Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā |
๓. รถการเปติวตฺถุวณฺณนา
3. Rathakārapetivatthuvaṇṇanā
เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสรนฺติ อิทํ สตฺถริ สาวตฺถิยํ วิหรเนฺต อญฺญตรํ เปติํ อารพฺภ วุตฺตํฯ อตีเต กิร กสฺสปสฺส ภควโต กาเล อญฺญตรา อิตฺถี สีลาจารสมฺปนฺนา กลฺยาณมิตฺตสนฺนิสฺสเยน สาสเน อภิปฺปสนฺนา สุวิภตฺตวิจิตฺรภิตฺติถมฺภโสปานภูมิตลํ อติวิย ทสฺสนียํ เอกํ อาวาสํ กตฺวา ตตฺถ ภิกฺขู นิสีทาเปตฺวา ปณีเตน อาหาเรน ปริวิสิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาเทสิฯ สา อปเรน สมเยน กาลํ กตฺวา อญฺญสฺส ปาปกมฺมสฺส วเสน หิมวติ ปพฺพตราเช รถการทหํ นิสฺสาย วิมานเปตี หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ตสฺสา สงฺฆสฺส อาวาสทานปุญฺญานุภาเวน สพฺพรตนมยํ อุฬารํ อติวิย สมนฺตโต ปาสาทิกํ มโนหรํ รมณียํ โปกฺขรณิยํ นนฺทนวนสทิสํ อุปโสภิตํ วิมานํ นิพฺพตฺติ, สยญฺจ สุวณฺณวณฺณา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา อโหสิฯ
Veḷuriyathambhaṃ ruciraṃ pabhassaranti idaṃ satthari sāvatthiyaṃ viharante aññataraṃ petiṃ ārabbha vuttaṃ. Atīte kira kassapassa bhagavato kāle aññatarā itthī sīlācārasampannā kalyāṇamittasannissayena sāsane abhippasannā suvibhattavicitrabhittithambhasopānabhūmitalaṃ ativiya dassanīyaṃ ekaṃ āvāsaṃ katvā tattha bhikkhū nisīdāpetvā paṇītena āhārena parivisitvā bhikkhusaṅghassa niyyādesi. Sā aparena samayena kālaṃ katvā aññassa pāpakammassa vasena himavati pabbatarāje rathakāradahaṃ nissāya vimānapetī hutvā nibbatti. Tassā saṅghassa āvāsadānapuññānubhāvena sabbaratanamayaṃ uḷāraṃ ativiya samantato pāsādikaṃ manoharaṃ ramaṇīyaṃ pokkharaṇiyaṃ nandanavanasadisaṃ upasobhitaṃ vimānaṃ nibbatti, sayañca suvaṇṇavaṇṇā abhirūpā dassanīyā pāsādikā ahosi.
สา ตตฺถ ปุริเสหิ วินาว ทิพฺพสมฺปตฺติํ อนุภวนฺตี วิหรติฯ ตสฺสา ตตฺถ ทีฆรตฺตํ นิปฺปุริสาย วสนฺติยา อนภิรติ อุปฺปนฺนาฯ สา อุกฺกณฺฐิตา หุตฺวา ‘‘อเตฺถโส อุปาโย’’ติ จิเนฺตตฺวา ทิพฺพานิ อมฺพปกฺกานิ นทิยํ ปกฺขิปติฯ สพฺพํ กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุสฺมิํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ อิธ ปน พาราณสิวาสี เอโก มาณโว คงฺคาย เตสุ เอกํ อมฺพผลํ ทิสฺวา ตสฺส ปภวํ คเวสโนฺต อนุกฺกเมน ตํ ฐานํ คนฺตฺวา นทิํ ทิสฺวา ตทนุสาเรน ตสฺสา วสนฎฺฐานํ คโตฯ สา ตํ ทิสฺวา อตฺตโน วสนฎฺฐานํ เนตฺวา ปฎิสนฺถารํ กโรนฺตี นิสีทิฯ โส ตสฺสา วสนฎฺฐานสมฺปตฺติํ ทิสฺวา ปุจฺฉโนฺต –
Sā tattha purisehi vināva dibbasampattiṃ anubhavantī viharati. Tassā tattha dīgharattaṃ nippurisāya vasantiyā anabhirati uppannā. Sā ukkaṇṭhitā hutvā ‘‘attheso upāyo’’ti cintetvā dibbāni ambapakkāni nadiyaṃ pakkhipati. Sabbaṃ kaṇṇamuṇḍapetivatthusmiṃ āgatanayeneva veditabbaṃ. Idha pana bārāṇasivāsī eko māṇavo gaṅgāya tesu ekaṃ ambaphalaṃ disvā tassa pabhavaṃ gavesanto anukkamena taṃ ṭhānaṃ gantvā nadiṃ disvā tadanusārena tassā vasanaṭṭhānaṃ gato. Sā taṃ disvā attano vasanaṭṭhānaṃ netvā paṭisanthāraṃ karontī nisīdi. So tassā vasanaṭṭhānasampattiṃ disvā pucchanto –
๔๓๙.
439.
‘‘เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, วิมานมารุยฺห อเนกจิตฺตํ;
‘‘Veḷuriyathambhaṃ ruciraṃ pabhassaraṃ, vimānamāruyha anekacittaṃ;
ตตฺถจฺฉสิ เทวิ มหานุภาเว, ปถทฺธนิ ปนฺนรเสว จโนฺทฯ
Tatthacchasi devi mahānubhāve, pathaddhani pannaraseva cando.
๔๔๐.
440.
‘‘วโณฺณ จ เต กนกสฺส สนฺนิโภ, อุตฺตตฺตรูโป ภุส ทสฺสเนโยฺย;
‘‘Vaṇṇo ca te kanakassa sannibho, uttattarūpo bhusa dassaneyyo;
ปลฺลงฺกเสเฎฺฐ อตุเล นิสินฺนา, เอกา ตุวํ นตฺถิ จ ตุยฺห สามิโกฯ
Pallaṅkaseṭṭhe atule nisinnā, ekā tuvaṃ natthi ca tuyha sāmiko.
๔๔๑.
441.
‘‘อิมา จ เต โปกฺขรณี สมนฺตา, ปหูตมลฺยา พหุปุณฺฑรีกา;
‘‘Imā ca te pokkharaṇī samantā, pahūtamalyā bahupuṇḍarīkā;
สุวณฺณจุเณฺณหิ สมนฺตโมตฺถตา, น ตตฺถ ปโงฺก ปณโก จ วิชฺชติฯ
Suvaṇṇacuṇṇehi samantamotthatā, na tattha paṅko paṇako ca vijjati.
๔๔๒.
442.
‘‘หํสา จิเม ทสฺสนียา มโนรมา, อุทกสฺมิมนุปริยนฺติ สพฺพทา;
‘‘Haṃsā cime dassanīyā manoramā, udakasmimanupariyanti sabbadā;
สมยฺย วคฺคูปนทนฺติ สเพฺพ, พินฺทุสฺสรา ทุนฺทุภีนํว โฆโสฯ
Samayya vaggūpanadanti sabbe, bindussarā dundubhīnaṃva ghoso.
๔๔๓.
443.
‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, นาวาย จ ตฺวํ อวลมฺพ ติฎฺฐสิ;
‘‘Daddallamānā yasasā yasassinī, nāvāya ca tvaṃ avalamba tiṭṭhasi;
อาฬารปเมฺห หสิเต ปิยํวเท, สพฺพงฺคกลฺยาณิ ภุสํ วิโรจสิฯ
Āḷārapamhe hasite piyaṃvade, sabbaṅgakalyāṇi bhusaṃ virocasi.
๔๔๔.
444.
‘‘อิทํ วิมานํ วิรชํ สเม ฐิตํ, อุยฺยานวนฺตํ รตินนฺทิวฑฺฒนํ;
‘‘Idaṃ vimānaṃ virajaṃ same ṭhitaṃ, uyyānavantaṃ ratinandivaḍḍhanaṃ;
อิจฺฉามหํ นาริ อโนมทสฺสเน, ตยา สห นนฺทเน อิธ โมทิตุ’’นฺติฯ –
Icchāmahaṃ nāri anomadassane, tayā saha nandane idha moditu’’nti. –
อิมา คาถา อภาสิฯ
Imā gāthā abhāsi.
๔๓๙. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมิํ วิมาเนฯ อจฺฉสีติ อิจฺฉิติจฺฉิตกาเล นิสีทสิฯ เทวีติ ตํ อาลปติฯ มหานุภาเวติ มหตา ทิพฺพานุภาเวน สมนฺนาคเตฯ ปถทฺธนีติ อตฺตโน ปถภูเต อทฺธนิ, คคนตลมเคฺคติ อโตฺถฯ ปนฺนรเสว จโนฺทติ ปุณฺณมาสิยํ ปริปุณฺณมณฺฑโล จโนฺท วิย วิโชฺชตมานาติ อโตฺถฯ
439. Tattha tatthāti tasmiṃ vimāne. Acchasīti icchiticchitakāle nisīdasi. Devīti taṃ ālapati. Mahānubhāveti mahatā dibbānubhāvena samannāgate. Pathaddhanīti attano pathabhūte addhani, gaganatalamaggeti attho. Pannaraseva candoti puṇṇamāsiyaṃ paripuṇṇamaṇḍalo cando viya vijjotamānāti attho.
๔๔๐. วโณฺณ จ เต กนกสฺส สนฺนิโภติ ตว วโณฺณ จ อุตฺตตฺตสิงฺคีสุวเณฺณน สทิโส อติวิย มโนหโรฯ เตนาห ‘‘อุตฺตตฺตรูโป ภุส ทสฺสเนโยฺย’’ติฯ อตุเลติ มหารเหฯ อตุเลติ วา เทวตาย อาลปนํ, อสทิสรูเปติ อโตฺถฯ นตฺถิ จ ตุยฺห สามิโกติ ตุยฺหํ สามิโก จ นตฺถิฯ
440.Vaṇṇoca te kanakassa sannibhoti tava vaṇṇo ca uttattasiṅgīsuvaṇṇena sadiso ativiya manoharo. Tenāha ‘‘uttattarūpo bhusa dassaneyyo’’ti. Atuleti mahārahe. Atuleti vā devatāya ālapanaṃ, asadisarūpeti attho. Natthi ca tuyha sāmikoti tuyhaṃ sāmiko ca natthi.
๔๔๑. ปหูตมลฺยาติ กมลกุวลยาทิพหุวิธกุสุมวติโย ฯ สุวณฺณจุเณฺณหีติ สุวณฺณวาลุกาหิฯ สมนฺตโมตฺถตาติ สมนฺตโต โอกิณฺณาฯ ตตฺถาติ ตาสุ โปกฺขรณีสุฯ ปโงฺก ปณโก จาติ กทฺทโม วา อุทกปิจฺฉิโลฺล วา น วิชฺชติฯ
441.Pahūtamalyāti kamalakuvalayādibahuvidhakusumavatiyo . Suvaṇṇacuṇṇehīti suvaṇṇavālukāhi. Samantamotthatāti samantato okiṇṇā. Tatthāti tāsu pokkharaṇīsu. Paṅko paṇako cāti kaddamo vā udakapicchillo vā na vijjati.
๔๔๒. หํสา จิเม ทสฺสนียา มโนรมาติ อิเม หํสา จ ทสฺสนสุขา มโนรมา จฯ อนุปริยนฺตีติ อนุวิจรนฺติฯ สพฺพทาติ สเพฺพสุ อุตูสุฯ สมยฺยาติ สงฺคมฺมฯ วคฺคูติ มธุรํฯ อุปนทนฺตีติ วิกูชนฺติฯ พินฺทุสฺสราติ อวิสฎสฺสรา สมฺปิณฺฑิตสฺสราฯ ทุนฺทุภีนํว โฆโสติ วคฺคุพินฺทุสฺสรภาเวน ทุนฺทุภีนํ วิย ตว โปกฺขรณิยํ หํสานํ โฆโสติ อโตฺถฯ
442.Haṃsā cime dassanīyā manoramāti ime haṃsā ca dassanasukhā manoramā ca. Anupariyantīti anuvicaranti. Sabbadāti sabbesu utūsu. Samayyāti saṅgamma. Vaggūti madhuraṃ. Upanadantīti vikūjanti. Bindussarāti avisaṭassarā sampiṇḍitassarā. Dundubhīnaṃva ghosoti vaggubindussarabhāvena dundubhīnaṃ viya tava pokkharaṇiyaṃ haṃsānaṃ ghosoti attho.
๔๔๓. ททฺทลฺลมานาติ อติวิย อภิชลนฺตีฯ ยสสาติ เทวิทฺธิยาฯ นาวายาติ โทณิยํฯ โปกฺขรณิยญฺหิ ปทุมินิยํ สุวณฺณนาวาย มหารเห ปลฺลเงฺก นิสีทิตฺวา อุทกกีฬํ กีฬนฺติํ เปติํ ทิสฺวา เอวมาหฯ อวลมฺพาติ อวลมฺพิตฺวา อปเสฺสนํ อปสฺสายฯ ติฎฺฐสีติ อิทํ ฐานสทฺทสฺส คตินิวตฺติ อตฺถตฺตา คติยา ปฎิเกฺขปวจนํฯ ‘‘นิสชฺชสี’’ติ วา ปาโฐ, นิสีทสิเจฺจวสฺส อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ อาฬารปเมฺหติ เวลฺลิตทีฆนีลปขุเมฯ หสิเตติ หสิตมหาหสิตมุเขฯ ปิยํวเทติ ปิยภาณินีฯ สพฺพงฺคกลฺยาณีติ สเพฺพหิ อเงฺคหิ สุนฺทเร, โสภนสพฺพงฺคปจฺจงฺคีติ อโตฺถฯ วิโรจสีติ วิราเชสิฯ
443.Daddallamānāti ativiya abhijalantī. Yasasāti deviddhiyā. Nāvāyāti doṇiyaṃ. Pokkharaṇiyañhi paduminiyaṃ suvaṇṇanāvāya mahārahe pallaṅke nisīditvā udakakīḷaṃ kīḷantiṃ petiṃ disvā evamāha. Avalambāti avalambitvā apassenaṃ apassāya. Tiṭṭhasīti idaṃ ṭhānasaddassa gatinivatti atthattā gatiyā paṭikkhepavacanaṃ. ‘‘Nisajjasī’’ti vā pāṭho, nisīdasiccevassa attho daṭṭhabbo. Āḷārapamheti vellitadīghanīlapakhume. Hasiteti hasitamahāhasitamukhe. Piyaṃvadeti piyabhāṇinī. Sabbaṅgakalyāṇīti sabbehi aṅgehi sundare, sobhanasabbaṅgapaccaṅgīti attho. Virocasīti virājesi.
๔๔๔. วิรชนฺติ วิคตรชํ นิโทฺทสํฯ สเม ฐิตนฺติ สเม ภูมิภาเค ฐิตํ, จตุรสฺสโสภิตตาย วา สมภาเค ฐิตํ, สมนฺตภทฺทกนฺติ อโตฺถฯ อุยฺยานวนฺตนฺติ นนฺทนวนสหิตํฯ รตินนฺทิวฑฺฒนนฺติ รติญฺจ นนฺทิญฺจ วเฑฺฒตีติ รตินนฺทิวฑฺฒนํ, สุขสฺส จ ปีติยา จ สํวฑฺฒนนฺติ อโตฺถฯ นารีติ ตสฺสา อาลปนํฯ อโนมทสฺสเนติ ปริปุณฺณองฺคปจฺจงฺคตาย อนินฺทิตทสฺสเนฯ นนฺทเนติ นนฺทนกเรฯ อิธาติ นนฺทนวเน, วิมาเน วาฯ โมทิตุนฺติ อภิรมิตุํ อิจฺฉามีติ โยชนาฯ
444.Virajanti vigatarajaṃ niddosaṃ. Same ṭhitanti same bhūmibhāge ṭhitaṃ, caturassasobhitatāya vā samabhāge ṭhitaṃ, samantabhaddakanti attho. Uyyānavantanti nandanavanasahitaṃ. Ratinandivaḍḍhananti ratiñca nandiñca vaḍḍhetīti ratinandivaḍḍhanaṃ, sukhassa ca pītiyā ca saṃvaḍḍhananti attho. Nārīti tassā ālapanaṃ. Anomadassaneti paripuṇṇaaṅgapaccaṅgatāya aninditadassane. Nandaneti nandanakare. Idhāti nandanavane, vimāne vā. Moditunti abhiramituṃ icchāmīti yojanā.
เอวํ เตน มาณเวน วุเตฺต สา วิมานเปติเทวตา ตสฺส ปฎิวจนํ เทนฺตี –
Evaṃ tena māṇavena vutte sā vimānapetidevatā tassa paṭivacanaṃ dentī –
๔๔๕.
445.
‘‘กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียํ, จิตฺตญฺจ เต อิธ นิหิตํ ภวตุ;
‘‘Karohi kammaṃ idha vedanīyaṃ, cittañca te idha nihitaṃ bhavatu;
กตฺวาน กมฺมํ อิธ เวทนียํ, เอวํ มมํ ลจฺฉสิ กามกามินิ’’นฺติฯ –
Katvāna kammaṃ idha vedanīyaṃ, evaṃ mamaṃ lacchasi kāmakāmini’’nti. –
คาถมาหฯ ตตฺถ กโรหิ กมฺมํ อิธ เวทนียนฺติ อิธ อิมสฺมิํ ทิพฺพฎฺฐาเน วิปจฺจนกํ วิปากทายกํ กุสลกมฺมํ กโรหิ ปสเวยฺยาสิฯ อิธ นิหิตนฺติ อิธูปนีตํ, ‘‘อิธ นินฺน’’นฺติ วา ปาโฐ, อิมสฺมิํ ฐาเน นินฺนํ โปณํ ปพฺภารํ ตว จิตฺตํ ภวตุ โหตุฯ มมนฺติ มํฯ ลจฺฉสีติ ลภิสฺสสิฯ
Gāthamāha. Tattha karohi kammaṃ idha vedanīyanti idha imasmiṃ dibbaṭṭhāne vipaccanakaṃ vipākadāyakaṃ kusalakammaṃ karohi pasaveyyāsi. Idha nihitanti idhūpanītaṃ, ‘‘idha ninna’’nti vā pāṭho, imasmiṃ ṭhāne ninnaṃ poṇaṃ pabbhāraṃ tava cittaṃ bhavatu hotu. Mamanti maṃ. Lacchasīti labhissasi.
โส มาณโว ตสฺสา วิมานเปติยา วจนํ สุตฺวา ตโต มนุสฺสปถํ คโต ตตฺถ จิตฺตํ ปณิธาย ตชฺชํ ปุญฺญกมฺมํ กตฺวา นจิรเสฺสว กาลํ กตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติ ตสฺสา เปติยา สหพฺยตํฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺตา สงฺคีติการา –
So māṇavo tassā vimānapetiyā vacanaṃ sutvā tato manussapathaṃ gato tattha cittaṃ paṇidhāya tajjaṃ puññakammaṃ katvā nacirasseva kālaṃ katvā tattha nibbatti tassā petiyā sahabyataṃ. Tamatthaṃ pakāsentā saṅgītikārā –
๔๔๖.
446.
‘‘สาธูติ โส ตสฺสา ปฎิสฺสุณิตฺวา,
‘‘Sādhūti so tassā paṭissuṇitvā,
อกาสิ กมฺมํ ตหิํ เวทนียํ;
Akāsi kammaṃ tahiṃ vedanīyaṃ;
กตฺวาน กมฺมํ ตหิํ เวทนียํ,
Katvāna kammaṃ tahiṃ vedanīyaṃ,
อุปปชฺชิ โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยต’’นฺติฯ –
Upapajji so māṇavo tassā sahabyata’’nti. –
โอสานคาถมาหํสุฯ ตตฺถ สาธูติ สมฺปฎิจฺฉเน นิปาโตฯ ตสฺสาติ ตสฺสา วิมานเปติยาฯ ปฎิสฺสุณิตฺวาติ ตสฺสา วจนํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวาฯ ตหิํ เวทนียนฺติ ตสฺมิํ วิมาเน ตาย สทฺธิํ เวทิตพฺพสุขวิปากํ กุสลกมฺมํฯ สหพฺยตนฺติ สหภาวํฯ โส มาณโว ตสฺสา สหพฺยตํ อุปปชฺชีติ โยชนาฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ
Osānagāthamāhaṃsu. Tattha sādhūti sampaṭicchane nipāto. Tassāti tassā vimānapetiyā. Paṭissuṇitvāti tassā vacanaṃ sampaṭicchitvā. Tahiṃ vedanīyanti tasmiṃ vimāne tāya saddhiṃ veditabbasukhavipākaṃ kusalakammaṃ. Sahabyatanti sahabhāvaṃ. So māṇavo tassā sahabyataṃ upapajjīti yojanā. Sesaṃ uttānameva.
เอวํ เตสุ ตตฺถ จิรกาลํ ทิพฺพสมฺปตฺติํ อนุภวเนฺตสุ ปุริโส กมฺมสฺส ปริกฺขเยน กาลมกาสิ, อิตฺถี ปน อตฺตโน ปุญฺญกมฺมสฺส เขตฺตงฺคตภาเวน เอกํ พุทฺธนฺตรํ ตตฺถ ปริปุณฺณํ กตฺวา วสิฯ อถ อมฺหากํ ภควติ โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจเกฺก อนุกฺกเมน เชตวเน วิหรเนฺต อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอกทิวสํ ปพฺพตจาริกํ จรมาโน ตํ วิมานญฺจ วิมานเปติญฺจ ทิสฺวา ‘‘เวฬุริยถมฺภํ รุจิรํ ปภสฺสร’’นฺติอาทิกาหิ คาถาหิ ปุจฺฉิฯ สา จสฺส อาทิโต ปฎฺฐาย สพฺพํ อตฺตโน ปวตฺติํ อาโรเจสิฯ ตํ สุตฺวา เถโร สาวตฺถิํ อาคนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิฯ ภควา ตมตฺถํ อฎฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิฯ ตํ สุตฺวา มหาชโน ทานาทิปุญฺญธมฺมนิรโต อโหสีติฯ
Evaṃ tesu tattha cirakālaṃ dibbasampattiṃ anubhavantesu puriso kammassa parikkhayena kālamakāsi, itthī pana attano puññakammassa khettaṅgatabhāvena ekaṃ buddhantaraṃ tattha paripuṇṇaṃ katvā vasi. Atha amhākaṃ bhagavati loke uppajjitvā pavattitavaradhammacakke anukkamena jetavane viharante āyasmā mahāmoggallāno ekadivasaṃ pabbatacārikaṃ caramāno taṃ vimānañca vimānapetiñca disvā ‘‘veḷuriyathambhaṃ ruciraṃ pabhassara’’ntiādikāhi gāthāhi pucchi. Sā cassa ādito paṭṭhāya sabbaṃ attano pavattiṃ ārocesi. Taṃ sutvā thero sāvatthiṃ āgantvā bhagavato ārocesi. Bhagavā tamatthaṃ aṭṭhuppattiṃ katvā sampattaparisāya dhammaṃ desesi. Taṃ sutvā mahājano dānādipuññadhammanirato ahosīti.
รถการเปติวตฺถุวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Rathakārapetivatthuvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi / ๓. รถการเปติวตฺถุ • 3. Rathakārapetivatthu