Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๑๕๕. สพฺพจมฺมปฎิเกฺขโป
155. Sabbacammapaṭikkhepo
๒๕๕. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู – ภควตา อุจฺจาสยนมหาสยนานิ ปฎิกฺขิตฺตานีติ – มหาจมฺมานิ ธาเรนฺติ, สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํฯ ตานิ มญฺจปฺปมาเณนปิ ฉินฺนานิ โหนฺติ, ปีฐปฺปมาเณนปิ ฉินฺนานิ โหนฺติ, อโนฺตปิ มเญฺจ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มเญฺจ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติ, อโนฺตปิ ปีเฐ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ ปีเฐ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติฯ มนุสฺสา วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสฺสิตฺวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ น, ภิกฺขเว, มหาจมฺมานิ ธาเรตพฺพานิ, สีหจมฺมํ พฺยคฺฆจมฺมํ ทีปิจมฺมํฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ
255. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū – bhagavatā uccāsayanamahāsayanāni paṭikkhittānīti – mahācammāni dhārenti, sīhacammaṃ byagghacammaṃ dīpicammaṃ. Tāni mañcappamāṇenapi chinnāni honti, pīṭhappamāṇenapi chinnāni honti, antopi mañce paññattāni honti, bahipi mañce paññattāni honti, antopi pīṭhe paññattāni honti, bahipi pīṭhe paññattāni honti. Manussā vihāracārikaṃ āhiṇḍantā passitvā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘seyyathāpi gihī kāmabhogino’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Na, bhikkhave, mahācammāni dhāretabbāni, sīhacammaṃ byagghacammaṃ dīpicammaṃ. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassāti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู – ภควตา มหาจมฺมานิ ปฎิกฺขิตฺตานีติ – โคจมฺมานิ ธาเรนฺติฯ ตานิ มญฺจปฺปมาเณนปิ ฉินฺนานิ โหนฺติ, ปีฐปฺปมาเณนปิ ฉินฺนานิ โหนฺติ, อโนฺตปิ มเญฺจ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ มเญฺจ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติ, อโนฺตปิ ปีเฐ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติ, พหิปิ ปีเฐ ปญฺญตฺตานิ โหนฺติฯ อญฺญตโรปิ ปาปภิกฺขุ อญฺญตรสฺส ปาปุปาสกสฺส กุลูปโก โหติฯ อถ โข โส ปาปภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส ปาปุปาสกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข โส ปาปุปาสโก เยน โส ปาปภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปาปภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เตน โข ปน สมเยน ตสฺส ปาปุปาสกสฺส วจฺฉโก โหติ ตรุณโก อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก จิโตฺร, เสยฺยถาปิ ทีปิจฺฉาโปฯ อถ โข โส ปาปภิกฺขุ ตํ วจฺฉกํ สกฺกจฺจํ อุปนิชฺฌายติฯ อถ โข โส ปาปุปาสโก ตํ ปาปภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส, ภเนฺต, อโยฺย อิมํ วจฺฉกํ สกฺกจฺจํ อุปนิชฺฌายตี’’ติ? ‘‘อโตฺถ เม, อาวุโส, อิมสฺส วจฺฉกสฺส จเมฺมนา’’ติฯ อถ โข โส ปาปุปาสโก ตํ วจฺฉกํ วธิตฺวา จมฺมํ วิธุนิตฺวา ตสฺส ปาปภิกฺขุโน ปาทาสิฯ อถ โข โส ปาปภิกฺขุ ตํ จมฺมํ สงฺฆาฎิยา ปฎิจฺฉาเทตฺวา อคมาสิฯ อถ โข สา คาวี วจฺฉคิทฺธินี ตํ ปาปภิกฺขุํ ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อนุพนฺธิฯ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กิสฺส ตฺยายํ, อาวุโส, คาวี ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อนุพนฺธี’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข, อาวุโส, น ชานามิ เกน 1 มฺยายํ คาวี ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อนุพนฺธี’’ติฯ เตน โข ปน สมเยน ตสฺส ปาปภิกฺขุโน สงฺฆาฎิ โลหิเตน มกฺขิตา โหติฯ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘อยํ ปน เต, อาวุโส, สงฺฆาฎิ กิํ กตา’’ติ? อถ โข โส ปาปภิกฺขุ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ปาณาติปาเต สมาทเปสี’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ ปาณาติปาเต สมาทเปสฺสติ, นนุ ภควตา อเนกปริยาเยน ปาณาติปาโต ครหิโต, ปาณาติปาตา เวรมณี ปสตฺถา’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū – bhagavatā mahācammāni paṭikkhittānīti – gocammāni dhārenti. Tāni mañcappamāṇenapi chinnāni honti, pīṭhappamāṇenapi chinnāni honti, antopi mañce paññattāni honti, bahipi mañce paññattāni honti, antopi pīṭhe paññattāni honti, bahipi pīṭhe paññattāni honti. Aññataropi pāpabhikkhu aññatarassa pāpupāsakassa kulūpako hoti. Atha kho so pāpabhikkhu pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena tassa pāpupāsakassa nivesanaṃ tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho so pāpupāsako yena so pāpabhikkhu tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā taṃ pāpabhikkhuṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Tena kho pana samayena tassa pāpupāsakassa vacchako hoti taruṇako abhirūpo dassanīyo pāsādiko citro, seyyathāpi dīpicchāpo. Atha kho so pāpabhikkhu taṃ vacchakaṃ sakkaccaṃ upanijjhāyati. Atha kho so pāpupāsako taṃ pāpabhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kissa, bhante, ayyo imaṃ vacchakaṃ sakkaccaṃ upanijjhāyatī’’ti? ‘‘Attho me, āvuso, imassa vacchakassa cammenā’’ti. Atha kho so pāpupāsako taṃ vacchakaṃ vadhitvā cammaṃ vidhunitvā tassa pāpabhikkhuno pādāsi. Atha kho so pāpabhikkhu taṃ cammaṃ saṅghāṭiyā paṭicchādetvā agamāsi. Atha kho sā gāvī vacchagiddhinī taṃ pāpabhikkhuṃ piṭṭhito piṭṭhito anubandhi. Bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘kissa tyāyaṃ, āvuso, gāvī piṭṭhito piṭṭhito anubandhī’’ti? ‘‘Ahampi kho, āvuso, na jānāmi kena 2 myāyaṃ gāvī piṭṭhito piṭṭhito anubandhī’’ti. Tena kho pana samayena tassa pāpabhikkhuno saṅghāṭi lohitena makkhitā hoti. Bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘ayaṃ pana te, āvuso, saṅghāṭi kiṃ katā’’ti? Atha kho so pāpabhikkhu bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, āvuso, pāṇātipāte samādapesī’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu pāṇātipāte samādapessati, nanu bhagavatā anekapariyāyena pāṇātipāto garahito, pāṇātipātā veramaṇī pasatthā’’ti. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ.
อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ตํ ปาปภิกฺขุํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปาณาติปาเต สมาทเปสี’’ติ? สจฺจํ ภควาติ…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ปาณาติปาเต สมาทเปสฺสสิ, นนุ มยา, โมฆปุริส, อเนกปริยาเยน ปาณาติปาโต ครหิโต, ปาณาติปาตา เวรมณี ปสตฺถาฯ เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาณาติปาเต สมาทเปตพฺพํฯ โย สมาทเปยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพฯ น, ภิกฺขเว, โคจมฺมํ ธาเรตพฺพํฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, กิญฺจิ จมฺมํ ธาเรตพฺพํฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ
Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā taṃ pāpabhikkhuṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, pāṇātipāte samādapesī’’ti? Saccaṃ bhagavāti…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, pāṇātipāte samādapessasi, nanu mayā, moghapurisa, anekapariyāyena pāṇātipāto garahito, pāṇātipātā veramaṇī pasatthā. Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, pāṇātipāte samādapetabbaṃ. Yo samādapeyya, yathādhammo kāretabbo. Na, bhikkhave, gocammaṃ dhāretabbaṃ. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Na ca, bhikkhave, kiñci cammaṃ dhāretabbaṃ. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.
สพฺพจมฺมปฎิเกฺขโป นิฎฺฐิโตฯ
Sabbacammapaṭikkhepo niṭṭhito.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / สพฺพจมฺมปฎิเกฺขปาทิกถา • Sabbacammapaṭikkhepādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สพฺพจมฺมปฎิเกฺขปาทิกถาวณฺณนา • Sabbacammapaṭikkhepādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๕๕. สพฺพจมฺมปฎิเกฺขปาทิกถา • 155. Sabbacammapaṭikkhepādikathā