Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi

    ๒. เรวตีวิมานวตฺถุ

    2. Revatīvimānavatthu

    ๘๖๑.

    861.

    1 ‘‘จิรปฺปวาสิํ ปุริสํ, ทูรโต โสตฺถิมาคตํ;

    2 ‘‘Cirappavāsiṃ purisaṃ, dūrato sotthimāgataṃ;

    ญาติมิตฺตา สุหชฺชา จ, อภินนฺทนฺติ อาคตํ;

    Ñātimittā suhajjā ca, abhinandanti āgataṃ;

    ๘๖๒.

    862.

    3 ‘‘ตเถว กตปุญฺญมฺปิ, อสฺมา โลกา ปรํ คตํ;

    4 ‘‘Tatheva katapuññampi, asmā lokā paraṃ gataṃ;

    ปุญฺญานิ ปฎิคณฺหนฺติ, ปิยํ ญาตีว อาคตํฯ

    Puññāni paṭigaṇhanti, piyaṃ ñātīva āgataṃ.

    ๘๖๓.

    863.

    5‘‘อุเฎฺฐหิ เรวเต สุปาปธเมฺม, อปารุตทฺวาเร 6 อทานสีเล;

    7‘‘Uṭṭhehi revate supāpadhamme, apārutadvāre 8 adānasīle;

    เนสฺสาม ตํ ยตฺถ ถุนนฺติ ทุคฺคตา, สมปฺปิตา เนรยิกา ทุเกฺขนา’’ติฯ

    Nessāma taṃ yattha thunanti duggatā, samappitā nerayikā dukkhenā’’ti.

    ๘๖๔.

    864.

    อิเจฺจว 9 วตฺวาน ยมสฺส ทูตา, เต เทฺว ยกฺขา โลหิตกฺขา พฺรหนฺตา;

    Icceva 10 vatvāna yamassa dūtā, te dve yakkhā lohitakkhā brahantā;

    ปเจฺจกพาหาสุ คเหตฺวา เรวตํ, ปกฺกามยุํ เทวคณสฺส สนฺติเกฯ

    Paccekabāhāsu gahetvā revataṃ, pakkāmayuṃ devagaṇassa santike.

    ๘๖๕.

    865.

    ‘‘อาทิจฺจวณฺณํ รุจิรํ ปภสฺสรํ, พฺยมฺหํ สุภํ กญฺจนชาลฉนฺนํ;

    ‘‘Ādiccavaṇṇaṃ ruciraṃ pabhassaraṃ, byamhaṃ subhaṃ kañcanajālachannaṃ;

    กเสฺสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํฯ

    Kassetamākiṇṇajanaṃ vimānaṃ, sūriyassa raṃsīriva jotamānaṃ.

    ๘๖๖.

    866.

    ‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา 11, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;

    ‘‘Nārīgaṇā candanasāralittā 12, ubhato vimānaṃ upasobhayanti;

    ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โก โมทติ สคฺคปโตฺต วิมาเน’’ติฯ

    Taṃ dissati sūriyasamānavaṇṇaṃ, ko modati saggapatto vimāne’’ti.

    ๘๖๗.

    867.

    ‘‘พาราณสิยํ นนฺทิโย นามาสิ, อุปาสโก อมจฺฉรี ทานปติ วทญฺญู;

    ‘‘Bārāṇasiyaṃ nandiyo nāmāsi, upāsako amaccharī dānapati vadaññū;

    ตเสฺสตมากิณฺณชนํ วิมานํ, สูริยสฺส รํสีริว โชตมานํฯ

    Tassetamākiṇṇajanaṃ vimānaṃ, sūriyassa raṃsīriva jotamānaṃ.

    ๘๖๘.

    868.

    ‘‘นารีคณา จนฺทนสารลิตฺตา, อุภโต วิมานํ อุปโสภยนฺติ;

    ‘‘Nārīgaṇā candanasāralittā, ubhato vimānaṃ upasobhayanti;

    ตํ ทิสฺสติ สูริยสมานวณฺณํ, โส โมทติ สคฺคปโตฺต วิมาเน’’ติฯ

    Taṃ dissati sūriyasamānavaṇṇaṃ, so modati saggapatto vimāne’’ti.

    ๘๖๙.

    869.

    ‘‘นนฺทิยสฺสาหํ ภริยา, อคารินี สพฺพกุลสฺส อิสฺสรา;

    ‘‘Nandiyassāhaṃ bhariyā, agārinī sabbakulassa issarā;

    ภตฺตุ วิมาเน รมิสฺสามิ ทานหํ, น ปตฺถเย นิรยํ ทสฺสนายา’’ติฯ

    Bhattu vimāne ramissāmi dānahaṃ, na patthaye nirayaṃ dassanāyā’’ti.

    ๘๗๐.

    870.

    ‘‘เอโส เต นิรโย สุปาปธเมฺม, ปุญฺญํ ตยา อกตํ ชีวโลเก;

    ‘‘Eso te nirayo supāpadhamme, puññaṃ tayā akataṃ jīvaloke;

    น หิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธโมฺม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยต’’นฺติฯ

    Na hi maccharī rosako pāpadhammo, saggūpagānaṃ labhati sahabyata’’nti.

    ๘๗๑.

    871.

    ‘‘กิํ นุ คูถญฺจ มุตฺตญฺจ, อสุจี ปฎิทิสฺสติ;

    ‘‘Kiṃ nu gūthañca muttañca, asucī paṭidissati;

    ทุคฺคนฺธํ กิมิทํ มีฬฺหํ, กิเมตํ อุปวายตี’’ติฯ

    Duggandhaṃ kimidaṃ mīḷhaṃ, kimetaṃ upavāyatī’’ti.

    ๘๗๒.

    872.

    ‘‘เอส สํสวโก นาม, คมฺภีโร สตโปริโส;

    ‘‘Esa saṃsavako nāma, gambhīro sataporiso;

    ยตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเต’’ติฯ

    Yattha vassasahassāni, tuvaṃ paccasi revate’’ti.

    ๘๗๓.

    873.

    ‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฎํ กตํ;

    ‘‘Kiṃ nu kāyena vācāya, manasā dukkaṭaṃ kataṃ;

    เกน สํสวโก ลโทฺธ, คมฺภีโร สตโปริโส’’ติฯ

    Kena saṃsavako laddho, gambhīro sataporiso’’ti.

    ๘๗๔.

    874.

    ‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อเญฺญ วาปิ วนิพฺพเก 13;

    ‘‘Samaṇe brāhmaṇe cāpi, aññe vāpi vanibbake 14;

    มุสาวาเทน วเญฺจสิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยาฯ

    Musāvādena vañcesi, taṃ pāpaṃ pakataṃ tayā.

    ๘๗๕.

    875.

    ‘‘เตน สํสวโก ลโทฺธ, คมฺภีโร สตโปริโส;

    ‘‘Tena saṃsavako laddho, gambhīro sataporiso;

    ตตฺถ วสฺสสหสฺสานิ, ตุวํ ปจฺจสิ เรวเตฯ

    Tattha vassasahassāni, tuvaṃ paccasi revate.

    ๘๗๖.

    876.

    ‘‘หเตฺถปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ ปาเท, กเณฺณปิ ฉินฺทนฺติ อโถปิ นาสํ;

    ‘‘Hatthepi chindanti athopi pāde, kaṇṇepi chindanti athopi nāsaṃ;

    อโถปิ กาโกฬคณา สเมจฺจ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมาน’’นฺติฯ

    Athopi kākoḷagaṇā samecca, saṅgamma khādanti viphandamāna’’nti.

    ๘๗๗.

    877.

    ‘‘สาธุ โข มํ ปฎิเนถ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

    ‘‘Sādhu kho maṃ paṭinetha, kāhāmi kusalaṃ bahuṃ;

    ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;

    Dānena samacariyāya, saṃyamena damena ca;

    ยํ กตฺวา สุขิตา โหนฺติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปเร’’ติฯ

    Yaṃ katvā sukhitā honti, na ca pacchānutappare’’ti.

    ๘๗๘.

    878.

    ‘‘ปุเร ตุวํ ปมชฺชิตฺวา, อิทานิ ปริเทวสิ;

    ‘‘Pure tuvaṃ pamajjitvā, idāni paridevasi;

    สยํ กตานํ กมฺมานํ, วิปากํ อนุโภสฺสสี’’ติฯ

    Sayaṃ katānaṃ kammānaṃ, vipākaṃ anubhossasī’’ti.

    ๘๗๙.

    879.

    ‘‘โก เทวโลกโต มนุสฺสโลกํ, คนฺตฺวาน ปุโฎฺฐ เม เอวํ วเทยฺย;

    ‘‘Ko devalokato manussalokaṃ, gantvāna puṭṭho me evaṃ vadeyya;

    ‘นิกฺขิตฺตทเณฺฑสุ ททาถ ทานํ, อจฺฉาทนํ เสยฺย 15 มถนฺนปานํ;

    ‘Nikkhittadaṇḍesu dadātha dānaṃ, acchādanaṃ seyya 16 mathannapānaṃ;

    นหิ มจฺฉรี โรสโก ปาปธโมฺม, สคฺคูปคานํ ลภติ สหพฺยตํ’ฯ

    Nahi maccharī rosako pāpadhammo, saggūpagānaṃ labhati sahabyataṃ’.

    ๘๘๐.

    880.

    ‘‘สาหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนิํ ลทฺธาน มานุสิํ;

    ‘‘Sāhaṃ nūna ito gantvā, yoniṃ laddhāna mānusiṃ;

    วทญฺญู สีลสมฺปนฺนา, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

    Vadaññū sīlasampannā, kāhāmi kusalaṃ bahuṃ;

    ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จฯ

    Dānena samacariyāya, saṃyamena damena ca.

    ๘๘๑.

    881.

    ‘‘อารามานิ จ โรปิสฺสํ, ทุเคฺค สงฺกมนานิ จ;

    ‘‘Ārāmāni ca ropissaṃ, dugge saṅkamanāni ca;

    ปปญฺจ อุทปานญฺจ, วิปฺปสเนฺนน เจตสาฯ

    Papañca udapānañca, vippasannena cetasā.

    ๘๘๒.

    882.

    ‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฎฺฐมี;

    ‘‘Cātuddasiṃ pañcadasiṃ, yā ca pakkhassa aṭṭhamī;

    ปาฎิหาริยปกฺขญฺจ, อฎฺฐงฺคสุสมาคตํฯ

    Pāṭihāriyapakkhañca, aṭṭhaṅgasusamāgataṃ.

    ๘๘๓.

    883.

    ‘‘อุโปสถํ อุปวสิสฺสํ, สทา สีเลสุ สํวุตา;

    ‘‘Uposathaṃ upavasissaṃ, sadā sīlesu saṃvutā;

    น จ ทาเน ปมชฺชิสฺสํ, สามํ ทิฎฺฐมิทํ มยา’’ติ;

    Na ca dāne pamajjissaṃ, sāmaṃ diṭṭhamidaṃ mayā’’ti;

    ๘๘๔.

    884.

    อิเจฺจวํ วิปฺปลปนฺติํ, ผนฺทมานํ ตโต ตโต;

    Iccevaṃ vippalapantiṃ, phandamānaṃ tato tato;

    ขิปิํสุ นิรเย โฆเร, อุทฺธปาทํ อวํสิรํฯ

    Khipiṃsu niraye ghore, uddhapādaṃ avaṃsiraṃ.

    ๘๘๕.

    885.

    ‘‘อหํ ปุเร มจฺฉรินี อโหสิํ, ปริภาสิกา สมณพฺราหฺมณานํ;

    ‘‘Ahaṃ pure maccharinī ahosiṃ, paribhāsikā samaṇabrāhmaṇānaṃ;

    วิตเถน จ สามิกํ วญฺจยิตฺวา, ปจฺจามหํ นิรเย โฆรรูเป’’ติฯ

    Vitathena ca sāmikaṃ vañcayitvā, paccāmahaṃ niraye ghorarūpe’’ti.

    เรวตีวิมานํ ทุติยํฯ

    Revatīvimānaṃ dutiyaṃ.







    Footnotes:
    1. ธ. ป. ๒๑๙ ธมฺมปเท
    2. dha. pa. 219 dhammapade
    3. ธ. ป. ๒๒๐ ธมฺมปเท
    4. dha. pa. 220 dhammapade
    5. เป. ว. ๗๑๔
    6. อปารุภํ ทฺวารํ (สี. สฺยา.), อปารุตทฺวารํ (ปี. ก.)
    7. pe. va. 714
    8. apārubhaṃ dvāraṃ (sī. syā.), apārutadvāraṃ (pī. ka.)
    9. อิเจฺจวํ (สฺยา. ก.)
    10. iccevaṃ (syā. ka.)
    11. จนฺทนสารานุลิตฺตา (สฺยา.)
    12. candanasārānulittā (syā.)
    13. วณิพฺพเก (สฺยา. ก.)
    14. vaṇibbake (syā. ka.)
    15. สยน (สี.)
    16. sayana (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā / ๒. เรวตีวิมานวณฺณนา • 2. Revatīvimānavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact