Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā

    ๕๖-๖๓. สจฺจญาณจตุกฺกทฺวยนิเทฺทสวณฺณนา

    56-63. Saccañāṇacatukkadvayaniddesavaṇṇanā

    ๑๐๘-๙. สจฺจญาณจตุกฺกทฺวยนิเทฺทเส ทุกฺขสฺส ปีฬนโฎฺฐติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนวฯ มคฺคสมงฺคิสฺส ญาณํ ทุเกฺขเปตํ ญาณนฺติอาทิ อนนฺตรจตุเกฺก วิย เอกาภิสมยวเสน วุตฺตํฯ ทุวิธญฺหิ สจฺจญาณํ โลกิยํ โลกุตฺตรญฺจฯ โลกิกํ ทุวิธํ อนุโพธญาณํ ปจฺจเวกฺขณญาณญฺจฯ อนุโพธญาณํ อาทิกมฺมิกสฺส อนุสฺสวาทิวเสน นิโรเธ มเคฺค จ ปวตฺตติ, ทุเกฺข สมุทเย จ อารมฺมณกรณวเสนฯ ปจฺจเวกฺขณญาณํ ปฎิวิทฺธสจฺจสฺส จตูสุปิ สเจฺจสุ อารมฺมณกรณวเสนฯ โลกุตฺตรํ ปฎิเวธญาณํ นิโรธมารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจโต จตฺตาริ สจฺจานิ ปฎิวิชฺฌติฯ ยถาห – ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธคามินิํ ปฎิปทมฺปิ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) สพฺพํ วตฺตพฺพํฯ อิธาปิ อิมินา วาเรน อิทเมว วุตฺตํฯ ตํ ปน โลกุตฺตรมฺปิ ‘‘ทุเกฺข ญาณ’’นฺติอาทีนิ นามานิ ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ อิธ ปน โลกิกญาณเมว อธิเปฺปตํฯ ตสฺมาเยว จ ตตฺถ กตมํ ทุเกฺข ญาณนฺติอาทิมาหฯ

    108-9. Saccañāṇacatukkadvayaniddese dukkhassa pīḷanaṭṭhotiādīni vuttatthāneva. Maggasamaṅgissa ñāṇaṃ dukkhepetaṃ ñāṇantiādi anantaracatukke viya ekābhisamayavasena vuttaṃ. Duvidhañhi saccañāṇaṃ lokiyaṃ lokuttarañca. Lokikaṃ duvidhaṃ anubodhañāṇaṃ paccavekkhaṇañāṇañca. Anubodhañāṇaṃ ādikammikassa anussavādivasena nirodhe magge ca pavattati, dukkhe samudaye ca ārammaṇakaraṇavasena. Paccavekkhaṇañāṇaṃ paṭividdhasaccassa catūsupi saccesu ārammaṇakaraṇavasena. Lokuttaraṃ paṭivedhañāṇaṃ nirodhamārammaṇaṃ katvā kiccato cattāri saccāni paṭivijjhati. Yathāha – ‘‘yo, bhikkhave, dukkhaṃ passati, dukkhasamudayampi so passati, dukkhanirodhampi passati, dukkhanirodhagāminiṃ paṭipadampi passatī’’ti (saṃ. ni. 5.1100) sabbaṃ vattabbaṃ. Idhāpi iminā vārena idameva vuttaṃ. Taṃ pana lokuttarampi ‘‘dukkhe ñāṇa’’ntiādīni nāmāni labhatīti dassanatthaṃ vuttaṃ. Idha pana lokikañāṇameva adhippetaṃ. Tasmāyeva ca tattha katamaṃ dukkhe ñāṇantiādimāha.

    ตตฺถ ทุกฺขํ อารพฺภาติ ทุกฺขสจฺจํ อาลมฺพิตฺวา, อารมฺมณํ กตฺวาติ อโตฺถฯ ปญฺญาติอาทีสุ ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปากฎกรณสงฺขาเตน ปญฺญาปนเฎฺฐน ปญฺญา, เตน เตน วา อนิจฺจาทินา ปกาเรน ธเมฺม ชานาตีติปิ ปญฺญาฯ อิทมสฺสา สภาวปทํฯ ปชานนากาโร ปชานนาฯ อนิจฺจาทีนิ วิจินาตีติ วิจโยฯ ปวิจโยติ อุปสเคฺคน ปทํ วฑฺฒิตํ, ปกาเรน วิจโยติ อโตฺถฯ จตุสจฺจธมฺมํ วิจินาตีติ ธมฺมวิจโยฯ อนิจฺจาทีนํ สมฺมา ลกฺขณวเสน สลฺลกฺขณาฯ สา เอว อุปสคฺคนานเตฺตน อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณาติ วุตฺตาฯ ภุสํ ลกฺขณา เต เต อนิจฺจาทิธเมฺม ปฎิจฺจ อุปลกฺขณาติ อโตฺถฯ ปณฺฑิตภาโว ปณฺฑิจฺจํฯ กุสลภาโว โกสลฺลํฯ นิปุณภาโว เนปุญฺญํฯ อนิจฺจาทีนํ วิภาวนวเสน เวภพฺยาฯ อนิจฺจาทีนํ จินฺตนกวเสน จินฺตา, ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ อนิจฺจาทีนิ จินฺตาเปตีติปิ จินฺตาฯ อนิจฺจาทีนิ อุปปริกฺขตีติ อุปปริกฺขาฯ ภูรีติ ปถวีฯ อยมฺปิ สณฺหเฎฺฐน วิตฺถตเฎฺฐน จ ภูรี วิยาติ ภูรีฯ อถ วา ปญฺญาเยว ภูเต อเตฺถ รมตีติ ภูรีติ วุจฺจติฯ อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หิํสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณเฎฺฐน วา เมธาฯ ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ อตฺตหิตปฎิปตฺติยํ สมฺปยุตฺตธเมฺม จ ยาถาวลกฺขณปฎิเวเธ ปริเนตีติ ปริณายิกาฯ ธเมฺม อนิจฺจาทิวเสน วิวิธา ปสฺสตีติ วิปสฺสนาฯ สมฺมา ปกาเรหิ อนิจฺจาทีนิ ชานาตีติ สมฺปชาโน, ตสฺส ภาโว สมฺปชญฺญํฯ อุปฺปถปฎิปเนฺน สินฺธเว วีถิอาโรปนตฺถํ ปโตโท วิย อุปฺปเถ ธาวนกํ กูฎจิตฺตํ วีถิอาโรปนตฺถํ วิชฺฌตีติ ปโตโท วิย ปโตโท

    Tattha dukkhaṃ ārabbhāti dukkhasaccaṃ ālambitvā, ārammaṇaṃ katvāti attho. Paññātiādīsu tassa tassa atthassa pākaṭakaraṇasaṅkhātena paññāpanaṭṭhena paññā, tena tena vā aniccādinā pakārena dhamme jānātītipi paññā. Idamassā sabhāvapadaṃ. Pajānanākāro pajānanā. Aniccādīni vicinātīti vicayo. Pavicayoti upasaggena padaṃ vaḍḍhitaṃ, pakārena vicayoti attho. Catusaccadhammaṃ vicinātīti dhammavicayo. Aniccādīnaṃ sammā lakkhaṇavasena sallakkhaṇā. Sā eva upasagganānattena upalakkhaṇāpaccupalakkhaṇāti vuttā. Bhusaṃ lakkhaṇā te te aniccādidhamme paṭicca upalakkhaṇāti attho. Paṇḍitabhāvo paṇḍiccaṃ. Kusalabhāvo kosallaṃ. Nipuṇabhāvo nepuññaṃ. Aniccādīnaṃ vibhāvanavasena vebhabyā. Aniccādīnaṃ cintanakavasena cintā, yassa uppajjati, taṃ aniccādīni cintāpetītipi cintā. Aniccādīni upaparikkhatīti upaparikkhā. Bhūrīti pathavī. Ayampi saṇhaṭṭhena vitthataṭṭhena ca bhūrī viyāti bhūrī. Atha vā paññāyeva bhūte atthe ramatīti bhūrīti vuccati. Asani viya siluccaye kilese medhati hiṃsatīti medhā, khippaṃ gahaṇadhāraṇaṭṭhena vā medhā. Yassa uppajjati, taṃ attahitapaṭipattiyaṃ sampayuttadhamme ca yāthāvalakkhaṇapaṭivedhe parinetīti pariṇāyikā. Dhamme aniccādivasena vividhā passatīti vipassanā. Sammā pakārehi aniccādīni jānātīti sampajāno, tassa bhāvo sampajaññaṃ. Uppathapaṭipanne sindhave vīthiāropanatthaṃ patodo viya uppathe dhāvanakaṃ kūṭacittaṃ vīthiāropanatthaṃ vijjhatīti patodo viya patodo.

    ทสฺสนลกฺขเณ อินฺทฎฺฐํ กโรตีติ อินฺทฺริยํ, ปญฺญาสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ ปญฺญินฺทฺริยํฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? นยิทํ ‘‘ปุริสสฺส อินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริย’’นฺติอาทิ วิย ปญฺญาย อินฺทฺริยํ ปญฺญินฺทฺริยํฯ อถ โข ปญฺญา เอว อินฺทฺริยํ ปญฺญินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ โหติฯ อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปญฺญาพลํฯ กิเลสเจฺฉทนเฎฺฐน ปญฺญาว สตฺถํ ปญฺญาสตฺถํฯ อจฺจุคฺคตเฎฺฐน ปญฺญาว ปาสาโท ปญฺญาปาสาโทฯ อาโลกนเฎฺฐน ปญฺญาว อาโลโก ปญฺญาอาโลโกฯ โอภาสนเฎฺฐน ปญฺญาว โอภาโส ปญฺญาโอภาโสฯ ปโชฺชตนเฎฺฐน ปญฺญาว ปโชฺชโต ปญฺญาปโชฺชโตฯ ปญฺญวโต หิ เอกปลฺลเงฺกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา เอโกภาสา เอกปโชฺชตา โหติฯ เตเนตํ วุตฺตํฯ อิเมสุ ปน ตีสุ ปเทสุ เอกปเทนาปิ เอตสฺมิํ อเตฺถ สิเทฺธ ยานิ ปเนตานิ ภควตา ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาโลกาฯ กตเม จตฺตาโร? จนฺทาโลโก, สูริยาโลโก, อคฺคาโลโก, ปญฺญาโลโกฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาโลกาฯ เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ จตุนฺนํ อาโลกานํ ยทิทํ ปญฺญาโลโก’’ฯ ตถา ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, โอภาสาฯ จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปโชฺชตา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๔๔-๑๔๕) สตฺตานํ อชฺฌาสยวเสน สุตฺตานิ เทสิตานิฯ ตทนุรูเปเนว อิธาปิ เถเรน เทสนา กตาฯ อโตฺถ หิ อเนเกหิ อากาเรหิ วิภชฺชมาโน สุวิภโตฺต โหติ, อญฺญถา จ อโญฺญ พุชฺฌติ, อญฺญถา อโญฺญติฯ รติกรณเฎฺฐน ปน รติทายกเฎฺฐน รติชนกเฎฺฐน จิตฺตีกตเฎฺฐน ทุลฺลภปาตุภาวเฎฺฐน อตุลเฎฺฐน อโนมสตฺตปริโภคเฎฺฐน จ ปญฺญาว รตนํ ปญฺญารตนํ

    Dassanalakkhaṇe indaṭṭhaṃ karotīti indriyaṃ, paññāsaṅkhātaṃ indriyaṃ paññindriyaṃ. Kiṃ vuttaṃ hoti? Nayidaṃ ‘‘purisassa indriyaṃ purisindriya’’ntiādi viya paññāya indriyaṃ paññindriyaṃ. Atha kho paññā eva indriyaṃ paññindriyanti vuttaṃ hoti. Avijjāya na kampatīti paññābalaṃ. Kilesacchedanaṭṭhena paññāva satthaṃ paññāsatthaṃ. Accuggataṭṭhena paññāva pāsādo paññāpāsādo. Ālokanaṭṭhena paññāva āloko paññāāloko. Obhāsanaṭṭhena paññāva obhāso paññāobhāso. Pajjotanaṭṭhena paññāva pajjoto paññāpajjoto. Paññavato hi ekapallaṅkena nisinnassa dasasahassilokadhātu ekālokā ekobhāsā ekapajjotā hoti. Tenetaṃ vuttaṃ. Imesu pana tīsu padesu ekapadenāpi etasmiṃ atthe siddhe yāni panetāni bhagavatā ‘‘cattārome, bhikkhave, ālokā. Katame cattāro? Candāloko, sūriyāloko, aggāloko, paññāloko. Ime kho, bhikkhave, cattāro ālokā. Etadaggaṃ, bhikkhave, imesaṃ catunnaṃ ālokānaṃ yadidaṃ paññāloko’’. Tathā ‘‘cattārome , bhikkhave, obhāsā. Cattārome, bhikkhave, pajjotā’’ti (a. ni. 4.144-145) sattānaṃ ajjhāsayavasena suttāni desitāni. Tadanurūpeneva idhāpi therena desanā katā. Attho hi anekehi ākārehi vibhajjamāno suvibhatto hoti, aññathā ca añño bujjhati, aññathā aññoti. Ratikaraṇaṭṭhena pana ratidāyakaṭṭhena ratijanakaṭṭhena cittīkataṭṭhena dullabhapātubhāvaṭṭhena atulaṭṭhena anomasattaparibhogaṭṭhena ca paññāva ratanaṃ paññāratanaṃ.

    น เตน สตฺตา มุยฺหนฺติ, สยํ วา อารมฺมเณ น มุยฺหตีติ อโมโหฯ ธมฺมวิจยปทํ วุตฺตตฺถเมวฯ กสฺมา ปเนตํ ปุน วุตฺตนฺติ? อโมหสฺส โมหปฎิปกฺขภาวทีปนตฺถํฯ เตเนตํ ทีเปติ ‘‘ยฺวายํ อโมโห, โส น เกวลํ โมหโต อโญฺญ ธโมฺม, โมหสฺส ปน ปฎิปโกฺข ธมฺมวิจยสงฺขาโต อโมโห นาม อิธ อธิเปฺปโต’’ติฯ สมฺมาทิฎฺฐีติ ยาถาวนิยฺยานิกกุสลทิฎฺฐิ ฯ ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขสมุทเย ญาณํ, ตตฺถ กตมํ ทุกฺขนิโรเธ ญาณํ, ตตฺถ กตมํ ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณ’’นฺติ ปุจฺฉาวจนานิ สเงฺขปวเสน วุตฺตานีติฯ

    Na tena sattā muyhanti, sayaṃ vā ārammaṇe na muyhatīti amoho. Dhammavicayapadaṃ vuttatthameva. Kasmā panetaṃ puna vuttanti? Amohassa mohapaṭipakkhabhāvadīpanatthaṃ. Tenetaṃ dīpeti ‘‘yvāyaṃ amoho, so na kevalaṃ mohato añño dhammo, mohassa pana paṭipakkho dhammavicayasaṅkhāto amoho nāma idha adhippeto’’ti. Sammādiṭṭhīti yāthāvaniyyānikakusaladiṭṭhi . ‘‘Tattha katamaṃ dukkhasamudaye ñāṇaṃ, tattha katamaṃ dukkhanirodhe ñāṇaṃ, tattha katamaṃ dukkhanirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇa’’nti pucchāvacanāni saṅkhepavasena vuttānīti.

    สจฺจญาณจตุกฺกทฺวยนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Saccañāṇacatukkadvayaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๕๖-๖๓. สจฺจญาณจตุกฺกทฺวยนิเทฺทโส • 56-63. Saccañāṇacatukkadvayaniddeso


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact