Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā

    ๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา

    2. Ratanasikkhāpadavaṇṇanā

    ๕๐๒-๓. ทุติเย – วิสฺสริตฺวาติ ปมุสฺสิตฺวาฯ ปุณฺณปตฺตํ นาม สตโต ปญฺจ กหาปณาฯ กฺยาหํ กริสฺสามีติ กิํ อหํ กริสฺสามิฯ อาภรณํ โอมุญฺจิตฺวาติ มหาลตํ นาม นวโกฎิอคฺฆนกํ อลงฺการํ อปเนตฺวาฯ

    502-3. Dutiye – vissaritvāti pamussitvā. Puṇṇapattaṃ nāma satato pañca kahāpaṇā. Kyāhaṃ karissāmīti kiṃ ahaṃ karissāmi. Ābharaṇaṃ omuñcitvāti mahālataṃ nāma navakoṭiagghanakaṃ alaṅkāraṃ apanetvā.

    ๕๐๔. อเนฺตวาสีติ ปริจารโกฯ

    504.Antevāsīti paricārako.

    ๕๐๖. อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจาโรติ เอตฺถ อุปจาโร นาม อารามสฺส เทฺว เลฑฺฑุปาตา – ‘‘อาวสถสฺส ปน สุปฺปปาโต วา มุสลปาโต วา’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ อุคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสาติ เอตฺถ ชาตรูปรชตํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา อุคฺคณฺหาเปนฺตสฺส วา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, สงฺฆคณปุคฺคลเจติยนวกมฺมานํ อตฺถาย ทุกฺกฎํ, อวเสสํ มุตฺตาทิรตนํ อตฺตโน วา สงฺฆาทีนํ วา อตฺถาย อุคฺคณฺหนฺตสฺส วา อุคฺคณฺหาเปนฺตสฺส วา ทุกฺกฎํฯ กปฺปิยวตฺถุ วา อกปฺปิยวตฺถุ วา โหตุ, อนฺตมโส มาตุ กณฺณปิฬนฺธนตาฬปณฺณมฺปิ คิหิสนฺตกํ ภณฺฑาคาริกสีเสน ปฎิสาเมนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมวฯ

    506.Aparikkhittassa upacāroti ettha upacāro nāma ārāmassa dve leḍḍupātā – ‘‘āvasathassa pana suppapāto vā musalapāto vā’’ti mahāpaccariyaṃ vuttaṃ. Uggaṇhāti āpatti pācittiyassāti ettha jātarūparajataṃ attano atthāya uggaṇhantassa vā uggaṇhāpentassa vā nissaggiyaṃ pācittiyaṃ, saṅghagaṇapuggalacetiyanavakammānaṃ atthāya dukkaṭaṃ, avasesaṃ muttādiratanaṃ attano vā saṅghādīnaṃ vā atthāya uggaṇhantassa vā uggaṇhāpentassa vā dukkaṭaṃ. Kappiyavatthu vā akappiyavatthu vā hotu, antamaso mātu kaṇṇapiḷandhanatāḷapaṇṇampi gihisantakaṃ bhaṇḍāgārikasīsena paṭisāmentassa pācittiyameva.

    สเจ ปน มาตาปิตูนํ สนฺตกํ อวสฺสํ ปฎิสาเมตพฺพํ กปฺปิยภณฺฑํ โหติ, อตฺตโน อตฺถาย คเหตฺวา ปฎิสาเมตพฺพํฯ ‘‘อิทํ ปฎิสาเมตฺวา เทหี’’ติ วุเตฺต ปน ‘‘น วฎฺฎตี’’ติ ปฎิกฺขิปิตพฺพํฯ สเจ ‘‘ปฎิสาเมหี’’ติ ปาเตตฺวา คจฺฉนฺติ, ปลิโพโธ นาม โหติ, ปฎิสาเมตุํ วฎฺฎติฯ วิหาเร กมฺมํ กโรนฺตา วฑฺฒกีอาทโย วา ราชวลฺลภา วา อตฺตโน อุปกรณภณฺฑํ วา สยนภณฺฑํ วา ‘‘ปฎิสาเมตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ, ฉเนฺทนปิ ภเยนปิ น กาตพฺพเมว, คุตฺตฎฺฐานํ ปน ทเสฺสตุํ วฎฺฎติฯ พลกฺกาเรน ปาเตตฺวา คเตสุ จ ปฎิสาเมตุํ วฎฺฎติฯ

    Sace pana mātāpitūnaṃ santakaṃ avassaṃ paṭisāmetabbaṃ kappiyabhaṇḍaṃ hoti, attano atthāya gahetvā paṭisāmetabbaṃ. ‘‘Idaṃ paṭisāmetvā dehī’’ti vutte pana ‘‘na vaṭṭatī’’ti paṭikkhipitabbaṃ. Sace ‘‘paṭisāmehī’’ti pātetvā gacchanti, palibodho nāma hoti, paṭisāmetuṃ vaṭṭati. Vihāre kammaṃ karontā vaḍḍhakīādayo vā rājavallabhā vā attano upakaraṇabhaṇḍaṃ vā sayanabhaṇḍaṃ vā ‘‘paṭisāmetvā dethā’’ti vadanti, chandenapi bhayenapi na kātabbameva, guttaṭṭhānaṃ pana dassetuṃ vaṭṭati. Balakkārena pātetvā gatesu ca paṭisāmetuṃ vaṭṭati.

    อชฺฌาราเม วา อชฺฌาวสเถ วาติ เอตฺถ สเจ มหาวิหารสทิโส มหาราโม โหติ, ตตฺถ ปาการปริกฺขิเตฺต ปริเวเณ ยตฺถ ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา คหิตํ ภวิสฺสตีติ สงฺกา อุปฺปชฺชติ, ตาทิเส เอว ฐาเน อุคฺคณฺหิตฺวา วา อุคฺคณฺหาเปตฺวา วา ฐเปตพฺพํฯ มหาโพธิทฺวารโกฎฺฐกอมฺพงฺคณสทิเสสุ ปน มหาชนสญฺจรณฎฺฐาเนสุ น คเหตพฺพํ, ปลิโพโธ น โหติฯ กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เอโก มคฺคํ คจฺฉโนฺต นิมนุสฺสฎฺฐาเน กิญฺจิ ภณฺฑํ ปสฺสติ, อากิณฺณมนุเสฺสปิ ชาเต มนุสฺสา ตเมว ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺติ, ตสฺมา มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตพฺพํฯ สามิเกสุ อาคเตสุ ตํ อาจิกฺขิตพฺพํฯ สเจ สามิเก น ปสฺสติ ปติรูปํ กริสฺสตี’’ติฯ

    Ajjhārāme vā ajjhāvasathe vāti ettha sace mahāvihārasadiso mahārāmo hoti, tattha pākāraparikkhitte pariveṇe yattha bhikkhūhi vā sāmaṇerehi vā gahitaṃ bhavissatīti saṅkā uppajjati, tādise eva ṭhāne uggaṇhitvā vā uggaṇhāpetvā vā ṭhapetabbaṃ. Mahābodhidvārakoṭṭhakaambaṅgaṇasadisesu pana mahājanasañcaraṇaṭṭhānesu na gahetabbaṃ, palibodho na hoti. Kurundiyaṃ pana vuttaṃ ‘‘eko maggaṃ gacchanto nimanussaṭṭhāne kiñci bhaṇḍaṃ passati, ākiṇṇamanussepi jāte manussā tameva bhikkhuṃ āsaṅkanti, tasmā maggā okkamma nisīditabbaṃ. Sāmikesu āgatesu taṃ ācikkhitabbaṃ. Sace sāmike na passati patirūpaṃ karissatī’’ti.

    รูเปน วา นิมิเตฺตน วา สญฺญาณํ กตฺวาติ เอตฺถ รูปํ นาม อโนฺตภณฺฑิกาย ภณฺฑํ; ตสฺมา ภณฺฑิกํ มุญฺจิตฺวา คเณตฺวา เอตฺตกา กหาปณา วา ชาตรูปรชตํ วาติ สลฺลเกฺขตพฺพํฯ นิมิตฺตนฺติ ลญฺฉนาทิ; ตสฺมา ลญฺฉิตาย ภณฺฑิกาย มตฺติกาลญฺฉนนฺติ วา ลาขาลญฺฉนนฺติ วา นีลปิโลติกาย ภณฺฑิกา กตาติ วา เสตปิโลติกาย กตาติ วา เอวมาทิ สพฺพํ สลฺลเกฺขตพฺพํฯ

    Rūpena vā nimittena vā saññāṇaṃ katvāti ettha rūpaṃ nāma antobhaṇḍikāya bhaṇḍaṃ; tasmā bhaṇḍikaṃ muñcitvā gaṇetvā ettakā kahāpaṇā vā jātarūparajataṃ vāti sallakkhetabbaṃ. Nimittanti lañchanādi; tasmā lañchitāya bhaṇḍikāya mattikālañchananti vā lākhālañchananti vā nīlapilotikāya bhaṇḍikā katāti vā setapilotikāya katāti vā evamādi sabbaṃ sallakkhetabbaṃ.

    ภิกฺขู ปติรูปาติ ลชฺชิโน กุกฺกุจฺจกาฯ โลลชาติกานญฺหิ หเตฺถ ฐเปตุํ น ลภติฯ โย ปน เนว ตมฺหา อาวาสา ปกฺกมติ, น สามิเก ปสฺสติ, เตนาปิ อตฺตโน จีวราทิมูลํ น กาตพฺพํ; ถาวรํ ปน เสนาสนํ วา เจติยํ วา โปกฺขรณี วา กาเรตพฺพาฯ สเจ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สามิโก อาคจฺฉติ, ‘‘อุปาสก ตว สนฺตเกน อิทํ นาม กตํ, อนุโมทาหี’’ติ วตฺตโพฺพฯ สเจ อนุโมทติ, อิเจฺจตํ กุสลํ; โน เจ อนุโมทติ, ‘‘มม ธนํ เทถา’’ติ โจเทติเยว, อญฺญํ สมาทเปตฺวา ทาตพฺพํฯ

    Bhikkhū patirūpāti lajjino kukkuccakā. Lolajātikānañhi hatthe ṭhapetuṃ na labhati. Yo pana neva tamhā āvāsā pakkamati, na sāmike passati, tenāpi attano cīvarādimūlaṃ na kātabbaṃ; thāvaraṃ pana senāsanaṃ vā cetiyaṃ vā pokkharaṇī vā kāretabbā. Sace dīghassa addhuno accayena sāmiko āgacchati, ‘‘upāsaka tava santakena idaṃ nāma kataṃ, anumodāhī’’ti vattabbo. Sace anumodati, iccetaṃ kusalaṃ; no ce anumodati, ‘‘mama dhanaṃ dethā’’ti codetiyeva, aññaṃ samādapetvā dātabbaṃ.

    ๕๐๗. รตนสมฺมตํ วิสฺสาสํ คณฺหาตีติอาทีสุ อามาสเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ อนามาสํ น วฎฺฎติเยวฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ ฉสมุฎฺฐานํ – กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

    507.Ratanasammataṃvissāsaṃ gaṇhātītiādīsu āmāsameva sandhāya vuttaṃ. Anāmāsaṃ na vaṭṭatiyeva. Sesamettha uttānameva. Chasamuṭṭhānaṃ – kiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.

    รตนสิกฺขาปทํ ทุติยํฯ

    Ratanasikkhāpadaṃ dutiyaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๙. รตนวโคฺค • 9. Ratanavaggo

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Ratanasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Ratanasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Ratanasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒. รตนสิกฺขาปทํ • 2. Ratanasikkhāpadaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact