Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทํ

    9. Rūpiyasaṃvohārasikkhāpadaṃ

    ๕๘๗. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติ ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    587. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjissanti, seyyathāpi gihī kāmabhogino’’ti ! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjissantī’’ti! Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjathā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๕๘๘. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปเชฺชยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    588.‘‘Yo pana bhikkhu nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjeyya, nissaggiyaṃ pācittiya’’nti.

    ๕๘๙. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    589.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    นานปฺปการกํ นาม กตมฺปิ อกตมฺปิ กตากตมฺปิฯ กตํ นาม สีสูปคํ คีวูปคํ หตฺถูปคํ ปาทูปคํ กฎูปคํฯ อกตํ นาม ฆนกตํ วุจฺจติฯ กตากตํ นาม ตทุภยํฯ

    Nānappakārakaṃ nāma katampi akatampi katākatampi. Kataṃ nāma sīsūpagaṃ gīvūpagaṃ hatthūpagaṃ pādūpagaṃ kaṭūpagaṃ. Akataṃ nāma ghanakataṃ vuccati. Katākataṃ nāma tadubhayaṃ.

    รูปิยํ นาม สตฺถุวโณฺณ กหาปโณ, โลหมาสโก, ทารุมาสโก, ชตุมาสโก เย โวหารํ คจฺฉนฺติฯ

    Rūpiyaṃ nāma satthuvaṇṇo kahāpaṇo, lohamāsako, dārumāsako, jatumāsako ye vohāraṃ gacchanti.

    สมาปเชฺชยฺยาติ กเตน กตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ 1ฯ กเตน อกตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ กเตน กตากตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อกเตน กตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อกเตน อกตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อกเตน กตากตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ กตากเตน กตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ กตากเตน อกตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ กตากเตน กตากตํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ สงฺฆมเชฺฌ นิสฺสชฺชิตพฺพํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, นิสฺสชฺชิตพฺพํฯ เตน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อหํ, ภเนฺต, นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิํฯ อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํฯ อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติฯ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพาฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน อาปตฺติ ปฎิคฺคเหตพฺพาฯ สเจ ตตฺถ อาคจฺฉติ อารามิโก วา อุปาสโก วา โส วตฺตโพฺพ – ‘‘อาวุโส, อิมํ ชานาหี’’ติฯ สเจ โส ภณติ – ‘‘อิมินา กิํ อาหริยฺยตู’’ติ, น วตฺตโพฺพ – ‘‘อิมํ วา อิมํ วา อาหรา’’ติฯ กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ – สปฺปิ วา เตลํ วา มธุ วา ผาณิตํ วาฯ สเจ โส เตน ปริวเตฺตตฺวา กปฺปิยํ อาหรติ, รูปิยเจตาปกํ ฐเปตฺวา, สเพฺพเหว ปริภุญฺชิตพฺพํฯ เอวเญฺจตํ ลเภถ, อิเจฺจตํ กุสลํ; โน เจ ลเภถ, โส วตฺตโพฺพ – ‘‘อาวุโส, อิมํ ฉเฑฺฑหี’’ติฯ สเจ โส ฉเฑฺฑติ, อิเจฺจตํ กุสลํ; โน เจ ฉเฑฺฑติ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ รูปิยฉฑฺฑโก สมฺมนฺนิตโพฺพ – โย น ฉนฺทาคติํ คเจฺฉยฺย, น โทสาคติํ คเจฺฉยฺย, น โมหาคติํ คเจฺฉยฺย, น ภยาคติํ คเจฺฉยฺย, ฉฑฺฑิตาฉฑฺฑิตญฺจ ชาเนยฺยฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตโพฺพฯ ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตโพฺพฯ ยาจิตฺวา พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Samāpajjeyyāti katena kataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ 2. Katena akataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Katena katākataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Akatena kataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Akatena akataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Akatena katākataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Katākatena kataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Katākatena akataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Katākatena katākataṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Saṅghamajjhe nissajjitabbaṃ. Evañca pana, bhikkhave, nissajjitabbaṃ. Tena bhikkhunā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā vuḍḍhānaṃ bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘‘ahaṃ, bhante, nānappakārakaṃ rūpiyasaṃvohāraṃ samāpajjiṃ. Idaṃ me nissaggiyaṃ. Imāhaṃ saṅghassa nissajjāmī’’ti. Nissajjitvā āpatti desetabbā. Byattena bhikkhunā paṭibalena āpatti paṭiggahetabbā. Sace tattha āgacchati ārāmiko vā upāsako vā so vattabbo – ‘‘āvuso, imaṃ jānāhī’’ti. Sace so bhaṇati – ‘‘iminā kiṃ āhariyyatū’’ti, na vattabbo – ‘‘imaṃ vā imaṃ vā āharā’’ti. Kappiyaṃ ācikkhitabbaṃ – sappi vā telaṃ vā madhu vā phāṇitaṃ vā. Sace so tena parivattetvā kappiyaṃ āharati, rūpiyacetāpakaṃ ṭhapetvā, sabbeheva paribhuñjitabbaṃ. Evañcetaṃ labhetha, iccetaṃ kusalaṃ; no ce labhetha, so vattabbo – ‘‘āvuso, imaṃ chaḍḍehī’’ti. Sace so chaḍḍeti, iccetaṃ kusalaṃ; no ce chaḍḍeti, pañcahaṅgehi samannāgato bhikkhu rūpiyachaḍḍako sammannitabbo – yo na chandāgatiṃ gaccheyya, na dosāgatiṃ gaccheyya, na mohāgatiṃ gaccheyya, na bhayāgatiṃ gaccheyya, chaḍḍitāchaḍḍitañca jāneyya. Evañca pana, bhikkhave, sammannitabbo. Paṭhamaṃ bhikkhu yācitabbo. Yācitvā byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๕๙๐. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมเนฺนยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    590. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuṃ rūpiyachaḍḍakaṃ sammanneyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ รูปิยฉฑฺฑกํ สมฺมนฺนติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน รูปิยฉฑฺฑกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Saṅgho itthannāmaṃ bhikkhuṃ rūpiyachaḍḍakaṃ sammannati. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno rūpiyachaḍḍakassa sammuti, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘สมฺมโต สเงฺฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ รูปิยฉฑฺฑโกฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Sammato saṅghena itthannāmo bhikkhu rūpiyachaḍḍako. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    เตน สมฺมเตน ภิกฺขุนา อนิมิตฺตํ กตฺวา ปาเตตพฺพํฯ สเจ นิมิตฺตํ กตฺวา ปาเตติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Tena sammatena bhikkhunā animittaṃ katvā pātetabbaṃ. Sace nimittaṃ katvā pāteti, āpatti dukkaṭassa.

    ๕๙๑. รูปิเย รูปิยสญฺญี รูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ รูปิเย เวมติโก รูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ รูปิเย อรูปิยสญฺญี รูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อรูปิเย รูปิยสญฺญี รูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ฯ อรูปิเย เวมติโก รูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อรูปิเย อรูปิยสญฺญี รูปิยํ เจตาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ

    591. Rūpiye rūpiyasaññī rūpiyaṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Rūpiye vematiko rūpiyaṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Rūpiye arūpiyasaññī rūpiyaṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Arūpiye rūpiyasaññī rūpiyaṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ . Arūpiye vematiko rūpiyaṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Arūpiye arūpiyasaññī rūpiyaṃ cetāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ.

    อรูปิเย รูปิยสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อรูปิเย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อรูปิเย อรูปิยสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Arūpiye rūpiyasaññī, āpatti dukkaṭassa. Arūpiye vematiko, āpatti dukkaṭassa. Arūpiye arūpiyasaññī, anāpatti.

    ๕๙๒. อนาปตฺติ อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    592. Anāpatti ummattakassa, ādikammikassāti.

    รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ

    Rūpiyasaṃvohārasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.







    Footnotes:
    1. นิสฺสคฺคิยํ โหติ (สฺยา.)
    2. nissaggiyaṃ hoti (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Rūpiyasaṃvohārasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Rūpiyasaṃvohārasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Rūpiyasaṃvohārasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Rūpiyasaṃvohārasikkhāpadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact