, tapassī lūkhajīvī iminā ekena ṭhānena gārayho, imehi dvīhi ṭhānehi pāsaṃso.

    ‘‘ติโสฺส อิมา, คามณิ, สนฺทิฎฺฐิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิญฺญูหิฯ กตมา ติโสฺส? ยํ รโตฺต ราคาธิกรณํ อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติฯ ราเค ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติฯ สนฺทิฎฺฐิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิญฺญูหิฯ ยํ ทุโฎฺฐ โทสาธิกรณํ อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติฯ โทเส ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติฯ สนฺทิฎฺฐิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิญฺญูหิฯ ยํ มูโฬฺห โมหาธิกรณํ อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติฯ โมเห ปหีเน เนวตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติฯ สนฺทิฎฺฐิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิญฺญูหิฯ อิมา โข, คามณิ, ติโสฺส สนฺทิฎฺฐิกา นิชฺชรา อกาลิกา เอหิปสฺสิกา โอปเนยฺยิกา ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพา วิญฺญูหี’’ติฯ

    ‘‘Tisso imā, gāmaṇi, sandiṭṭhikā nijjarā akālikā ehipassikā opaneyyikā paccattaṃ veditabbā viññūhi. Katamā tisso? Yaṃ ratto rāgādhikaraṇaṃ attabyābādhāyapi ceteti, parabyābādhāyapi ceteti, ubhayabyābādhāyapi ceteti. Rāge pahīne nevattabyābādhāya ceteti, na parabyābādhāya ceteti, na ubhayabyābādhāya ceteti. Sandiṭṭhikā nijjarā akālikā ehipassikā opaneyyikā paccattaṃ veditabbā viññūhi. Yaṃ duṭṭho dosādhikaraṇaṃ attabyābādhāyapi ceteti, parabyābādhāyapi ceteti, ubhayabyābādhāyapi ceteti. Dose pahīne nevattabyābādhāya ceteti, na parabyābādhāya ceteti, na ubhayabyābādhāya ceteti. Sandiṭṭhikā nijjarā akālikā ehipassikā opaneyyikā paccattaṃ veditabbā viññūhi. Yaṃ mūḷho mohādhikaraṇaṃ attabyābādhāyapi ceteti, parabyābādhāyapi ceteti, ubhayabyābādhāyapi ceteti. Mohe pahīne nevattabyābādhāya ceteti, na parabyābādhāya ceteti, na ubhayabyābādhāya ceteti. Sandiṭṭhikā nijjarā akālikā ehipassikā opaneyyikā paccattaṃ veditabbā viññūhi. Imā kho, gāmaṇi, tisso sandiṭṭhikā nijjarā akālikā ehipassikā opaneyyikā paccattaṃ veditabbā viññūhī’’ti.

    เอวํ วุเตฺต, ราสิโย คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต…เป.… อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ทฺวาทสมํฯ

    Evaṃ vutte, rāsiyo gāmaṇi bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bhante…pe… upāsakaṃ maṃ bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Dvādasamaṃ.







    Footnotes:
    1. อุปโกฺกสติ อุปวทตีติ (ที. นิ. ๑.๓๘๑)
    2. upakkosati upavadatīti (dī. ni. 1.381)
    3. คถิโต (สี.)
    4. gathito (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๒. ราสิยสุตฺตวณฺณนา • 12. Rāsiyasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๒. ราสิยสุตฺตวณฺณนา • 12. Rāsiyasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact