Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi |
๔. รฎฺฐปาลเตฺถรคาถา
4. Raṭṭhapālattheragāthā
๗๖๙.
769.
อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ฐิติฯ
Āturaṃ bahusaṅkappaṃ, yassa natthi dhuvaṃ ṭhiti.
๗๗๐.
770.
‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ รูปํ, มณินา กุณฺฑเลน จ;
‘‘Passa cittakataṃ rūpaṃ, maṇinā kuṇḍalena ca;
อฎฺฐิํ ตเจน โอนทฺธํ, สห วเตฺถหิ โสภติฯ
Aṭṭhiṃ tacena onaddhaṃ, saha vatthehi sobhati.
๗๗๑.
771.
‘‘อลตฺตกกตา ปาทา, มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;
‘‘Alattakakatā pādā, mukhaṃ cuṇṇakamakkhitaṃ;
อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโนฯ
Alaṃ bālassa mohāya, no ca pāragavesino.
๗๗๒.
772.
‘‘อฎฺฐปทกตา เกสา, เนตฺตา อญฺชนมกฺขิตา;
‘‘Aṭṭhapadakatā kesā, nettā añjanamakkhitā;
อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโนฯ
Alaṃ bālassa mohāya, no ca pāragavesino.
๗๗๓.
773.
‘‘อญฺชนีว นวา จิตฺตา, ปูติกาโย อลงฺกโต;
‘‘Añjanīva navā cittā, pūtikāyo alaṅkato;
อลํ พาลสฺส โมหาย, โน จ ปารคเวสิโนฯ
Alaṃ bālassa mohāya, no ca pāragavesino.
๗๗๔.
774.
‘‘โอทหิ มิคโว ปาสํ, นาสทา วาคุรํ มิโค;
‘‘Odahi migavo pāsaṃ, nāsadā vāguraṃ migo;
ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, กนฺทเนฺต มิคพนฺธเกฯ
Bhutvā nivāpaṃ gacchāma, kandante migabandhake.
๗๗๕.
775.
‘‘ฉิโนฺน ปาโส มิควสฺส, นาสทา วาคุรํ มิโค;
‘‘Chinno pāso migavassa, nāsadā vāguraṃ migo;
ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม, โสจเนฺต มิคลุทฺทเกฯ
Bhutvā nivāpaṃ gacchāma, socante migaluddake.
๗๗๖.
776.
‘‘ปสฺสามิ โลเก สธเน มนุเสฺส, ลทฺธาน วิตฺตํ น ททนฺติ โมหา;
‘‘Passāmi loke sadhane manusse, laddhāna vittaṃ na dadanti mohā;
ลุทฺธา ธนํ สนฺนิจยํ กโรนฺติ, ภิโยฺยว กาเม อภิปตฺถยนฺติฯ
Luddhā dhanaṃ sannicayaṃ karonti, bhiyyova kāme abhipatthayanti.
๗๗๗.
777.
‘‘ราชา ปสยฺหปฺปถวิํ วิเชตฺวา, สสาครนฺตํ มหิมาวสโนฺต;
‘‘Rājā pasayhappathaviṃ vijetvā, sasāgarantaṃ mahimāvasanto;
โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป, ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถฯ
Oraṃ samuddassa atittarūpo, pāraṃ samuddassapi patthayetha.
๗๗๘.
778.
‘‘ราชา จ อเญฺญ จ พหู มนุสฺสา, อวีตตณฺหา มรณํ อุเปนฺติ;
‘‘Rājā ca aññe ca bahū manussā, avītataṇhā maraṇaṃ upenti;
อูนาว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ, กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺติฯ
Ūnāva hutvāna jahanti dehaṃ, kāmehi lokamhi na hatthi titti.
๗๗๙.
779.
‘‘กนฺทนฺติ นํ ญาตี ปกิริย เกเส, อโห วตา โน อมราติ จาหุ;
‘‘Kandanti naṃ ñātī pakiriya kese, aho vatā no amarāti cāhu;
วเตฺถน นํ ปารุตํ นีหริตฺวา, จิตํ สโมธาย ตโต ฑหนฺติฯ
Vatthena naṃ pārutaṃ nīharitvā, citaṃ samodhāya tato ḍahanti.
๗๘๐.
780.
‘‘โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโน, เอเกน วเตฺถน 3 ปหาย โภเค;
‘‘So ḍayhati sūlehi tujjamāno, ekena vatthena 4 pahāya bhoge;
น มียมานสฺส ภวนฺติ ตาณา, ญาตี จ มิตฺตา อถ วา สหายาฯ
Na mīyamānassa bhavanti tāṇā, ñātī ca mittā atha vā sahāyā.
๗๘๑.
781.
‘‘ทายาทกา ตสฺส ธนํ หรนฺติ, สโตฺต ปน คจฺฉติ เยน กมฺมํ;
‘‘Dāyādakā tassa dhanaṃ haranti, satto pana gacchati yena kammaṃ;
น มียมานํ ธนมเนฺวติ 5 กิญฺจิ, ปุตฺตา จ ทารา จ ธนญฺจ รฎฺฐํฯ
Na mīyamānaṃ dhanamanveti 6 kiñci, puttā ca dārā ca dhanañca raṭṭhaṃ.
๗๘๒.
782.
‘‘น ทีฆมายุํ ลภเต ธเนน, น จาปิ วิเตฺตน ชรํ วิหนฺติ;
‘‘Na dīghamāyuṃ labhate dhanena, na cāpi vittena jaraṃ vihanti;
อปฺปปฺปํ หิทํ ชีวิตมาหุ ธีรา, อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํฯ
Appappaṃ hidaṃ jīvitamāhu dhīrā, asassataṃ vippariṇāmadhammaṃ.
๗๘๓.
783.
‘‘อฑฺฒา ทลิทฺทา จ ผุสนฺติ ผสฺสํ, พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุโฎฺฐ;
‘‘Aḍḍhā daliddā ca phusanti phassaṃ, bālo ca dhīro ca tatheva phuṭṭho;
พาโล หิ พาลฺยา วธิโตว เสติ, ธีโร จ โน เวธติ ผสฺสผุโฎฺฐฯ
Bālo hi bālyā vadhitova seti, dhīro ca no vedhati phassaphuṭṭho.
๗๘๔.
784.
‘‘ตสฺมา หิ ปญฺญาว ธเนน เสยฺยา, ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉติ;
‘‘Tasmā hi paññāva dhanena seyyā, yāya vosānamidhādhigacchati;
อโพฺยสิตตฺตา หิ ภวาภเวสุ, ปาปานิ กมฺมานิ กโรติ โมหาฯ
Abyositattā hi bhavābhavesu, pāpāni kammāni karoti mohā.
๗๘๕.
785.
‘‘อุเปติ คพฺภญฺจ ปรญฺจ โลกํ, สํสารมาปชฺช ปรมฺปราย;
‘‘Upeti gabbhañca parañca lokaṃ, saṃsāramāpajja paramparāya;
ตสฺสปฺปปโญฺญ อภิสทฺทหโนฺต, อุเปติ คพฺภญฺจ ปรญฺจ โลกํฯ
Tassappapañño abhisaddahanto, upeti gabbhañca parañca lokaṃ.
๗๘๖.
786.
‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธโมฺม;
‘‘Coro yathā sandhimukhe gahīto, sakammunā haññati pāpadhammo;
เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก, สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธโมฺมฯ
Evaṃ pajā pecca paramhi loke, sakammunā haññati pāpadhammo.
๗๘๗.
787.
‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;
‘‘Kāmā hi citrā madhurā manoramā, virūparūpena mathenti cittaṃ;
อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราชฯ
Ādīnavaṃ kāmaguṇesu disvā, tasmā ahaṃ pabbajitomhi rāja.
๗๘๘.
788.
‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรเภทา;
‘‘Dumapphalānīva patanti māṇavā, daharā ca vuḍḍhā ca sarīrabhedā;
เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามญฺญเมว เสโยฺยฯ
Etampi disvā pabbajitomhi rāja, apaṇṇakaṃ sāmaññameva seyyo.
๗๘๙.
789.
‘‘สทฺธายาหํ ปพฺพชิโต, อุเปโต ชินสาสเน;
‘‘Saddhāyāhaṃ pabbajito, upeto jinasāsane;
อวชฺฌา มยฺหํ ปพฺพชฺชา, อนโณ ภุญฺชามิ โภชนํฯ
Avajjhā mayhaṃ pabbajjā, anaṇo bhuñjāmi bhojanaṃ.
๗๙๐.
790.
‘‘กาเม อาทิตฺตโต ทิสฺวา, ชาตรูปานิ สตฺถโต;
‘‘Kāme ādittato disvā, jātarūpāni satthato;
คพฺภโวกฺกนฺติโต ทุกฺขํ, นิรเยสุ มหพฺภยํฯ
Gabbhavokkantito dukkhaṃ, nirayesu mahabbhayaṃ.
๗๙๑.
791.
‘‘เอตมาทีนวํ ญตฺวา, สํเวคํ อลภิํ ตทา;
‘‘Etamādīnavaṃ ñatvā, saṃvegaṃ alabhiṃ tadā;
โสหํ วิโทฺธ ตทา สโนฺต, สมฺปโตฺต อาสวกฺขยํฯ
Sohaṃ viddho tadā santo, sampatto āsavakkhayaṃ.
๗๙๒.
792.
‘‘ปริจิโณฺณ มยา สตฺถา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ;
‘‘Pariciṇṇo mayā satthā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ;
โอหิโต ครุโก ภาโร, ภวเนตฺติ สมูหตาฯ
Ohito garuko bhāro, bhavanetti samūhatā.
๗๙๓.
793.
‘‘ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิโต, อคารสฺมานคาริยํ;
‘‘Yassatthāya pabbajito, agārasmānagāriyaṃ;
โส เม อโตฺถ อนุปฺปโตฺต, สพฺพสํโยชนกฺขโย’’ติฯ
So me attho anuppatto, sabbasaṃyojanakkhayo’’ti.
… รฎฺฐปาโล เถโร…ฯ
… Raṭṭhapālo thero….
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā / ๔. รฎฺฐปาลเตฺถรคาถาวณฺณนา • 4. Raṭṭhapālattheragāthāvaṇṇanā