Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตํ
13. Saddhammappatirūpakasuttaṃ
๑๕๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภเนฺต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ปุเพฺพ อปฺปตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ อเหสุํ พหุตรา จ ภิกฺขู อญฺญาย สณฺฐหิํสุ? โก ปน, ภเนฺต, เหตุ โก ปจฺจโย, เยเนตรหิ พหุตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ อปฺปตรา จ ภิกฺขู อญฺญาย สณฺฐหนฺตี’’ติ? ‘‘เอวเญฺจตํ, กสฺสป, โหติ สเตฺตสุ หายมาเนสุ สทฺธเมฺม อนฺตรธายมาเน, พหุตรานิ เจว สิกฺขาปทานิ โหนฺติ อปฺปตรา จ ภิกฺขู อญฺญาย สณฺฐหนฺติฯ น ตาว, กสฺสป, สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหติ ยาว น สทฺธมฺมปฺปติรูปกํ โลเก อุปฺปชฺชติฯ ยโต จ โข, กสฺสป, สทฺธมฺมปฺปติรูปกํ โลเก อุปฺปชฺชติ, อถ สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหติ’’ฯ
156. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho āyasmā mahākassapo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā mahākassapo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ko nu kho, bhante, hetu ko paccayo, yena pubbe appatarāni ceva sikkhāpadāni ahesuṃ bahutarā ca bhikkhū aññāya saṇṭhahiṃsu? Ko pana, bhante, hetu ko paccayo, yenetarahi bahutarāni ceva sikkhāpadāni appatarā ca bhikkhū aññāya saṇṭhahantī’’ti? ‘‘Evañcetaṃ, kassapa, hoti sattesu hāyamānesu saddhamme antaradhāyamāne, bahutarāni ceva sikkhāpadāni honti appatarā ca bhikkhū aññāya saṇṭhahanti. Na tāva, kassapa, saddhammassa antaradhānaṃ hoti yāva na saddhammappatirūpakaṃ loke uppajjati. Yato ca kho, kassapa, saddhammappatirūpakaṃ loke uppajjati, atha saddhammassa antaradhānaṃ hoti’’.
‘‘เสยฺยถาปิ, กสฺสป, น ตาว ชาตรูปสฺส อนฺตรธานํ โหติ ยาว น ชาตรูปปฺปติรูปกํ โลเก อุปฺปชฺชติฯ ยโต จ โข, กสฺสป, ชาตรูปปฺปติรูปกํ โลเก อุปฺปชฺชติ, อถ ชาตรูปสฺส อนฺตรธานํ โหติฯ เอวเมว โข, กสฺสป, น ตาว สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหติ ยาว น สทฺธมฺมปฺปติรูปกํ โลเก อุปฺปชฺชติฯ ยโต จ โข, กสฺสป, สทฺธมฺมปฺปติรูปกํ โลเก อุปฺปชฺชติ, อถ สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, kassapa, na tāva jātarūpassa antaradhānaṃ hoti yāva na jātarūpappatirūpakaṃ loke uppajjati. Yato ca kho, kassapa, jātarūpappatirūpakaṃ loke uppajjati, atha jātarūpassa antaradhānaṃ hoti. Evameva kho, kassapa, na tāva saddhammassa antaradhānaṃ hoti yāva na saddhammappatirūpakaṃ loke uppajjati. Yato ca kho, kassapa, saddhammappatirūpakaṃ loke uppajjati, atha saddhammassa antaradhānaṃ hoti.
‘‘น โข, กสฺสป, ปถวีธาตุ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปติ, น อาโปธาตุ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปติ, น เตโชธาตุ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปติ, น วาโยธาตุ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปติ; อถ โข อิเธว เต อุปฺปชฺชนฺติ โมฆปุริสา เย อิมํ สทฺธมฺมํ อนฺตรธาเปนฺติฯ เสยฺยถาปิ, กสฺสป, นาวา อาทิเกเนว โอปิลวติ; น โข, กสฺสป, เอวํ สทฺธมฺมสฺส อนฺตรธานํ โหติฯ
‘‘Na kho, kassapa, pathavīdhātu saddhammaṃ antaradhāpeti, na āpodhātu saddhammaṃ antaradhāpeti, na tejodhātu saddhammaṃ antaradhāpeti, na vāyodhātu saddhammaṃ antaradhāpeti; atha kho idheva te uppajjanti moghapurisā ye imaṃ saddhammaṃ antaradhāpenti. Seyyathāpi, kassapa, nāvā ādikeneva opilavati; na kho, kassapa, evaṃ saddhammassa antaradhānaṃ hoti.
‘‘ปญฺจ โขเม, กสฺสป, โอกฺกมนิยา ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สโมฺมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม ปญฺจ? อิธ, กสฺสป, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, ธเมฺม อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สเงฺฆ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สิกฺขาย อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา, สมาธิสฺมิํ อคารวา วิหรนฺติ อปฺปติสฺสา – อิเม โข, กสฺสป, ปญฺจ โอกฺกมนิยา ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส สโมฺมสาย อนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติฯ
‘‘Pañca khome, kassapa, okkamaniyā dhammā saddhammassa sammosāya antaradhānāya saṃvattanti. Katame pañca? Idha, kassapa, bhikkhū bhikkhuniyo upāsakā upāsikāyo satthari agāravā viharanti appatissā, dhamme agāravā viharanti appatissā, saṅghe agāravā viharanti appatissā, sikkhāya agāravā viharanti appatissā, samādhismiṃ agāravā viharanti appatissā – ime kho, kassapa, pañca okkamaniyā dhammā saddhammassa sammosāya antaradhānāya saṃvattanti.
‘‘ปญฺจ โขเม, กสฺสป, ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ฐิติยา อสโมฺมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม ปญฺจ? อิธ, กสฺสป, ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย สตฺถริ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, ธเมฺม สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สเงฺฆ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สิกฺขาย สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา, สมาธิสฺมิํ สคารวา วิหรนฺติ สปฺปติสฺสา – อิเม โข, กสฺสป, ปญฺจ ธมฺมา สทฺธมฺมสฺส ฐิติยา อสโมฺมสาย อนนฺตรธานาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ เตรสมํฯ
‘‘Pañca khome, kassapa, dhammā saddhammassa ṭhitiyā asammosāya anantaradhānāya saṃvattanti. Katame pañca? Idha, kassapa, bhikkhū bhikkhuniyo upāsakā upāsikāyo satthari sagāravā viharanti sappatissā, dhamme sagāravā viharanti sappatissā, saṅghe sagāravā viharanti sappatissā, sikkhāya sagāravā viharanti sappatissā, samādhismiṃ sagāravā viharanti sappatissā – ime kho, kassapa, pañca dhammā saddhammassa ṭhitiyā asammosāya anantaradhānāya saṃvattantī’’ti. Terasamaṃ.
กสฺสปสํยุตฺตํ สมตฺตํฯ
Kassapasaṃyuttaṃ samattaṃ.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
สนฺตุฎฺฐญฺจ อโนตฺตปฺปี, จนฺทูปมํ กุลูปกํ;
Santuṭṭhañca anottappī, candūpamaṃ kulūpakaṃ;
ชิณฺณํ ตโย จ โอวาทา, ฌานาภิญฺญา อุปสฺสยํ;
Jiṇṇaṃ tayo ca ovādā, jhānābhiññā upassayaṃ;
จีวรํ ปรํมรณํ, สทฺธมฺมปฺปติรูปกนฺติฯ
Cīvaraṃ paraṃmaraṇaṃ, saddhammappatirūpakanti.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตวณฺณนา • 13. Saddhammappatirūpakasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๓. สทฺธมฺมปฺปติรูปกสุตฺตวณฺณนา • 13. Saddhammappatirūpakasuttavaṇṇanā