Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๕. รุกฺขอเจตนาภาวปโญฺห

    5. Rukkhaacetanābhāvapañho

    . ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ภาสิตเมฺปตํ ตถาคเตน –

    5. ‘‘Bhante nāgasena, bhāsitampetaṃ tathāgatena –

    ‘‘‘อเจตนํ พฺราหฺมณ อสฺสุณนฺตํ, ชาโน อชานนฺตมิมํ ปลาสํ;

    ‘‘‘Acetanaṃ brāhmaṇa assuṇantaṃ, jāno ajānantamimaṃ palāsaṃ;

    อารทฺธวีริโย ธุวํ อปฺปมโตฺต, สุขเสยฺยํ ปุจฺฉสิ กิสฺส เหตู’ติ 1

    Āraddhavīriyo dhuvaṃ appamatto, sukhaseyyaṃ pucchasi kissa hetū’ti 2.

    ปุน จ ภณิตํ –

    Puna ca bhaṇitaṃ –

    ‘‘‘อิติ ผนฺทนรุโกฺขปิ, ตาวเท อชฺฌภาสถ;

    ‘‘‘Iti phandanarukkhopi, tāvade ajjhabhāsatha;

    มยฺหมฺปิ วจนํ อตฺถิ, ภารทฺวาช สุโณหิ เม’ติ 3

    Mayhampi vacanaṃ atthi, bhāradvāja suṇohi me’ti 4.

    ‘‘ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, รุโกฺข อเจตโน, เตน หิ ผนฺทเนน รุเกฺขน ภารทฺวาเชน สห สลฺลปิตนฺติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ ผนฺทเนน รุเกฺขน ภารทฺวาเชน สทฺธิํ สลฺลปิตํ, เตน หิ รุโกฺข อเจตโนติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Yadi, bhante nāgasena, rukkho acetano, tena hi phandanena rukkhena bhāradvājena saha sallapitanti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi phandanena rukkhena bhāradvājena saddhiṃ sallapitaṃ, tena hi rukkho acetanoti tampi vacanaṃ micchā. Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppato, so tayā nibbāhitabbo’’ti.

    ‘‘ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา ‘รุโกฺข อเจตโน’ติ, ผนฺทเนน จ รุเกฺขน ภารทฺวาเชน สทฺธิํ สลฺลปิตํ, ตญฺจ ปน วจนํ โลกสมญฺญาย ภณิตํฯ นตฺถิ, มหาราช, อเจตนสฺส รุกฺขสฺส สลฺลาโป นาม, อปิ จ, มหาราช, ตสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถาย เทวตาเยตํ อธิวจนํ รุโกฺขติ, รุโกฺข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติ, ยถา, มหาราช, สกฎํ ธญฺญสฺส ปริปูริตํ ธญฺญสกฎนฺติ ชโน โวหรติ, น จ ตํ ธญฺญมยํ สกฎํ, รุกฺขมยํ สกฎํ, ตสฺมิํ สกเฎ ธญฺญสฺส ปน อากิริตตฺตา ธญฺญสกฎนฺติ ชโน โวหรติ, เอวเมว โข, มหาราช, น รุโกฺข สลฺลปติ, รุโกฺข อเจตโน, ยา ปน ตสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถา เทวตา, ตสฺสา เยว ตํ อธิวจนํ รุโกฺขติ, รุโกฺข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติฯ

    ‘‘Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā ‘rukkho acetano’ti, phandanena ca rukkhena bhāradvājena saddhiṃ sallapitaṃ, tañca pana vacanaṃ lokasamaññāya bhaṇitaṃ. Natthi, mahārāja, acetanassa rukkhassa sallāpo nāma, api ca, mahārāja, tasmiṃ rukkhe adhivatthāya devatāyetaṃ adhivacanaṃ rukkhoti, rukkho sallapatīti cesā lokapaṇṇatti, yathā, mahārāja, sakaṭaṃ dhaññassa paripūritaṃ dhaññasakaṭanti jano voharati, na ca taṃ dhaññamayaṃ sakaṭaṃ, rukkhamayaṃ sakaṭaṃ, tasmiṃ sakaṭe dhaññassa pana ākiritattā dhaññasakaṭanti jano voharati, evameva kho, mahārāja, na rukkho sallapati, rukkho acetano, yā pana tasmiṃ rukkhe adhivatthā devatā, tassā yeva taṃ adhivacanaṃ rukkhoti, rukkho sallapatīti cesā lokapaṇṇatti.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ทธิํ มนฺถยมาโน ตกฺกํ มเนฺถมีติ โวหรติ, น ตํ ตกฺกํ, ยํ โส มเนฺถติ, ทธิํ เยว โส มเนฺถโนฺต ตกฺกํ มเนฺถมีติ โวหรติ, เอวเมว โข, มหาราช, น รุโกฺข สลฺลปติ, รุโกฺข อเจตโน ฯ ยา ปน ตสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถา เทวตา, ตสฺสาเยว ตํ อธิวจนํ รุโกฺขติ, รุโกฺข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, dadhiṃ manthayamāno takkaṃ manthemīti voharati, na taṃ takkaṃ, yaṃ so mantheti, dadhiṃ yeva so manthento takkaṃ manthemīti voharati, evameva kho, mahārāja, na rukkho sallapati, rukkho acetano . Yā pana tasmiṃ rukkhe adhivatthā devatā, tassāyeva taṃ adhivacanaṃ rukkhoti, rukkho sallapatīti cesā lokapaṇṇatti.

    ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อสนฺตํ สาเธตุกาโม สนฺตํ สาเธมีติ โวหรติ , อสิทฺธํ สิทฺธนฺติ โวหรติ, เอวเมสา โลกสมญฺญา, เอวเมว โข, มหาราช, น รุโกฺข สลฺลปติ, รุโกฺข อเจตโนฯ ยา ปน ตสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถา เทวตา, ตสฺสาเยว ตํ อธิวจนํ รุโกฺขติ, รุโกฺข สลฺลปตีติ เจสา โลกปณฺณตฺติ, ยาย, มหาราช, โลกสมญฺญาย ชโน โวหรติ, ตถาคโตปิ ตาเยว โลกสมญฺญาย สตฺตานํ ธมฺมํ เทเสตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ

    ‘‘Yathā vā pana, mahārāja, asantaṃ sādhetukāmo santaṃ sādhemīti voharati , asiddhaṃ siddhanti voharati, evamesā lokasamaññā, evameva kho, mahārāja, na rukkho sallapati, rukkho acetano. Yā pana tasmiṃ rukkhe adhivatthā devatā, tassāyeva taṃ adhivacanaṃ rukkhoti, rukkho sallapatīti cesā lokapaṇṇatti, yāya, mahārāja, lokasamaññāya jano voharati, tathāgatopi tāyeva lokasamaññāya sattānaṃ dhammaṃ desetī’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.

    รุกฺขอเจตนาภาวปโญฺห ปญฺจโมฯ

    Rukkhaacetanābhāvapañho pañcamo.







    Footnotes:
    1. ชา. ๑.๔.๒๕
    2. jā. 1.4.25
    3. ชา. ๑.๑๓.๒๐
    4. jā. 1.13.20

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact