Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. โรคสุตฺตํ
7. Rogasuttaṃ
๑๕๗. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, โรคาฯ กตเม เทฺว? กายิโก จ โรโค เจตสิโก จ โรโคฯ ทิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา กายิเกน โรเคน เอกมฺปิ วสฺสํ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, เทฺวปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, ตีณิปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, จตฺตาริปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, ปญฺจปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, ทสปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, วีสติปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, ติํสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, จตฺตารีสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, ปญฺญาสมฺปิ วสฺสานิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา, วสฺสสตมฺปิ, ภิโยฺยปิ อาโรคฺยํ ปฎิชานมานา ฯ เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุทุลฺลภา 1 โลกสฺมิํ เย เจตสิเกน โรเคน มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฎิชานนฺติ, อญฺญตฺร ขีณาสเวหิฯ
157. ‘‘Dveme, bhikkhave, rogā. Katame dve? Kāyiko ca rogo cetasiko ca rogo. Dissanti, bhikkhave, sattā kāyikena rogena ekampi vassaṃ ārogyaṃ paṭijānamānā, dvepi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, tīṇipi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, cattāripi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, pañcapi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, dasapi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, vīsatipi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, tiṃsampi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, cattārīsampi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, paññāsampi vassāni ārogyaṃ paṭijānamānā, vassasatampi, bhiyyopi ārogyaṃ paṭijānamānā . Te, bhikkhave, sattā sudullabhā 2 lokasmiṃ ye cetasikena rogena muhuttampi ārogyaṃ paṭijānanti, aññatra khīṇāsavehi.
‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส โรคาฯ กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิโจฺฉ โหติ วิฆาตวา อสนฺตุโฎฺฐ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนฯ โส มหิโจฺฉ สมาโน วิฆาตวา อสนฺตุโฎฺฐ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ อนวญฺญปฺปฎิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฎิลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ อนวญฺญปฺปฎิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฎิลาภายฯ โส สงฺขาย กุลานิ อุปสงฺกมติ, สงฺขาย นิสีทติ, สงฺขาย ธมฺมํ ภาสติ, สงฺขาย อุจฺจารปสฺสาวํ สนฺธาเรติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปพฺพชิตสฺส โรคาฯ
‘‘Cattārome , bhikkhave, pabbajitassa rogā. Katame cattāro? Idha, bhikkhave, bhikkhu mahiccho hoti vighātavā asantuṭṭho itarītaracīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārena. So mahiccho samāno vighātavā asantuṭṭho itarītaracīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārena pāpikaṃ icchaṃ paṇidahati anavaññappaṭilābhāya lābhasakkārasilokappaṭilābhāya. So uṭṭhahati ghaṭati vāyamati anavaññappaṭilābhāya lābhasakkārasilokappaṭilābhāya. So saṅkhāya kulāni upasaṅkamati, saṅkhāya nisīdati, saṅkhāya dhammaṃ bhāsati, saṅkhāya uccārapassāvaṃ sandhāreti. Ime kho, bhikkhave, cattāro pabbajitassa rogā.
‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น มหิจฺฉา ภวิสฺสาม วิฆาตวโนฺต อสนฺตุฎฺฐา อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, น ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหิสฺสาม อนวญฺญปฺปฎิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฎิลาภาย, น อุฎฺฐหิสฺสาม น ฆเฎสฺสาม น วายมิสฺสาม อนวญฺญปฺปฎิลาภาย ลาภสกฺการสิโลกปฺปฎิลาภาย, ขมา ภวิสฺสาม สีตสฺส อุณฺหสฺส ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานํ ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถานํ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฎุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติกา ภวิสฺสามา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว , สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ สตฺตมํฯ
‘‘Tasmātiha, bhikkhave, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘na mahicchā bhavissāma vighātavanto asantuṭṭhā itarītaracīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhārena, na pāpikaṃ icchaṃ paṇidahissāma anavaññappaṭilābhāya lābhasakkārasilokappaṭilābhāya, na uṭṭhahissāma na ghaṭessāma na vāyamissāma anavaññappaṭilābhāya lābhasakkārasilokappaṭilābhāya, khamā bhavissāma sītassa uṇhassa jighacchāya pipāsāya ḍaṃsamakasavātātapasarīsapasamphassānaṃ duruttānaṃ durāgatānaṃ vacanapathānaṃ, uppannānaṃ sārīrikānaṃ vedanānaṃ dukkhānaṃ tibbānaṃ kharānaṃ kaṭukānaṃ asātānaṃ amanāpānaṃ pāṇaharānaṃ adhivāsakajātikā bhavissāmā’ti. Evañhi vo, bhikkhave , sikkhitabba’’nti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. โรคสุตฺตวณฺณนา • 7. Rogasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๖-๘. กปฺปสุตฺตาทิวณฺณนา • 6-8. Kappasuttādivaṇṇanā