Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๒. รโถปมสุตฺตวณฺณนา

    2. Rathopamasuttavaṇṇanā

    ๒๓๙. สุสํวุตินฺทฺริยสฺส โภชเน มตฺตญฺญุโน สตสฺส สมฺปชานสฺส วิหรโต กิเลสนิมิตฺตํ ทุกฺขํ อนวสรนฺติ สุขโสมนสฺสพหุลตา วุตฺตาฯ ยวติ เตน ผลํ มิสฺสิตํ วิย โหตีติ โยนิ, เอกนฺติกํ การณํฯ อสฺสาติ ภิกฺขุโนฯ ปริปุณฺณนฺติ อวิกลํฯ อนวเสสํ อาสเว เขเปตีติ อาสวกฺขโย, อคฺคมโคฺคฯ ยํ ยนฺติ ทนฺธํ มชฺฌํ ชโวติ ชวาทีสุ ยํ ยํ คมนํฯ รกฺขณตฺถายาติ กิเลสโจเรหิ รกฺขณตฺถาย ฯ เวคนิคฺคหณตฺถายาติ กิเลสเหตุกสฺส อินฺทฺริยเวคสฺส นิคฺคณฺหนตฺถายฯ นิพฺพิเสวนตฺถายาติ วิเสวนสฺส วิปฺผนฺทิตสฺส นิโรธนายฯ กิเลสูปสมตฺถายาติ กิเลสานํ อุปรูปริ สมนตฺถาย วูปสมนตฺถายฯ

    239. Susaṃvutindriyassa bhojane mattaññuno satassa sampajānassa viharato kilesanimittaṃ dukkhaṃ anavasaranti sukhasomanassabahulatā vuttā. Yavati tena phalaṃ missitaṃ viya hotīti yoni, ekantikaṃ kāraṇaṃ. Assāti bhikkhuno. Paripuṇṇanti avikalaṃ. Anavasesaṃ āsave khepetīti āsavakkhayo, aggamaggo. Yaṃ yanti dandhaṃ majjhaṃ javoti javādīsu yaṃ yaṃ gamanaṃ. Rakkhaṇatthāyāti kilesacorehi rakkhaṇatthāya . Veganiggahaṇatthāyāti kilesahetukassa indriyavegassa niggaṇhanatthāya. Nibbisevanatthāyāti visevanassa vipphanditassa nirodhanāya. Kilesūpasamatthāyāti kilesānaṃ uparūpari samanatthāya vūpasamanatthāya.

    สมณรติ นาม สมถวิปสฺสนามคฺคผลสุขานิฯ ทนฺตานมฺปิ สินฺธวานํ สารถิโน ปโยเคน สิยา กาจิ วิเสวนมตฺตาติ ตทภาวํ ทเสฺสโนฺต ‘‘นิพฺพิเสวเน กตฺวา เปเสโนฺต’’ติ วุตฺตํฯ ญาณํ คจฺฉตีติ อสงฺคมนํ ปวตฺตติ ปเคว อินฺทฺริยภาวนาย กตตฺตา, กิเลสนิคฺคหสฺส สุเขเนว สิทฺธตฺตาฯ ทายกสฺส อชฺฌาสโย วโส อุฬาโร ลามโกฯ เทยฺยธมฺมสฺส ปมาณํ วโส อปฺปกํ พหุกญฺจฯ

    Samaṇarati nāma samathavipassanāmaggaphalasukhāni. Dantānampi sindhavānaṃ sārathino payogena siyā kāci visevanamattāti tadabhāvaṃ dassento ‘‘nibbisevane katvā pesento’’ti vuttaṃ. Ñāṇaṃ gacchatīti asaṅgamanaṃ pavattati pageva indriyabhāvanāya katattā, kilesaniggahassa sukheneva siddhattā. Dāyakassa ajjhāsayo vaso uḷāro lāmako. Deyyadhammassa pamāṇaṃ vaso appakaṃ bahukañca.

    มหามณฺฑปฎฺฐานํ นาม โลหปาสาทสฺส ปุรโต เอว มหาภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺนิปาตกาเล เตสํ ปโหนกวเสน มหามณฺฑปสฺส กตฺตพฺพฎฺฐานํฯ คหณมานนฺติ ปริวิสคหณภาชนํฯ

    Mahāmaṇḍapaṭṭhānaṃ nāma lohapāsādassa purato eva mahābhikkhusaṅghassa sannipātakāle tesaṃ pahonakavasena mahāmaṇḍapassa kattabbaṭṭhānaṃ. Gahaṇamānanti parivisagahaṇabhājanaṃ.

    ปกติยา ภตฺตการกิเจฺจ อธิคโต อุปฎฺฐากุปาสโกฯ มุทุสมขรสญฺญิเตหิ, ทหนปจนภชฺชนสญฺญิเตหิ วา ตีหิ ปาเกหิ

    Pakatiyā bhattakārakicce adhigato upaṭṭhākupāsako. Mudusamakharasaññitehi, dahanapacanabhajjanasaññitehi vā tīhi pākehi.

    ปริโสเธตฺวาติ รโญฺญ อนุจฺฉวิกภาวํ ปริโสเธตฺวาฯ ภูมิยํ ฉเฑฺฑสิ ‘‘ภิกฺขูนํ อทตฺวา มยา มุเข ปกฺขิตฺต’’นฺติฯ มุเขน คณฺหิ ตสฺส นิโทฺทสภาวํ ทเสฺสตุํฯ มตฺตํ ชานาเปตุํ ปมชฺชิฯ ‘‘ตฺวํ กุโต อาคโต’’ติ ปุจฺฉเน ปมาทํ อาปชฺชิฯ อนุภาโคติ อวสิฎฺฐภาโคฯ อิทมตฺถิยนฺติ อิทํ ปโยชนํฯ อิตรนฺติ ปาฬิยํ อนาคตมฺปิ อาหาเร ปมาณชานนํฯ

    Parisodhetvāti rañño anucchavikabhāvaṃ parisodhetvā. Bhūmiyaṃ chaḍḍesi ‘‘bhikkhūnaṃ adatvā mayā mukhe pakkhitta’’nti. Mukhena gaṇhi tassa niddosabhāvaṃ dassetuṃ. Mattaṃ jānāpetuṃ pamajji. ‘‘Tvaṃ kuto āgato’’ti pucchane pamādaṃ āpajji. Anubhāgoti avasiṭṭhabhāgo. Idamatthiyanti idaṃ payojanaṃ. Itaranti pāḷiyaṃ anāgatampi āhāre pamāṇajānanaṃ.

    สยนํ เสยฺยา, กามโภคีนํ เสยฺยา กามโภคิเสยฺยาฯ ทกฺขิณปเสฺสน สยาโน นาม นตฺถิ ทกฺขิณหเตฺถน กาตพฺพกิจฺจกรณโตฯ เตชุสฺสทตฺตาติ อิทํ อนุตฺราสเสฺสว สีหสฺส สยนนฺติ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ เทฺว ปุริมปาเท เอกสฺมิํ, ปจฺฉิมปาเท เอกสฺมิํ ฐาเน ฐเปตฺวาติ หิ อิทํ ปาทานํ อวิกฺขิตฺตภาวกรณทสฺสนํฯ

    Sayanaṃ seyyā, kāmabhogīnaṃ seyyā kāmabhogiseyyā. Dakkhiṇapassena sayāno nāma natthi dakkhiṇahatthena kātabbakiccakaraṇato. Tejussadattāti idaṃ anutrāsasseva sīhassa sayananti dassetuṃ vuttaṃ. Dve purimapāde ekasmiṃ, pacchimapāde ekasmiṃ ṭhāne ṭhapetvāti hi idaṃ pādānaṃ avikkhittabhāvakaraṇadassanaṃ.

    จตุตฺถชฺฌานเสยฺยาติ จตุตฺถชฺฌานิกํ ผลสมาปตฺติํ วทติฯ เยภุเยฺยน หิ ตถาคตา ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวาว สยนฺติฯ สา จ เนสํ จตุตฺถชฺฌานโต วุฎฺฐาย, กิเลสปรินิพฺพานสฺส จ กตตฺตาติ วทนฺติ ฯ อิธ สีหเสยฺยา อาคตา ปาทํ อจฺจาธาย ปุเพฺพนาปรํ อชหิตสํลกฺขณา เสยฺยาติ กตฺวาฯ เตนาห ‘‘อยํ หี’’ติอาทิฯ เอวนฺติ ‘‘ทกฺขิเณน ปเสฺสนา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรน เสยฺยํ กเปฺปติฯ

    Catutthajjhānaseyyāti catutthajjhānikaṃ phalasamāpattiṃ vadati. Yebhuyyena hi tathāgatā phalasamāpattiṃ samāpajjitvāva sayanti. Sā ca nesaṃ catutthajjhānato vuṭṭhāya, kilesaparinibbānassa ca katattāti vadanti . Idha sīhaseyyā āgatā pādaṃ accādhāya pubbenāparaṃ ajahitasaṃlakkhaṇā seyyāti katvā. Tenāha ‘‘ayaṃ hī’’tiādi. Evanti ‘‘dakkhiṇena passenā’’tiādinā vuttākārena seyyaṃ kappeti.

    กถํ นิทฺทายโนฺต สโต สมฺปชาโน โหติ? ภวงฺคจิเตฺตน หิ นิทฺทูปคมนนฺติ อธิปฺปาโยฯ อปฺปหาเนนาติ ตทธิมุตฺตตาย ตทปฺปหานํ ทฎฺฐพฺพํฯ ตถา เตสุ นิโทฺทกฺกมนสฺส อาทิปริโยสาเนสุ อชหิตสติสมฺปชญฺญํ โหติฯ เตนาห – ‘‘นิทฺทํ โอกฺกมโนฺตปิ สโต สมฺปชาโน โหตี’’ติฯ เอตํ ปนาติ ‘‘นิทฺทํ โอกฺกมโนฺตปิ สโต สมฺปชาโน โหตี’’ติ วุตฺตนยํ วทติฯ ญาณธาตุกนฺติ น โรจยิํสูติ นิโทฺทกฺกมเนปิ ชาครเณ ปวตฺตญาณสภาวเมวาติ น โรจยิํสุ โปราณาฯ นิรนฺตรํ ภวงฺคจิเตฺตสุ วตฺตมาเนสุ สติสมฺปชญฺญาสมฺภโวติ อธิปฺปาโยฯ ปุริมสฺมิญฺหิ นเย สติสมฺปชญฺญสฺส อสํวโร, น ภวงฺคสฺสฯ อินฺทฺริยสํวโร, โภชเน มตฺตญฺญุตา, ชาคริยานุโยโคติ อิเมหิ ติวงฺคิกา, นิมิตฺตานุพฺยญฺชนปริวชฺชนาทิ สพฺพํ วิปสฺสนาปกฺขิกเมวาติ อธิปฺปาโยฯ

    Kathaṃniddāyanto sato sampajāno hoti? Bhavaṅgacittena hi niddūpagamananti adhippāyo. Appahānenāti tadadhimuttatāya tadappahānaṃ daṭṭhabbaṃ. Tathā tesu niddokkamanassa ādipariyosānesu ajahitasatisampajaññaṃ hoti. Tenāha – ‘‘niddaṃ okkamantopi sato sampajāno hotī’’ti. Etaṃ panāti ‘‘niddaṃ okkamantopi sato sampajāno hotī’’ti vuttanayaṃ vadati. Ñāṇadhātukanti na rocayiṃsūti niddokkamanepi jāgaraṇe pavattañāṇasabhāvamevāti na rocayiṃsu porāṇā. Nirantaraṃ bhavaṅgacittesu vattamānesu satisampajaññāsambhavoti adhippāyo. Purimasmiñhi naye satisampajaññassa asaṃvaro, na bhavaṅgassa. Indriyasaṃvaro, bhojane mattaññutā, jāgariyānuyogoti imehi tivaṅgikā, nimittānubyañjanaparivajjanādi sabbaṃ vipassanāpakkhikamevāti adhippāyo.

    ตาเนวาติ วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตานิ อินฺทฺริยาทีนิฯ ยาว อรหตฺตา เทสนา วิตฺถารโต กเถตพฺพาฯ ปาฬิยํ ปน ‘‘โยนิ จสฺส อารทฺธา โหติ อาสวานํ ขยายา’’ติ สเงฺขเปน กถิตาฯ

    Tānevāti vipassanākkhaṇe pavattāni indriyādīni. Yāva arahattā desanā vitthārato kathetabbā. Pāḷiyaṃ pana ‘‘yoni cassa āraddhā hoti āsavānaṃ khayāyā’’ti saṅkhepena kathitā.

    รโถปมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Rathopamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. รโถปมสุตฺตํ • 2. Rathopamasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. รโถปมสุตฺตวณฺณนา • 2. Rathopamasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact