Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๓. สพฺพวโคฺค
3. Sabbavaggo
๑. สพฺพสุตฺตวณฺณนา
1. Sabbasuttavaṇṇanā
๒๓. สพฺพ-สโทฺท ปกรณวเสน กตฺถจิ สปฺปเทเสปิ ปวตฺตตีติ ตโต นิวตฺตนตฺถํ อนวเสสวิสเยน สพฺพ-สเทฺทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘สพฺพสพฺพ’’นฺติ, สพฺพเมว หุตฺวา สพฺพนฺติ อโตฺถฯ อายตนภาวํ สพฺพํ อายตนสพฺพํ, เสสทฺวเยปิ เอเสว นโยฯ
23. Sabba-saddo pakaraṇavasena katthaci sappadesepi pavattatīti tato nivattanatthaṃ anavasesavisayena sabba-saddena visesetvā vuttaṃ ‘‘sabbasabba’’nti, sabbameva hutvā sabbanti attho. Āyatanabhāvaṃ sabbaṃ āyatanasabbaṃ, sesadvayepi eseva nayo.
ตสฺส อวิสยาภาวโต น อทฺทิฎฺฐมิธตฺถิ กิญฺจีติฯ อิธาติ นิปาตมตฺตํ, อิธ วา สเทวเก โลเก, ทสฺสนภูเตน ญาเณน อทิฎฺฐํ นาม กิญฺจิ นตฺถีติ อโตฺถฯ ยทิ เอวํ อนุมานวิสยํ นุ โข กถนฺติ อาห ‘‘อโถ อวิญฺญาต’’นฺติฯ อเญฺญสํ อปจฺจกฺขมฺปิ อวิญฺญาตํ ตสฺส กิญฺจิ นตฺถีติ อทิฎฺฐํ อวิญฺญาตํ นตฺถิฯ ปจฺจุปฺปนฺนํ อตีตเมว เญยฺยํ คหิตํ, อนาคตํ นุ โข กถนฺติ อาห – ‘‘อชานิตพฺพ’’นฺติ, ตสฺส กิญฺจิ นตฺถีติ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ ชานิตุํ ญาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นาม ตสฺส กิญฺจิ นตฺถีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สพฺพํ อภิญฺญาสี’’ติอาทิฯ
Tassa avisayābhāvato na addiṭṭhamidhatthi kiñcīti. Idhāti nipātamattaṃ, idha vā sadevake loke, dassanabhūtena ñāṇena adiṭṭhaṃ nāma kiñci natthīti attho. Yadi evaṃ anumānavisayaṃ nu kho kathanti āha ‘‘atho aviññāta’’nti. Aññesaṃ apaccakkhampi aviññātaṃ tassa kiñci natthīti adiṭṭhaṃ aviññātaṃ natthi. Paccuppannaṃ atītameva ñeyyaṃ gahitaṃ, anāgataṃ nu kho kathanti āha – ‘‘ajānitabba’’nti, tassa kiñci natthīti ānetvā sambandho. Jānituṃ ñātuṃ asakkuṇeyyaṃ nāma tassa kiñci natthīti dassento āha ‘‘sabbaṃ abhiññāsī’’tiādi.
สกลสฺส สกฺกายธมฺมสฺส ปริคฺคหิตตฺตา สกฺกายสพฺพํฯ สพฺพธเมฺมสูติ ปญฺจนฺนํ ทฺวารานํ อารมฺมณภูเตสุ สเพฺพสุ ธเมฺมสุฯ ยสฺมา ฉสุปิ อารมฺมเณสุ คหิเตสุ ปเทสสพฺพํ นาม น โหติ, ตสฺมา ‘‘ปญฺจารมฺมณมตฺต’’นฺติ วุตฺตํฯ ปเทสสพฺพํ สกฺกายสพฺพํ น ปาปุณาติ ตสฺส เตภูมกธเมฺมสุ เอกเทสสฺส อสงฺคณฺหนโตฯ สกฺกายสพฺพํ อายตนสพฺพํ น ปาปุณาติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อสงฺคณฺหนโตฯ อายตนสพฺพํ สพฺพสพฺพํ น ปาปุณาติฯ ยสฺมา อายตนสเพฺพน จตุภูมกธมฺมาว ปริคฺคหิตา, น ลกฺขณปญฺญตฺติโย, ยสฺมา สพฺพสพฺพํ ทเสฺสเนฺตน พุทฺธญาณวิสโย ทสฺสิโต, ตสฺมา ‘‘สพฺพสพฺพํ น ปาปุณาตี’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘กสฺมา…เป.… นตฺถิตายา’’ติ สพฺพํ ญาตารมฺมเณเนว ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตํฯ ‘‘อายตนสเพฺพปิ อิธ วิปสฺสนุปคธมฺมาว คเหตพฺพา อภิเญฺญยฺยนิเทฺทสวเสนปิ สมฺมสนจารเสฺสว อิจฺฉิตตฺตา’’ติ วทนฺติฯ
Sakalassa sakkāyadhammassa pariggahitattā sakkāyasabbaṃ. Sabbadhammesūti pañcannaṃ dvārānaṃ ārammaṇabhūtesu sabbesu dhammesu. Yasmā chasupi ārammaṇesu gahitesu padesasabbaṃ nāma na hoti, tasmā ‘‘pañcārammaṇamatta’’nti vuttaṃ. Padesasabbaṃ sakkāyasabbaṃ na pāpuṇāti tassa tebhūmakadhammesu ekadesassa asaṅgaṇhanato. Sakkāyasabbaṃ āyatanasabbaṃ na pāpuṇāti lokuttaradhammānaṃ asaṅgaṇhanato. Āyatanasabbaṃ sabbasabbaṃ na pāpuṇāti. Yasmā āyatanasabbena catubhūmakadhammāva pariggahitā, na lakkhaṇapaññattiyo, yasmā sabbasabbaṃ dassentena buddhañāṇavisayo dassito, tasmā ‘‘sabbasabbaṃ na pāpuṇātī’’ti etthāpi ‘‘kasmā…pe… natthitāyā’’ti sabbaṃ ñātārammaṇeneva pucchāvissajjanaṃ kataṃ. ‘‘Āyatanasabbepi idha vipassanupagadhammāva gahetabbā abhiññeyyaniddesavasenapi sammasanacārasseva icchitattā’’ti vadanti.
ปฎิกฺขิปิตฺวาติ ‘‘อิทํ สพฺพํ นาม น โหตี’’ติ เอวํ ปฎิกฺขิปิตฺวาฯ ตสฺสาติ ‘‘อญฺญํ สพฺพํ ปญฺญาเปสฺสามี’’ติ วทนฺตสฺสฯ วาจาย วตฺตพฺพวตฺถุมตฺตกเมวาติ วญฺฌาปุตฺตคคนกุสุมาทิวาจา วิย เอตสฺส วาจาย เกวลํ วตฺตพฺพวตฺถุกเมว ภเวยฺย, น อโตฺถ, วจนมตฺตกเมวาติ อโตฺถ ฯ อติกฺกมิตฺวาติ อนามสิตฺวา อคฺคเหตฺวาฯ ตํ กิสฺส เหตูติ วิฆาตาปชฺชนํ เกน เหตุนาฯ ยถา ตํ อวิสยสฺมินฺติ ยถา อโญฺญปิ โกจิ อวิสเย วายมโนฺต, เอวนฺติ อโตฺถฯ อฎฺฐกถายํ ปน ยสฺมา ปาฬิยํ ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติ วุตฺตการณเมว อุปนยนวเสน ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ การโณปนยนญฺจ การณเมวาติ ‘‘ยถาติ การณวจน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ เตเนวาห ‘‘เอวํ อิมสฺมิมฺปิ อวิสเย’’ติอาทิฯ
Paṭikkhipitvāti ‘‘idaṃ sabbaṃ nāma na hotī’’ti evaṃ paṭikkhipitvā. Tassāti ‘‘aññaṃ sabbaṃ paññāpessāmī’’ti vadantassa. Vācāya vattabbavatthumattakamevāti vañjhāputtagaganakusumādivācā viya etassa vācāya kevalaṃ vattabbavatthukameva bhaveyya, na attho, vacanamattakamevāti attho . Atikkamitvāti anāmasitvā aggahetvā. Taṃ kissa hetūti vighātāpajjanaṃ kena hetunā. Yathā taṃ avisayasminti yathā aññopi koci avisaye vāyamanto, evanti attho. Aṭṭhakathāyaṃ pana yasmā pāḷiyaṃ ‘‘taṃ kissa hetū’’ti vuttakāraṇameva upanayanavasena dassetuṃ ‘‘yathā ta’’ntiādi vuttaṃ. Kāraṇopanayanañca kāraṇamevāti ‘‘yathāti kāraṇavacana’’nti vuttanti daṭṭhabbaṃ. Tenevāha ‘‘evaṃ imasmimpi avisaye’’tiādi.
สพฺพสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sabbasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. สพฺพสุตฺตํ • 1. Sabbasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. สพฺพสุตฺตวณฺณนา • 1. Sabbasuttavaṇṇanā