Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā |
๕. สพฺพมตฺถีติกถา
5. Sabbamatthītikathā
๑. วาทยุตฺติวณฺณนา
1. Vādayuttivaṇṇanā
๒๘๒. สพฺพสฺมิํ สรีเร สพฺพนฺติ สิรสิ ปาทา ปจฺฉโต จกฺขูนีติ เอวํ สพฺพํ สพฺพตฺถ อตฺถีติ อโตฺถฯ สพฺพสฺมิํ กาเลติ พาลกาเล ยุวตา, วุฑฺฒกาเล พาลตา, เอวํ สพฺพสฺมิํ กาเล สพฺพํฯ สเพฺพนากาเรนาติ นีลากาเรน ปีตํ, ปีตากาเรน โลหิตนฺติ เอวํฯ สเพฺพสุ ธเมฺมสูติ จกฺขุสฺมิํ โสตํ, โสตสฺมิํ ฆานนฺติ เอวํฯ อยุตฺตนฺติ โยครหิตํ วทติ, ตํ ปน เอกสภาวํฯ กถํ ปน เอกสภาวสฺส โยครหิตตาติ ตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘นานาสภาวานญฺหี’’ติอาทิมาหฯ ทฺวินฺนญฺหิ นานาสภาวานํ องฺคุลีนํ เมณฺฑกานํ วา อญฺญมญฺญโยโค โหติ, น เอกเสฺสว สโต, ตสฺมา โย นานาสภาเวสุ โหติ โยโค, เตน รหิตํ เอกสภาวํ อโยคนฺติ วุตฺตํฯ อิทํ ปุจฺฉตีติ ปรวาทีทิฎฺฐิยา มิจฺฉาทิฎฺฐิภาวํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนาย อตฺตโน ทิฎฺฐิยา สมฺมาทิฎฺฐิภาโว อตฺถีติ วุตฺตํ โหติฯ
282. Sabbasmiṃsarīre sabbanti sirasi pādā pacchato cakkhūnīti evaṃ sabbaṃ sabbattha atthīti attho. Sabbasmiṃ kāleti bālakāle yuvatā, vuḍḍhakāle bālatā, evaṃ sabbasmiṃ kāle sabbaṃ. Sabbenākārenāti nīlākārena pītaṃ, pītākārena lohitanti evaṃ. Sabbesu dhammesūti cakkhusmiṃ sotaṃ, sotasmiṃ ghānanti evaṃ. Ayuttanti yogarahitaṃ vadati, taṃ pana ekasabhāvaṃ. Kathaṃ pana ekasabhāvassa yogarahitatāti taṃ dassento ‘‘nānāsabhāvānañhī’’tiādimāha. Dvinnañhi nānāsabhāvānaṃ aṅgulīnaṃ meṇḍakānaṃ vā aññamaññayogo hoti, na ekasseva sato, tasmā yo nānāsabhāvesu hoti yogo, tena rahitaṃ ekasabhāvaṃ ayoganti vuttaṃ. Idaṃ pucchatīti paravādīdiṭṭhiyā micchādiṭṭhibhāvaṃ gahetvā uppannāya attano diṭṭhiyā sammādiṭṭhibhāvo atthīti vuttaṃ hoti.
วาทยุตฺติวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vādayuttivaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. กาลสํสนฺทนวณฺณนา
2. Kālasaṃsandanavaṇṇanā
๒๘๕. อตีตานาคตํ ปหาย ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว อปฺปิยํ อวิภชิตพฺพํ กริตฺวาติ ปจฺจุปฺปนฺนสเทฺทน รูปสเทฺทน จาติ อุโภหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว วตฺตพฺพํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติฯ ปญฺญตฺติยา อวิคตตฺตาติ เอเตน อิทํ วิญฺญายติ ‘‘น รูปปญฺญตฺติ วิย วตฺถปญฺญตฺติ สภาวปริจฺฉิเนฺน ปวตฺตา วิชฺชมานปญฺญตฺติ, อถ โข ปุพฺพาปริยวเสน ปวตฺตมานํ รูปสมูหํ อุปาทาย ปวตฺตา อวิชฺชมานปญฺญตฺติ, ตสฺมา วตฺถภาวสฺส โอทาตภาววิคเม วิคมาวตฺตพฺพตา ยุตฺตา, น ปน รูปภาวสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภาววิคเม’’ติฯ
285. Atītānāgataṃ pahāya paccuppannarūpameva appiyaṃ avibhajitabbaṃ karitvāti paccuppannasaddena rūpasaddena cāti ubhohipi paccuppannarūpameva vattabbaṃ katvāti vuttaṃ hoti. Paññattiyā avigatattāti etena idaṃ viññāyati ‘‘na rūpapaññatti viya vatthapaññatti sabhāvaparicchinne pavattā vijjamānapaññatti, atha kho pubbāpariyavasena pavattamānaṃ rūpasamūhaṃ upādāya pavattā avijjamānapaññatti, tasmā vatthabhāvassa odātabhāvavigame vigamāvattabbatā yuttā, na pana rūpabhāvassa paccuppannabhāvavigame’’ti.
กาลสํสนฺทนวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kālasaṃsandanavaṇṇanā niṭṭhitā.
วจนโสธนวณฺณนา
Vacanasodhanavaṇṇanā
๒๘๘. อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา หุตฺวา โหตีติ วุตฺตนฺติ เอตฺถ อนาคตํ อนาคตํ หุตฺวา ปุน ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ หุตฺวา โหตีติ, ตถา ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ ปุเพฺพ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตีติ หุตฺวา โหตีติ วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ กิํ เต ตมฺปิ หุตฺวา โหตีติ ตพฺภาวาวิคมโต หุตฺวาโหติภาวานุปรมํ อนุปเจฺฉทํ ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย ยุโตฺตฯ หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวา อภาวโตติ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภูตสฺส ปุน อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนาภาวโตฯ
288. Anāgataṃvā paccuppannaṃ vā hutvā hotīti vuttanti ettha anāgataṃ anāgataṃ hutvā puna paccuppannaṃ hontaṃ hutvā hotīti, tathā paccuppannaṃ paccuppannaṃ hontaṃ pubbe anāgataṃ hutvā paccuppannaṃ hotīti hutvā hotīti vuttanti daṭṭhabbaṃ. Kiṃ te tampi hutvā hotīti tabbhāvāvigamato hutvāhotibhāvānuparamaṃ anupacchedaṃ pucchatīti adhippāyo yutto. Hutvā bhūtassa puna hutvā abhāvatoti anāgataṃ hutvā paccuppannabhūtassa puna anāgataṃ hutvā paccuppannābhāvato.
ยสฺมา ตนฺติ ตํ หุตฺวา ภูตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ยสฺมา อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ สงฺขฺยํ คตํ, ตสฺมา ทุติยมฺปิ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ วจนํ อรหตีติ ปฎิชานาตีติ อธิปฺปาโยฯ เอวํ ปน ธเมฺม หุตฺวาโหติภาวานุปรมํ วทนฺตสฺส อธเมฺม สสวิสาเณ นหุตฺวาน โหติภาวานุปรโม อาปชฺชตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘อถ น’’นฺติอาทิมาหฯ
Yasmā tanti taṃ hutvā bhūtaṃ paccuppannaṃ yasmā anāgataṃ hutvā paccuppannaṃ hontaṃ ‘‘hutvā hotī’’ti saṅkhyaṃ gataṃ, tasmā dutiyampi ‘‘hutvā hotī’’ti vacanaṃ arahatīti paṭijānātīti adhippāyo. Evaṃ pana dhamme hutvāhotibhāvānuparamaṃ vadantassa adhamme sasavisāṇe nahutvāna hotibhāvānuparamo āpajjatīti adhippāyena ‘‘atha na’’ntiādimāha.
ปฎิกฺขิตฺตนเยนาติ กาลนานเตฺตนฯ ปฎิญฺญาตนเยนาติ อตฺถานานเตฺตนฯ อตฺถานานตฺตํ อิจฺฉโนฺตปิ ปน อนาคตสฺส ปจฺจุปฺปเนฺน วุตฺตํ โหติภาวํ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ อนาคเต วุตฺตํ หุตฺวาภาวํ กถํ ปฎิชานาตีติ วิจาเรตพฺพํฯ อตฺถานานตฺตเมว หิ เตน อนุญฺญายติ, น อนาคเต ปจฺจุปฺปนฺนภาโว, ปจฺจุปฺปเนฺน วา อนาคตภาโวติฯ ปุริมํ ปฎิกฺขิตฺตปญฺหํ ปริวตฺติตฺวาติ อนุญฺญาตปญฺหสฺส หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตีติ โทโส วุโตฺตติ อวุตฺตโทสํ อติกฺกมฺม ปฎิกฺขิตฺตปญฺหํ ปุน คเหตฺวา เตน โจเทตีติ อโตฺถฯ เอตฺถ จ อตฺถานานเตฺตน หุตฺวาโหตีติ อนุชานนฺตสฺส โทโส กาลนานตฺตาเยว อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปฎิเกฺขเปน กถํ โหตีติ? ตเสฺสว อนุชานนปฎิเกฺขปโตติ อธิปฺปาโยฯ
Paṭikkhittanayenāti kālanānattena. Paṭiññātanayenāti atthānānattena. Atthānānattaṃ icchantopi pana anāgatassa paccuppanne vuttaṃ hotibhāvaṃ, paccuppannassa ca anāgate vuttaṃ hutvābhāvaṃ kathaṃ paṭijānātīti vicāretabbaṃ. Atthānānattameva hi tena anuññāyati, na anāgate paccuppannabhāvo, paccuppanne vā anāgatabhāvoti. Purimaṃ paṭikkhittapañhaṃ parivattitvāti anuññātapañhassa hutvā hoti hutvā hotīti doso vuttoti avuttadosaṃ atikkamma paṭikkhittapañhaṃ puna gahetvā tena codetīti attho. Ettha ca atthānānattena hutvāhotīti anujānantassa doso kālanānattāyeva anāgataṃ paccuppannanti paṭikkhepena kathaṃ hotīti? Tasseva anujānanapaṭikkhepatoti adhippāyo.
เอเกกนฺติ อนาคตมฺปิ น หุตฺวา น โหติ ปจฺจุปฺปนฺนมฺปีติ ตทุภยํ คเหตฺวา ‘‘เอเกกํ น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตี’’ติ วุตฺตํ, น เอเกกเมว น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติฯ เอส นโย ปุริมสฺมิํ ‘‘เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ วจเนปิฯ อนาคตสฺส หิ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ นามํ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จาติ เทฺวปิ นามานิ สงฺคเหตฺวา ‘‘หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ โจทิตํ, ตถา ‘‘น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตี’’ติ จาติ อธิปฺปาโย ฯ สพฺพโต อนฺธกาเรน ปริโยนโทฺธ วิยาติ เอเตน อปริโยนเทฺธน ปฎิชานิตพฺพํ สิยาติ ทเสฺสติฯ เอตฺถ จ ปุริมนเย หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวาโหติภาโว โจทิโต, ทุติยนเย อนาคตาทีสุ เอเกกสฺส หุตฺวาโหตินามตาติ อยํ วิเสโสฯ
Ekekanti anāgatampi na hutvā na hoti paccuppannampīti tadubhayaṃ gahetvā ‘‘ekekaṃ na hutvā na hoti na hutvā na hotī’’ti vuttaṃ, na ekekameva na hutvā na hoti na hutvā na hotīti. Esa nayo purimasmiṃ ‘‘ekekaṃ hutvā hoti hutvā hotī’’ti vacanepi. Anāgatassa hi ‘‘hutvā hotī’’ti nāmaṃ paccuppannassa cāti dvepi nāmāni saṅgahetvā ‘‘hutvā hoti hutvā hotī’’ti coditaṃ, tathā ‘‘na hutvā na hoti na hutvā na hotī’’ti cāti adhippāyo . Sabbato andhakārena pariyonaddho viyāti etena apariyonaddhena paṭijānitabbaṃ siyāti dasseti. Ettha ca purimanaye hutvā bhūtassa puna hutvāhotibhāvo codito, dutiyanaye anāgatādīsu ekekassa hutvāhotināmatāti ayaṃ viseso.
วจนโสธนวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vacanasodhanavaṇṇanā niṭṭhitā.
อตีตญาณาทิกถาวณฺณนา
Atītañāṇādikathāvaṇṇanā
๒๙๐. ปุน ปุโฎฺฐ…เป.… อตฺถิตาย ปฎิชานาตีติ เอตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ ญาณํ เตนาติ เอเตน อนุวตฺตมานาเปกฺขนวจเนน กถํ วุจฺจตีติ วิจาเรตพฺพํฯ
290. Puna puṭṭho…pe… atthitāya paṭijānātīti ettha paccuppannaṃ ñāṇaṃ tenāti etena anuvattamānāpekkhanavacanena kathaṃ vuccatīti vicāretabbaṃ.
อตีตญาณาทิกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Atītañāṇādikathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา
Arahantādikathāvaṇṇanā
๒๙๑. ยุตฺติวิโรโธ อรหโต สราคาทิภาเว ปุถุชฺชเนน อนานตฺตํ พฺรหฺมจริยวาสสฺส อผลตาติ เอวมาทิโก ทฎฺฐโพฺพฯ
291. Yuttivirodho arahato sarāgādibhāve puthujjanena anānattaṃ brahmacariyavāsassa aphalatāti evamādiko daṭṭhabbo.
อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Arahantādikathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
ปทโสธนกถาวณฺณนา
Padasodhanakathāvaṇṇanā
๒๙๕. เตน การเณนาติ อตีตอตฺถิสทฺทานํ เอกตฺถตฺตา อตฺถิสทฺทตฺถสฺส จ นฺวาตีตภาวโต ‘‘อตีตํ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตญฺจ อตีตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ โหติฯ เอตฺถ ปน อตีตาทีนํ อตฺถิตํ วทนฺตสฺส ปรวาทิเสฺสวายํ โทโส ยถา อาปชฺชติ, น ปน ‘‘นิพฺพานํ อตฺถี’’ติ วทนฺตสฺส สกวาทิสฺส, ตถา ปฎิปาเทตพฺพํฯ
295. Tena kāraṇenāti atītaatthisaddānaṃ ekatthattā atthisaddatthassa ca nvātītabhāvato ‘‘atītaṃ nvātītaṃ, nvātītañca atītaṃ hotī’’ti vuttaṃ hoti. Ettha pana atītādīnaṃ atthitaṃ vadantassa paravādissevāyaṃ doso yathā āpajjati, na pana ‘‘nibbānaṃ atthī’’ti vadantassa sakavādissa, tathā paṭipādetabbaṃ.
ปทโสธนกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Padasodhanakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sabbamatthītikathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi / ๕. สพฺพมตฺถีติกถา • 5. Sabbamatthītikathā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๕. สพฺพมตฺถีติกถา • 5. Sabbamatthītikathā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๕. สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา • 5. Sabbamatthītikathāvaṇṇanā