Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๖. โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา
6. Rohitassasuttavaṇṇanā
๑๐๗. ฉเฎฺฐ ยตฺถาติ จกฺกวาฬโลกสฺส เอโกกาเส ภุมฺมํฯ น จวติ น อุปปชฺชตีติ อิทํ อปราปรํ จุติปฎิสนฺธิวเสน คหิตํฯ คมเนนาติ ปทคมเนนฯ นาหํ ตํ โลกสฺส อนฺตนฺติ สตฺถา สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ สนฺธาย วทติฯ ญาเตยฺยนฺติอาทีสุ ญาตพฺพํ, ทฎฺฐพฺพํ, ปตฺตพฺพนฺติ อโตฺถฯ
107. Chaṭṭhe yatthāti cakkavāḷalokassa ekokāse bhummaṃ. Na cavati na upapajjatīti idaṃ aparāparaṃ cutipaṭisandhivasena gahitaṃ. Gamanenāti padagamanena. Nāhaṃ taṃ lokassa antanti satthā saṅkhāralokassa antaṃ sandhāya vadati. Ñāteyyantiādīsu ñātabbaṃ, daṭṭhabbaṃ, pattabbanti attho.
อิติ เทวปุเตฺตน จกฺกวาฬโลกสฺส อโนฺต ปุจฺฉิโต, สตฺถารา สงฺขารโลกสฺส กถิโตฯ โส ปน อตฺตโน ปเญฺหน สทฺธิํ สตฺถุ พฺยากรณํ สเมตีติ สญฺญาย ปสํสโนฺต อจฺฉริยนฺติอาทิมาหฯ
Iti devaputtena cakkavāḷalokassa anto pucchito, satthārā saṅkhāralokassa kathito. So pana attano pañhena saddhiṃ satthu byākaraṇaṃ sametīti saññāya pasaṃsanto acchariyantiādimāha.
ทฬฺหธโมฺมติ ทฬฺหธนุ, อุตฺตมปฺปมาเณน ธนุนา สมนฺนาคโตฯ ธนุคฺคโหติ ธนุอาจริโยฯ สุสิกฺขิโตติ ทส ทฺวาทส วสฺสานิ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิโตฯ กตหโตฺถติ อุสภปฺปมาเณปิ วาลคฺคํ วิชฺฌิตุํ สมตฺถภาเวน กตหโตฺถฯ กตูปาสโนติ กตสรเกฺขโป ทสฺสิตสิโปฺปฯ อสเนนาติ กเณฺฑนฯ อติปาเตยฺยาติ อติกฺกเมยฺยฯ ยาวตา โส ตาลจฺฉายํ อติกฺกเมยฺย, ตาวตา กาเลน เอกจกฺกวาฬํ อติกฺกมามีติ อตฺตโน ชวสมฺปตฺติํ ทเสฺสติฯ
Daḷhadhammoti daḷhadhanu, uttamappamāṇena dhanunā samannāgato. Dhanuggahoti dhanuācariyo. Susikkhitoti dasa dvādasa vassāni dhanusippaṃ sikkhito. Katahatthoti usabhappamāṇepi vālaggaṃ vijjhituṃ samatthabhāvena katahattho. Katūpāsanoti katasarakkhepo dassitasippo. Asanenāti kaṇḍena. Atipāteyyāti atikkameyya. Yāvatā so tālacchāyaṃ atikkameyya, tāvatā kālena ekacakkavāḷaṃ atikkamāmīti attano javasampattiṃ dasseti.
ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโมติ ยถา ปุรตฺถิมสมุทฺทา ปจฺฉิมสมุโทฺท ทูเร, เอวํ เม ทูเร ปทวีติหาโร อโหสีติ วทติฯ โส กิร ปาจีนจกฺกวาฬมุขวฎฺฎิยํ ฐิโต ปาทํ ปสาเรตฺวา ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฎฺฎิยํ อกฺกมติ, ปุน ทุติยํ ปาทํ ปสาเรตฺวา ปรจกฺกวาฬมุขวฎฺฎิยํ อกฺกมติฯ อิจฺฉาคตนฺติ อิจฺฉา เอวฯ อญฺญเตฺรวาติ นิปฺปปญฺจตํ ทเสฺสติฯ ภิกฺขาจารกาเล กิเรส นาคลตาทนฺตกฎฺฐํ ขาทิตฺวา อโนตเตฺต มุขํ โธวิตฺวา กาเล สมฺปเตฺต อุตฺตรกุรุมฺหิ ปิณฺฑาย จริตฺวา จกฺกวาฬมุขวฎฺฎิยํ นิสิโนฺน ภตฺตกิจฺจํ กโรติ, ตตฺถ มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา ปุน ชวติฯ วสฺสสตายุโกติ ตทา ทีฆายุกกาโล โหติ, อยํ ปน วสฺสสตาวสิเฎฺฐ อายุมฺหิ คมนํ อารภิฯ วสฺสสตชีวีติ ตํ วสฺสสตํ อนนฺตราเยน ชีวโนฺตฯ อนฺตราว กาลงฺกโตติ จกฺกวาฬโลกสฺส อนฺตํ อปฺปตฺวา อนฺตราว มโตฯ โส ปน ตตฺถ กาลํ กตฺวาปิ อาคนฺตฺวา อิมสฺมิํเยว จกฺกวาเฬ นิพฺพตฺติฯ อปฺปตฺวาติ สงฺขารโลกสฺส อนฺตํ อปฺปตฺวาฯ ทุกฺขสฺสาติ วฎฺฎทุกฺขสฺสฯ อนฺตกิริยนฺติ ปริยนฺตกรณํฯ กเฬวเรติ อตฺตภาเวฯ สสญฺญิมฺหิ สมนเกติ สสเญฺญ สจิเตฺตฯ โลกนฺติ ทุกฺขสจฺจํฯ โลกสมุทยนฺติ สมุทยสจฺจํฯ โลกนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํฯ ปฎิปทนฺติ มคฺคสจฺจํฯ อิติ – ‘‘นาหํ, อาวุโส, อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ ติณกฎฺฐาทีสุ ปญฺญเปมิ , อิมสฺมิํ ปน จาตุมหาภูติเก กายสฺมิํ เยว ปญฺญเปมี’’ติ ทเสฺสติฯ สมิตาวีติ สมิตปาโปฯ นาสีสตีติ น ปเตฺถติฯ ฉฎฺฐํฯ
Puratthimā samuddā pacchimoti yathā puratthimasamuddā pacchimasamuddo dūre, evaṃ me dūre padavītihāro ahosīti vadati. So kira pācīnacakkavāḷamukhavaṭṭiyaṃ ṭhito pādaṃ pasāretvā pacchimacakkavāḷamukhavaṭṭiyaṃ akkamati, puna dutiyaṃ pādaṃ pasāretvā paracakkavāḷamukhavaṭṭiyaṃ akkamati. Icchāgatanti icchā eva. Aññatrevāti nippapañcataṃ dasseti. Bhikkhācārakāle kiresa nāgalatādantakaṭṭhaṃ khāditvā anotatte mukhaṃ dhovitvā kāle sampatte uttarakurumhi piṇḍāya caritvā cakkavāḷamukhavaṭṭiyaṃ nisinno bhattakiccaṃ karoti, tattha muhuttaṃ vissamitvā puna javati. Vassasatāyukoti tadā dīghāyukakālo hoti, ayaṃ pana vassasatāvasiṭṭhe āyumhi gamanaṃ ārabhi. Vassasatajīvīti taṃ vassasataṃ anantarāyena jīvanto. Antarāva kālaṅkatoti cakkavāḷalokassa antaṃ appatvā antarāva mato. So pana tattha kālaṃ katvāpi āgantvā imasmiṃyeva cakkavāḷe nibbatti. Appatvāti saṅkhāralokassa antaṃ appatvā. Dukkhassāti vaṭṭadukkhassa. Antakiriyanti pariyantakaraṇaṃ. Kaḷevareti attabhāve. Sasaññimhi samanaketi sasaññe sacitte. Lokanti dukkhasaccaṃ. Lokasamudayanti samudayasaccaṃ. Lokanirodhanti nirodhasaccaṃ. Paṭipadanti maggasaccaṃ. Iti – ‘‘nāhaṃ, āvuso, imāni cattāri saccāni tiṇakaṭṭhādīsu paññapemi , imasmiṃ pana cātumahābhūtike kāyasmiṃ yeva paññapemī’’ti dasseti. Samitāvīti samitapāpo. Nāsīsatīti na pattheti. Chaṭṭhaṃ.
๑๐๘-๑๐๙. สตฺตมฎฺฐมานิ วุตฺตตฺถาเนวฯ สตฺตมํ, อฎฺฐมํฯ
108-109. Sattamaṭṭhamāni vuttatthāneva. Sattamaṃ, aṭṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya
๖. โรหิตสฺสสุตฺตํ • 6. Rohitassasuttaṃ
๗. นนฺทสุตฺตํ • 7. Nandasuttaṃ
๘. นนฺทิวิสาลสุตฺตํ • 8. Nandivisālasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)
๖. โรหิตสฺสสุตฺตวณฺณนา • 6. Rohitassasuttavaṇṇanā
๗-๘. นนฺทสุตฺตนนฺทิวิสาลสุตฺตวณฺณนา • 7-8. Nandasuttanandivisālasuttavaṇṇanā