Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / พุทฺธวํสปาฬิ • Buddhavaṃsapāḷi

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    ขุทฺทกนิกาเย

    Khuddakanikāye

    พุทฺธวํสปาฬิ

    Buddhavaṃsapāḷi

    ๑. รตนจงฺกมนกณฺฑํ

    1. Ratanacaṅkamanakaṇḍaṃ

    .

    1.

    พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปตี 1, กตญฺชลี อนธิวรํ อยาจถ;

    Brahmā ca lokādhipatī sahampatī 2, katañjalī anadhivaraṃ ayācatha;

    ‘‘สนฺตีธ สตฺตาปฺปรชกฺขชาติกา, เทเสหิ ธมฺมํ อนุกมฺปิมํ ปชํ’’ฯ

    ‘‘Santīdha sattāpparajakkhajātikā, desehi dhammaṃ anukampimaṃ pajaṃ’’.

    .

    2.

    สมฺปนฺนวิชฺชาจรณสฺส ตาทิโน, ชุตินฺธรสฺสนฺติมเทหธาริโน;

    Sampannavijjācaraṇassa tādino, jutindharassantimadehadhārino;

    ตถาคตสฺสปฺปฎิปุคฺคลสฺส, อุปฺปชฺชิ การุญฺญตา สพฺพสเตฺตฯ

    Tathāgatassappaṭipuggalassa, uppajji kāruññatā sabbasatte.

    .

    3.

    ‘‘น เหเต ชานนฺติ สเทวมานุสา, พุโทฺธ อยํ กีทิสโก นรุตฺตโม;

    ‘‘Na hete jānanti sadevamānusā, buddho ayaṃ kīdisako naruttamo;

    อิทฺธิพลํ ปญฺญาพลญฺจ กีทิสํ, พุทฺธพลํ โลกหิตสฺส กีทิสํฯ

    Iddhibalaṃ paññābalañca kīdisaṃ, buddhabalaṃ lokahitassa kīdisaṃ.

    .

    4.

    ‘‘น เหเต ชานนฺติ สเทวมานุสา, พุโทฺธ อยํ เอทิสโก นรุตฺตโม;

    ‘‘Na hete jānanti sadevamānusā, buddho ayaṃ edisako naruttamo;

    อิทฺธิพลํ ปญฺญาพลญฺจ เอทิสํ, พุทฺธพลํ โลกหิตสฺส เอทิสํฯ

    Iddhibalaṃ paññābalañca edisaṃ, buddhabalaṃ lokahitassa edisaṃ.

    .

    5.

    ‘‘หนฺทาหํ ทสฺสยิสฺสามิ, พุทฺธพลมนุตฺตรํ;

    ‘‘Handāhaṃ dassayissāmi, buddhabalamanuttaraṃ;

    จงฺกมํ มาปยิสฺสามิ, นเภ รตนมณฺฑิตํ’’ฯ

    Caṅkamaṃ māpayissāmi, nabhe ratanamaṇḍitaṃ’’.

    .

    6.

    ภุมฺมา มหาราชิกา ตาวติํสา, ยามา จ เทวา ตุสิตา จ นิมฺมิตา;

    Bhummā mahārājikā tāvatiṃsā, yāmā ca devā tusitā ca nimmitā;

    ปรนิมฺมิตา เยปิ จ พฺรหฺมกายิกา, อานนฺทิตา วิปุลมกํสุ โฆสํฯ

    Paranimmitā yepi ca brahmakāyikā, ānanditā vipulamakaṃsu ghosaṃ.

    .

    7.

    โอภาสิตา จ ปถวี สเทวกา, ปุถู จ โลกนฺตริกา อสํวุตา;

    Obhāsitā ca pathavī sadevakā, puthū ca lokantarikā asaṃvutā;

    ตโม จ ติโพฺพ วิหโต ตทา อหุ, ทิสฺวาน อเจฺฉรกํ ปาฎิหีรํฯ

    Tamo ca tibbo vihato tadā ahu, disvāna accherakaṃ pāṭihīraṃ.

    .

    8.

    สเทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขเส, อาภา อุฬารา วิปุลา อชายถ;

    Sadevagandhabbamanussarakkhase, ābhā uḷārā vipulā ajāyatha;

    อิมสฺมิํ โลเก ปรสฺมิโญฺจภยสฺมิํ 3, อโธ จ อุทฺธํ ติริยญฺจ วิตฺถตํฯ

    Imasmiṃ loke parasmiñcobhayasmiṃ 4, adho ca uddhaṃ tiriyañca vitthataṃ.

    .

    9.

    สตฺตุตฺตโม อนธิวโร วินายโก, สตฺถา อหู เทวมนุสฺสปูชิโต;

    Sattuttamo anadhivaro vināyako, satthā ahū devamanussapūjito;

    มหานุภาโว สตปุญฺญลกฺขโณ, ทเสฺสสิ อเจฺฉรกํ ปาฎิหีรํฯ

    Mahānubhāvo satapuññalakkhaṇo, dassesi accherakaṃ pāṭihīraṃ.

    ๑๐.

    10.

    โส ยาจิโต เทววเรน จกฺขุมา, อตฺถํ สเมกฺขิตฺวา ตทา นรุตฺตโม;

    So yācito devavarena cakkhumā, atthaṃ samekkhitvā tadā naruttamo;

    จงฺกมํ 5 มาปยิ โลกนายโก, สุนิฎฺฐิตํ สพฺพรตนนิมฺมิตํฯ

    Caṅkamaṃ 6 māpayi lokanāyako, suniṭṭhitaṃ sabbaratananimmitaṃ.

    ๑๑.

    11.

    อิทฺธี จ อาเทสนานุสาสนี, ติปาฎิหีเร ภควา วสี อหุ;

    Iddhī ca ādesanānusāsanī, tipāṭihīre bhagavā vasī ahu;

    จงฺกมํ มาปยิ โลกนายโก, สุนิฎฺฐิตํ สพฺพรตนนิมฺมิตํฯ

    Caṅkamaṃ māpayi lokanāyako, suniṭṭhitaṃ sabbaratananimmitaṃ.

    ๑๒.

    12.

    ทสสหสฺสีโลกธาตุยา, สิเนรุปพฺพตุตฺตเม;

    Dasasahassīlokadhātuyā, sinerupabbatuttame;

    ถเมฺภว ทเสฺสสิ ปฎิปาฎิยา, จงฺกเม รตนามเยฯ

    Thambheva dassesi paṭipāṭiyā, caṅkame ratanāmaye.

    ๑๓.

    13.

    ทสสหสฺสี อติกฺกมฺม, จงฺกมํ มาปยี ชิโน;

    Dasasahassī atikkamma, caṅkamaṃ māpayī jino;

    สพฺพโสณฺณมยา ปเสฺส, จงฺกเม รตนามเยฯ

    Sabbasoṇṇamayā passe, caṅkame ratanāmaye.

    ๑๔.

    14.

    ตุลาสงฺฆาฎานุวคฺคา , โสวณฺณผลกตฺถตา;

    Tulāsaṅghāṭānuvaggā , sovaṇṇaphalakatthatā;

    เวทิกา สพฺพโสวณฺณา, ทุภโต ปเสฺสสุ นิมฺมิตาฯ

    Vedikā sabbasovaṇṇā, dubhato passesu nimmitā.

    ๑๕.

    15.

    มณิมุตฺตาวาลุกากิณฺณา, นิมฺมิโต รตนามโย;

    Maṇimuttāvālukākiṇṇā, nimmito ratanāmayo;

    โอภาเสติ ทิสา สพฺพา, สตรํสีว อุคฺคโตฯ

    Obhāseti disā sabbā, sataraṃsīva uggato.

    ๑๖.

    16.

    ตสฺมิํ จงฺกมเน ธีโร, ทฺวตฺติํสวรลกฺขโณ;

    Tasmiṃ caṅkamane dhīro, dvattiṃsavaralakkhaṇo;

    วิโรจมาโน สมฺพุโทฺธ, จงฺกเม จงฺกมี ชิโนฯ

    Virocamāno sambuddho, caṅkame caṅkamī jino.

    ๑๗.

    17.

    ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริฉตฺตกํ;

    Dibbaṃ mandāravaṃ pupphaṃ, padumaṃ pārichattakaṃ;

    จงฺกมเน โอกิรนฺติ, สเพฺพ เทวา สมาคตาฯ

    Caṅkamane okiranti, sabbe devā samāgatā.

    ๑๘.

    18.

    ปสฺสนฺติ ตํ เทวสงฺฆา, ทสสหสฺสี ปโมทิตา;

    Passanti taṃ devasaṅghā, dasasahassī pamoditā;

    นมสฺสมานา นิปตนฺติ, ตุฎฺฐหฎฺฐา ปโมทิตาฯ

    Namassamānā nipatanti, tuṭṭhahaṭṭhā pamoditā.

    ๑๙.

    19.

    ตาวติํสา จ ยามา จ, ตุสิตา จาปิ เทวตา;

    Tāvatiṃsā ca yāmā ca, tusitā cāpi devatā;

    นิมฺมานรติโน เทวา, เย เทวา วสวตฺติโน;

    Nimmānaratino devā, ye devā vasavattino;

    อุทคฺคจิตฺตา สุมนา, ปสฺสนฺติ โลกนายกํฯ

    Udaggacittā sumanā, passanti lokanāyakaṃ.

    ๒๐.

    20.

    สเทวคนฺธพฺพมนุสฺสรกฺขสา, นาคา สุปณฺณา อถ วาปิ กินฺนรา;

    Sadevagandhabbamanussarakkhasā, nāgā supaṇṇā atha vāpi kinnarā;

    ปสฺสนฺติ ตํ โลกหิตานุกมฺปกํ, นเภว อจฺจุคฺคตจนฺทมณฺฑลํฯ

    Passanti taṃ lokahitānukampakaṃ, nabheva accuggatacandamaṇḍalaṃ.

    ๒๑.

    21.

    อาภสฺสรา สุภกิณฺหา, เวหปฺผลา อกนิฎฺฐา จ เทวตา;

    Ābhassarā subhakiṇhā, vehapphalā akaniṭṭhā ca devatā;

    สุสุทฺธสุกฺกวตฺถวสนา, ติฎฺฐนฺติ ปญฺชลีกตาฯ

    Susuddhasukkavatthavasanā, tiṭṭhanti pañjalīkatā.

    ๒๒.

    22.

    มุญฺจนฺติ ปุปฺผํ ปน ปญฺจวณฺณิกํ, มนฺทารวํ จนฺทนจุณฺณมิสฺสิตํ;

    Muñcanti pupphaṃ pana pañcavaṇṇikaṃ, mandāravaṃ candanacuṇṇamissitaṃ;

    ภเมนฺติ เจลานิ จ อมฺพเร ตทา, ‘‘อโห ชิโน โลกหิตานุกมฺปโกฯ

    Bhamenti celāni ca ambare tadā, ‘‘aho jino lokahitānukampako.

    ๒๓.

    23.

    ‘‘ตุวํ สตฺถา จ เกตู จ, ธโช ยูโป จ ปาณินํ;

    ‘‘Tuvaṃ satthā ca ketū ca, dhajo yūpo ca pāṇinaṃ;

    ปรายโน ปติฎฺฐา จ, ทีโป จ ทฺวิปทุตฺตโม 7

    Parāyano patiṭṭhā ca, dīpo ca dvipaduttamo 8.

    ๒๔.

    24.

    ‘‘ทสสหสฺสีโลกธาตุยา, เทวตาโย มหิทฺธิกา;

    ‘‘Dasasahassīlokadhātuyā, devatāyo mahiddhikā;

    ปริวาเรตฺวา นมสฺสนฺติ, ตุฎฺฐหฎฺฐา ปโมทิตาฯ

    Parivāretvā namassanti, tuṭṭhahaṭṭhā pamoditā.

    ๒๕.

    25.

    ‘‘เทวตา เทวกญฺญา จ, ปสนฺนา ตุฎฺฐมานสา;

    ‘‘Devatā devakaññā ca, pasannā tuṭṭhamānasā;

    ปญฺจวณฺณิกปุเปฺผหิ, ปูชยนฺติ นราสภํฯ

    Pañcavaṇṇikapupphehi, pūjayanti narāsabhaṃ.

    ๒๖.

    26.

    ‘‘ปสฺสนฺติ ตํ เทวสงฺฆา, ปสนฺนา ตุฎฺฐมานสา;

    ‘‘Passanti taṃ devasaṅghā, pasannā tuṭṭhamānasā;

    ปญฺจวณฺณิกปุเปฺผหิ, ปูชยนฺติ นราสภํฯ

    Pañcavaṇṇikapupphehi, pūjayanti narāsabhaṃ.

    ๒๗.

    27.

    ‘‘อโห อจฺฉริยํ โลเก, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;

    ‘‘Aho acchariyaṃ loke, abbhutaṃ lomahaṃsanaṃ;

    น เมทิสํ ภูตปุพฺพํ, อเจฺฉรํ โลมหํสนํ’’ฯ

    Na medisaṃ bhūtapubbaṃ, accheraṃ lomahaṃsanaṃ’’.

    ๒๘.

    28.

    สกสกมฺหิ ภวเน, นิสีทิตฺวาน เทวตา;

    Sakasakamhi bhavane, nisīditvāna devatā;

    หสนฺติ ตา มหาหสิตํ, ทิสฺวานเจฺฉรกํ นเภฯ

    Hasanti tā mahāhasitaṃ, disvānaccherakaṃ nabhe.

    ๒๙.

    29.

    อากาสฎฺฐา จ ภูมฎฺฐา, ติณปนฺถนิวาสิโน;

    Ākāsaṭṭhā ca bhūmaṭṭhā, tiṇapanthanivāsino;

    กตญฺชลี นมสฺสนฺติ, ตุฎฺฐหฎฺฐา ปโมทิตาฯ

    Katañjalī namassanti, tuṭṭhahaṭṭhā pamoditā.

    ๓๐.

    30.

    เยปิ ทีฆายุกา นาคา, ปุญฺญวโนฺต มหิทฺธิกา;

    Yepi dīghāyukā nāgā, puññavanto mahiddhikā;

    ปโมทิตา นมสฺสนฺติ, ปูชยนฺติ นรุตฺตมํฯ

    Pamoditā namassanti, pūjayanti naruttamaṃ.

    ๓๑.

    31.

    สงฺคีติโย ปวเตฺตนฺติ, อมฺพเร อนิลญฺชเส;

    Saṅgītiyo pavattenti, ambare anilañjase;

    จมฺมนทฺธานิ วาเทนฺติ, ทิสฺวานเจฺฉรกํ นเภฯ

    Cammanaddhāni vādenti, disvānaccherakaṃ nabhe.

    ๓๒.

    32.

    สงฺขา จ ปณวา เจว, อโถปิ ฑิณฺฑิมา 9 พหู;

    Saṅkhā ca paṇavā ceva, athopi ḍiṇḍimā 10 bahū;

    อนฺตลิกฺขสฺมิํ วชฺชนฺติ, ทิสฺวานเจฺฉรกํ นเภฯ

    Antalikkhasmiṃ vajjanti, disvānaccherakaṃ nabhe.

    ๓๓.

    33.

    อพฺภุโต วต โน อชฺช, อุปฺปชฺชิ โลมหํสโน;

    Abbhuto vata no ajja, uppajji lomahaṃsano;

    ธุวมตฺถสิทฺธิํ ลภาม, ขโณ โน ปฎิปาทิโตฯ

    Dhuvamatthasiddhiṃ labhāma, khaṇo no paṭipādito.

    ๓๔.

    34.

    พุโทฺธติ เตสํ สุตฺวาน, ปีติ อุปฺปชฺชิ ตาวเท;

    Buddhoti tesaṃ sutvāna, pīti uppajji tāvade;

    พุโทฺธ พุโทฺธติ กถยนฺตา, ติฎฺฐนฺติ ปญฺชลีกตาฯ

    Buddho buddhoti kathayantā, tiṭṭhanti pañjalīkatā.

    ๓๕.

    35.

    หิงฺการา สาธุการา จ 11, อุกฺกุฎฺฐิ สมฺปหํสนํ 12;

    Hiṅkārā sādhukārā ca 13, ukkuṭṭhi sampahaṃsanaṃ 14;

    ปชา จ วิวิธา คคเน, วเตฺตนฺติ ปญฺชลีกตาฯ

    Pajā ca vividhā gagane, vattenti pañjalīkatā.

    ๓๖.

    36.

    คายนฺติ เสเฬนฺติ จ วาทยนฺติ จ, ภุชานิ โปเถนฺติ จ นจฺจยนฺติ จ;

    Gāyanti seḷenti ca vādayanti ca, bhujāni pothenti ca naccayanti ca;

    มุญฺจนฺติ ปุปฺผํ ปน ปญฺจวณฺณิกํ, มนฺทารวํ จนฺทนจุณฺณมิสฺสิตํฯ

    Muñcanti pupphaṃ pana pañcavaṇṇikaṃ, mandāravaṃ candanacuṇṇamissitaṃ.

    ๓๗.

    37.

    ‘‘ยถา ตุยฺหํ มหาวีร, ปาเทสุ จกฺกลกฺขณํ;

    ‘‘Yathā tuyhaṃ mahāvīra, pādesu cakkalakkhaṇaṃ;

    ธชวชิรปฎากา, วฑฺฒมานงฺกุสาจิตํฯ

    Dhajavajirapaṭākā, vaḍḍhamānaṅkusācitaṃ.

    ๓๘.

    38.

    ‘‘รูเป สีเล สมาธิมฺหิ, ปญฺญาย จ อสาทิโส;

    ‘‘Rūpe sīle samādhimhi, paññāya ca asādiso;

    วิมุตฺติยา อสมสโม, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนฯ

    Vimuttiyā asamasamo, dhammacakkappavattane.

    ๓๙.

    39.

    ‘‘ทสนาคพลํ กาเย, ตุยฺหํ ปากติกํ พลํ;

    ‘‘Dasanāgabalaṃ kāye, tuyhaṃ pākatikaṃ balaṃ;

    อิทฺธิพเลน อสโม, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนฯ

    Iddhibalena asamo, dhammacakkappavattane.

    ๔๐.

    40.

    ‘‘เอวํ สพฺพคุณูเปตํ, สพฺพงฺคสมุปาคตํ;

    ‘‘Evaṃ sabbaguṇūpetaṃ, sabbaṅgasamupāgataṃ;

    มหามุนิํ การุณิกํ, โลกนาถํ นมสฺสถฯ

    Mahāmuniṃ kāruṇikaṃ, lokanāthaṃ namassatha.

    ๔๑.

    41.

    ‘‘อภิวาทนํ โถมนญฺจ, วนฺทนญฺจ ปสํสนํ;

    ‘‘Abhivādanaṃ thomanañca, vandanañca pasaṃsanaṃ;

    นมสฺสนญฺจ ปูชญฺจ, สพฺพํ อรหสี ตุวํฯ

    Namassanañca pūjañca, sabbaṃ arahasī tuvaṃ.

    ๔๒.

    42.

    ‘‘เย เกจิ โลเก วนฺทเนยฺยา, วนฺทนํ อรหนฺติ เย;

    ‘‘Ye keci loke vandaneyyā, vandanaṃ arahanti ye;

    สพฺพเสโฎฺฐ มหาวีร, สทิโส เต น วิชฺชติฯ

    Sabbaseṭṭho mahāvīra, sadiso te na vijjati.

    ๔๓.

    43.

    ‘‘สาริปุโตฺต มหาปโญฺญ, สมาธิชฺฌานโกวิโท;

    ‘‘Sāriputto mahāpañño, samādhijjhānakovido;

    คิชฺฌกูเฎ ฐิโตเยว, ปสฺสติ โลกนายกํฯ

    Gijjhakūṭe ṭhitoyeva, passati lokanāyakaṃ.

    ๔๔.

    44.

    ‘‘สุผุลฺลํ สาลราชํว, จนฺทํว คคเน ยถา;

    ‘‘Suphullaṃ sālarājaṃva, candaṃva gagane yathā;

    มชฺฌนฺหิเกว 15 สูริยํ, โอโลเกสิ นราสภํฯ

    Majjhanhikeva 16 sūriyaṃ, olokesi narāsabhaṃ.

    ๔๕.

    45.

    ‘‘ชลนฺตํ ทีปรุกฺขํว, ตรุณสูริยํว อุคฺคตํ;

    ‘‘Jalantaṃ dīparukkhaṃva, taruṇasūriyaṃva uggataṃ;

    พฺยามปฺปภานุรญฺชิตํ, ธีรํ ปสฺสติ โลกนายกํฯ

    Byāmappabhānurañjitaṃ, dhīraṃ passati lokanāyakaṃ.

    ๔๖.

    46.

    ‘‘ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ, กตกิจฺจาน ตาทินํ;

    ‘‘Pañcannaṃ bhikkhusatānaṃ, katakiccāna tādinaṃ;

    ขีณาสวานํ วิมลานํ, ขเณน สนฺนิปาตยิฯ

    Khīṇāsavānaṃ vimalānaṃ, khaṇena sannipātayi.

    ๔๗.

    47.

    ‘‘โลกปฺปสาทนํ นาม, ปาฎิหีรํ นิทสฺสยิ;

    ‘‘Lokappasādanaṃ nāma, pāṭihīraṃ nidassayi;

    อเมฺหปิ ตตฺถ คนฺตฺวาน, วนฺทิสฺสาม มยํ ชินํฯ

    Amhepi tattha gantvāna, vandissāma mayaṃ jinaṃ.

    ๔๘.

    48.

    ‘‘เอถ สเพฺพ คมิสฺสาม, ปุจฺฉิสฺสาม มยํ ชินํ;

    ‘‘Etha sabbe gamissāma, pucchissāma mayaṃ jinaṃ;

    กงฺขํ วิโนทยิสฺสาม, ปสฺสิตฺวา โลกนายกํ’’ฯ

    Kaṅkhaṃ vinodayissāma, passitvā lokanāyakaṃ’’.

    ๔๙.

    49.

    สาธูติ เต ปฎิสฺสุตฺวา, นิปกา สํวุตินฺทฺริยา;

    Sādhūti te paṭissutvā, nipakā saṃvutindriyā;

    ปตฺตจีวรมาทาย, ตรมานา อุปาคมุํฯ

    Pattacīvaramādāya, taramānā upāgamuṃ.

    ๕๐.

    50.

    ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, ทเนฺตหิ อุตฺตเม ทเม;

    Khīṇāsavehi vimalehi, dantehi uttame dame;

    สาริปุโตฺต มหาปโญฺญ, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิฯ

    Sāriputto mahāpañño, iddhiyā upasaṅkami.

    ๕๑.

    51.

    เตหิ ภิกฺขูหิ ปริวุโต, สาริปุโตฺต มหาคณี;

    Tehi bhikkhūhi parivuto, sāriputto mahāgaṇī;

    ลฬโนฺต เทโวว คคเน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิฯ

    Laḷanto devova gagane, iddhiyā upasaṅkami.

    ๕๒.

    52.

    อุกฺกาสิตญฺจ ขิปิตํ 17, อชฺฌุเปกฺขิย สุพฺพตา;

    Ukkāsitañca khipitaṃ 18, ajjhupekkhiya subbatā;

    สคารวา สปฺปติสฺสา, สมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมุํฯ

    Sagāravā sappatissā, sambuddhaṃ upasaṅkamuṃ.

    ๕๓.

    53.

    อุปสงฺกมิตฺวา ปสฺสนฺติ, สยมฺภุํ โลกนายกํ;

    Upasaṅkamitvā passanti, sayambhuṃ lokanāyakaṃ;

    นเภ อจฺจุคฺคตํ ธีรํ, จนฺทํว คคเน ยถาฯ

    Nabhe accuggataṃ dhīraṃ, candaṃva gagane yathā.

    ๕๔.

    54.

    ชลนฺตํ ทีปรุกฺขํว, วิชฺชุํว คคเน ยถา;

    Jalantaṃ dīparukkhaṃva, vijjuṃva gagane yathā;

    มชฺฌนฺหิเกว สูริยํ, ปสฺสนฺติ โลกนายกํฯ

    Majjhanhikeva sūriyaṃ, passanti lokanāyakaṃ.

    ๕๕.

    55.

    ปญฺจภิกฺขุสตา สเพฺพ, ปสฺสนฺติ โลกนายกํ;

    Pañcabhikkhusatā sabbe, passanti lokanāyakaṃ;

    รหทมิว วิปฺปสนฺนํ, สุผุลฺลํ ปทุมํ ยถาฯ

    Rahadamiva vippasannaṃ, suphullaṃ padumaṃ yathā.

    ๕๖.

    56.

    อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวาน, ตุฎฺฐหฎฺฐา ปโมทิตา;

    Añjaliṃ paggahetvāna, tuṭṭhahaṭṭhā pamoditā;

    นมสฺสมานา นิปตนฺติ, สตฺถุโน จกฺกลกฺขเณฯ

    Namassamānā nipatanti, satthuno cakkalakkhaṇe.

    ๕๗.

    57.

    สาริปุโตฺต มหาปโญฺญ, โกรณฺฑสมสาทิโส;

    Sāriputto mahāpañño, koraṇḍasamasādiso;

    สมาธิชฺฌานกุสโล, วนฺทเต โลกนายกํฯ

    Samādhijjhānakusalo, vandate lokanāyakaṃ.

    ๕๘.

    58.

    คชฺชิตา กาลเมโฆว, นีลุปฺปลสมสาทิโส;

    Gajjitā kālameghova, nīluppalasamasādiso;

    อิทฺธิพเลน อสโม, โมคฺคลฺลาโน มหิทฺธิโกฯ

    Iddhibalena asamo, moggallāno mahiddhiko.

    ๕๙.

    59.

    มหากสฺสโปปิ จ เถโร, อุตฺตตฺตกนกสนฺนิโภ;

    Mahākassapopi ca thero, uttattakanakasannibho;

    ธุตคุเณ อคฺคนิกฺขิโตฺต, โถมิโต สตฺถุวณฺณิโตฯ

    Dhutaguṇe agganikkhitto, thomito satthuvaṇṇito.

    ๖๐.

    60.

    ทิพฺพจกฺขูนํ โย อโคฺค, อนุรุโทฺธ มหาคณี;

    Dibbacakkhūnaṃ yo aggo, anuruddho mahāgaṇī;

    ญาติเสโฎฺฐ ภควโต, อวิทูเรว ติฎฺฐติฯ

    Ñātiseṭṭho bhagavato, avidūreva tiṭṭhati.

    ๖๑.

    61.

    อาปตฺติอนาปตฺติยา , สเตกิจฺฉาย โกวิโท;

    Āpattianāpattiyā , satekicchāya kovido;

    วินเย อคฺคนิกฺขิโตฺต, อุปาลิ สตฺถุวณฺณิโตฯ

    Vinaye agganikkhitto, upāli satthuvaṇṇito.

    ๖๒.

    62.

    สุขุมนิปุณตฺถปฎิวิโทฺธ, กถิกานํ ปวโร คณี;

    Sukhumanipuṇatthapaṭividdho, kathikānaṃ pavaro gaṇī;

    อิสิ มนฺตานิยา ปุโตฺต, ปุโณฺณ นามาติ วิสฺสุโตฯ

    Isi mantāniyā putto, puṇṇo nāmāti vissuto.

    ๖๓.

    63.

    เอเตสํ จิตฺตมญฺญาย, โอปมฺมกุสโล มุนิ;

    Etesaṃ cittamaññāya, opammakusalo muni;

    กงฺขเจฺฉโท มหาวีโร, กเถสิ อตฺตโน คุณํฯ

    Kaṅkhacchedo mahāvīro, kathesi attano guṇaṃ.

    ๖๔.

    64.

    ‘‘จตฺตาโร เต อสเงฺขยฺยา, โกฎิ เยสํ น นายติ;

    ‘‘Cattāro te asaṅkheyyā, koṭi yesaṃ na nāyati;

    สตฺตกาโย จ อากาโส, จกฺกวาฬา จนนฺตกา;

    Sattakāyo ca ākāso, cakkavāḷā canantakā;

    พุทฺธญาณํ อปฺปเมยฺยํ, น สกฺกา เอเต วิชานิตุํฯ

    Buddhañāṇaṃ appameyyaṃ, na sakkā ete vijānituṃ.

    ๖๕.

    65.

    ‘‘กิเมตํ อจฺฉริยํ โลเก, ยํ เม อิทฺธิวิกุพฺพนํ;

    ‘‘Kimetaṃ acchariyaṃ loke, yaṃ me iddhivikubbanaṃ;

    อเญฺญ พหู อจฺฉริยา, อพฺภุตา โลมหํสนาฯ

    Aññe bahū acchariyā, abbhutā lomahaṃsanā.

    ๖๖.

    66.

    ‘‘ยทาหํ ตุสิเต กาเย, สนฺตุสิโต นามหํ ตทา;

    ‘‘Yadāhaṃ tusite kāye, santusito nāmahaṃ tadā;

    ทสสหสฺสี สมาคมฺม, ยาจนฺติ ปญฺชลี มมํฯ

    Dasasahassī samāgamma, yācanti pañjalī mamaṃ.

    ๖๗.

    67.

    ‘‘‘กาโล โข เต 19 มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;

    ‘‘‘Kālo kho te 20 mahāvīra, uppajja mātukucchiyaṃ;

    สเทวกํ ตารยโนฺต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปทํ’ฯ

    Sadevakaṃ tārayanto, bujjhassu amataṃ padaṃ’.

    ๖๘.

    68.

    ‘‘ตุสิตา กายา จวิตฺวาน, ยทา โอกฺกมิ กุจฺฉิยํ;

    ‘‘Tusitā kāyā cavitvāna, yadā okkami kucchiyaṃ;

    ทสสหสฺสีโลกธาตุ, กมฺปิตฺถ ธรณี ตทาฯ

    Dasasahassīlokadhātu, kampittha dharaṇī tadā.

    ๖๙.

    69.

    ‘‘ยทาหํ มาตุกุจฺฉิโต, สมฺปชาโนว นิกฺขมิํ;

    ‘‘Yadāhaṃ mātukucchito, sampajānova nikkhamiṃ;

    สาธุการํ ปวเตฺตนฺติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปถฯ

    Sādhukāraṃ pavattenti, dasasahassī pakampatha.

    ๗๐.

    70.

    ‘‘โอกฺกนฺติํ เม สโม นตฺถิ, ชาติโต อภินิกฺขเม;

    ‘‘Okkantiṃ me samo natthi, jātito abhinikkhame;

    สโมฺพธิยํ อหํ เสโฎฺฐ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนฯ

    Sambodhiyaṃ ahaṃ seṭṭho, dhammacakkappavattane.

    ๗๑.

    71.

    ‘‘อโห อจฺฉริยํ โลเก, พุทฺธานํ คุณมหนฺตตา;

    ‘‘Aho acchariyaṃ loke, buddhānaṃ guṇamahantatā;

    ทสสหสฺสีโลกธาตุ, ฉปฺปการํ ปกมฺปถ;

    Dasasahassīlokadhātu, chappakāraṃ pakampatha;

    โอภาโส จ มหา อาสิ, อเจฺฉรํ โลมหํสนํ’’ฯ

    Obhāso ca mahā āsi, accheraṃ lomahaṃsanaṃ’’.

    ๗๒.

    72.

    ภควา ตมฺหิ 21 สมเย, โลกเชโฎฺฐ นราสโภ;

    Bhagavā tamhi 22 samaye, lokajeṭṭho narāsabho;

    สเทวกํ ทสฺสยโนฺต, อิทฺธิยา จงฺกมี ชิโนฯ

    Sadevakaṃ dassayanto, iddhiyā caṅkamī jino.

    ๗๓.

    73.

    จงฺกเม จงฺกมโนฺตว, กเถสิ โลกนายโก;

    Caṅkame caṅkamantova, kathesi lokanāyako;

    อนฺตรา น นิวเตฺตติ, จตุหเตฺถ จงฺกเม ยถาฯ

    Antarā na nivatteti, catuhatthe caṅkame yathā.

    ๗๔.

    74.

    สาริปุโตฺต มหาปโญฺญ, สมาธิชฺฌานโกวิโท;

    Sāriputto mahāpañño, samādhijjhānakovido;

    ปญฺญาย ปารมิปฺปโตฺต, ปุจฺฉติ โลกนายกํฯ

    Paññāya pāramippatto, pucchati lokanāyakaṃ.

    ๗๕.

    75.

    ‘‘กีทิโส เต มหาวีร, อภินีหาโร นรุตฺตม;

    ‘‘Kīdiso te mahāvīra, abhinīhāro naruttama;

    กมฺหิ กาเล ตยา ธีร, ปตฺถิตา โพธิมุตฺตมาฯ

    Kamhi kāle tayā dhīra, patthitā bodhimuttamā.

    ๗๖.

    76.

    ‘‘ทานํ สีลญฺจ เนกฺขมฺมํ, ปญฺญาวีริยญฺจ กีทิสํ;

    ‘‘Dānaṃ sīlañca nekkhammaṃ, paññāvīriyañca kīdisaṃ;

    ขนฺติสจฺจมธิฎฺฐานํ, เมตฺตุเปกฺขา จ กีทิสาฯ

    Khantisaccamadhiṭṭhānaṃ, mettupekkhā ca kīdisā.

    ๗๗.

    77.

    ‘‘ทส ปารมี ตยา ธีร, กีทิสี โลกนายก;

    ‘‘Dasa pāramī tayā dhīra, kīdisī lokanāyaka;

    กถํ อุปปารมี ปุณฺณา, ปรมตฺถปารมี กถํ’’ฯ

    Kathaṃ upapāramī puṇṇā, paramatthapāramī kathaṃ’’.

    ๗๘.

    78.

    ตสฺส ปุโฎฺฐ วิยากาสิ, กรวีกมธุรคิโร;

    Tassa puṭṭho viyākāsi, karavīkamadhuragiro;

    นิพฺพาปยโนฺต หทยํ, หาสยโนฺต สเทวกํฯ

    Nibbāpayanto hadayaṃ, hāsayanto sadevakaṃ.

    ๗๙.

    79.

    อตีตพุทฺธานํ ชินานํ เทสิตํ, นิกีลิตํ 23 พุทฺธปรมฺปราคตํ;

    Atītabuddhānaṃ jinānaṃ desitaṃ, nikīlitaṃ 24 buddhaparamparāgataṃ;

    ปุเพฺพนิวาสานุคตาย พุทฺธิยา, ปกาสยี โลกหิตํ สเทวเกฯ

    Pubbenivāsānugatāya buddhiyā, pakāsayī lokahitaṃ sadevake.

    ๘๐.

    80.

    ‘‘ปีติปาโมชฺชชนนํ, โสกสลฺลวิโนทนํ;

    ‘‘Pītipāmojjajananaṃ, sokasallavinodanaṃ;

    สพฺพสมฺปตฺติปฎิลาภํ, จิตฺตีกตฺวา สุณาถ เมฯ

    Sabbasampattipaṭilābhaṃ, cittīkatvā suṇātha me.

    ๘๑.

    81.

    ‘‘มทนิมฺมทนํ โสกนุทํ, สํสารปริโมจนํ;

    ‘‘Madanimmadanaṃ sokanudaṃ, saṃsāraparimocanaṃ;

    สพฺพทุกฺขกฺขยํ มคฺคํ, สกฺกจฺจํ ปฎิปชฺชถา’’ติฯ

    Sabbadukkhakkhayaṃ maggaṃ, sakkaccaṃ paṭipajjathā’’ti.

    รตนจงฺกมนกโณฺฑ นิฎฺฐิโตฯ

    Ratanacaṅkamanakaṇḍo niṭṭhito.







    Footnotes:
    1. สหมฺปติ (สฺยา. กํ.)
    2. sahampati (syā. kaṃ.)
    3. ปรสฺมิํ จูภเย (สฺยา. กํ.)
    4. parasmiṃ cūbhaye (syā. kaṃ.)
    5. จงฺกมํ ตตฺถ (สี.)
    6. caṅkamaṃ tattha (sī.)
    7. ทิปทุตฺตโม (สี. สฺยา.)
    8. dipaduttamo (sī. syā.)
    9. เฑณฺฑิมา (สี.)
    10. ḍeṇḍimā (sī.)
    11. หิงฺการํ สาธุการญฺจ (สี. สฺยา.)
    12. สมฺปสาทนํ (สี.), สมฺปนาทนํ (สฺยา.)
    13. hiṅkāraṃ sādhukārañca (sī. syā.)
    14. sampasādanaṃ (sī.), sampanādanaṃ (syā.)
    15. มชฺฌนฺติเกว (สพฺพตฺถ)
    16. majjhantikeva (sabbattha)
    17. อุกฺกาสิตญฺจ ขิปิตญฺจ (สฺยา. อฎฺฐ.)
    18. ukkāsitañca khipitañca (syā. aṭṭha.)
    19. กาโล เทว (สี.), กาโลยํ เต (สฺยา. ก.)
    20. kālo deva (sī.), kāloyaṃ te (syā. ka.)
    21. ภควา จ ตมฺหิ (สี. สฺยา. ก.)
    22. bhagavā ca tamhi (sī. syā. ka.)
    23. นิกีฬิตํ (ก.)
    24. nikīḷitaṃ (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / พุทฺธวํส-อฎฺฐกถา • Buddhavaṃsa-aṭṭhakathā / ๑. รตนจงฺกมนกณฺฑวณฺณนา • 1. Ratanacaṅkamanakaṇḍavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact